บทที่ 129 คีมจับเข็มของผม

เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ

เฉินชางหันไปพูดกับหมอที่อยู่ข้างๆ “คุณช่วยผมถือคีมจับเข็มหน่อยครับ”

อีกฝ่ายเป็นชายอายุสามสิบกว่าปี เขาพยักหน้ารับ

เฉินชางใช้คีมห้ามเลือดหนีบส่วนปลายของเส้นเอ็นให้แน่น แล้วพลิกคีมห้ามเลือดจนเห็นจุดที่ขาด รีบพูดขึ้นว่า “ส่งเข็มให้ผม!”

เฉินชางปรับแกนเส้นเอ็นบริเวณหน้าตัดทั้งสองด้านเพื่อให้แนบสนิทกันได้อย่างเหมาะสม จากนั้นจึงแทงเข็มแนวเฉียงสลับไขว้กันออกมาจากตำแหน่งที่ห่างจากหน้าตัดสามมิลลิเมตร ค่อยแทงเข็มเฉียงไขว้สลับกันไปมาเพื่อเย็บให้เส้นเอ็นประสานกันอย่างสมมาตรอีกสามครั้ง

การเคลื่อนไหวนี้ทำเอาหมอที่ยืนถือคีมจับเข็มด้านข้างมองจนอึ้ง ขั้นตอนการเย็บทั้งหมดดำเนินไปอย่างรวดเร็วโดยที่เจ้าตัวแทบไม่หยุดคิดด้วยซ้ำ

ไม่ใช่ว่าเฉินชางไม่อยากลดความเร็วลงบ้าง แต่เขาต้องการใช้สมาธิและความตึงเครียดในตอนนี้มากระตุ้นตนเอง เพื่อควบคุมความเสียหายให้เหลือน้อยที่สุด เพราะการเย็บเส้นเอ็นเพื่อเชื่อมอวัยวะที่ขาดเข้าด้วยกันไม่เหมือนกับการเย็บเส้นเอ็นทั่วไป

การเคลื่อนไหวเป็นไปอย่างไหลลื่น ไม่มีการติดขัดแม้แต่น้อย ทำให้ถานจงหลินรู้สึกกังวล…แบบนี้จะเชื่อมเส้นทางไหลเวียนของเหลวในอวัยวะได้หมดหรือ?

ทุกคนต่างก็คิดถึงปัญหานี้เช่นกัน!

เย็บเร็วขนาดนี้ คุณมั่นใจหรือว่าจะเชื่อมเส้นทางไหลเวียนให้อวัยวะได้หมด?

เห็นได้ชัดว่าพวกเขากังวลเกินไป เมื่อการเย็บเสร็จสิ้น ผลงานปรากฏต่อหน้าทุกคน แม้แต่ท่านถานจงหลินก็อดมองจนตาค้างไม่ได้!

นี่…นี่เขาเล่นกลหรือ?

ไม่สิ!

นี่มันเวทมนตร์แล้ว!

นี่มันไม่ใช่การผ่าตัดแล้ว เมื่อครู่ยังเป็นตอด้วนๆ สองตออยู่เลย ทว่าตอนนี้กลายเป็นเส้นเอ็นสมบูรณ์แบบหลังการเย็บประสบผลสำเร็จ

เฉินชางมั่นใจมาก ในดวงตาเต็มไปด้วยความหนักแน่น

ความจริงแล้ว การเย็บเส้นเอ็นเช่นนี้ไม่จำเป็นต้องเย็บหลายเข็ม แต่คุณต้องมั่นใจว่าจะเย็บทุกเข็มได้อย่างเหมาะสมและสมบูรณ์แบบ ถือเป็นการวัดความชำนาญของแพทย์ได้อย่างแท้จริง!

หัตถการที่เฉินชางทำเมื่อครู่นี้ก็เป็นผลมาจากการมีทักษะอันช่ำชองนั่นเอง ซึ่งความจริงนี่ไม่ถือเป็นทักษะติดตัวอะไร แต่เป็นเพียงเทคนิคการเย็บเส้นเอ็นแบบพิเศษอย่างหนึ่งเท่านั้น ซึ่งเทคนิคการเย็บแบบนี้จะต้องมีพื้นฐานการเย็บที่ยอดเยี่ยม! และบังเอิญว่าทักษะการเย็บเส้นเอ็นของเฉินชางอยู่ระดับปรมาจารย์แล้ว!

ทุกคนตะลึงพรึงเพริดจนตาค้าง รวมไปถึงถานจงหลินด้วย

หมอที่เข้าร่วมการผ่าตัดหลายคนพากันสูดปาก…

ให้ตายสิ นี่คุณมาแสดงความสามารถให้พวกผมตกใจกลัวหรือไง?

ในดวงตาของถานจงหลินปรากฏความซับซ้อน แฝงความหมายว่า เขาก้าวหน้าขึ้นอีกแล้ว เขา…ก้าวหน้าขึ้นอีกแล้ว! แถมยังเป็นความก้าวหน้าเชิงคุณภาพที่ถล่มทลายซะด้วย!

ถานจงหลินไม่อยากเชื่อจริงๆ หมอน้อยอายุยี่สิบกว่าปีคนหนึ่งจะมีทักษะการเย็บเส้นเอ็นที่ลึกล้ำขนาดนี้ได้อย่างไร คราวที่แล้วก็ทำให้พวกเขาตะลึงพรึงเพริดมากพอแล้ว คราวนี้ถึงกลับเปลี่ยนมุมมองพวกเขาไปจนหมดสิ้นเลยทีเดียว!

นี่จะน่ากลัวเกินไปหรือเปล่า?

เมื่อเทียบกับถานจงหลินแล้ว หมอน้อยหลายคนที่ยืนอยู่รอบๆ ต่างไม่รู้ว่าควรแสดงอารมณ์ในตอนนี้ออกมาอย่างไร ในใจพวกเขามีกระทั่งความรู้สึกพ่ายแพ้ล้มเหลว

นี่หัวหน้าไปหาสัตว์ประหลาดอะไรมาเนี่ย?

เมื่อมีการเย็บเส้นเอ็นระดับเทพอยู่ด้วย ทุกคนจึงไม่กังวลอีกต่อไป…จะอย่างไรส่วนที่ยากที่สุดก็เย็บเสร็จแล้ว ส่วนที่เหลือจะนับเป็นอะไรได้อีกล่ะ?

ไม่นานการเย็บเส้นเอ็นก็เสร็จสิ้น!

[ติ๊ง! การเย็บเส้นเอ็นของคุณสามารถพิชิตหมอทุกคนที่อยู่ในห้องผ่าตัดได้สำเร็จ ได้รับทักษะพื้นฐานของถานจงหลิน 1 รายการ กรุณาเลือกรับทักษะ!]

[ติ๊ง! เนื่องจากการแสดงทักษะของคุณเมื่อครู่นี้สามารถพิชิตหมอทุกคนได้สำเร็จ และผ่าตัดได้อย่างสมบูรณ์แบบ ภารกิจต่อเนื่องจึงถูกกระตุ้น

ภารกิจต่อเนื่อง: ช่วยเย็บเส้นเลือดให้สำเร็จ

หลังภารกิจเสร็จสิ้นจะเปิดใช้งานทักษะการผ่าตัดต่อนิ้ว!]

เฉินชางชะงักไปครู่หนึ่ง!

ถึงกับกระตุ้นภารกิจต่อเนื่องเลยหรือ ยิ่งไปกว่านั้น…จะได้รับทักษะการผ่าตัดต่อนิ้วด้วย!

ไม่สิ!

เป็นการเปิดใช้งานทักษะหรือ?

เปิดใช้งานกับได้รับมาเลยมันแตกต่างกันตรงไหน?

คงแตกต่างกันไม่มากหรอกมั้ง?

เมื่อคิดถึงตรงนี้ เฉินชางก็รู้สึกลิงโลดในใจ

การผ่าตัดเย็บเชื่อมนิ้วเป็นการผ่าตัดระดับสูง! บางโรงพยาบาลจัดให้การเย็บเชื่อมอวัยวะเป็นการผ่าตัดระดับสูง แม้แต่โรงพยาบาลอันดับสองก็ไม่ได้รับเคสด้านนี้ นี่อาจเป็นทักษะของการผ่าตัดชั้นสามทักษะแรกที่ตนได้ครอบครอง

ต้องทราบว่าตอนนี้แผนกฉุกเฉินมีห้องผ่าตัดเป็นของตัวเองแล้ว ซึ่งการผ่าตัดที่รับทำมีอยู่สองประเภท ประเภทแรกก็คือการผ่าตัดในขอบเขตอาการฉุกเฉินทั่วไปซึ่งเฉินปิ่งเซิงเป็นผู้รับผิดชอบ โดยมีการผ่าตัดจำพวกการผ่าตัดม้าม ตับ ลำไส้ กระเพาะและทางเดินอาหารเป็นสำคัญ! อีกประเภทหนึ่งก็คือการผ่าตัดรักษาโรคและอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบริเวณมือ ซึ่งมีอันเยี่ยนจวินเป็นผู้รับผิดชอบ

เพียงแต่ตอนนี้การผ่าตัดรักษาโรคและอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบริเวณมือของอันเยี่ยนจวินยังไม่ได้เปิดรับรักษาทั้งหมด สาเหตุสำคัญเป็นเพราะเครื่องมือและอุปกรณ์ยังอยู่ระหว่างการจัดส่ง เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย การผ่าตัดรักษาโรคและอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบริเวณมือของแผนกฉุกเฉินจะกลายเป็นรากฐานการผ่าตัดเกี่ยวกับมือเพียงหนึ่งเดียวของโรงพยาบาลอันดับสอง

ความจริงหลี่เป่าซานคิดเปิดรับผ่าตัดเพื่อรักษาโรคและอุบัติเหตุบริเวณมือมานานแล้ว แต่ไม่มีห้องผ่าตัดจึงค่อนข้างยุ่งยาก และคราวนี้หลี่เป่าซานก็ต้องเจออุปสรรคมากมาย ต้องใช้แรงกายแรงใจไปไม่น้อยกว่าจะได้ห้องผ่าตัดมา

ตอนนี้เฉินชางโผล่มาอยู่ในพื้นที่รับรางวัลแล้ว เบื้องหน้ามีร่างถานจงหลินยืนอยู่คล้ายเป็นคลังเก็บทักษะอย่างหนึ่ง ให้เฉินชางเลือกสรรได้ตามใจ แต่ก็มีเพียงตัวเลือกที่เป็นทักษะพื้นฐานเท่านั้น

[ทักษะการเย็บเส้นเลือดระดับสูง]

ผ่าน!

[ทักษะการเย็บเส้นเอ็นระดับสูง]

ไม่เอา!

[ทักษะการเย็บเส้นประสาทระดับสูง!]

นี่มันไพ่โจ๊กเกอร์ชัดๆ!

ฉันเลือกนาย!

ตอนที่เฉินชางเห็นทักษะการเย็บเส้นประสาทระดับสูงก็ไม่ลังเลแม้แต่น้อย เลือกกดรับไปทันที

ทักษะนี้ไม่ใช่จะได้กันง่ายๆ

ยิ่งไปกว่านั้น การเย็บเส้นประสาทยังยากและละเอียดซับซ้อนยิ่งกว่าการเย็บเส้นเอ็นเสียอีก หากได้ทักษะนี้มาก็เรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบ!

[ติ๊ง! ยินดีด้วย คุณได้รับทักษะการเย็บเส้นประสาทระดับสูง คุณสมบัติพิเศษ: แม่นยำ!]

……

……

หลังเย็บเส้นเอ็นเสร็จสิ้น ก็มาถึงก้าวที่สำคัญที่สุดของการผ่าตัดเชื่อมนิ้วในตอนนี้แล้ว! นั่นก็คือการเย็บเส้นเลือด

สิ่งสำคัญที่สุดในการเย็บเชื่อมเส้นเลือดเล็กๆ เช่นนี้ก็คือต้องมีความอดทนสูง ต้องยืนหยัดทำงานได้ยาวนาน สรุปก็คือต้องมีพลังความอดทนสูงนั่นเอง!

เนื่องจากการผ่าตัดดำเนินไปภายใต้กล้องผ่าตัดจึงต้องใช้ความปราณีตตลอดทั้งกระบวนการ หากไม่มีความอดทนและพละกำลังที่มั่นคงมากพอ คงยากจะทำงานให้สำเร็จไปได้ด้วยดี

เฉินชางกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง จู่ๆ ก็พบว่าหมอที่ถือคีมจับเข็มให้ตนเมื่อครู่นี้หยิบเข็มสำหรับเย็บเส้นเลือดขึ้นมาเตรียมพร้อมทำงานแล้ว

นี่ทำให้เฉินชางนิ่งไป

สถานการณ์แบบนี้ ผมจะพูดอะไรได้อีกล่ะ?

จะให้แย่งคีมจับเข็มมาเลยหรือ?

คงไม่ดีล่ะนะ…

ทุกคนเป็นคนมีอารยะนะครับ…

หรือว่าไม่มีทางทำภารกิจให้สำเร็จได้แล้ว?

เมื่อคิดถึงตรงนี้ เฉินชางก็มองไปยังชายคนนั้น อดถอนใจออกมาไม่ได้ เฮ้อ…

ทว่าในขณะนี้ โจวหยางรู้ตัวนานแล้วว่าเฉินชางกำลังจับจ้องมาที่คีมจับเข็มในมือของตนตั้งครึ่งค่อนวันแล้ว สายตาแบบนั้น…เหมือนจะเต็มไปด้วยความกระหายและ…บอกว่าผมก็เก่งนะ?

เมื่อคิดถึงการผ่าตัดเย็บเส้นเอ็นที่คล่องแคล่วไหลลื่นจนสำเร็จไปอย่างงดงามเมื่อครู่นี้ของเฉินชาง โจวหยางพลันตัวสั่น

นี่ผมควรให้ท่านเทพองค์นี้เข้ามาแทนหรือเปล่านะ?

เมื่อคิดถึงตรงนี้ โจวหยางก็ขยับคีมจับเข็มขึ้นเล็กน้อย แสดงท่าทีสอบถามอย่างอดไม่อยู่ “คุณ…?”

เฉินชางตกตะลึง รีบรับคีมจับเข็มมาด้วยรอยยิ้มกว้าง “ไม่ต้องขอบคุณ ไม่ต้องเกรงใจครับ!”

โจวหยางนิ่งอึ้งไป “???”

ผมบอกว่าจะขอบคุณหรือไง?

ผมเกรงใจคุณแล้วหรือไง?

ถานจงหลินก็อดถามไม่ได้ว่า “เสี่ยวเฉิน คุณ…คุณเย็บเส้นเลือดได้หรือ?”

เฉินชางพยักหน้า “ครับ…ระดับฝีมือคงพอๆ กับการเย็บเส้นเอ็น…”

เมื่อเขากล่าวเช่นนี้ออกมา ผลเป็นอย่างไรคงจินตนาการได้เลยทีเดียว

ถานจงหลินดวงตาเปล่งประกายแวววาวไม่ผิดไปจากที่คาด พร้อมทรยศพรรคพวกในเสี้ยววินาที ยิ้มอย่างเบิกบานใจยิ่ง “หมอโจว ให้เสี่ยวเฉินเย็บเถอะ”

โจวหยางพยักหน้า ใครเย็บก็เป็นการเย็บเหมือนกันไม่ใช่หรือ?

แต่ทำไม…ในใจผมถึงรู้สึกอัปยศแบบนี้นะ

เมื่อเห็นเฉินชางเย็บแผล เพลง ‘คีมจับเข็มของผม’ ก็ดังขึ้นในใจเพื่อมอบให้ตนเองทันที

เป็นคุณที่แย่งคีมจับเข็มของผมไป

ไม่เป็นไร ผมยังมีสายตาอยู่!

เป็นคุณที่มองผมเป็นคนไร้ทักษะ

แต่ตัวผมเองจะไม่คิดโทษคุณตลอดไป

……