“น่าขัน ข้าน่ะหรือจะอาย”

“เช่นนั้นก็เร็วหน่อย ชักช้ายืดยาดเสียเวลานอนข้าหมด เนื้อตัวของท่านน่ะ ข้าเห็นมาหมดทุกส่วนแล้ว”

วืบ…

ไม่ใช่แค่ในห้อง แม้แต่อากาศทั่วทั้งจวนอ๋องก็หนาวเย็นลงไปจนถึงจุดเยือกแข็ง กลิ่นอายของจิตสังหารแผ่ซ่านออกมา

ชิงเฟิงและเจี้ยงเสวี่ยกดศีรษะลงต่ำ

ถ้าเป็นไปได้ พวกเขาก็อยากจะออกไปจากที่นี่เสียเดี๋ยวนี้

คุณหนูสามตระกูลกู้จะไร้ขอบเขตเกินไปแล้ว อะไรไม่ควรพูดก็พูดออกมาเสียได้

กู้ชูหน่วนหนาวสั่นเล็กน้อย นางรู้สึกราวกับว่าขาข้างหนึ่งก้าวลงไปในนรกเรียบร้อยแล้ว

ถ้านางพูดต่ออีกแม้แต่คำเดียว เยี่ยจิ่งหานคงฆ่านางอย่างไม่ต้องสงสัย

“กู้ชูหน่วน เจ้าคิดว่าข้าไม่กล้าฆ่าเจ้างั้นรึ”

“กล้าสิ กล้าๆๆ ท่านคือเทพแห่งสงครามซึ่งมีกองกำลังทหารที่เข้มแข็งอยู่ในมือ แค่พลิกฝ่ามือก็ควบคุมเมฆควบคุมฝนได้ ฆ่าข้าน่ะง่ายเสียยิ่งกว่าบีบมด เพียงแต่ ข้าอยากจะถามสักหน่อย ตกลงท่านอยากจะรักษาจริงๆ หรือไม่ หากไม่รักษาข้าจะได้กลับไปนอน”

เยี่ยจิ่งหานอยากจะบีบคอกู้ชูหน่วนให้ตายเมื่อเห็นท่าทีที่เกียจคร้านของนาง

เขาไม่รู้ว่าตนเองอารมณ์ดีขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ เอาไว้ก่อน ผู้หญิงคนนี้อีกไม่นานจะต้องถูกเหยียบย่ำ

เยี่ยจิ่งหานกำมือทั้งสองข้างเบาๆ หลังจากนั้นไม่นานจึงส่งสายตาสั่งให้เจี้ยงเสวี่ยเข้ามาถอดเสื้อผ้า

เจี้ยงเสวี่ยจัดการอย่างระมัดระวังเพราะเกรงว่านายท่านจะโกรธ

หลังจากถอดเสื้อผ้าออก ร่างกายกำยำล่ำสันสีขาวดั่งข้าวสาลีก็ปรากฏให้เห็น กู้ชูหน่วนตาเป็นประกายและมองเขาอย่างเคลิบเคลิ้ม

“แหมๆๆ คราวก่อนไม่ได้มองชัดๆ ไม่รู้เลยว่าท่านมีเรือนกายที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ ไม่มีไขมันส่วนเกินเลยสักนิดเดียว ให้ตาย กล้ามหน้าท้องนั่นช่างมีเสน่ห์เหลือเกิน”

ชิงเฟิงและเจี้ยงเสวี่ยรู้สึกเหมือนมีม้าหมื่นตัวห้อทะยานผ่านไป

เยี่ยจิ่งหานเอ่ยลอดไรฟัน “ลากนางเอาไปทำเป็นอาหารสุนัข”

“ไม่เอาๆๆ ข้าขอคืนคำพูดเมื่อครู่นี้ ท่านใจเย็นๆ เถิด ถ้าข้าตายไปใครจะรักษาให้ท่าน ถ้าจะจับข้าไปเป็นอาหารสุนัขก็รอให้ข้ารักษาท่านให้เสร็จก่อนเถิด อีกอย่าง เมื่อครู่ข้าก็แค่ชมว่าท่านรูปร่างดี ไม่ได้ทำร้ายท่านเสียหน่อย”

“…..”

เยี่ยจิ่งหานเข้าใจซึ้งถึงเหตุผลข้อนี้

ผู้หญิงคนนี้ใช้แค่ปากก็ทำให้คนโกรธจนตายได้

“ยังไม่ฝังเข็มอีก”

“ทำแล้วจ้าๆ” กู้ชูหน่วนหยิบเข็มเงินขึ้นมาและฟั่นเข็มลงไปที่จุดไป่ฮุ่ยของเขา นางค่อนข้างหนักมือและทำให้เยี่ยจิ่งหานเจ็บจนต้องขมวดคิ้ว

“นี่ มันเอียงนิดหน่อย ท่านอดทนไว้นะ ข้าจะฝังเข็มใหม่อีกครั้ง”

“…..”

ผู้หญิงคนนี้จงใจแน่ๆ

ฝังเข็มแบบนี้ทำพลาดได้ด้วยหรือ

“โธ่เอ๊ย พลาดอีกแล้ว บางทีอาจเป็นเพราะข้าไม่ได้ฝังเข็มให้ใครมานาน ท่านอ๋อง เหตุใดท่านไม่รอให้ข้าหาจุดฝังเข็มให้เรียบร้อยก่อนล่ะ”

ชิงเฟิงเอ่ยอย่างโมโห “ท่านจงใจนี่นา”

กู้ชูหน่วนทำหน้าตาใสซื่อ “เจ้ากำลังกังขาคุณสมบัติทางการแพทย์ของข้ารึ สี่เท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง จะแทงผิดบ้างก็ถือเป็นเรื่องธรรมดา น้องชิงเฟิงกล่าวหาว่าข้าจงใจ หัวใจดวงน้อยที่เปราะบางของข้าช่างเจ็บปวดยิ่งนัก”

ปัง!

เยี่ยจิ่งหานทุบโต๊ะและเก้าอี้ที่อยู่ข้างกายกู้ชูหน่วนจนแหลกละเอียด ไม่เหลือแม้แต่เศษซาก

มีความโกรธลอยคลุ้งอยู่ในอากาศ

กู้ชูหน่วนกลืนน้ำลาย

โต๊ะและเก้าอี้ตัวใหญ่กลายเป็นฝุ่นผงในทันที กำลังภายในของเขามันวิปริตแค่ไหนกันน่ะ

“นั่นอะไรน่ะ อยู่ๆ ข้าก็นึกขึ้นมาได้ว่าไม่จำเป็นต้องฝังเข็ม แค่ดื่มยาถ้วยนี้แล้วลงไปแช่ในอ่างยาก็เป็นอันเรียบร้อย”

“สามหาว น้ำในหม้อเดือดขนาดนั้น ท่านให้นายท่านลงไป คิดจะต้มนายท่านหรือยังไง”

“เจ้าหรือข้ากันแน่ที่เป็นหมอ ร่างกายของเขาหนาวเย็นขนาดนี้ ถ้าน้ำไม่ร้อน จะขับความเย็นออกไปได้หรือไง”

“เกรงว่ายังไม่ทันจะขับพิษเหมันต์ออก นายท่านจะสุกเสียก่อนนะซี นายท่าน เราอย่ารักษาเลยพ่ะย่ะค่ะ เห็นได้ชัดว่าสตรีผู้นี้เลอะเทอะไปแล้ว”