เย่เฉินไม่มีทางให้อภัยหวังเจียเหยา ถึงในใจเขาตอนนี้จะยังมีหญิงสาวอยู่

ในช่วงเวลาที่หย่ากันไป เย่เฉินเจอสาวสวยและร่ำรวยมาก็ไม่น้อย

เช่นผู้บริหารคนสวยอย่างฉินหงเหยียน หรือจะเลขาเซ็กซี่อย่างโจวหรงหรง

หรืออาจจะเป็นหวังหยวนหยวนสาวน้อยที่ทั้งสดใสและเซ็กซี่

ด้วยตำแหน่งหน้าที่ในตอนนี้ของเย่เฉินอยากจะหาคนรักสักคนนั้นช่างง่ายดายเหลือเกิน

แต่ก็ไม่มีใครเข้าตาเขาเลยสักคน

ถึงเขาจะยังไม่ลืมเลือนหวังเจียเหยาไปจากใจทั้งหมด แต่เย่เฉินก็ไม่อยากจะคืนดีกับหล่อนอีก ต่อให้หล่อนจะไม่ได้นอกกายเขาก็เถอะ

……

ในเวลาเดียวกันนั้นเอง คุณนายหวังกำลังคุยกับคุณย่าเล็กในห้องของหญิงชราตามลำพัง

กลางคืนดึกสงัด คนวัยชราสองคนอายุรวมกันก็เกือบจะสองร้อย พูดคุยกันด้วยเสียงแผ่วเบา

คุณนายหวังจับมือคุณย่าเล็กเอาไว้กล่าวด้วยใบหน้าเศร้าโศก “เยี่ยนหรง เธอรู้ตัวตนของเย่เฉินตั้งนานแล้วทำไมไม่บอกฉันล่ะ!”

ชื่อของคุณย่าเล็กหวังคือหวังเยี่ยนหรง

หวังเยี่ยนหรงกล่าวว่า “พี่สะใภ้ พี่ชายเคยบอกฉันว่าเรื่องนี้จะ…บอกพวกคุณไม่ได้ ขอโทษด้วยนะคะ”

คุณนายหวังถอนหายใจ “เยี่ยนหรงฉันขอบอกความจริงเธอเลยแล้วกัน เธอทำใจให้ดีๆ นะ อย่าตกใจจนหัวใจวายไปล่ะ”

ตอนนี้ชีวิตหวังเยี่ยนหรงกำลังจะถึงฝั่ง เปิดตาแทบไม่ได้ จิตใจย่อมไม่อาจรับการกระทบกระเทือนได้

การที่คุณนายหวังพูดแบบนี้อาจจะทำให้หวังเยี่ยนหรงไปโลกหน้าได้เลย

แต่คุณนายหวังก็ยังเลือกที่จะพูด นั่นเพราะในใจของหญิงชรายังโทษที่หวังเยี่ยนหรงไม่ยอมบอกความจริง มิฉะนั้นแล้วบ้านตระกูลหวังก็จะไม่สูญเสียเขยอย่างเย่เฉินไป

คุณนายหวังกล่าวว่า “ฉันพูดความจริงกับเธอแล้วกัน เจียเหยามีชู้ หล่อนหย่ากับเย่เฉินแล้ว!”

พอพูดไปแล้วคุณนายหวังเองก็กังวลว่าประโยคนี้จะทำให้หวังเยี่ยนหรงไปโลกหน้าทันทีที่ได้ยิน

แต่สิ่งที่ทำให้คุณนายหวังประหลาดใจก็คือหวังเยี่ยนหรงไม่ได้มีปฎิกิริยาอะไรเพราะหล่อนรู้นานแล้ว

คุณนายหวังกล่าวต่ออย่างเศร้าโศกเสียใจ “ไม่เพียงเท่านั้น หลังจากที่หวังเจียเหยาหย่ากับเย่เฉินแล้ว ก็ไปแต่งงานกับชู้ของหล่อน แต่ตอนนี้พวกเขาหย่ากันไปแล้ว! หล่อนกลายเป็นผู้หญิงที่แต่งงานสามรอบแล้ว! เฮ้อ บอกว่าผู้หญิงแต่งงานครั้งหนึ่งค่าตัวก็ลดลงไปครั้งหนึ่ง ถึงหวังเจียเหยาจะสวยมากเท่าไหร่ เกรงว่าหลังจากนี้ไปก็คงไม่มีผู้ชายที่คู่ควรเหมาะสมยอมแต่งงานด้วยแล้ว”

คุณนายหวังเสียใจจนน้ำตาจะไหล แต่หวังเยี่ยนหรงกลับไม่แสดงท่าทีใดๆ ทั้งสิ้น

ไม่เพียงเท่านั้น หวังเยี่ยนหรงยังปลอบคุณนายหวังด้วย “พี่สะใภ้อย่าเสียใจไปเลยค่ะ…”

คุณนายหวังงุนงง คนก่อนตายใจแข็งได้ขนาดนี้เชียวหรือ?

คิดไม่ถึงว่าหวังเยี่ยนหรงจะระบายยิ้ม แต่รอยยิ้มของหญิงชรากลับดูน่าสงสารอย่างมากในสายตาผู้เป็นพี่สะใภ้!

หวังเยี่ยนหรงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “พี่สะใภ้ไม่เป็นไรค่ะ เย่เฉินกับเจียเหยาหย่ากันไม่สำเร็จหรอก”

คุณนายหวังกล่าวอย่างงุนงง “หมายความว่าอะไร? พวกเขาหย่ากันไม่สำเร็จเหรอ? ใบสำคัญการหย่าของพวกเขาสองคนฉันเห็นแล้ว พวกเขาไปทำกันในสำนักกิจการพลเรือน จะเป็นของปลอมได้ยังไง!”

หวังเยี่ยนหรงพยักหน้า “ใช่ค่ะ ของปลอม”

คุณนายหวังรู้สึกทึ่ง “หรือจะบอกว่า…”

ในเวลานี้เหมือนหล่อนเองก็พอจะเดาความจริงของเรื่องบางเรื่องได้ลาง ๆ บ้างแล้ว

หวังเยี่ยนหรงกล่าว “พี่ชายเป็นคนที่รอบคอบขนาดนั้น พี่เองก็รู้ดี ก่อนเขาตายไม่ได้…แค่กๆ ไม่ได้บอกความจริงทุกคน แล้วเขาจะ..จะ…ไม่เตรียมแผนสำรองได้ยังไง?”

เห็นหวังเยี่ยนหรงจะพูดจะจาก็ยังลำบาก คุณนายหวังจึงลองเล่าข้อสันนิษฐานของตนเองออกมา

“เยี่ยนหรงพี่ชายของเธอรู้อยู่นานแล้วว่าเจียเหยาจะต้องเลิกกับเย่เฉินแน่ๆ ดังนั้นถึงได้จัดแจงส่งคนไปในสำนักกิจการพลเรือน เพื่อคอยดูแลทำให้เรื่องหย่าของหวังเจียเหยาเป็นโมฆะไปเหรอ?”

หวังเยี่ยนหรงพยักหน้า “ใช่ค่ะ พี่ชายเขาจัดแจงคนของเรา…ไปทำงานในสำนักกิจการพลเรือนเมืองอวิ๋นโจวไว้แล้ว”

คุณนายหวังดีใจกับข่าวที่คาดไม่ถึงนี้อย่างยิ่ง หญิงชรารีบเดินออกจากห้องแล้วตะโกนเรียกหวังจื้อหย่วนเสียงดัง

หวังจื้อหย่วนกำลังสูบบุหรี่อยู่ด้านนอกตัวบ้าน เมื่อได้ยินเสียงเรียกของมารดาก็รีบดับบุหรี่แล้วเดินไปหาอีกฝ่ายอย่างเร่งร้อน

คนของบ้านตระกูลโจวเองก็ได้ยินเสียงเรียกของคุณนายหวังเช่นกัน พวกเขาก็รีบร้อนวิ่งไปทันทีด้วยนึกว่าคุณย่าเล็กเสียแล้ว

“จื้อหย่วนแกรีบส่งคนไปตรวจดูหน่อยว่าตอนนี้สถานภาพของหวังเจียเหยายังเป็นสมรสอยู่หรือเปล่า! แล้วคู่สมรสใช่เย่เฉินไหม!”

คุณนายหวังกล่าวด้วยความตื่นเต้น

หวังจื้อหย่วนกล่าวว่า “แม่ครับ นี่แม่เลอะเลือนหรือเปล่าครับเนี่ย? เจียเหยาหย่ากับฟางเชาไปแล้วด้วยซ้ำแล้วคู่สมรสจะยังเป็นเย่เฉินอยู่ได้ยังไงล่ะ?”

ฝ่ามือคุณนายหวังสวนออกไปฟาดหน้าบุตรชายทันที “ไร้ประโยชน์จริงๆ ให้แกไปเช็คแกก็ไปเช็คเถอะน่ะ!”

“ครับ ครับ ครับ”

หวังจื้อหย่วนรีบล้วงโทรศัพท์ออกมา เดิมคิดจะใช้โทรศัพท์ค้นหา อย่างไรเสียตอนนี้ไม่ว่าอะไรก็สามารถค้นหาทางอินเตอร์เน็ตได้

แต่เขาก็พบว่าสถานภาพสมรสไม่สามารถตรวจสอบทางอินเตอร์เน็ตได้ จะต้องไปตรวจสอบเอง ณ สำนักกิจการพลเรือน

เขาจึงจำใจโทรศัพท์ไปหาเพื่อน เพื่อให้เพื่อนของเขาช่วยหาพรรคพวกที่ทำงานในสำนักกิจการพลเรือนแทน

สามสิบนาทีผ่านไปเต็มๆ กว่าหวังจื้อหย่วนจะได้รับสาย

“ตรวจแล้วล่ะพี่หย่วน ในระบบแจ้งว่าหวังเจียเหยาสมรสแล้ว คู่สมรสคือเย่เฉิน”

พอหวังจื้อหย่วนได้ยินแล้วก็แน่นิ่งไป!

“ทำไมเป็นแบบนี้ได้!”

พอเห็นบุตรชายดูตกตะลึง คุณนายหวังก็โพล่งถามออกมา “เป็นยังไงบ้าง? เช็คหรือยัง?”

หวังจื้อหย่วนพยักหน้าด้วยท่าทางโง่งม “ครับ ทางนั้นบอกว่าหวังเจียเหยายังมีสถานภาพเป็นสมรสอยู่!”

“แล้วคู่สมรสคือใคร! รีบบอกฉันมา!” คุณนายหวังร้อนรนทนไม่ไหว

หวังจื้อหย่วนตอบ “เย่เฉินครับ…”

คุณนายหวังแหงนหน้ามองท้องฟ้าแล้วกล่าวอย่างดีใจ “ฮ่าๆ ! ตาแก่เอ้ย! คุณนี่มองการณ์ไกลจริงๆ! คุณช่วยตระกูลหวังเราเอาไว้!”

“เกิดอะไรขึ้น? เกิดอะไรขึ้น?”

ซูหลานเองก็ตกใจเสียงของคุณนายหวังจนต้องเดินมาดู

หลังจากที่หวังจื้อหย่วนบอกเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่กับซูหลานแล้ว ซูหลานก็ร้องตะโกนออกมาเหมือนคนบ้า

คุณนายหวังกล่าวด้วยความตื่นเต้น “เร็วเข้า รีบเรียกเย่เฉินกับเจียเหยาไปที่ห้องเยี่ยนหรง”

“ค่ะ!”

ซูหลานรีบพุ่งตัวไปที่ห้องของลูกสาวและลูกเขยทันที แล้วลากพวกเขาสองคนไปที่ห้องหวังเยี่ยนหรงโดยไม่แม้แต่จะอธิบายอะไรทั้งสิ้น

เย่เฉินและหวังเจียเหยาต่างก็คิดว่าหญิงชราลาโลกไปแล้ว ดังนั้นจึงให้ความร่วมมือแต่โดยดี เพียงแต่ไม่เข้าใจว่าทำไมบนใบหน้าซูหลานถึงยังมีรอยยิ้มแต่งแต้มอยู่

หญิงชราจากไปแล้วควรจะเสียใจไม่ใช่หรือไง?

เมื่อมาถึงห้องหวังเยี่ยนหรงแล้วถึงได้พบว่าหญิงชรายังมีชีวิตอยู่

คุณนายหวังกล่าวด้วยน้ำเสียงเป็นสุข “เย่เฉิน เจียเหยา หลานสองคนยังไม่ได้หย่ากันนะ ใบสำคัญการหย่าที่พวกเธอมีเป็นของปลอม มีคนลักลอบทำให้พวกหลานกันเองโดยพลการ ไม่มีผลทางกฎหมายอะไรทั้งสิ้ ส่วนใบทะเบียนสมรส กับเอกสารการหย่าของเจียเหยากับฟางเชาก็เหมือนกันเป็นของปลอมทั้งสิ้น ไม่มีการรายงานและไม่มีบรรทุกอยู่ในบันทึกสำมะโนครัวอะไรทั้งนั้น”

หวังเจียเหยาแทบไม่อยากเชื่อว่านี่จะเป็นเรื่องจริง “จริงเหรอคะ? คุณย่า ตอนนี้หนูกับเย่เฉินยังเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายอยู่เหรอคะ?”

สิ่งที่หล่อนเฝ้าภาวนาอยู่ทุกวันคืออยากจะแต่งงานใหม่กับเย่เฉิน!

ตอนนี้เป็นตามที่หวังโดยไม่ต้องลงแรงอะไร!

เย่เฉินตัวแข็งทื่อเมื่อได้ยินข่าวนี้!

อันที่จริงก่อนเขาจะมา เขาก็รู้สึกว่ามีอะไรแปลกๆ เขาเองก็คิดว่าถ้าหวังเยี่ยนหรงรู้ความจริงอยู่แล้ว ไม่น่าจะปล่อยให้หวังเจียเหยาขอหย่าง่ายๆ

ที่แท้พวกเขาส่งคนของตัวเองไปทำงานในสำนักกิจการพลเรือน!

ถึงจะเป็นเช่นนั้นเย่เฉินก็ยังคงโทรศัพท์หาพ่อบ้านฟางเพื่อยืนยันอีกครั้ง “พ่อบ้านฟาง ช่วยผมตรวจสอบข้อมูลสถานภาพสมรสของผมในสำนักกิจการพลเรือนหน่อย!”