ตอนที่ 269 อ๊ากก เด็กทรยศ! / ตอนที่ 270 ผมรอคุณอยู่นานแล้ว

หวานรักจับหัวใจท่านประธาน

ตอนที่ 269 อ๊ากก เด็กทรยศ!

 

 

“…”

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ตะลึงลานอยู่ที่เดิม ก่อนจะเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย

 

 

อยากจะมองมือใหญ่บนหัวตามจิตใต้สำนึก แต่มือของเขาหนักอยู่บ้าง

 

 

เมื่อสังเกตเห็นท่าทางของเธอ เขาก็ออกแรงขยี้ผมของเธอ ขณะที่เธอจะโมโห เขาก็หดมือกลับไปอย่างเฉยชา

 

 

เธอยังไม่ทันเอ่ยปาก เขาก็ก้าวเท้าเดินผ่านเธอออกจากห้องทำงานไปแล้ว

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ “…” !!

 

 

หญิงสาวมองชายหนุ่มทีข้างประตูหายไปจากสายตา แล้วจึงยื่นมือขึ้นไปลูบผมที่เขาทำเละไว้

 

 

ครั้นคิดถึงภาพเมื่อครู่ แก้มของเธอก็พลันแดงระเรื่อ

 

 

เธอใช้สองมือปิดหน้า แล้ววิ่งเข้าไปในห้องน้ำ บิดก๊อกน้ำสาดน้ำเย็นบนใบหน้าของตนเอง

 

 

อ๊ากก!

 

 

จะให้ช่วยเขาดูแลเสี่ยวลิ่วลิ่ว แล้วอยู่ๆ ทำไมต้องลูบหัวฉันด้วย!

 

 

แถมยังพูดว่า ‘เป็นเด็กดีรอผมกลับมา’ ด้วย!

 

 

เธอไม่ใช่เด็กสักหน่อย!

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่มองใบหน้าแดงแจ๋ของตนเองในกระจก ในใจมีความรู้สึกแปลกๆ

 

 

ใบหน้าหล่อเหลาของอวี๋เยว่กานปรากฏอยู่ตรงหน้าไม่ยอมหยุด…

 

 

หลังจากดึงสติกลับมาได้ เธอรีบออกแรงตบหน้าของตนเอง ไม่ให้ตนเองคิดมั่วซั่วอีก

 

 

จากนั้นเธอก็ดูเวลา เมื่อเช็ดน้ำบนใบหน้าจนแห้ง

 

 

อีกหนึ่งชั่วโมงจะเลิกงานแล้ว

 

 

เธอทำงานของวันนี้เสร็จแล้ว จะกลับหรือไม่กลับแผนกประชาสัมพันธ์ก็ไม่เป็นไร

 

 

จึงถือโอกาสอยู่เป็นเพื่อนเสี่ยวลิ่วลิ่วที่ห้องทำงานประธานบริษัท และกลับไปพร้อมกับอวี๋เยว่หาน

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่เดินมาถึงหน้าโซฟา ก่อนจะอุ้มเสี่ยวลิ่วลิ่วไว้ในอก พลางเล่นของเล่นไปกับเด็กหญิง

 

 

เวลาผ่านไปเร็วมาก

 

 

พริบตาเดียวก็ถึงเวลาเลิกงานแล้ว เหนียนเสี่ยวมู่รออีกสิบนาที อวี๋เยว่หานก็ยังไม่กลับมา

 

 

ตอนที่กำลังลังเลว่าต้องพาเสี่ยวลิ่วลิ่วกลับไปก่อนหรือไม่นั้น ข้างหูก็เหมือนมีคำพูด ‘เป็นเด็กดีรอผมกลับมา’ ของเขาดังขึ้น

 

 

เธอเพิ่งผุดลุกขึ้นจากโซฟา แต่ก็นั่งลงอย่างว่าง่าย

 

 

หญิงสาวเขี่ยมือเล็กขาวของเสี่ยวลิ่วลิ่วอย่างเบื่อหน่าย ก่อนจะนำมาบีบในมือ แล้วถามหยั่งเชิง

 

 

“เสี่ยวลิ่วลิ่ว หนูหิวหรือเปล่า ไม่งั้นพวกเรากลับบ้านก่อนไหม”

 

 

ถ้าเสี่ยวลิ่วลิ่วหิวแล้ว เธอจะพาเสี่ยวลิ่วลิ่วกลับไปกินข้าว เขาคงไม่โกรธหรอกมั้ง

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ยังไม่ทันได้ทำตามความคิด เจ้าก้อนข้าวใยเหนียวในอกก็ย่นใบหน้าสะสวยแล้ว

 

 

เด็กหญิงเอียงคอมองเธอ พร้อมกับทำหน้าตาจริงจัง “ปาปาให้พวกเรารอ พี่สาวคนสวยดื้อจัง!”

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ “…”

 

 

อวี๋เยว่หานให้เธออยู่ดูแลเสี่ยวลิ่วลิ่วที่ไหนกัน เขาให้เสี่ยวลิ่วลิ่วอยู่จับตามองเธอต่างหาก

 

 

แล้วพี่สาวที่บอกว่าสวยที่สุดล่ะ?

 

 

เด็กทรยศ!

 

 

ไม่นานประตูห้องทำงานประธานบริษัทก็เปิดออก

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ลุกขึ้นจากบนโซฟาทันที แล้วหันหน้าไปมองคนที่เข้ามาจากข้างนอกประตู

 

 

“คุณชายหาน ผมสรุปเนื้อกาการประชุมแล้ว ส่วนทางยุโรป…” ผู้ช่วยตามอยู่ข้างๆ อวี๋เยว่หาน กำลังรายงานงานของเขา

 

 

ใบหน้าหล่อเหลาของอวี๋เยว่หานเรียบเฉยมาก

 

 

เมื่อเข้ามาในห้องทำงาน เขาก็ยื่นมือดึงทึ้งเนกไทของตนเอง

 

 

จากนั้นถึงจะหันมามองทางโซฟา ราวกับนึกอะไรขึ้นได้

 

 

“ปาปา!” ร่างเล็กนุ่มนิ่มของเสี่ยวลิ่วลิ่วไถลลงจากโซฟาอย่างรวดเร็ว แล้วสาวเท้าถลาเข้าไปหาเขา

 

 

อวี๋เยว่หานดึงเด็กหญิงเข้าไปในอ้อมกอดด้วยมือเดียว

 

 

ส่วนมืออีกข้างประคองเจ้าตัวเล็กไว้อย่างมั่นคง ปล่อยให้ลูกสาวโอบคอของเขาเอาไว้

 

 

สุดท้ายเขาก็เลิกคิ้วมองเหนียนเสี่ยวมู่บนโซฟา

 

 

นัยน์ตาสีดำหยั่งลึก ราวกับกำลังตรวจสอบ ว่าเธอเชื่อฟังคำพูดของเขา เป็นเด็กดีรอเขากลับมาหรือเปล่า

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่เพิ่งใจเย็นลงได้ จึงกระวนกระวายขึ้นมาในพริบตา

 

 

เธอกำลังจะถามว่ากลับไปได้หรือยัง ก็ได้ยินเสี่ยวลิ่วลิ่วที่พิงอยู่ในอกของเขาเงยหน้าขึ้น ก่อนจะพูดเสียงเจื้อยแจ้ว “ถ้าปาปาไม่กลับมา พี่สาวคนสวยจะหนีไปแล้ว”

 

 

 

 

ตอนที่ 270 ผมรอคุณอยู่นานแล้ว

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ “…” !!

 

 

เธอมองเห็นสายตาของอวี๋เยว่หานเหลือบมองมา พลันยกมือรับประกันโดยไม่ต้องคิด “เปล่านะ! ไม่ใช่อย่างนั้นแน่นอน! ฉันกำลังจะพาเสี่ยวลิ่วลิ่วไปหาคุณ ไม่ได้หนีนะ!”

 

 

“…”

 

 

“คุณชายหาน เย็นแล้ว คุณต้องเหนื่อยแน่ๆ ไปๆๆ พวกเรากลับบ้านกันเถอะ!” เหนียนเสี่ยวมู่พูดพลางเดินไปข้างหน้า ก่อนจะรับเสี่ยวลิ่วลิ่วจากในอกของเขาไป และเดินออกไปข้างนอกโดยไม่พูดอะไรอีก

 

 

เธอไม่ได้สังเกตเลยสักนิด ว่าคำพูดของตนเองเมื่อครู่แปลกไปบ้าง

 

 

เงาร่างสูงโปร่งของอวี๋เยว่หานยืนอยู่ที่เดิม นัยน์ตาสีดำหรี่ลงเล็กน้อย

 

 

เธอบอกว่า พวกเรากลับบ้านกัน…

 

 

ความเยือกเย็นในสายตาของเขาสลายไป มุมปากยกยิ้มในทันที

 

 

จากนั้นก็เดินตามหลังเธอไป

 

 

แต่เพิ่งเดินมาถึงลานจอดรถ ก็เห็นเฉินจื่อซินรออยู่

 

 

เขาสวมชุดสูทสีขาวทั้งตัว ทำให้เขาดูเหมือนเจ้าชายขี่ม้าขาวอยู่หลายส่วน

 

 

หลังจากเห็นเหนียนเสี่ยวมู่ปรากฏตัวที่ลานจอดรถ ใบหน้าหล่อเหลาของเขาก็มีรอยยิ้มกว้างประดับอยู่บนนั้นทันใด

 

 

เขาเดินเข้ามาหา “ซูเปอร์ไวเซอร์เหนียน ผมรอคุณอยู่นานแล้ว”

 

 

“รอฉัน?” เหนียนเสี่ยวมู่ตะลึงไป พลางชี้จมูกของตนเองด้วยความงงงัน

 

 

เธอไม่เข้าใจว่าทำไมอยู่ๆ เฉินจื่อซินถึงมาหาเธอ

 

 

“ใช่ครับ!” เฉินจื่อซินพยักหน้าอย่างจรืงจัง จากนั้นบนใบหน้าก็มีอารมณ์ยั่วเย้าผ่านมา และเอ่ยปากด้วยความตื่นเต้นเล็กน้อย

 

 

“เอ่อ คืออย่างนี้ครับ อีกสองวันจะเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ผมอยากถามว่าคุณพอจะมีเวลาไหมครับ ผมอยากนัดคุณไปดูหนัง”

 

 

เขาพูดจบก็ควักตั๋วหนังสองใบออกมาจากในกระเป๋าเสื้อ

 

 

“ผมซื้อตั๋วไว้เรียบร้อยแล้ว”

 

 

“…”

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่มองตั๋วในมือของเขา เธอรู้สึกตะลึงลานอยู่บ้าง

 

 

เธอเงยหน้าขึ้นหลังจากรู้ตัว มองไปยังใบหน้าจริงจังของเขา

 

 

ตอนที่เขาเอ่ยปากพูดออกมา เธอได้ยินเสียงเย็นชาดังมาจากข้างหลัง

 

 

“เธอไม่ว่าง!”

 

 

“…” เหนียนเสี่ยวมู่หันกลับไป เห็นอวี๋เยว่หานที่มาช้ากว่าเธอก้าวหนึ่งกำลังเดินเข้ามาพร้อมใบหน้ามืดมน

 

 

มือข้างหนึ่งของเขาล้วงอยู่ในกางเกง นัยน์ตาสีดำยิ่งกว่าน้ำหมึกเสียอีก

 

 

เขาแผ่ความห่างเหินออกมาทั่วร่าง ราวกับว่าทั้งโลกทำผิดต่อเขา

 

 

ชายหนุ่มเหลือบมืองเหนียนเสี่ยวมู่อย่างล้ำลึกครั้งหนึ่ง แล้วถึงจะหันไปมองเฉินจื่อซินที่กำลังตกใจเพราะเขา

 

 

“คุณชายหาน…”

 

 

เฉินจื่อซินเพิ่งจะเตรียมเอ่ยปากทักทายเขา ก็เห็นเขาขยับริมฝีปากบางพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำเสียแล้ว

 

 

“สุดสัปดาห์นี้พวกเราจะไปดูโรงเรียนอนุบาลกับเสี่ยวลิ่วลิ่ว เธอไม่มีเวลาไปดูหนังกับคุณหรอก”

 

 

เฉินจื่อซิน “…”

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ “…” !!

 

 

นัดกันว่าจะไปโรงเรียนอนุบาลตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมเธอไม่รู้

 

 

เมื่อสบสายตาสอบถามของเฉินจื่อซิน เหนียนเสี่ยวมู่ลังเลไปหนึ่งวินาที ก่อนจะพยักหน้าอย่างรวดเร็ว แล้วพูดเสริมว่า “ใช่ค่ะ สุดสัปดาห์นี้พวกเราต้องไปดูโรงเรียนอนุบาลกับเสี่ยวลิ่วลิ่ว”

 

 

แต่พอพูดจบ เธอรู้สึกว่ามีตรงไหนแปลกๆ

 

 

เธอไปเป็น ‘พวกเรา’ กับอวี๋เยว่หานตั้งแต่เมื่อไหร่

 

 

อวี๋เยว่หานเดินมาข้างหน้า ขวางระหว่างเธอกับเฉินจื่อซินไว้แล้ว โดยที่เธอยังไม่เข้าใจด้วยซ้ำ

 

 

สองมือของเขาล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อกันลม ใบหน้าเฉยชาเชิดขึ้นเล็กน้อย “รองประธานเฉินเพิ่งกลับมาจากเมืองนอก น่าจะงานยุ่งมาก ถ้าว่างนักล่ะก็ ทุ่มเททำงานจะดีกว่านะครับ ผมเชื่อว่าประธานเฉินน่าจะดีใจมาก”

 

 

คำพูดแฝงความนัยไว้ว่า ‘ดูหนังให้มันน้อยๆ หน่อย!’

 

 

เขาพูดจบแล้วก็ไม่ให้โอกาสเฉินจื่อซินได้พูดอีก

 

 

อวี๋เยว่หานหันไปอุ้มเสี่ยวลิ่วลิ่วด้วยมือข้างเดียว ส่วนมืออีกข้างจูงเหนียนเสี่ยวมู่ที่กำลังตะลึงงัน แล้วเดินไปที่รถมินิแวนซึ่งขับมาแล้ว

 

 

เป็นครั้งแรกที่เขาเปิดประตูให้เหนียนเสี่ยวมู่ขึ้นรถ โดยไม่รอให้คนขับรถมาเปิดให้

 

 

“เดี๋ยวก่อน ฉันลืมบอกลากรองประธานเฉิน…” เหนียนเสี่ยวมู่กล่าวอย่างร้อนใจหลังจากที่เพิ่งนั่งบนรถ

 

 

แต่สิ่งที่เธอได้กลับมา กลับเป็นการปิดประตูรถโดยไม่มีความลังเลใดๆ!