บทที่ 125 ต่อต้านการต่อสู้

ราชาซากศพ

บทที่ 125
ต่อต้านการต่อสู้

“ปัง!” เกิดเสียงดัง ราวกับเหล็กหนัก ๆ ปะทะกัน โล่ปรากฏขึ้นในมือของหลินเว่ย เพื่อป้องกันการโจมตี จากนั้น หลินเว่ยดันโล่ไปข้างหน้าและเข้าโจมตี ขุนศึกขั้นห้าระดับห้าก็เสียหลัก ถอยร่นไปสองก้าวติดต่อกัน การเคลื่อนไหวของหลินเว่ยไม่ได้หยุดชะงักลงไป ดาบยาวปรากฏขึ้นที่มือขวาของเขา และเหวี่ยงไปที่ขุนศึกขั้นห้า ระดับห้า ด้วยกำลังทั้งหมดของเขา

ดาบยาวของหลินเว่ยตัดผ่านอากาศและเกิดเสียงที่ดังรุนแรง เข้ามาในหูของขุนศึกขั้นห้า ใบหน้าของเขาซีดขาวและดูบิดเบี้ยว เมื่อเขายกดาบขึ้น เขาพยายามตะโกนร้องขอความช่วยเหลือว่า: “ช่วยข้าด้วย!”

“หยุดเดี๋ยวนี้!” ชิวหูในตอนแรกแทบไม่ได้ให้ความสนใจหลินเว่ย เมื่อได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ และพบว่าลูกน้องกำลังตกอยู่ในอันตราย อย่างไรก็ตาม เขาช่วยอะไรไม่ได้ ทำได้เพียงแค่ร้องตะโกนออกมาดัง ๆ หวังว่าหลินเว่ยจะหยุดชะงัก

“ปัง!” เมื่อได้ยินคำพูดของชิวหู หลินเว่ยไม่แม้แต่จะหยุดชะงัก อีกฝ่ายต่อต้านได้เพียงชั่วครู่ ขาข้างหนึ่งของขุนศึกขั้นห้าคุกเข่าลงไป ใบหน้าของเขาแดงก่ำและมีเลือดไหลออกมาข้างริมฝีปาก และจากนั้นก็กระอักเลือดออกมา

ชิวหูคิดว่า หลินเว่ยคงเป็นกังวลเกี่ยวกับฐานะของเขา และมีท่าทีอ่อนลง อย่างไรก็ตาม ในฉากถัดไป ใบหน้าของเขามืดมนและกัดฟัน และเขาก็ร้องออกมาว่า: “เจ้ากำลังวอนหาเรื่องตาย!”
ปรากฏว่าหลังจากที่หลินเว่ยพบว่า คู่ต่อสู้ของเขาบาดเจ็บสาหัส เขาก็เหวี่ยงดาบออกไป กระแสเลือดพุ่งกระฉูดออกมา และศีรษะของคู่ต่อสู้ล้มกลิ้งลงกับพื้นและกลิ้งไป

“สารเลว! ข้าบอกให้เจ้าหยุด เหตุใดเจ้าไม่หยุด หรือเจ้าไม่ได้ยินข้า…ชิวหูสาวเท้าไปหาหลินเว่ยและตะโกนใส่อย่างดุเดือด

“เมื่อได้ยินคำพูดของชิวหู หลินเว่ยหันมามองหน้าพลางหัวเราะเยาะ และพูดด้วยความดูถูกดูแคลน:” เจ้าเป็นใคร? เหตุใดข้าต้องทำตาม? ”

“เจ้า……ไม่รู้จักข้างั้นหรือ?” เมื่อได้ยินคำพูดของหลินเว่ย ชิวหูก็โกรธและถามออกมาทันที

“เจ้าเป็นใคร?” หลินเว่ยถามอย่างเรียบเฉย

“เจ้า…!” เมื่อได้ยินคำพูดของหลินเว่ย ชิวหูก็กัดฟันของเขาทันที และชี้ไปที่หลินเว่ย เขาโกรธมากจนพูดไม่ออก

“น้องชาย ชิวหูเป็นคุณชายสามแห่งตระกูลชิว และหลานชายของ ชิวฉาน” ขุนศึกขั้นห้าระดับเก้าของตระกูลชิว หนึ่งในห้าสมาชิกของตระกูลหมิง บอกถึงตัวตนของชิวหูแก่หลินเว่ย

เพราะหลินเว่ย คนทั้งหมดที่อยู่ในปัจจุบันหยุดต่อสู้ลงชั่วคราว และทำให้สมาชิกตระกูลหมิง ทั้ง 5 คน มีลมหายใจอยู่

“ตระกูลชิว?”
“ใช่มันคือตระกูลชิว ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ ในเมืองหลวง” สมาชิกตระกูลหมิงอธิบายต่อ

“เด็กชายทีนี้เจ้ารู้แล้ว!” ชิวหูกล่าวด้วยใบหน้าภาคภูมิใจ
“อืม! เข้าใจแล้ว” หลินเว่ยพยักหน้าและกล่าวขึ้น
“ไม่มีอย่างอื่นหรือ?” ชิวหูเอ่ยถามขึ้น

“ต้องการอะไร?” หลินเว่ยถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
“ เจ้าไม่ได้ยินหรือ ข้าคือหลานชายของผู้อาวุโสคนที่สามของตระกูลชิว ชิวหูร้องคำราม

“หลานชายแล้วอย่างไร เจ้าไม่ใช่หลานชายของข้าสักหน่อย” หลินเว่ยยักไหล่และพูดด้วยท่าทางยียวน

เมื่อได้ยินคำพูดของหลินเว่ย ชิวหูที่ได้ยินก็กำหมัดแน่น และพูดด้วยใบหน้าที่อดกลั้น “เจ้ากล้าดูถูกข้า เอาล่ะเจ้าเป็นคนมีความสามารถ และข้าจะยอมรับเจ้าเป็นข้ารับใช้”

“ฮ่าฮ่า! เป็นข้ารับใช้ของเจ้าหรือ? อย่าหลงตัวเองเกินไปนัก! ถ้าเจ้าต้องการมีชีวิตรอด ก็หาทางหลบหนีดีกว่า ข้าจะคิดว่า…วันนี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้นที่นี่” หลินเว่ยหัวเราะเยาะ และยกดาบชี้ไปที่หน้าของชิวหู

“ฮึ่ม! ในเมื่อเจ้าอยากตายก็อย่ามาโทษข้า” เมื่อได้ยินคำพูดของหลินเว่ย ชิวหูก็ตะคอกอย่างเย็นชา และพูดกับน้องชายของเขา “เจ้าทั้งหมดไปสังหารมันซะ”
“ขอรับ “ลูกน้องของชิวหูรับคำ

“สารเลว! เจ้าคิดว่าพวกเราตายไปแล้วหรือ? เมื่อเห็นว่าชิวหูจ้องสังหารหลินเว่ย เขารู้ว่าผลที่ตามมาอย่างไรก็ตาม ตระกูลหมิงอาจจะไม่รอดในวันนี้ เขาจึงกัดฟันรีบไปหาหลินเว่ยและร้องเรียก ,“ ไม่ต้องกังวล…เรามาร่วมต่อสู้กับพวกเขาด้วยกันเถอะ ”

“ฮ่าฮ่า … !” เมื่อได้ยินหมิงจิ้งพูดแบบนั้น ทั้งชิวหูและคนอื่น ๆ ก็หัวเราะอย่างพร้อมเพรียง จากนั้นชิวหูก็พูดด้วยความดูแคลนว่า: “ฮึ สู้ด้วยกัน พวกเจ้ามีเพียงห้าคน อีกสองคนบาดเจ็บ เดิมทีข้าจะปล่อยให้เจ้ามีชีวิตรอดอยู่อีกหน่อย
หลังจากที่ข้าจัดการเด็กคนนี้เสร็จแล้ว ฉันจะมาจัดการเจ้าอีกครั้ง เอาล่ะในเมื่อเจ้ารนหาที่ตายนัก ข้าจะสงเคราะห์ให้ตายไปพร้อม ๆ กัน ”

“พวกเจ้าเก็บหมิงจิ้งไว้ให้ข้า…ส่วนที่เหลือไปสังหารเด็กชายกับข้า” ชิวหูพูดกับคนของเขา

“ไม่ต้องกังวลนายน้อยชิว สมาชิกทั้งห้าของตระกูลหมิง พวกข้าจะจัดการเอง พวกเราไม่มีความสุขกันมานานมากแล้ว” ทันทีที่เสียงของชิวหูสิ้นสุดลง คนสามคนก็ลุกขึ้นยืน และมองไปที่ชิวหู ด้วยใบหน้าที่น่ารังเกียจ

“ผู้ชายสังหารทิ้งให้หมด ส่วนหญิงสาวเก็บไว้ให้ข้า… เข้าใจหรือไม่” เมื่อเห็นว่ามีใครบางคนเป็นอาสาสมัคร ชิวหูพยักหน้า และกล่าวชี้ไปที่หนึ่งในห้าสมาชิกตระกูลหมิง

“เข้าใจแล้วนายน้อย! ไม่ต้องกังวล! เราจะพานางมาที่นี่ เมื่อได้ยินคำพูดของชิวหู ทั้งสามคนเหงื่อไหลที่หน้าผากทันที และหนึ่งในนั้นก็พยักหน้าอย่างรวดเร็วและพูดขึ้นว่าจะพาหญิงสาวตระกูลหมิงมาให้ชิวหู
“อืม! ไปซะ ชิวหูพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ โบกมือและกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“ขอรับ! ชายคนนั้นพยักหน้าแสดงความเคารพ แล้วหันกลับมาในเวลานี้ ใบหน้าของเขาซึ่งเดิมมีสีหน้าเรียบเฉยหายไป เมื่อมองไปที่สมาชิกทั้งห้าของตระกูลหมิง ด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย เขาก็อ้าปากของเขา และพูดว่า “พี่น้องทำงานได้แล้ว”

หลังจากคำพูดสิ้นสุดลง ทั้งสามคนก็เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ไปที่ตระกูลหมิง

“ย่าห์! คนที่บาดเจ็บอยู่ที่นี่เพื่อปกป้องพวกเขา และคนที่เหลือไปกับข้า” เมื่อเห็นคนของชิวหูเข้ามาโจมตี หมิงจิ้งเขาก็เริ่มไปปรึกษากับคนที่เหลือและพูดกับหญิงสาวที่อยู่ข้าง ๆ เขาอย่างรีบร้อน . จากนั้นโดยไม่รอให้หญิงสาวพูด

เขาก็รีบวิ่งออกไปพร้อมดาบของเขา ก่อนที่เขาจะรีบวิ่งออกไป เขายังคงร้องบอกหลินเว่ย: “น้องชาย…ข้าคงทำได้แค่นี้ ระวังตัวด้วย”

เมื่อเห็นว่าหมิงจิ้งถูกคนอื่นรั้งไว้ ชิวหูจึงพูดกับหลินเว่ยทันที ด้วยรอยยิ้มที่น่ากลัว: “เด็กน้อย….ตอนนี้ไม่มีใครมาคอยช่วยเจ้า ดูสิว่าเจ้าจะเอาชีวิตได้หริอไม่?”

“ไร้ประโยชน์ เปลืองมือข้าจริง ๆ”
ก่อนที่จะสิ้นเสียงของชิวหู เขาได้ยินหลินเว่ยพูดด้วยความดูแคลนบนใบหน้าของเขา เขาโกรธมากมันทำร้ายจิตใจของชิวหู ดังนั้นชิวหูพูดด้วยน้ำเสียงเฉียบขาดว่า “พวกเจ้าทุกคนสังหารมันซะ”

“ขอรับ
“พรึ่บ … !”ในขณะที่ร่างที่เหลือเคลื่อนไหวชั่วพริบตา คนของชิวหูก็รีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อล้อมกรอบหลินเว่ยไว้ตรงกลาง ร่างกายของพวกเขาเต็มไปด้วยพลังปราณ ดาบมากกว่าสิบเล่มชี้ตรงไปที่หลินเว่ย บนปลายดาบมีแสงสว่าง

ชั่วขณะลมหายใจ ร่างของคนเหล่านี้ก็ลุกพรวดขึ้น ขณะที่พวกเขาพุ่งไปข้างหน้า พลางโบกอาวุธของพวกเขาทีละคน ชั่วขณะหนึ่งดาบเกือบร้อยเล่มทั้งพลังปราณทั้งหมด ก่อตัวเป็นพายุใบมีดลม ซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ที่หลินเว่ยและหดตัวลงอย่างรวดเร็ว

ไม่นานหลินเว่ยจะถูกสับเป็นชิ้น ๆ
มีใบมีดเพลิงอยู่ล้อมรอบทุกทิศทาง ถ้าเป็นคนอื่น แม้ว่าเขาจะมีพละกำลังเท่าขุนศึก ก็ต้องยอมแพ้เองจากจำนวนคนที่มากเกินไป และหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะได้รับบาดเจ็บ แต่สำหรับ หลินเว่ยแล้ว เขารู้สึกผ่อนคลายมาก

ในเวลานี้ก็มีโครงกระดูกสี่ตัวปรากฏขึ้นรอบตัวเขา