บทที่ 55 ข้าไม่ใช่คนเดิมอีกแล้ว

เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此]

บทที่ 55 ข้าไม่ใช่คนเดิมอีกแล้ว

ทุกคนคิดว่าหลินเป่ยเฉินจะต้องพยักหน้าตอบตกลงอย่างแน่นอน

เนื่องจากไม่มีใครสามารถปฏิเสธคำเชิญจากเด็กสาวยอดอัจฉริยะประจำเมืองได้เด็ดขาด

ยิ่งไปกว่านั้น หลินเป่ยเฉินเป็นเจ้าคนโหลยโท่ยไร้ความสามารถ การได้รับคำเชิญจากหลิงเฉิน ย่อมเปรียบเสมือนรางวัลชีวิตของเขาแล้ว

แต่ว่า…

“ขอบคุณสำหรับน้ำใจ แต่คงต้องขอปฏิเสธ”

หลินเป่ยเฉินบอกปัดหลิงเฉินเช่นเดียวกับที่เขาปฏิเสธหลี่เทา

ทุกคนที่ได้ยินถึงกับไม่อยากเชื่อหูตัวเอง

“ทำไมกัน?”

หลิงเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย

ความไม่สบอารมณ์ปรากฏขึ้นอย่างชัดเจน

“ก็ข้าเป็นบุรุษ” หลินเป่ยเฉินตอบ

หลิงเฉินยิ่งมีสีหน้างงหนักมากกว่าเก่า

เด็กหนุ่มจึงต้องอธิบายว่า “เพราะว่าข้าเป็นบุรุษ ข้าจะหวังพึ่งพาสตรีไม่ได้เด็ดขาด”

“พวกบุรุษรับประทานศักดิ์ศรีเป็นอาหารหรืออย่างไร” หลิงเฉินถอนหายใจออกมาเหมือนเหนื่อยใจเสียเต็มประดา แต่แล้วนางก็เหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ จึงยิ้มแฉ่งออกมาอีกครั้ง

รอยยิ้มของนางสามารถหลอมละลายหิมะและช่วยให้ดอกไม้ที่เหี่ยวเฉาเบ่งบานได้ในพริบตา

เด็กสาวเปลี่ยนบุคลิกไปอีกครั้ง

อย่าบอกนะว่าจะกลับไปเป็นยัยน่ารำคาญนั่นอีกแล้ว?

หลินเป่ยเฉินไม่รู้ว่าตนเองควรดีใจหรือเสียใจดี

แต่ในใจเริ่มสังหรณ์ว่าจะต้องเกิดเรื่องราวที่ชวนปวดเศียรเวียนเกล้าขึ้นแน่นอน

ใครเลยจะคิดว่า เด็กสาวอัจฉริยะอันดับ 1 ประจำเมืองหยุนเมิ่ง จะเดินเข้าไปหาหลินเป่ยเฉิน และช่วยจัดปกคอเสื้อให้เขาด้วยมือที่ขาวผ่องของนาง พร้อมกันนั้น ก็พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานต่อหน้าทุกคนว่า “อันที่จริง หากพี่เฉินจะมาพึ่งพิงข้ามันก็ไม่เป็นไรหรอก ถ้ามีใครพูดจาไม่ดีเกี่ยวกับท่าน ข้าจะตัดลิ้นพวกมันเอง…”

บรรดาศิษย์คนอื่นที่ได้ยินถึงกับสะดุ้งโหยงกันถ้วนหน้า

เทพธิดาคนงามประจำสถานศึกษากระบี่หลวง หักอกพวกเขาเสียแล้ว

ทุกคนล้วนคิดไม่ถึงว่า เด็กสาวผู้เป็นหนึ่งในสถานศึกษากระบี่หลวง จะมอบหัวใจของตนเองให้แก่เจ้าเศษสวะไร้ค่าคนหนึ่งอย่างนี้

หลายคนพากันจ้องมองหลินเป่ยเฉินด้วยความอิจฉาริษยาและขมขื่น

แต่หลินเป่ยเฉินส่ายศีรษะ ตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “ไม่ได้หรอก โปรดให้อภัยข้าด้วยที่ปฏิเสธเจ้า แต่ตอนนี้ตระกูลหลินล่มสลายไปแล้ว บิดาข้าโดนคนทั้งอาณาจักรหมายหัว พี่สาวข้าก็หายตัวไปไม่ทราบชะตากรรม ข้าไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไป ข้าขอสาบานต่อสวรรค์ ตราบใดที่ข้ายังพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของบิดาและยังตามหาพี่สาวไม่เจอ ข้าจะไม่ขอมีความรักเด็ดขาด”

เหยดเข้ ฟังดูโคตรพระเอกเป็นบ้าเลยวุ้ย

หลินเป่ยเฉินพูดออกไปแล้วก็นึกภูมิใจในตัวเอง

เขาอุตส่าห์ใช้เวลาทั้งคืน นอนคิดหาเหตุผลข้อนี้มาตลอด

นั่นเป็นเพราะว่า ในอดีตทุกคนจดจำเขาในฐานะเจ้าโหลยโท่ยผู้ลุ่มหลงในสาวงาม เกิดอยู่ดีๆ ไม่สนใจผู้หญิงขึ้นมา มันจะเป็นที่ผิดสังเกตเอาได้

หลินเป่ยเฉินยังไม่อยากร่วมหัวจมท้ายกับใครในตอนนี้

เพราะเขายังไม่อยากเปิดเผยความลับเรื่องโทรศัพท์มือถือ

หลินเป่ยเฉินคิดอยู่แล้วว่าหลิงเฉินจะต้องตามตื๊อเขาไม่เลิกรา ดังนั้น จึงต้องเตรียมข้อแก้ตัวเอาไว้ก่อน

“อ๋อ ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้นี่เอง พี่เฉินอยากกลับตัวเป็นคนดีแล้วสินะ? ท่านยิ่งสมควรได้รับความรักจากข้ามากขึ้นไปอีก เอาเถอะ ในเมื่อพี่เฉินอยากจะใช้ความสามารถพิสูจน์ตัวเองก็ไม่เป็นไร แต่ได้โปรดจำไว้ว่า หากยามใดตกอยู่ในอันตราย ท่านมาหาข้าได้ตลอดเวลา”

พูดจบ หลิงเฉินก็สวมกอดหลินเป่ยเฉิน หลังจากนั้น ก็หมุนตัวเดินหายเข้าไปในป่า

เอาแล้วไง!

ถึงกับกอดกันเลยเหรอเนี่ย?

รุกหนักไม่ใช่เล่นเลยแฮะ

สงสัยจะหลงใหลความหล่อของเราจนถอนตัวไม่ขึ้นแล้วสิ

หลินเป่ยเฉินบอกตนเองในใจอย่างนั้น

ภาพที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่นี้ ทำให้เหล่าศิษย์ที่เป็นผู้ชายจากสถานศึกษากระบี่หลวงอกหักซ้ำซ้อน

เมื่อคืนนี้ พวกเขายังเชื่อไม่หมดใจ

พวกเขายังคิดว่ามีความเป็นไปได้ที่หลิงเฉินเพียงหยอกล้อเล่นสนุกเท่านั้น

แต่เมื่อสักครู่นี้…

ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกเคียดแค้นนัก

เมื่อสักครู่นี้ พวกเขารู้สึกเหมือนตนเองโดนหญิงผู้เป็นที่รักทอดทิ้งไปต่อหน้าต่อตา

เพียงเวลาพริบตาเดียว หลินเป่ยเฉินก็กลายเป็นศัตรูหมายเลข 1 ของศิษย์ชายเกือบทุกคนจากสถานศึกษากระบี่หลวงแล้ว

“หลินเป่ยเฉิน จำใส่กะลาหัวของเจ้าเอาไว้ให้ดี ข้าจะขัดขวางไม่ให้เจ้าได้เข็มกลัดดาราสักชิ้นเดียว” เถาว่านเฉิงกัดฟันกรอด พยายามไม่คำรามออกมา “คอยดูเถอะ…พวกเราไป”

หลังจากนั้น เขาก็เดินนำลูกน้องเข้าไปในป่าต้องห้าม

หลี่เทาพูดพร้อมกับยิ้มอย่างเวทนา “หลินเป่ยเฉิน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นคนที่ศิษย์จากสถานศึกษากระบี่หลวงเกลียดชังเสียแล้ว ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมเจ้าถึงมีศัตรูอยู่มากมาย เอาเป็นว่า…โปรดดูแลตัวเองด้วย” พูดจบ เด็กหนุ่มหน้าขาวก็เดินนำลูกน้องเข้าไปในป่าต้องห้ามเช่นกัน

หลายคนรวมกลุ่มกันชั่วคราว มุ่งหน้าเข้าไปยังส่วนลึกของป่าต้องห้าม

มีเด็กหนุ่มจำนวนไม่น้อยที่หันหน้ากลับมามองหลินเป่ยเฉินด้วยแววตาอาฆาตแค้น

ดูจากสีหน้าและแววตาของพวกเขาแล้ว เหมือนกับว่าหลินเป่ยเฉินไปสังหารบุตรฉกชิงภรรยาของพวกเขามาอย่างไรอย่างนั้น

เด็กหนุ่มนามเซินเฟยเลือกออกเดินทางด้วยตัวเพียงคนเดียว ตรงไปยังทิศทางที่มีคนเดินไปน้อยมากที่สุด

เยว่หงเซียงหันมาสบตามองหน้าหลินเป่ยเฉิน

“ขอให้เจ้าโชคดี”

หลินเป่ยเฉินโบกมืออวยพรอีกฝ่าย และก่อนที่นางจะทันได้พูดอะไร เขาก็รีบเดินหนีออกมาโดยเร็ว

เยว่หงเซียงได้แต่ยืนก้มหน้าต่ำอยู่ในความเงียบ

ผ่านไปเนิ่นนานหลังจากนั้น นางถึงได้ถอนหายใจออกมาแผ่วเบา และพยายามกอบกู้ขวัญกำลังใจของตนเองกลับมาอีกครั้ง “ไม่เป็นไร ต่อให้คนทั้งโลกทอดทิ้งเจ้า เจ้าก็จะยอมแพ้ไม่ได้เด็ดขาด…เพื่อมารดาของเจ้าแล้ว ไม่ว่ามันจะยากลำบากสักแค่ไหน เจ้าก็ต้องฟันฝ่ามันไปให้ได้”

ภายใต้แสงอาทิตย์ยามเช้า เด็กสาวผู้บาดเจ็บที่ข้อมือ ก็เดินถือกระบี่หายลับเข้าไปในป่าต้องห้ามเพียงลำพัง

“พระอาทิตย์ยิ้มแฉ่ง แก้มแด๊งแดง แต่งตัวทาแป้ง โผล่มายามเช้าตรู่ ฮู๊ฮู…”

หลินเป่ยเฉินเดินร้องเพลงอย่างมีความสุข

หลังจากเสียเวลาทั้งคืน ในที่สุด เขาก็ได้แผนเด็ดมาแผนหนึ่ง

นับเป็นแผนการที่ร้ายกาจยิ่ง

เขานำโทรศัพท์มือถือออกมาเปิดใช้งานแผนที่นำทาง

หลังจากโหลดแผนที่ของแดนป่าร้างแล้ว หลินเป่ยเฉินก็พิมพ์คำว่า ‘เข็มกลัดดารา’ ลงไป ก่อนจะกดค้นหา

หลังถูกดูดพลังปราณไปเล็กน้อย จุดสีแดงเล็กๆ ก็ปรากฏทั่วแผนที่

มันมีทั้งหมด 100 จุด

เยี่ยมยอด

คนของกระทรวงศึกษาต้องทำงานหนักแทบตายกว่าจะนำเข็มกลัดดาราทั้ง 100 ชิ้น มาซ่อนตามสถานที่ต่างๆ ในป่าต้องห้ามได้สำเร็จ แต่เข็มกลัดเหล่านั้นกลับปรากฏอยู่บนแผนที่ในโทรศัพท์มือถือของเขาอย่างง่ายดาย

หลินเป่ยเฉินพบความจริงข้อนี้ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว

ในขณะที่คนอื่นๆ บุกบั่นตามหาเข็มกลัดดารายากเย็นยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร แต่สำหรับเขา มันช่างง่ายดายยิ่งกว่าพลิกฝ่ามือ

“เป็นแบบนี้แม่ก็ไม่ต้องกลัวว่าฉันจะสอบตกอีกแล้ว”

“ง่ายอย่างกะปอกกล้วย!”

“โอ๊ะ เข็มกลัดดาราที่อยู่ใกล้ที่สุด อยู่แถวทะเลสาบห่างออกไปแค่ 10 ลี้เท่านั้นเอง”

หลินเป่ยเฉินกดเลือกจุดหมายเป็นเข็มกลัดดาราที่อยู่ใกล้เขาที่สุด จากนั้น ก็เริ่มต้นให้โทรศัพท์มือถือรับหน้าที่นำทาง

“เส้นทางพร้อมแล้ว ใช้เวลาเดินทางทั้งสิ้น 20 เค่อ ได้โปรดเดินทางตามคำแนะนำ”

เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นอีกครั้ง

หลินเป่ยเฉินเดินไปพลางเต้นท่าม้าย่องไปพลางด้วยความอารมณ์ดี

หลังจากเดินไปได้หลายนาที เสียงจากโทรศัพท์ก็ดังขึ้นว่า

“แจ้งเตือน! พบรังกิ้งก่าฟันเลื่อยอยู่ห่างออกไป 1 ลี้ ภายในรังมีกิ้งก่าโตเต็มวัย 10 ตัวและกิ้งก่าทารกอีก 15 ตัว ตรวจพบอันตรายระดับ 3 ขอแนะนำให้หลีกเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นที่ระบบจัดเตรียมเอาไว้”

เอ๋?

ฟังก์ชันนี้…มัน…

เป็นเวอร์ชันดัดแปลงมาเรียบร้อยแล้วใช่ไหมเนี่ย?

หลินเป่ยเฉินยืนนิ่งไปเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มกว้างออกมาด้วยความดีใจ

ไม่คิดเลยว่าแอปแผนที่ในโทรศัพท์เครื่องนี้ มันจะสมบูรณ์แบบได้ถึงขนาดนี้

“สุดยอด!”

หลินเป่ยเฉินเลือกใช้เส้นทางหลีกเลี่ยงรังกิ้งก่า

อีกไม่กี่นาทีให้หลัง…

“แจ้งเตือน! พบรังมดคันไฟปีศาจอยู่ห่างออกไป 1 ลี้ ในรังบรรจุด้วยมดจำนวน 30 ล้านตัว ตรวจพบความอันตรายตั้งแต่ระดับ 2 ถึงระดับ 9 ขอแนะนำให้หลีกเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นที่ระบบจัดเตรียมเอาไว้”

“พบงูเหลือมหางแดงอยู่ห่างออกไป 15 จั้ง ตรวจพบอันตรายระดับ 3 ขอแนะนำให้หลีกเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นที่ระบบจัดเตรียมเอาไว้”

“พบกบน้ำแข็งผลไม้พิษอยู่ห่างออกไป 3 จั้ง ตรวจพบอันตรายระดับ 2 ขอแนะนำให้หลีกเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น”

เสียงแจ้งเตือนยังคงดังออกมาจากโทรศัพท์ไม่หยุดหย่อน