ตอนที่ 112 หอฝึกหุ่นรบ

I’M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ

ในคฤหาสน์ส่วนตัวแห่งหนึ่งของดาวเว่ยหลาน ชายชราคนหนึ่งกำลังจ้องมองแคปซูลล็อกอินเข้าสู่โลกเสมือนจริงที่ปิดฝาอยู่เบื้องหน้าด้วยความเคร่งเครียด ไม่นานเขาก็เห็นแสงไฟในแคปซูลล็อกอินดับลง ทันใดนั้นฝาแคปซูลก็เปิดออก เด็กอายุประมาณสิบเอ็ดสิบสองที่หน้าตางดงามยากจะแบ่งเพศคนหนึ่งกำลังนอนอยู่ด้านในด้วยใบหน้าซีดเผือด ตอนนี้ทั่วร่างเขาเปียกชุ่มราวกับผ่านการเล่นกีฬาผาดโผนมาอย่างรุนแรง

ผ่านไปหลายวินาที เด็กคนนั้นก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา เมื่อเขาเห็นชายชราเบื้องหน้าก็เผยรอยยิ้มอ่อนโรยพูดว่า “หัวหน้าพ่อบ้าน ทำไมนายถึงมาเฝ้าที่นี่ล่ะ?”

“คุณยังคิดจะหลอกผมอยู่หรือครับ? คุณชายใหญ่ ร่างกายคุณยังไม่ดี นายท่านไม่ให้คุณออนไลน์ไม่ใช่เหรอครับ?” แววตาของหัวหน้าพ่อบ้านมีร่องรอยการตำหนิอยู่เล็กน้อย แต่สิ่งที่มากกว่านั้นคือความเจ็บปวดใจ

เด็กที่หน้าตางดงามเอ่ยต่อว่า “ฉันต้องออนไลน์หลายครั้ง ไม่อย่างนั้นฉันจะไล่ตามบทเรียนของโรงเรียนไม่ทัน”

หัวหน้าพ่อบ้านไม่อาจพูดอะไรได้อีก เขาไม่สามารถบอกคุณชายใหญ่ของเขาว่าอย่าไปเรียนได้…เขาทำได้เพียงเข้าไปอุ้มคุณชายใหญ่ออกมาจากแคปซูลล็อกอิน ก่อนจะวางลงในแคปซูลรักษาที่เตรียมเอาไว้ข้างๆ มาตั้งนานแล้วเพื่อฟื้นฟูร่างกายเขา

หัวหน้าพ่อบ้านมองเด็กน้อยงดงามที่จมสู่การหลับสนิทอีกครั้งก็ถอนหายใจหนักๆ เขารู้สึกเจ็บปวดใจต่อเด็กตรงหน้า ผู้สืบทอดอันดับหนึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายขนาดนั้น …คุณชายใหญ่ดีทุกอย่าง มีแค่ร่างกายที่แย่มากเกินไป การกลายพันธุ์ทางจิตสร้างภาระให้กับร่างกายมากเกินไปจริงๆ

……….

ทางด้านหลิงหลานก็ดีใจที่สลัดบุคคลอันตรายทิ้งได้ในที่สุด เธอตัดสินใจเดินเที่ยวอยู่บนถนนของเมืองหลวงต่อ ยากมากที่เธอจะออกมาได้สักครั้ง ดังนั้นต้องเที่ยวให้หนำใจถึงจะดี เธอเดินไปถึงถนนหุ่นรบสายหนึ่งโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว ถนนหุ่นรบสายนี้ไม่ใช่ร้านหุ่นรบที่วางขายของเล่นเหมือนกับในสถาบันศูนย์กลางลูกเสือ หากแต่เป็นร้านค้าที่ตั้งขายหุ่นรบซึ่งเป็นอาวุธนักรบเดี่ยวที่แข็งแกร่งที่สุดของสหพันธรัฐอย่างแท้จริง

หลิงหลานเดินทอดน่องอยู่บนถนนไปได้ช่วงหนึ่งก็เดินสุ่มเข้าไปในร้านหุ่นรบแห่งหนึ่งที่ชื่ออันจี๋

เมื่อหลิงหลานเข้าไปในร้าน ก็เห็นพนักงานร้านหลายคนที่อยู่ด้านในเคาน์เตอร์ของร้านค้ากำลังพูดคุยกันอยู่ พวกเขามีทั้งผู้ชายและผู้หญิง เดิมทีพวกเขายังทำท่าคิดจะออกมา แต่เมื่อเห็นหลิงหลานเข้ามาคนเดียวก็หยุดการกระทำลง

เสี่ยวซื่อเบ้ปากเอ่ยด้วยความโมโหว่า “พวกเขาไม่เข้ามาบริการพวกเรา คิดว่าพวกเราไม่มีเงินหรือไง?”

หลิงหลานกลับไม่รู้แปลกใจ “อายุของรูปลักษณ์ฉันในตอนนี้เพิ่งจะ 16 ปีเต็มนะ แล้วข้างกายก็ไม่มีผู้ปกครองมาเป็นเพื่อน นายคิดว่าจะซื้อหุ่นรบไหวเหรอ? พวกเขาเมินเราก็เป็นเรื่องธรรมดามากแล้ว นอกจากนี้ไม่มีพวกเขาอยู่ข้างๆ พวกเราก็จะเดินเที่ยวได้อิสระมากขึ้น? มีความสุขมากขึ้นไม่ใช่เหรอ?”

เสี่ยวซื่อคิดได้ทันที “ก็จริงนะ แต่ว่าต่อไปฉันต้องทำให้พวกเขารู้ให้ได้ว่าลูกพี่เป็นเศรษฐี จะซื้อหุ่นรบที่ดีที่สุดของที่นี่ก็ไม่ใช่เรื่องยากเลย” สีหน้าของเสี่ยวซื่อดูหยิ่งทระนง

หลิงหลานเอ่ยในใจว่า “ดูท่านายจะหาเงินในโลกเสมือนจริงได้ไม่น้อยเลยนะ”

“ก็พอได้แหละ ไม่ถือว่าเยอะ มีประมาณแสนล้าน” ใครใช้ให้โลกนี้มีอย่างอื่นไม่มาก แต่ที่เยอะแยะก็คือคนล่ะ นอกจากนี้คนที่เบื่อหน่ายก็ยิ่งมากมายด้วย นิยายหลายเล่มที่เขาลงสุ่มๆ ตอนนี้ต่างก็ฮอตมาก แค่ ตบรางวัลเพียงอย่างเดียวก็ทำให้บัญชีของเสี่ยวซื่อเพิ่มขึ้นมาหลายหมื่นล้านแล้ว

หลิงหลายเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “ทำได้ดีมาก พยายามต่อไปล่ะ”

เสี่ยวซื่อได้รับคำชมเชยของหลิงหลานก็ดีใจมาก นี่มันน่าตื่นเต้นยินดีมากกว่าการที่เขาพิชิตโลกเสมือนจริงแห่งนี้เสียอีก ในใจยิ่งวางแผนไว้ว่าจะต้องเอาเงินทั้งหมดของสหพันธรัฐมาใส่ลงในกระเป๋าให้ได้

เรามาปรบมือให้กับเป้าหมายอันยิ่งใหญ่ของเสี่ยวซื่อกันเถอะ เพียงแต่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เสี่ยวซื่อจะรู้ว่าเงินของสหพันธรัฐไม่มีวันหมดนะ

ในตอนนี้เอง ชายหนุ่มร่าเริงแจ่มใสที่เป็นหนึ่งในพวกพนักงานร้านก็เดินออกมาเอง เขาเดินไปที่ข้างกายหลิงหลานและเอ่ยทักทายอย่างมีมารยาทว่า “สวัสดีครับ ผมเป็นพนักงานต้อนรับหมายเลข 017 ของร้านหุ่นรบอันจี๋ ไม่ทราบว่าต้องการให้ผมช่วยอะไรไหมครับ?”

“ขอบคุณค่ะ ฉันแค่ดูไปเรื่อยเท่านั้น” หลิงหลานประหลาดใจเล็กน้อย แต่ก็ปฏิเสธการให้บริการของ 017 อย่างอ้อมๆ

พนักงานต้อนรับ 017 ได้ยินคำตอบของหลิงหลานก็ไม่ได้แสดงสีหน้าผิดหวังออกมา เขายังคงกล่าวด้วยใบหน้าที่มีรอยยิ้มเต็มเปี่ยมว่า “คุณลูกค้าน่าจะเพิ่งเคยสัมผัสหุ่นรบเป็นครั้งแรกใช่ไหมครับ”

ลูกค้าที่มีแววตาเต็มไปด้วยความแปลกใหม่ท่านนี้น่าจะเดินเข้าร้านหุ่นรบเป็นครั้งแรก ฉากนี้ทำให้เขานึกถึงความรู้สึกเครียดตื่นเต้นในตอนที่เขาเข้าร้านครั้งแรก จำได้ว่าตอนนั้นเขาทำอะไรไม่ถูก หวังให้มีคนมาช่วยเขา บางทีเด็กสาวคนนี้อาจจะต้องการคำแนะนำเช่นกัน…ความรู้สึกแบบนี้ทำให้หมายเลข 017 ไม่สนใจคำเหน็บแหนมของพนักงานต้อนรับคนอื่นๆ และเดินออกมาเอง

หลิงหลานได้ยินคำกล่าวก็พยักหน้าโดยไม่ลังเล เพราะว่านี่คือเรื่องจริง

พนักงานต้อนรับ 017 เห็นแบบนี้ก็ยิ้มออกมา เขาทำท่าให้หลิงหลานเดินตามเขามา จากนั้นก็พาหลิงหลานไปยังพื้นที่หนึ่งซึ่งเป็นหุ่นรบพื้นฐานทั้งหมด ที่นี่เป็นสถานที่เหมาะสมให้ผู้เริ่มเรียนเลือกซื้อหุ่นรบ ทั้งหมดที่อยู่ด้านในคือหุ่นรบพื้นฐานรุ่นต่างๆ ซึ่งมีประมาณหลายสิบตัวได้

หลิงหลานมองไปรอบหนึ่งอย่างรวดเร็วมากก่อนจะอดขมวดคิ้วไม่ได้ หุ่นรบหลายสิบตัวนี้มีรูปร่างแตกต่างกัน โดยรวมแล้วสามารถแบ่งออกเป็นสามประเภท หนึ่งคือหุ่นรบรูปแบบสัตว์ป่า สองคือหุ่นรบรูปแบบนก และอีกประเภทคือหุ่นรบรูปแบบคนที่เห็นได้บ่อยมากที่สุด

สาเหตุที่ทำให้หลิงหลานขมวดคิ้วคือ รูปแบบของหุ่นรบพวกนี้ดูหยาบกว่าหุ่นรบสองตัวที่เธอเห็นในสนามประลองหุ่นรบมากเลย ไม่ว่าจะเป็นสีสัน รูปร่างแล้วก็อาวุธที่ติดตั้งต่างก็เอามาเปรียบเทียบกันไม่ได้เลย ถ้าหากหุ่นรบสองตัวที่เธอเห็นในสนามประลองหุ่นรบคือผู้ใหญ่ละก็ พวกหุ่นรบในตอนนี้คือระดับเด็กทารกอย่างไม่ต้องสงสัย นี่ทำให้หลิงหลานผิดหวังอยู่บ้าง

พนักงานต้อนรับ 017 มองเห็นความไม่พอใจของหลิงหลานได้ชัดเจน อย่างไรก็ตาม เขาไม่รู้สึกแปลกใจเลย ทุกคนที่เพิ่งเริ่มสัมผัสหุ่นรบต่างก็รังเกียจความน่าเกลียดและความเทอะทะของตัวหุ่นรบพื้นฐาน หลิงหลานไม่ใช่คนแรกและก็ไม่ใช่คนสุดท้ายแน่นอน

เขาอธิบายด้วยความใจดีว่า “คุณลูกค้า อันที่จริงหุ่นรบทั้งหมดของสหพันธรัฐเราต่างก็พัฒนาจากหุ่นรบพื้นฐานสามประเภทนี้ ถ้าหากคุณอยากเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบที่ยอดเยี่ยม คุณจำเป็นต้องเรียนรู้วิธีการควบคุมหุ่นรบพื้นฐานสามประเภทนี้ ต่อไปไม่ว่าคุณอยากจะควบคุมหุ่นรบระดับสูงประเภทไหนก็สามารถเชี่ยวชาญได้รวดเร็วมาก”

หลิงหลานได้ยินคำกล่าวก็รู้สึกตื่นเต้น เก็บความคิดดูถูกในตอนแรกไป เธอย่อมไม่ลืมความสำคัญของพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็นมิติการเรียนรู้หรือว่าหลิงเซียวพ่อของเธอต่างก็เคยย้ำเตือนเรื่องคำสำคัญของพื้นฐานว่ามันเกี่ยวพันกับผลการเติบโตในตอนสุดท้ายของแต่ละคน

หลิงหลานระมัดระวังขึ้นมาในใจ ไม่นึกเลยว่าเมื่อสักครู่นี้เธอจะทำเรื่องผิดพลาดระดับต่ำอย่างการตัดสินที่หน้าตาไปได้ ดูท่าการใช้ชีวิตอย่างราบรื่นในช่วงเวลาก่อนหน้านี้จะทำให้เธอลืมความถ่อมตนและความระมัดระวังไป คิดว่าตัวเองใหญ่ที่สุดขึ้นมา

การเปลี่ยนแปลงท่าทีของหลิงหลานทำให้พนักงานต้อนรับ 017 แอบพยักหน้าเงียบๆ ความประทับใจที่มีต่อเธอดีมากขึ้น เขาพูดต่อว่า “อันที่จริงผมไม่แนะนำให้คุณลูกค้าซื้อหุ่นรบตอนนี้นะครับ ความจริงแล้วโลกเสมือนจริงมีหอฝึกหุ่นรบที่ฝึกสอนวิธีการควบคุมหุ่นรบพื้นฐานโดยเฉพาะอยู่ คุณลูกค้าสามารถไปที่นั่นเพื่อเรียนรู้ก่อนได้นะครับ”

หลิงหลานเอ่ยขอบคุณพนักงานต้อนรับ 017 ถ้าหากไม่มีคำเตือนของ 017 เธอคงไม่มีทางรู้ว่าในโลกเสมือนจริงยังมีของพวกนี้อยู่ หลังจากที่เธอเอ่ยถามพนักงานต้อนรับ 017 ว่าหอฝึกหุ่นรบไปยังไงแล้ว เธอก็ค่อยออกจากร้านหุ่นรบอันจี๋

พนักงานต้อนรับ 017 ส่งหลิงหลานออกจากร้านด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม หลังจากที่เพิ่งจะกลับมาถึงเคาน์เตอร์ก็ได้รับคำเหน็บแหนมจากพนักงานต้อนรับคนอื่นๆ

“เสียแรงเปล่าแล้วใช่ไหมละ ฉันบอกแล้วไงว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นไม่มีเงิน…”

“อายุเท่านี้ไม่มีผู้ปกครองมาด้วย จะต้องมาดูเฉยๆ ไม่มีทางซื้อของแพงๆ อย่างหุ่นรบแบบนี้แน่นอน 017 นายก็ไม่เชื่อแล้วดึงดันจะเข้าไป ดูสิ ไม่มีหวังเลย…”

“ต่อให้อยากได้ค่าคอมมิชชั่นจากยอดขายมากขึ้น ก็ต้องหาเป้าหมายที่ถูกต้องด้วยนะ”

พนักงานต้อนรับ 017 ไม่ได้โกรธ เขาตอบกลับด้วยรอยยิ้มว่า “ฉันไม่ได้ทำเพื่อยอดขาย ฉันแค่รู้สึกว่าเธอเกิดมาเพื่อหุ่นรบ”

คำพูดของพนักงานต้อนรับ 017 ทำให้พนักงานต้อนรับคนอื่นๆ หัวเราะลั่น พวกเขาทยอยกันเย้ยหยันว่าเขากลายเป็นหมอดูไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ควรทราบว่าเนื่องจากเหตุผลเรื่องร่างกายทำให้มีผู้หญิงน้อยคนมากๆ ที่จะเลื่อนขั้นเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบระดับสูง ดังนั้นในหมู่ผู้ควบคุมหุ่นรบสิบล้านคนของสหพันธรัฐ สามารถมีผู้ควบคุมหุ่นรบที่เป็นผู้หญิงได้สักพันคนก็นับว่าเยอะแล้ว

017 เผชิญหน้ากับการเย้ยหยันของทุกคนก็ได้แต่ส่ายหน้ายิ้มๆ ท่าทีสบายๆ ราวกับสายลมพัดขุนเขาแบบนี้ทำให้ทุกคนหมดความสนใจไปอย่างรวดเร็ว และทยอยกันแยกย้ายไป

ทุกคนต่างไม่รู้ความคิดในใจของ 017 ยิ่งเข้าใกล้เด็กสาวคนนั้น เขาก็ยิ่งรู้สึกได้ชัดเจนว่า เด็กสาวคนนั้นไม่มีขีดจำกัดบนเส้นทางหุ่นรบ… 017 ยิ้มขึ้นมาอีกครั้ง “ทำความดีก็เป็นเรื่องดีเหมือนกัน…”

……….

หลิงหลานหาหอฝึกหุ่นรบเจออย่างรวดเร็ว เมื่อเธอเข้าไปใกล้หน้าประตู เบื้องหน้าก็ปรากฏตัวอักษรขึ้นมาแถวหนึ่ง “ต้องการเข้าสู่การประลองหุ่นรบอย่างเป็นทางการหรือไม่?”

“เอ่อ…ที่แท้ที่นี่ก็เป็นเกมประลองหุ่นรบเหมือนกันสินะ” เสี่ยวซื่อเห็นตัวอักษรแถวนี้ก็อุทานขึ้นมา

คราวนี้หลิงหลานเข้าใจแล้ว อันที่จริงการฝึกฝนหุ่นรบนี้ก็เกี่ยวพันกับเกมประลองหุ่นรบ หลิงหลานย่อมต้องเลือกเข้าร่วม ไม่อย่างนั้นเธอจะเรียนรู้และฝึกฝนการควบคุมหุ่นรบได้ยังไง

เมื่อหลิงหลานทำการเลือก เธอก็ถูกส่งเข้าไปในห้องโถงทันที ด้านในมีทหารหล่อเหลาคนหนึ่งยืนอยู่ และก็มีหุ่นรบพื้นฐานขนาดใหญ่โตยืนอยู่ข้างกายทหารคนนี้สามตัว

หลิงหลานเดินไปตรงหน้าทหารคนนี้ ยังไม่ทันที่จะพูดอะไร ทหารคนนี้ก็เอ่ยปากถามเองว่า “ทหารใหม่ เธออยากเรียนรู้รูปแบบการต่อสู้ หรือว่าวิธีการควบคุมของหุ่นรบสามตัวก่อน หรือว่าจะเลือกหุ่นรบทันที?”

หลิงหลานเป็นคนรอบคอบ เธอยังทำความเข้าใจเกี่ยวกับหุ่นรบได้ไม่มาก เธอย่อมเลือกเรียนรู้รูปแบบการต่อสู้และวิธีการควบคุมหุ่นรบสามตัวก่อน

เบื้องหน้าหลิงหลานก็ปรากฏหน้าจอสองอันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว อันหนึ่งเป็นวิดีโอการเคลื่อนไหวภายนอกของหุ่นรบ ส่วนอีกอันก็เป็นท่วงท่าการควบคุมของผู้ควบคุมหุ่นรบในห้องควบคุม

หลิงหลานเห็นนิ้วมือของมือทั้งสองข้างสะบัดอย่างรวดเร็วในห้องควบคุม ตามต่อด้วยการควบคุมภายใน ส่วนในหน้าจออีกอัน หุ่นรบก็ทำการเคลื่อนไหวที่สอดคล้อง นิ้วมือในห้องควบคุมต้องสะบัดไปไม่ต่ำกว่าหลายสิบครั้งต่อการเคลื่อนไหวพื้นฐานหนึ่งท่า

ยกตัวอย่างเช่นการเดินหนึ่งก้าว มันเกี่ยวพันกับการขยับสะโพก เข่า ข้อเท้า แรงสมดุลของหุ่นรบ รวมไปถึงการแบ่งพลังงานของขาทั้งสองข้าง หลิงหลานนับดูแล้ว การเคลื่อนไหวธรรมดาแบบนี้ต้องทำการควบคุมสิบแปดครั้งภายในห้องควบคุมในชั่วพริบตา นี่ยังเป็นแค่การเคลื่อนไหวธรรมดานะ

“ท้าทายความสามารถมาก เป็นการควบคุมด้วยมือจริงๆ ต้องการความเร็วมือของผู้ควบคุมสูงมาก” หลิงหลานตกตะลึงมาก เธอนึกมาตลอดว่าการควบคุมหุ่นรบก็เหมือนกับการขับรถ มีของอย่างพวกคันบังคับ

“การสอนของพ่อคือเรื่องพวกนี้ไม่ใช่เหรอ? ถ้าไม่ใช่เพราะลูกพี่ผ่านด่านไม่ได้ พวกเราก็คงไม่ได้ออกมาเดินเล่นเหมือนกัน ไม่รู้ว่าเอาการฝึกฝนมารวมกับการควบคุมหุ่นรบแล้วจะให้ประสิทธิภาพดีมากขึ้นหรือเปล่า? ถ้าหากทะลวงจุดคอขวดของลูกพี่ได้ก็ดีสิ” เสี่ยวซื่อแนะนำ

ตอนนี้เสี่ยวซื่อเรียกหลิงเซียวว่าพ่อแล้ว เนื่องจากมีอยู่ครั้งหนึ่งที่หลิงหลานได้ยินเสี่ยวซื่อพูดว่าพ่อของลูกพี่เป็นอะไรยังไง…เธอก็รู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อย บวกกับตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอคิดว่าเสี่ยวซื่อที่ข้ามเวลามากับเธอเป็นเหมือนน้องชายของเธอก็ไม่ปาน ดังนั้นเธอก็เลยให้เสี่ยวซื่อเรียกหลิงเซียวตามเธอว่าพ่อ

…………………………………