บทที่ 69
‘นี่มันเรื่องบังเอิญ หรือว่าเจ้าลูกเขยนี่รู้เรื่องพวกนี้จริง ๆ?’ แขกคิด
แดร์ริลยิ้มบาง ๆ แล้วพยักหน้าให้แอ๊บบี้ “ใช่แล้ว แม้ว่ากระจกแปดด้านจะเป็นวัตถุโบราณที่สวยงาม แต่มันต่อต้านกับฮวงจุ้ยของคฤหาสน์ นั่นจึงทำให้ประธานกายสลบไป ต่อให้คุณซัลลิแวนมีทักษะแพทย์ที่เก่งกาจขนาดไหน เธอก็ไม่สามารถรักษาคุณได้”
คำเหล่านั้นทำให้เชลลีก้มหน้าลง ในตอนแรก เธอดูหมิ่นแดร์ริล ตอนนี้กลายเป็นว่า จริง ๆ แล้วเขาเป็นชายที่ยอดเยี่ยม มากไปกว่านั้น เธอเองก็รักษาแอ๊บบี้ไม่ได้ คำพูดของแดร์ริลนั้นปลอบเธอ
ขณะที่แดร์ริลกำลังพูด เขาก็แอบตรวจอาการของแอ๊บบี้เงียบ ๆ ด้วย
แม้ว่าผู้หญิงคนนี้จะอายุเกิน 30 ปี แต่เธอยังคงดูแลรูปลักษณ์เป็นอย่างดี จากการมองครั้งแรก เธอดูเหมือนอายุ 20 ด้วยซ้ำ เธอมีร่างกายที่น่าทึ่งเธอน่าเย้ายวนและดึงดูดอย่างไม่มีใครเทียบได้
‘แอ๊บบี้กับแบรนดอน พี่น้องคู่นี้ ดูเหมือนจะไม่ใช่คนปกติ พวกเขามีรังสีที่ทรงพลังมาก! หรือว่าพี่น้องคู่นี้เป็นผู้บ่มเพาะ? ศิษย์ในสำนักไหนรึเปล่า?’ แดร์ริลคิด
แอ๊บบี้ขมวดคิ้ว “คุณแดร์ริล ถ้าสิ่งที่คุณบอกถูกต้อง ถ้าอย่างนั้นทำไมฉันถึงเป็นคนเดียวที่สลบ ฉันมั่นใจว่ามีหลายคนในที่นี่มองกระจกแปดด้านด้านนั่น ใช่ไหม? ทำไมพวกเขายังดูปกติ?”
เมื่อสิ้นเสียงของเธอ ฝูงชนก็เริ่มตอบสนองแล้วตั้งข้อสงสัย
“นั่นสิ ฉันก็ดูมัน ทำไมฉันไม่เป็นอะไรเลย?”
“ฉันก็เห็นนะ”
“อย่างที่ฉันบอก หมอนั่นมันหลอกเรา”
แดร์ริลเมินเฉยคำถามรอบ ๆ เขา ตรงกันข้าม เขามองจ้องแอ๊บบี้เขม็งแล้วกล่าว “นี่เป็นเพราะปัญหาส่วนตัวของประธานกาย”
“ปัญหาส่วนตัวของฉัน?” แอ๊บบี้ถาม
แอบรนดอนทนไม่ไหว “พี่สาวของฉันจะมีปัญหาได้อย่างไร? อธิบายให้ชัด”
แดร์ริลยิ้มบางแล้วถามแอ๊บบี้ “ขอผมตั้งข้อสันนิษฐานหน่อยนะ ประธานกาย วันนี้คุณมีประจำเดือนรึเปล่าครับ?”
แอ๊บบี้กัดปากแน่น ใบหน้าของเธอแดง ท่าทางของเธอมีร่องรอยความไม่สบายใจ
“ไอ้เ-ี้ยนี่ นี่แกกำลังหาเรื่องใช่ไหม ไอ้เวร? อยากจะตายใช่ไหม?” แบรนดอนไม่ทนอีก เขายืนขึ้นแล้วมองไปที่แดร์ริลด้วยโทสะ
ไม่ใช่แค่ไอ้เวรนี่ทำเป็นรู้เรื่องรู้ราว แต่เขายังกล้าถามเรื่องส่วนตัวของพี่สาวของแบรนดอนต่อหน้าคนมากมายอีก เขาต้องเบื่อการมีชีวิตแล้วแน่
ในเวลาเดียวกัน บอดี้การ์ดร่างกำยำมากมายก็มาล้อมแดร์ริลไว้
“ถอยไป!” แอ๊บบี้สั่งบอดี้การ์ด
เธอกัดริมฝีปากแล้วกล่าวเสียงเบา “มัน… มันมาวันนี้จริง ๆ”
แดร์ริลพยักหน้า “อย่างที่ผมคิด เลือดนั้นดึงดูดวิญญาณร้าย ในมุมมองของฮวงจุ้ย คุณได้ฝ่าฝืนเรื่องต้องห้าม แต่มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร มันไม่มีอะไรแล้ว”
ในตอนนั้นเอง แบรนดอนก็เข้าใจและไม่ได้พูดอะไรออกมา
คนแบบแบรนดอนไม่กล้าขอโทษแดร์ริล เขาแค่จ้องไปที่แดร์ริลเขม็งแล้วช่วยพาแอ๊บบี้กลับเข้าไปในโถงคฤหาสน์
วิกฤติผ่านพ้นไปแล้วด้วยความน่าแปลกใจ แต่ก็ไม่มีอันตรายอะไรเกิดขึ้น มันไม่มีอะไรเหลือให้แขกดูอีก พวกเขาจึงกลับไปที่โถงด้วยเช่นกัน
เหล่าดาร์บี้มองแดร์ริลด้วยความสับสน แต่ไม่มีใครสักคนที่ยินดีกับเขา
ในใจพวกเขา พวกเขาไม่คิดว่าแดร์ริลจะประสบความสําเร็จ พวกเขาคิดว่าชายหนุ่มต้องล่อลวงแขกไม่ให้รู้วิธีแก้ปัญหาของเขา ฮวงจุ้ยอะไรกัน? มันก็แค่เรื่องโกหกทั้งนั้นแหละ” พวกเขาคิด มีเพียงแจ็คสันที่มีใบหน้าเคารพและยินดี ทุกคนกลับมาที่โถง แจ็คสันจับแขนของแดร์ริลแล้วกล่าวกับเขาอย่างเคารพ “พี่รอง พี่เจ๋งมาก รู้กระทั้งความรู้แปลก ๆ พวกนี้ พี่ต้องไม่รู้แน่ว่าผมกลัวเกือบตายเมือก” แม้แต่พี่ชายของเขา ฟลอเรียน คะยั้นคะยอให้เขาดื่มแล้วกล่าวอวยพรมากมาย แจ็คสันเองก็ดูเหมือนจะคล้อยตาม ดูเหมือนทันทีทีแอลกอฮอล์ถูกเทลงไปในแก้วของเขา มันก็ถูกสูบหายไปทันที ก่อนที่มืออาหารจะจบลงเขาก็ไร้สติไปแล้ว และต้องถูกแบกไปที่ห้องของเขาเพื่อพักผ่อน เมือมืออาหารจบลง แคร์ริลและเดรกต่างกล่าวลากันแล้วกลับไป ในขณะที่เขาเดินออกจากคฤหาสน์ ชายร่างกํายําสองคนก็เดินมาหาเขา “คุณแดร์ริล คุณกายอยากเชิญคุณไปพบครับ” ชายคนหนึ่งกล่าว ท่าทางของเขาดูเชิญชวน มันชัดเจนว่าคุณกายที่เขากล่าวนั้นเป็นใครไม่ได้นอกจากแบรนดอน แม้แต่บอดี้การ์ดของเขายังมีรังสีน่าเกรงขาม นี้เป็นการบ่งบอกถึงอํานาจของแบรนดอนในเมืองตงไห้ได้เป็นอย่างดี