บทที่ 39 ผู้หญิงสองคนมาแล้ว

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

คุณแป้งร่ำ?
นั่นคือใครกัน? และยังทำยาน้ำข้นสาลี่ด้วยตัวเองเอามาให้เจ้าเด็กคร่ำครึนั่นอีก?
คิวคิวที่กำลังกินข้าวอยู่นั้นเงยหน้าขึ้นมาด้วยความสงสัย มองไปยังแด๊ดดี้ที่นั่งอยู่ตรงข้าม แต่กลับพบว่าหลังจากที่แด๊ดดี้ได้ยินว่าผู้หญิงคนนี้มา ใบหน้าหล่อๆนั้นก็มืดมนลงทันที
“ใครให้เธอมา? ไม่จำเป็น!”
“แต่…..คุณผู้ชายคะ ยาน้ำข้นสาลี่นี่มีเพียงแค่คุณแป้งร่ำเท่านั้นนะคะถึงจะทำได้ดีที่สุด คุณชายเล็กพอถึงหน้าหนาวก็จะชอบไอ ยาที่คุณชายเล็กทานมาตั้งเท่าไหร่ มีเพียงแค่ทานอันนี้ถึงจะผ่านไปได้อย่างสบาย คุณผู้ชายลืมไปแล้วหรือคะ?”
ป้าญายังพยายามช่วยพูดขอร้องแทนผู้หญิงที่อยู่ข้างนอก
แสนรักได้ยินแล้ว ถึงแม้ว่าโครงใบหน้าหล่อเหลานั้นจะยังไม่ได้ดูดีขนาดนั้น แต่ท่าทีกลับไม่ได้แข็งขนาดนั้นแล้ว
ผู้ชายคนนี้ ไม่ว่าจะมีอารมณ์รุนแรงขนาดไหน ไร้ความปราณีกับคนอื่นขนาดไหน แต่กับปัญหาเรื่องความแข็งแรงของลูกชาย เขาไม่มีทางเอามาล้อเล่นโดยเด็ดขาด ตรงจุดนี้ แป้งร่ำก็ยิ่งรู้ดี ถึงได้ให้ป้าญาคนรับใช้พยายามขนาดนี้
ในที่สุดแป้งร่ำก็เดินถือกล่องยาน้ำข้นสาลี่เข้ามา
“รัก ชินจัง กำลังทานข้าวกันอยู่หรือคะ?”
เธอสวมเสื้อสเวตเตอร์ตัวบางสีเบจ ด้านล่างเป็นกระโปรงลายสก็อตสีกากี ไม่ได้แต่งหน้า ใบหน้ารูปไข่สะอาดสะอ้านดูอ่อนเพลียซีดเซียว
“คุณแป้งร่ำเป็นอะไรไปคะ? ดูสีหน้าท่าทางไม่ค่อยดีเลย” ป้าญาเห็นแล้ว ก็รีบเข้ามารับของจากเธอแล้วเอ่ยถามขึ้นอย่างเป็นห่วง
แป้งร่ำส่ายหน้า : “ไม่เป็นอะไรหรอก สองสามวันก่อนเป็นหวัดเล็กน้อยเท่านั้นเอง”
แววตาของเธอมองไปยังชายหนุ่มที่อยู่ตรงข้าม แสดงความรอคอยออกมาแบบนั้น แต่ทว่า สายตาของแสนรักนั้นไม่ได้มองเธอเลยแม้แต่นิดเดียว หลังจากที่เห็นว่าคิวคิวกินข้าวอย่างเหม่อลอยแล้ว นิ้วเรียวก็เคาะลงบนโต๊ะ : “ชินจัง ตั้งใจทานสิลูก!”
“อ่อ–”
คิวคิวได้ยินแล้ว ถึงได้ละสายตากลับมาแล้วตักกินคำใหญ่ๆ
คุณน้าคนนี้เป็นใครกันแน่?
จุ๊ๆ ดูท่าทางเธอแล้ว ดูเหมือนจะมีระดับสูงมาก ใส่ชุดมาน้อยแบบนี้ คงจงใจทำหน้าตาให้ซีดเซียว นี่เธอคงอยากจะให้แด๊ดดี้เห็นใจสินะ?
คิวคิวทานไปพลาง แล้วแอบมองดูเรื่องราวสนุกๆนี้ต่อ
และเป็นอย่างที่คิด หลังจากที่เห็นว่าแสนรักไม่ได้สนใจแล้ว สีหน้าของแป้งร่ำก็แข็งทื่อไป ปรากฏความผิดหวังออกมา
“ชินจัง หนูอย่าลืมทานยาน้ำข้นสาลี่นะคะ อ่อ ใช่สิ น้าถักถุงมือมาให้คู่นึง อากาศหนาวแล้ว ก่อนหน้านี้ไม่ใช่ว่าหนูบอกว่าอยากจะให้น้าช่วยถักให้นี่คะ เอาไปเล่นข้างนอกด้วยได้ใช่ไหม? ดูสิ”
เหมือนกับเปลี่ยนการเล่นกลไปอย่างไรอย่างนั้น ผู้หญิงคนนี้หยิบเอาถุงมือที่ถักจากด้ายขนสัตว์ออกมาจากกระเป๋าคู่หนึ่ง
ในตระกูลร่ำรวยแบบนี้ ยังถักถุงมือด้วยตัวเอง เห็นถึงความตั้งใจของเธอแล้ว
ป้าญาคนรับใช้วิ่งเข้ามา : “ว้าว คุณแป้งร่ำ คุณเพียบพร้อมเกินไปแล้ว ยังถักถุงมือด้วยตัวเองอีก ดีกว่าซื้อข้างนอกอีกนะคะ คุณผู้ชายดูสิ รอยเย็บนี้ ลวดลายนี้ ต่อให้มีเงินมากข้างนอกก็หาซื้อไม่ได้นะคะ”
คนรับใช้คนนี้พูดแล้วก็หยิบเอาถุงมือคู่เล็กไปทางแสนรัก
แสนรักหันมาเล็กน้อย
ถุงมือคู่เล็กคู่นี้สวยมากจริงๆ ดูจากฝีมือและรูปแบบแล้วสามารถมองออกถึงความตั้งใจ อีกทั้งด้านนอกเป็นด้ายขนสัตว์ ด้านใจเป็นขนปุย อ่อนนุ่มมาก และยิ่งเหมาะกับเด็กที่สุขภาพไม่ค่อยดีอย่างชินจังแบบนี้ด้วย
ในที่สุดแสนรักก็มีสีหน้าที่ผ่อนคลายลง ละสายตากลับมา นับว่าเขายอมรับโดยนัยแล้ว
แป้งร่ำเห็นแล้ว ก็รู้สึกดีใจขึ้นมาทันที ถือถุงมือเล็กเข้ามา แล้วยืนอยู่ข้างๆคิวคิว : “ชินจัง มาค่ะ เดี๋ยวน้าช่วยลองใส่ให้ดีไหม? ดูว่าพอดีหรือเปล่า?”
“ครับ”
คิวคิวยิ้มตาหยี ยืนมือเล็กๆของตัวเองออกมาให้เธอสวมให้
ถึงอย่างไรถุงมือนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวกับเขา เขาก็ถือเสียว่ารับสิ่งนี้แทนชินจังก็แล้วกัน
แต่ใครก็คงคิดไม่ถึงเช่นกัน ในตอนที่แป้งร่ำกำลังลองใส่ถุงมือคู่นี้ให้กับคิวคิวนั้น จู่ๆทางด้านนอกคฤหาสน์ก็มีคนมาอีกหนึ่งคน และคนๆนี้ ก็ไม่ได้มีการแจ้งเลยเสียด้วย พุ่งเข้ามาอย่างรีบร้อน
“แสนรัก? แสนรัก? ฉันได้ยินว่าชินชินกลับมาแล้ว? เขาเป็นอย่างไรบ้างคะ? เป็นอะไรหรือเปล่า?”
“!!!!”
ไม่คิดว่าจะเป็นหม่ามี๊ หม่ามี๊เองก็มาเหมือนกัน!!
คิวคิวแทบชักมือตัวเองกลับมาในทันที
ส่วนแสนรักกับแป้งร่ำนั้นก็อึ้งไปด้วยเช่นกัน วินาทีนั้น สีหน้าของเขาก็มืดมนลงอย่างรวดเร็วโดยที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า โดยเฉพาะแป้งร่ำ ยิ่งสามารถมองเห็นถึงความบูดเบี้ยวนี้ได้อีกด้วย
เส้นหมี่ คนสารเลวอย่างเธอนี่ก็มาได้เวลาจริงๆ!
เส้นหมี่รีบมาด้วยความร้อนใจ เดิมที เธอได้ยินจากเคมีว่าคิวคิวที่ถูกคิดว่าเป็นชินจังนั้น ช่วงกลางวันวันนี้เกือบจะหายไป เธอจึงรู้สึกเป็นกังวลมาก ถึงได้รีบมาที่นี่เพื่อมาดูสาเหตุนี้
แต่ หลังจากที่เธอเข้ามาแล้ว—
“ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่? แสนรัก คุณให้เธอมาแตะต้องลูกชายคุณอีกอย่างนั้นหรือ?!!”
แทบจะในทันที หลังจากที่เธอเห็นว่าในบ้านนี้มีผู้หญิงคนนั้นอยู่ด้วย แววตาก็เย็นเยือกเหมือนกับน้ำแข็ง!
เยือกเย็นเป็นน้ำแข็งน่ะสิ?
บนเรือตอนนั้น เธอใช้ความคิดอย่างหนัก แม้กระทั่งไม่ได้คำนึงถึงการแทงทำร้ายตัวเอง ถึงได้ให้ผู้ชายคนนี้ยินยอม ไม่ให้คนสารเลวคนนี้มาแตะต้องลูกชายอีก
แต่ตอนนี้มันเรื่องอะไรกัน? เธอมาที่นี่อีกทำไม? เห็นท่าทางที่มีความสุขของพวกเขาเป็นครอบครัวสามคน และความสนิทสนมกันระหว่างพวกเขานั่นอีก นี่พวกเขาจะคืนดีกันเหมือนตอนแรกแล้วอย่างนั้นหรือ?
เส้นหมี่โมโหเสียจนหน้าซีดแล้ว!
โดยเฉพาะเธอเห็นลูกชายสวมถุงมือคู่เล็กนั่นแล้ว และยังมีผู้หญิงคนนั้นกำลังยืนอยู่ข้างๆเขาทั้งยังสวมใส่รองเท้าแตะสีชมพูคู่นั้นอีก ความเจ็บปวดที่ไม่สามารถควบคุมได้แวบขึ้นมาในหัวใจ