ตอนที่124 ตบละพันหยวน

ยอดคุณหมอสกุลเฉิน

ตอนที่124 ตบละพันหยวน

หลังจากที่ได้ฟังพวกสาวๆพูดคุยกัน ฉีเล่ยก็เพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่า เซียวเซียวจะต้องบินกลับในวันนี้แล้ว แต่ก็เป็นเรื่องที่สามารถเข้าใจได้ ในเมื่อเธอเองก็รักษาขาจนหายแล้ว ก็จำเป็นต้องบินกลับไปทำงานตามปกติ ก๊วนสาวๆเหล่านี้ล้วนแต่เป็นคนดังที่มีตารางงานแน่นตลอดทั้งเดือน ทุกวินาทีล้วนเป็นเงินเป็นทอง

ฉีเล่ยนึกถึงผู้ชายที่เดินมาหาถงเซียวเซียวพร้อมกับยื่นข้อเสนอให้เธอไปนั่งดื่มไวน์ด้วย โดยจะให้ค่าตอบแทนสูงถึงแก้วละหมื่นหยวน อันที่จริงเขาก็อดที่จะรู้สึกอิจฉาไม่ได้

โลกใบนี้ช่างไม่ยุติธรรมเลยจริงๆ ทำไมถึงไม่มีผู้หญิงรวยๆมาจ้างเขาไปดื่มบ้างนะ? ขอแค่แก้วละพันหยวนเขาก็ยอมไปแล้ว

ถงเซียวเซียวที่กำลังเดินอยู่ด้านหน้าพร้อมกับกลุ่มสาวๆ เธอจงใจชะลอฝีเท้าลงเพื่อรอให้ฉีเล่ยเดินเข้ามาหา ดูจากลักษณะท่าทางแล้ว เธอคล้ายกับมีอะไรบางอย่างต้องการจะพูดกับฉีเล่ย

แต่ในขณะที่เธอกำลังจะอ้าปากพูดนั้น จู่ๆก็มีรถตู้สีดำแล่นเข้ามาขวางหน้าไว้

ทันทีที่ประตูรถเปิดออก ก็ปรากฏผู้หญิงคนหนึ่งแต่งหน้าจัดจ้านกระโดดลงมา พร้อมกับตะโกนเสียงดังลั่นว่า

“ถงเซียวเซียว! นังตัวดี! กล้ายุ่งกับผู้ชายของฉันกลางเมืองหลวงเลยงั้นเหรอ! นังผู้หญิงหน้าด้าน! ไร้ยางอายสิ้นดี! ทำตัวระริกระรี้อยากได้ผู้ชายจนตัวสั่นสิท่า! ทำไมแกไม่ตายๆไปซะ!”

ทันทีที่ผู้หญิงคนนี้ปรากฏตัวขึ้น เธอก็กระหน่ำด่าถงเซียวเซียวไม่หยุด

ส่วนสาวๆคนอื่นที่เดินนำหน้าไปก่อนนั้น เป็นเพราะพวกเธอมัวแต่คุยเล่นกันอย่างสนุกสนานโดยมีหลินชูวโม่เป็นแกนนำ จึงไม่ทันได้สังเกตเห็นความผิดปกติอะไรและค่อยๆเดินห่างออกไปเรื่อยๆ

มิหนำซ้ำก่อนหน้านี้ถงเซียวเซียวเองก็จงใจชะลอฝีเท้าให้ช้าลงเพื่อรอฉีเล่ยที่อยู่รั้งท้าย นั่นก็เท่ากับว่าเวลานี้เธอกับฉีเล่ยจึงอยู่ห่างจากกลุ่มสาวๆข้างหน้าพอสมควร

เธอเดินคุยกับฉีเล่ยสองต่อสองไปเรื่อยๆ

และในเวลาเดียวกันนั้น รถตู้สีดำคันก็พุ่งปราดเข้ามาขวางหน้าทั้งคู่อย่างกะทันหัน แล้วผู้หญิงแต่งหน้าจัดจ้านก็กระโจนเข้าจู่โจมชนิดที่ไม่ปล่อยให้ถงเซียวเซียวได้ทันตั้งตัว

ถงเซียวเซียวได้แต่ยืนอ้าปากค้าง เธอจ้องมองภาพเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยความตกใจ

“นังโสเภณี! กล้าดียังไงมาแย่งผู้ชายของคนอื่น! ฉันจะตบแกให้เสียโฉมเลยคอยดู!!”

ยังไม่ทันสิ้นเสียงดี ผู้หญิงคนนั้นก็สาวเท้าตรงเข้าไปถึงตัวถงเซียวเซียว พร้อมกับง้างมือขึ้นหมายตบเข้าที่ใบหน้าของถงเซียวเซียวที่ยังคงยืนอยู่ในอาการงุนงง

“เซียวเซียว! ระวัง!!”

หลินชูวโม่ที่ตั้งใจจะหันหลังไปชวนถงเซียวเซียวคุย แต่กลับเห็นว่า มีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้น เธอจึงรีบวิ่งตรงเข้าไปหมายที่จะช่วยโดยเร็วที่สุด

แต่ดูเหมือนว่า…มันกลับสายเกินไปแล้ว

ฝ่ามือของผู้หญิงคนนั้นอยู่ใกล้แทบจะประชิดใบหน้าของถงเซียวเซียวเต็มทน ในชั่วอึดใจที่ผู้หญิงคนนั้นกำลังยิ้มเยาะด้วยใบหน้าภาคภูมิใจ คนบนรถตู้ก็ยกกล้องในมือขึ้นมาเพื่อเตรียมถ่ายภาพช็อตเด็ดนี้ไว้ทันที

สิ่งที่อันตรายที่สุดสำหรับดาราหรือนางแบบคืออะไรงั้นหรือ?

แน่นอน…มันคือเรื่องอื้อฉาว

เรื่องอื้อฉาวของเหล่าดาราย่อมไม่ต่างเรื่องด่างพร้อยที่จะถูกบันทึกลงไปในประวัติการทำงานของคนเหล่านั้นไปชั่วชีวิต และไม่สามารถที่จะลบออกไปได้ มิหนำซ้ำยังจะส่งผลกระทบต่อชื่อเสียง และสถานะบนเส้นทางอาชีพโดยของพวกเขาโดยตรงด้วย ส่วนใหญ่แล้วเรื่องอื้อฉาวมักจะถูกใช้เพียงเพื่อทำลายชื่อเสียงของบุคคลนั้นๆ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเรื่องอื้อฉาวประเภทรักๆใคร่ๆ แค่จั่วหัวขึ้นมาก็เป็นเรื่องในทางลบแล้ว

เรื่องใดที่เกี่ยวข้องกับทางศีลธรรม เรื่องนั้นมักจะเป็นเรื่องที่ผู้คนให้อภัยได้ยาก

และด้วยเหตุนี้เอง เรื่องอื้อฉาวประเภทนี้จึงเป็นปัญหาที่น่าปวดหัวที่สุดสำหรับเหล่าคนดัง เมื่อใดที่เรื่องแดงจนกลายเป็นข่าว ดาราหรือนางแบบเหล่านั้นจะตกกระป๋องทันที

เลนส์กล้องกระบอกยาวยื่นออกมาจากกระจกรถตู้ราวกับพร้อมถ่ายอย่างเต็มที่ สิ่งนี้พิสูจน์แล้วว่า คนกลุ่มนี้พยายามที่จะใช้ประโยชน์จากเหตุการณ์ดังกล่าว เพื่อทำให้ถงเซียวเซียวเสื่อมเสียชื่อเสียง

ทันทีที่พวกเขาบันทึกภาพเหตุการณ์เหล่านี้ได้ ไม่ว่าจะนำไปเปิดเผยต่อสื่อหรือลบทิ้งก็ทำได้ตามใจอยาก และยังสามารถใช้ภาพพวกนี้ขมขู่หรือรีดไถถงเซียวเซียวก็ยังได้ แล้วแต่ผู้บงการจะสั่งการ

ถึงจะเป็นเพียงภาพถ่ายหรือคลิปสั้นๆ แต่ก็ถือว่ามากเพียงพอที่จะใช้มันทำลายอนาคตของนางแบบคนหนึ่งหลังจากนี้

ทว่าขณะที่ฝ่ามือของผู้หญิงคนนั้นกำลังจะฟาดเข้ากับใบหน้าถงเซียวเซียว ฉีเล่ยกลับเอื้อมมือออกไปหยุดไว้ได้อย่างทันท่วงที

“มีเรื่องอะไรก็ค่อยๆพูดค่อยๆจากันสิครับ”

ฉีเล่ยจ้องลึกลงไปในดวงตาของผู้หญิงคนนั้นเขม็ง และย้อนถามกลับไปด้วยสีหน้านิ่งเรียบ

“คุณเข้าใจผิดรึเปล่า?”

ในเวลานี้ ฉีเล่ยยังไม่ได้คิดว่า จะเป็นคนในภัตตาคารที่ต้องการแก้แค้นถงเซียวเซียว

เหตุผลที่เขายังใจเย็นอยู่ได้ขนาดนี้ ส่วนหนึ่งก็เพราะว่าเขากับถงเซียวเซียวนั้นเพิ่งเจอหน้ากันแค่สองครั้งเท่านั้น แต่ถ้าคนที่ยืนอยู่ข้างเขาเวลานี้คือหลี่ถงซีแล้วล่ะก็ รับรองได้ว่าเขาคงจะไม่ลังเลที่จะปรี่เข้าไปชกหน้าอีกฝ่ายเพื่อสวนกลับเช่นกัน

เพราะเป็นไปไม่ได้แน่นอนที่ผู้หญิงอย่างหลี่ถงซีจะไปเป็นเมียน้อยคนอื่นได้

แต่ถ้าจะถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับถงเซียวเซียว ฉีเล่ยเองก็ไม่กล้าการันตีเช่นกันว่า สิ่งที่ผู้หญิงคนนั้นพูดเป็นความจริง หรือเป็นการใส่ความกันแน่

ทางด้านผู้หญิงแต่งหน้าจัดจ้างคนนั้น เธอคิดไม่ถึงเลยว่า ผู้ชายข้างๆจะออกโรงปกป้องถงเซียวเซียวแบบนี้ ในใจก็ได้แต่นึกโมโหฉีเล่ยอย่างมาก เดิมทีเธอคนนี้ประกอบอาชีพหญิงขายบริการเพื่อหาเงินมาเลี้ยงตัวเอง แม้ว่างานที่มาทำในวันนี้จะดูค่อนข้างแปลกไปบ้าง แต่ในเมื่อได้ค่าตอบแทนสูง มีเหรอที่เธอจะปฏิเสธ?

มีผู้จ้างวานเธอด้วยและเสนอราคาให้ 1,000หยวนต่อการตบหนึ่งครั้ง เมื่อครู่นี้เธอเองกำลังคิดว่าตัวเองจะได้เงินหนึ่งพันหยวนแรกไปแล้ว และเตรียมว่าจะกระหน่ำตบหน้าถงเซียวเซียวไม่ยั้งเพื่อเงินอีกจำนวนมากที่จะตามมา แต่ใครจะไปคิดว่า เงินจำนวนหนึ่งพันหยวนแรกกลับพลันหายวับในพริบตา เพียงเพราะชายหนุ่มคนนี้เข้ามาขัดขวางไว้

กล้าทำลายเส้นทางความมั่งคั่งกันซึ่งหน้าแบบนี้ ถือได้ว่าเป็นปฏิปักษ์อย่างชัดเจน

“ปล่อยฉัน! นี่คุณเป็นใคร! ฉันมาที่นี่ก็เพื่อจัดการกับนังโสเภณีที่คบชู้กับสามีฉัน! เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ? นี่คุณไม่เห็นใจเมียหลวงอย่างฉันบ้างเลยรึไง? ถึงได้ออกโรงปกป้องนังตัวดีนี่!!?”

เวลานั้น ในที่สุดถงเซียวเซียวก็ได้สติ และหายจากความงุนงง เธอเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่ดูจริงใจอย่างมากว่า

“คุณนาย คุณจำคนผิดรึเปล่าคะ? ดิฉันไม่รู้จักคุณจริงๆ แล้วตัวดิฉันเองก็ไม่เคยไปเป็นมือที่สามของใครด้วย”

“เธอคือถงเซียวเซียวใช่มั๊ย?”

“ใช่ค่ะ”

“นังตัวดี! เธอนั่นแหละ!”

ผู้หญิงคนนั้นชี้หน้าด่าสวนกลับไปอีกระลอก พร้อมกับง้างมือเตรียมตบหน้าถงเซียวเซียวอีกครั้ง

การเคลื่อนไหวของผู้หญิงคนนี้รวดเร็วเป็นอย่างมาก แต่ถึงแบบนั้นก็ยังช้าไปกว่าฉีเล่ย!

ฝ่ามือของเธอถูกฉีเล่ยหยุดไว้ได้อีกครั้งหนึ่ง ถงเซียวเซียวถึงกับกรีดร้องลั่นด้วยความตกใจและรีบวิ่งไปหลบหลังด้านหลังของฉีเล่ยอย่างรวดเร็ว

“นี่คุณ! ใจเย็นก่อนได้ไหม? มีอะไรก็ค่อยๆพูดค่อยๆจากันก็ได้ ไม่ใช่เอะอะอะไรก็จะใช้แต่กำลัง!”

เวลานี้ ฉีเล่ยควบคุมผู้หญิงคนนั้นไว้ได้อย่างสมบูรณ์ โดยใช้กำลังจับมือทั้งสองข้างของเธอไว้แน่น ภายในใจก็รู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย ไม่ว่าถงเซียวเซียวจะคบชู้กับสามีคนอื่นจริงหรือไม่ แต่ตัวเขาในวันนี้มาในฐานะเพื่อนของถงเซียวเซียว แล้วจะยอมเห็นเธอโดนทำร้ายร่างกายต่อหน้าต่อตาได้อย่างไร?

“ใจเย็นพ่อแกน่ะสิ! ปล่อยฉันเดี๋ยวนะไอ้บ้า! ปล่อยฉันนะไอ้สารเลว!”

ผู้หญิงคนนั้นเริ่มแหกปากโวยวายอีกครั้ง ชั่วขณะอึดใจเธอก็ยกเท้าขึ้นมา และพยายามจะถีบเข้าที่ท้องน้อยของถงเซียวเซียวอีกครั้ง สภาพของเธอเป็นไปอย่างทุลักทุเล

ตบหน้าครั้งหนึ่งเท่ากับพันหยวน ถ้าถีบน่าจะได้ราคาดีกว่าแน่นอน

ตุบ!

ฉีเล่ยรีบยกขาขึ้นสกัดอย่างไว้ได้อย่างรวดเร็วอีกครั้ง ด้วยการยื่นเท้าของตนเองเข้าตัดตอนบริเวณแข้งของเธอ พร้อมกับออกแรงตบลงบนพื้นอย่างแรง จนผู้หญิงคนนั้นถึงกับร้องเสียงหลงสุดแสนจะน่าสังเวช ความเจ็บปวดแล่นผ่านไปทั่วทั้งบริเวณแข้งขาราวกับถูกฟาดด้วยท่อเหล็ก ใบหน้าของเธอเริ่มซีดเผือดจนเกือบหมดสติไป

“ครั้งนี้ถือเป็นการเตือนนะครับ”

ฉีเล่ยร้องเตือนผู้หญิงคนนั้นด้วยสีหน้าเย็นชา

“อ่อ แล้วถ้าจะด่าก็ด่าแค่ผมพอ ไม่ต้องเล่นถึงพ่อ”

หลังจากที่ฉีเล่ยพยายามหยุดผู้หญิงคนนั้นด้วยคำพูดถึงสามครั้ง แต่สุดท้ายกลับไร้ประโยชน์ ในเมื่อไม่มีทางเลือกอื่น เขาก็ต้องใช้กำลังเข้าห้าม ระหว่างนั้นเองเขาก็สั่งให้ถงเซียวเซียวไปอยู่รวมกลุ่มกับพวกหลินชูวโม่และคนอื่นๆ ซึ่งดูเหมือนว่าน่าจะปลอดภัยกว่า

“คุณเป็นใคร? ต้องการอะไรกันแน่?”

หลินชูวโม่ปลอบประโลมถงเซียวเซียวอยู่สักพัก ก่อนจะลุกขึ้นชี้หน้าพร้อมตะโกนใส่ผู้หญิงคนนั้น

“ฉันเป็นใครน่ะเหรอ? ยังกล้าถามอีกเหรอว่าฉันเป็นใคร! ถงเซียวเซียว นังนี่มันเป็นชู้กับสามีของฉัน! ฉันมาที่นี่เพื่อจัดการกับมัน! ปล่อยฉันนะไอ้สารเลว!”

แม้ว่าผู้หญิงคนนั้นจะถูกฉีเล่ยตอบโต้จนเจ็บไปทั้งหน้าแข้งแล้ว แต่มือทั้งสองข้างของเธอก็ยังถูกเขากำไว้แน่นโดยไม่มีท่าทีว่าจะปราณีหรือเห็นใจเลยแม้แต่น้อย มิหนำซ้ำตอนนี้ยังถูกก๊วนเพื่อนๆของถงเซียวเซียวล้อมไว้อีกประมาณสองสามคน

แต่แทนที่เธอจะรู้สึกกลัวหรือตระหนกตกใจ ทว่ากลับมีท่าทีแข็งขืนมากขึ้นเรื่อยๆแทน

“แล้วสามีของคุณเป็นใครล่ะ? คุณไม่มีสิทธิ์อะไรมากล่าวหาว่าเซียวเซียวเป็นชู้กับสามีของคุณลอยๆแบบนี้! ไหนล่ะหลักฐาน!?”

เสี่ยวเจาตะคอกถามด้วยความโกรธจัด

“แล้วแกเกี่ยวอะไรด้วย? สามีของฉันจะเป็นใครแล้วมันกงการอะไรของแก? พวกแกล่ะเป็นใคร? ดูจากท่าทางแต่ละคนแล้ว คงไม่พ้นพวกผู้หญิงขายบริการใช่ไหมล่ะ? หน้าไม่อาย…กล้าแย่งของชาวบ้าน คงสันดานเสียไม่ต่างกันเท่าไหร่!”

แน่นอนว่าผู้หญิงที่ถูกจ้างมานั้นก็ไม่สามารถบอกได้เช่นกันว่า สามีของเธอคือใคร ด้วยเหตุนี้เธอจึงเริ่มเบี่ยงประเด็นเปลี่ยนหัวข้อโต้เถียงทันที พร้อมกับพูดจาสบประมาทกลุ่มสาวๆด้วย

ซึ่งนั่นไม่ต่างอะไรกับการแหย่รังแตนเลย

“นังนี่วอนซะแล้ว! ช่วยแหกตาของแกดูหน่อยนะ ฉันเป็นถึงลูกสาวของหวงหัว!”

“นั่นน่ะสิ นังคนนี้สมควรโดนผัวทิ้งแล้วล่ะ ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมผัวของแกถึงได้นอกใจไปหาคนอื่น”

“ถ้าฉันเป็นผัวเธอนะ ฉันก็คงไม่เอาเธอมาทำเมียตั้งแต่แรก สงสัยไปล่อลวงเขามาตอนเมาล่ะสิ? ผัวเธอถึงได้เห็นสุนัขเป็นคนไปได้ เลยกล้าเอาได้ลงคอ! ฉันจะบอกอะไรให้ คนสันดานแบบเธอ ต่อให้เอาไปเปรียบเทียบกับหมา ฉันยังอายแทนหมามันเลย!”

หลินชูวโม่รู้สึกได้ว่า มีบางอย่างไม่ถูกต้อง เธอจึงโบกมือส่งสัญญาณให้ทุกคนหยุดด่า จากนั้นจึงเดินตรงเข้าไปจ้องตาผู้หญิงคนนั้นพร้อมกับถามขึ้นว่า

“รู้จักกับเซียวเซียวจริงๆงั้นเหรอ?”