ตอนที่ 67 เพียงฉวยโอกาสในยามผู้อื่นทุกข์

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

มู่เฉียนซีก้มหน้าลง นางกล่าว “หากไม่ใช่โรงเหล้าเมาควันที่ตรอกหลิ่วอวิ๋น ก็ยังมีเรือบุปผาที่ทะเลสาบเมิ่งหู แล้วยังมีถนนบุปผาสายนั้นอีกใช่ไหม ?  เยวี่ยเจ๋อ เจ้าหน้าแดงทำไมกัน ?”

“พี่ใหญ่ นี่อาจจะ…” เยวี่ยเจ๋อมองมู่เฉียนซีอย่างกระอักกระอ่วน

มู่เฉียนซีตบบ่าเขา กล่าวถาม “มีอะไรต้องเกรงใจรึ ?” ที่ดินสามผืนนี้ไม่นานก็เป็นของพี่ใหญ่เจ้าแล้ว  หากอยากไปเที่ยวเล่นหรืออย่างไรก็ได้ทั้งนั้น อยากได้หญิงงามกี่คนมาอยู่เป็นเพื่อนก็ย่อมได้ ครางเสียงดังก็ไม่เป็นไรด้วย”

“ข้า…” เยวี่ยเจ๋อ ชายหนุ่มแสนบริสุทธิ์ไร้เดียงสาและไร้มลทินใดติดกาย เวลานี้ทั้งใบหน้าทั้งหลังหูแดงระเรื่อเมื่อฟังมู่เฉียนซีกล่าวเช่นนั้น

“พี่ใหญ่ พอเถอะ”

“ไม่ มันจําเป็นนะข้าจะบอกให้  เยวี่ยเจ๋อ ยิ่งเจ้าจะอายุสิบเจ็ดปีแล้ว เจ้าใกล้บรรลุนิติภาวะ คาดไม่ถึงว่าแม้กระทั่งสถานที่เหล่านั้นเจ้ายังไม่เคยไปกรายใกล้ ท่านแม่ทัพเยวี่ยจะโหดร้ายกับลูกชายเกินไปแล้ว” มู่เฉียนซียิ่งพูดก็ยิ่งสนุก

โอวหยางจูไอจนใบหน้าดําคร่ำครึ้ม “แค่ก ๆ ๆ ท่านผู้นำตระกูลมู่…”

เขายังไม่ได้รับปากว่าจะให้ทรัพย์สมบัติสําคัญเหล่านี้กับนางสักหน่อย นางก็พูดกับเยวี่ยเจ๋อว่าเดี๋ยวจะเป็นของนางซะแล้ว  มู่เฉียนซีสตรีผู้นี้ช่างไร้ยางอายนัก!

มู่เฉียนซียิ้มเยาะ กล่าวกับเยวี่ยเจ๋อ “เยวี่ยเจ๋อ อ่านต่อไป!”

เยวี่ยเจ๋อสงบอารมณ์ลงก่อนจะกล่าวว่า “ยังมีโรงพนันจำนวนมาก และหอยาหุยชุน…”

มู่เฉียนซีรู้ดี  ตระกูลโอวหยางนั้นมีทรัพย์สินเงินทองมากมาย โดยเฉพาะหลังจากที่พ่อของนางจากไป แต่ว่าตอนนี้ไม่เหมือนกัน คู่แข่งของตระกูลมู่เริ่มอ่อนแอลงเรื่อย ๆ บ้างก็โดนมู่เฉียนซีโกงทรัพย์สมบัติไปจำนวนมาก

แม้ว่าทรัพย์สินโดยรวมของตระกูลโอวหยางจะไม่ได้มากเกินกว่าตระกูลมู่ แต่ก็ได้กลายเป็นตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดเป็นอันดับสองของแคว้นจื่อเยี่ย

มู่เฉียนซีโบกมือ  กล่าวว่า “ท่านผู้นำตระกูลโอวหยาง ข้าต้องการไม่มาก ถ้าเอาของเหล่านี้ที่เยวี่ยเจ๋ออ่านมาให้ข้า  ข้าก็จะเป็นคนที่ช่วยท่านได้”

นางหยุดพูด ยิ้มอย่างใสซื่อก่อนจะกล่าวต่อ  “เยวี่ยเจ๋อ  พี่ใหญ่ของเจ้ายังคงมีจิตใจเมตตามาก เจ้าว่าจริงไหม ?”

เยวี่ยเจ๋อกลั้นหัวเราะ “อืม พี่ใหญ่ข้าเป็นสตรีใจดีมีเมตตาเสมอ”

โอวหยางจูโกรธจนใบหน้าเครียดคล้ำ หากทรัพย์สมบัติเหล่านี้ทั้งหมดยกให้กับมู่เฉียนซี ตระกูลโอวหยางของพวกเขาคงจะไม่มีกิน

นางไม่ใช่ว่าต้องการไม่มาก แต่เรียกได้ว่าเรียกร้องจนจะทำให้พวกเขาล่มจมเลยต่างหาก

“ผู้นำตระกูลมู่ ทรัพย์สินพวกนี้ล้วนแต่เป็นสิ่งสำคัญหล่อเลี้ยงพวกเราตระกูลโอวหยาง เจ้าจะเอามันไปทั้งหมด เกรงว่าการเงินของตระกูลพวกเราคงพังพินาศ” โอวหยางจูกล่าวเสียงต่ำ

“นั่นมันก็เป็นเรื่องของตระกูลโอวหยาง ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับข้า  ข้าแค่อยากถามว่าท่านจะให้หรือไม่ให้ หากท่านให้ข้าก็จะช่วยรักษา แต่หากไม่ให้ก็รอเก็บศพบุตรสาวของท่านได้เลย”

มู่เฉียนซีส่งสายตาให้เยวี่ยเจ๋อ เป็นสัญญาณเตรียมจะให้เดินออกไปด้านนอก

สีหน้าโอวหยางจูเปลี่ยนแปลงไปหลายแบบอย่างคาดการณ์ไม่ได้ เขาโดนมู่เฉียนซีหลอกเอาทรัพย์สมบัติไปมากกว่าครึ่ง  หากมาล้มเลิกเอาตอนนี้… เห็นที…

และทรัพย์สินส่วนนั้นที่ยกให้ไปก็ไม่อยู่แล้ว ยังจะเสียชีวิตลูกสาวไปอีกหรือ ?

ในที่สุดเขาก็ยอมเปิดปาก “ช้าก่อนผู้นำตระกูลมู่  ข้ายอมรับ! ถึงแม้ทรัพย์สินพวกนี้จะมีมูลค่าสูง แต่มันไม่สำคัญเท่าชีวิตของเหว่ยเหว่ย”

สองพี่น้องโอวหยางจื่อกับโอวหยางเฉียงล้วนเดือดดาล ใจของพวกเขากรุ่นโกรธแทบปะทุ มู่เฉียนซีสตรีโอหังนี่กรรโชกทรัพย์กันชัด ๆ!

โอวหยางเฉียงทนไม่ไหว คิดจะลงมือกับมู่เฉียนซีแต่กลับถูกโอวหยางจื่อดึงเอาไว้

“เย็นไว้น้องรอง ต่อให้ทรัพย์สมบัติพวกนั้นตกไปอยู่ในมือของจอมขูดเลือดเนื้ออย่างนางปีศาจมู่เฉียนซี ไม่แน่เสมอไปว่านางจะสามารถจัดการบริหารได้ดี เราแค่รอให้ทรัพย์สินพวกนั้นขาดทุน เดี๋ยวตระกูลมู่ก็จะมาร้องขอให้เรารับซื้อคืนเอง”

โอวหยางเฉียง “อย่างไรเสียพี่ใหญ่ก็คิดการได้รอบคอบ”

เวลานี้เยวี่ยเจ๋อรับหนังสือสัญญาทรัพย์จนตาลาย

หลังจากส่งมอบเสร็จ โอวหยางจูถามขึ้น “ผู้นำตระกูลมู่ ตอนนี้เจ้ารักษาเหว่ยเหว่ยได้แล้วกระมัง! เหว่ยเหว่ยใกล้จะตายแล้ว”

มู่เฉียนซีหยิบขวดยาออกมา หันไปกล่าวกับโอวหยางจื่อ “นี่คือน้ำบริสุทธิ์ไร้ราก เจ้าให้คุณหนูโอวหยางกลืนลงไปก่อน แล้วอีกสักครู่ถึงจะสามารถใช้ยาฟื้นฟูว่านหลิงได้”

“ได้” โอวหยางจื่อถือขวดยาเดินไปข้างเตียงของโอวหยางเหว่ย

เมื่อโอวหยางจื่อยกขวดยาขึ้น มู่เฉียนซีพลันกระซิบกับเยวี่ยเจ๋อ “รีบปิดจมูกและกลั้นหายใจไว้เร็วเข้า”

เยวี่ยเจ๋อไม่รู้เหตุผล แต่ฟังน้ำเสียงพี่ใหญ่แล้ว เป็นยาพิษไม่ผิดแน่!

“แค่ก ๆ ๆ!”

“โอ้กกกก!”

กลิ่นเน่าเหม็นจากร่างโอวหยางเหว่ยกระจายคลุ้งฟุ้งทั่วอากาศ  กลิ่นเหม็นร้ายกาจทำให้สามพ่อลูกตระกูลโอวหยางแทบสลบ

โอวหยางเฉียงเกรี้ยวโกรธ กล่าวขึ้น “มู่เฉียนซี ยานี่ช่วยชีวิตได้ที่ไหนกัน ? นี่มันเป็นยาพิษชัด ๆ!”

ด้วยกลิ่นเหม็นอันรุนแรง  กล่าวจบโอวหยางเฉียงทนไม่ไหว โก่งคออาเจียน

“โอ้กกกก!”

เยวี่ยเจ๋อรีบปิดจมูกกลั้นหายใจ  นึกภาพไม่ออกเลยว่าน้ำบริสุทธิ์ไร้รากนั้นจะเหม็นมากเพียงใด แต่ดูจากสีหน้าของพ่อลูกทั้งสามคนแล้ว เขารับรู้ได้ถึงความสยดสยองและอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเวทนาพวกเขา

“ผู้นำตระกูลมู่!” สีหน้าของโอวหยางจูเวลานี้ดำคล้ำราวกับว่าจะสามารถหยดเป็นหมึกออกมาได้

“ผู้นำตระกูลมู่อย่ามาหลอกข้าดีกว่า ถ้าเหว่ยเหว่ยไม่ดีขึ้น เจ้าอย่าคิดว่าจะมีชีวิตรอดออกไปจากจวนโอวหยางได้” โอวหยางจูกล่าวอย่างโหดเหี้ยม

มู่เฉียนซี “แน่นอน ในเมื่อข้ามู่เฉียนซีมาถึงจวนตระกูลโอวหยาง ข้าคงไม่ได้จะมาหยอกล้อท่านผู้นำตระกูลโอวหยางแน่นอนอยู่แล้ว มิฉะนั้นข้ากับเยวี่ยเจ๋อจะถือเป็นคนอ่อนแอ ไม่มีทางที่จะออกจากตระกูลโอวหยางได้”

“เจ้ารู้ก็ดีนี่ เช่นนั้นน้ำบริสุทธิ์ไร้รากนี่…”

เมื่อพูดถึงน้ำนี้ ใบหน้าผู้นำตระกูลโอวหยางพลันบิดเบี้ยว  แม้ตอนนี้เขาจะกำลังกลั้นหายใจอยู่ แต่เมื่อนึกถึงกลิ่นที่ลอดเข้ารูจมูกเมื่อครู่ เกรงว่าอาจจะกินข้าวไม่ลงเป็นเดือนก็เป็นได้

มู่ฉียนซี “นี่เป็นยาวิเศษ แน่นอนว่ารสชาติจะต้องแตกต่างจากยาอื่น ๆ มาก แต่ข้ารับประกันได้ว่าผลของมันไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน”

โอวหยางจู “งั้นข้าจะลองเชื่อผู้นำตระกูลมู่อีกสักครั้ง”

โอวหยางจูรีบนำยาน้ำบริสุทธิ์ไร้รากนั่น กรอกให้โอวหยางเหว่ยกลืนลงคอ

ขณะนั้น โอวหยางเหว่ยที่กำลังอยู่บนเตียงกลิ้งไปมาอย่างบ้าคลั่ง

“อ๊า… อ๊า… อ๊า…!” โอวหยางเหว่ยกรีดร้องตะโกนก้อง

โอวหยางจูแผ่ไอสังหาร สายตาฉายแววต้องการฆ่า เขากล่าวอย่างเดือดดาล “มู่เฉียนซี เจ้าจะอธิบายเรื่องนี้อย่างไร ?!”

มู่เฉียนซีโบกมือไม่ใส่ใจ “นี่เป็นปฏิกิริยาปกติ ยิ่งนางดื่มยาน้ำบริสุทธิ์ไร้รากและมันได้ผลดีมากเท่าไหร่  นั่นแสดงให้เห็นได้ว่ายาฟื้นฟูว่านหลิงมีโอกาสจะรักษาโรคประหลาดของคุณหนูโอวหยางได้ผลดีมากยิ่งขึ้น”

“เช่นนั้นเจ้ารีบให้เหว่ยเหว่ยกินยาเม็ดฟื้นฟูเร็วเข้าสิ” โอวหยางจูตาแดงก่ำ

มู่เฉียนซี “เม็ดยาฟื้นฟูว่านหลิงล้ำค่ามาก ใช้สมุนไพรวิญญาณคุณภาพสูงหลากหลายชนิดถึงจะหลอมออกมาได้ ข้าได้ยินมาว่าตระกูลโอวหยางมียาสมุนไพรวิญญาณที่มีระดับอยู่ไม่น้อย ยาระดับสองก็ไม่น้อย ข้าสงสัยว่าท่านจะมอบสมุนไพรวิญญาณเหล่านั้นให้ข้าได้หรือไม่ เพื่อทดแทนการใช้ยาฟื้นฟูว่านหลิงในครั้งนี้”

โอวหยางจูโกรธแทบกระอักเลือด  มู่เฉียนซีกําลังฉวยโอกาสปล้นตระกูลโอวหยางอีกแล้ว

หรือว่ายาวิญญาณระดับหนึ่งและยาวิญญาณระดับสองของตระกูลโอวหยางเป็นยาที่ขูดรีดมา ? มู่เฉียนซีจึงดูเหมือนต้องการทรัพย์สินมีค่าทุกอย่าง

เวลานี้โอวหยางจื่อและโอวหยางเฉียงแทบอยากจะฆ่ามู่เชียนซีที่กำลังแย้มยิ้มเจิดจ้าให้ตายตกไปคามือ

นางรังแกกันเกินไปแล้ว!

ร้านค้ากว่าสิบร้านของตระกูลมู่ ทรัพย์สินมากมายของตระกูลโอวหยางของพวกเขายังไม่พอจะซื้อน้ำวิเศษและเม็ดยาเม็ดหนึ่งได้อีกหรือ ? วิเศษวิโสล้ำค่ามากนักหรือ ?

นาง… นางยังมีหน้ามากรรโชกสมุนไพรวิญญาณของตระกูลโอวหยาง

ต้องทราบก่อนว่ายาวิญญาณและยาเม็ดเป็นสมบัติสําคัญในการฝึกยอดฝีมือของทุกตระกูล

มู่เฉียนซีกล่าว “ท่านผู้นำตระกูลโอวหยางไม่เห็นด้วยหรือ ? เช่นนั้นให้คุณหนูโอวหยางกระโดดต่อไปบนเตียงเถอะ  อย่างไรนางก็ไม่ตาย คิดว่าท่านผู้นำตระกูลโอวหยางคงจะไม่เอาเรื่องนี้มาโทษข้า  ท่านผู้นำตระกูลโอวหยางเป็นคนยอมทิ้งการรักษาคุณหนูโอวหยางเอง”

.