กลับมาถึงตระกูลลู่ ก็เห็นเจ้าดำกำลังวิ่งไปวิ่งมา อยู่ในลานบ้าน เมื่อเห็นลู่ฝานกลับมา เจ้าดำกระโดดขึ้นไปบนไหล่ลู่ฝาน

ลู่เทียนกังและคนอื่น เล่าเรื่องที่ลู่ฝานเอาชนะโม่หลินได้เมื่อครู่ ให้ทั้งตระกูลลู่รู้

คนตระกูลลู่ที่ได้ยินข่าวนี้ ล้วนบอกว่าดี ยิ่งเคารพลู่ฝานเพิ่มขึ้นไปอีก

ที่แท้ลู่ฝานเติบโตจนเอาชนะโม่หลินได้แล้ว งั้นอีกไม่นาน ลู่ฝานคงกลายเป็นอันดับหนึ่งของเมืองเจียงหลิน

เมื่อลู่เฮ่าหราน ลู่หาวรู้ข่าวนี้ รีบมาหาลู่ฝานทันที

ในสวนหลังบ้าน สายตาลู่เฮ่าหรานจ้องเขม็ง และถามขึ้น

“ลู่ฝาน นายเอาชนะโม่หลินได้จริงเหรอ”

ลู่ฝานพยักหน้าเบาๆ

“เขาไม่ได้บาดเจ็บเหรอ นายไม่ได้เล่นแง่ใช่ไหม”

ลู่หาวถามต่อ

ลู่ฝานพยักหน้า

“นายคนเดียว แค่นายคนเดียวเหรอ”

ลู่ฝานพูดอย่างเหนื่อยใจ “ผมคนเดียว”

หลังจากซักถามความจริงจากลู่ฝาน ลู่เฮ่าหรานและลู่หาวถึงกับสูดหายใจเฮือก

ทันใดนั้น ลู่เฮ่าหรานหัวเราะออกมา “ตอนนี้ฉันจินตนาการสีหน้าคนตระกูลโม่ได้เลย ฮ่าๆ ตระกูลลู่ของเรา มีอัจฉริยะแบบนี้ พวกเขาต้องกลุ้มใจมากแน่ๆ ลู่ฝาน นายพูดความจริงมา นายอยู่ในแดนไหนกันแน่”

ลู่ฝานพูดช้าๆ “ปราณในชั้นสาม”

“ดี!”

ลู่เฮ่าหรานพูดออกมาอย่างตื่นเต้น

“อายุแค่นี้ ผลการฝึกตนขนาดนี้ คิดว่าในเขตตงหวา คงมีไม่กี่คน ตระกูลโชคดีจริงๆ ตระกูลโชคดีจริงๆ!”

ลู่หาวตกใจก่อน จากนั้นยิ้มแล้วพยักหน้า

ทุกครั้งที่ลู่ฝานฝึกกลับมา จะทำให้เขาตกใจตลอด ลู่หาวหวังว่าการตกใจแบบนี้ จะมีต่อไปเรื่อยๆ เขารอวันที่ลู่ฝานกลายเป็นคนใหญ่คนโต

“ปู่ พ่อ ครั้งนี้ ผมเห็นลูกหลานตระกูลลู่ ทะเลาะกับลูกหลานตระกูลโม่ ดูท่าไม่ค่อยดี ถ้าผมไม่อยู่ พวกลู่เทียนกังต้องแพ้อย่างน่าเวทนามากแน่”

ลู่ฝานพูดออกมา

ตระกูลโม่มีผู้ฝึกชี่คอยช่วยเหลือ อย่างน้อยลูกหลานตระกูล ต้องยกระดับผลการฝึกตนได้หนึ่งชั้น นอกจากนาย ลูกหลานตระกูลลู่คนอื่น ไม่มีทางสู้ได้ แต่เรื่องพวกนี้ ไม่ใช่เรื่องที่นายต้องกังวล นายสนใจแค่หลังจากไปสถาบันสอนวิชาบู๊

ลู่ฝานเงียบครู่หนึ่ง จากนั้นพูดว่า “อันที่จริง ผมรู้จักผู้ฝึกชี่เหมือนกัน”

“อ้อ รู้จักก็รู้จักสิ…..หืม…ลู่ฝาน นายพูดอะไรนะ”

ลู่เฮ่าหรานตกใจ พูดออกมาเสียงดัง

ลู่หาวลุกขึ้น แล้วพูดว่า “ลู่ฝาน นายรู้จักผู้ฝึกชี่เหรอ ผู้ฝึกชี่คนไหน”

ทันใดนั้น เหมือนลู่หาวนึกอะไรออก ปรบมือแล้วพูดว่า “ใช่ผู้ฝึกชี่ ที่ขายผงทะลวงกายที่เมืองเจียงหลิน เมื่อหนึ่งปีก่อนหรือเปล่า คนที่สวมหน้ากากเงินบนหน้า”

เหมือนลู่หาวจับส่วนสำคัญได้ เสียงตื่นเต้นดูสั่นเครือ

ลู่ฝานยิ้มแล้วพูดว่า “พ่อความจำดีมาก ถูกต้อง เขานั่นแหละ ผู้ฝึกชี่เถ่เมี่ยน”

ลู่เฮ่าหรานสูดหายใจเฮือก จากนั้นถามเบาๆ ว่า “นายกับเขาความสัมพันธ์เป็นไงบ้าง เชิญเขามาช่วยได้หรือเปล่า”

ลู่ฝานคิดคำพูดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นพูดออกมาว่า “ผมมีความสัมพันธ์อันดีกับเขามาก อืม ดีมาก”

แล้วพูดว่า “ดีมากงั้นเหรอ อ้อ ฉันเข้าใจแล้ว มิน่าล่ะ นายถึงยกระดับได้ถึงขนาดนี้ ดูเหมือนผู้ฝึกชี่เถ่เมี่ยนคนนี้ จะมีความดีความชอบไม่น้อยสินะ คิดไม่ถึงว่าหลานชายฉันจะมีโอกาสดีแบบนี้เหมือนกัน ลู่ฝาน ผู้ฝึกชี่เถ่เมี่ยนคนนี้

ลู่ฝานเข้าใจความหมายคำพูดของลู่เฮ่าหราน แค่ผู้ฝึกชี่มีลำดับขั้น ก็จะกลั่นยาได้ เป็นที่ยกย่องสรรเสริญ ผู้ฝึกชี่ที่ไม่มีลำดับขั้น ก็เหมือนนักบู๊ที่ยังฝึกพลังปราณไม่ได้ เป็นแค่ผู้เรียนเท่านั้น ไม่นับว่าเป็นอะไร

ลู่ฝานครุ่นคิด แล้วพูดว่า “มีลำดับขั้นแน่นอน แต่ขั้นไหนไม่แน่ใจ”

ลู่ฝานพูดจริง เพราะถ้าว่าตามระดับพลังปราณของเขา เขาน่าจะเป็นผู้ฝึกชี่ระดับสาม แต่ในความเป็นจริง เขาไม่สามารถกลั่นยาระดับสามออกมาได้ เพราะเขาเพิ่งก้าวสู่ชั้นได้ไม่นาน ยาระดับสามที่แท้จริง ยังจำเป็นต้องฝึกฝน

“มีลำดับขั้นก็พอแล้วๆ เชิญเขามาช่วยได้ไหม กลั่นยาให้ตระกูลลู่สักเตา” ลู่เฮ่าหรานรีบถาม

ลู่ฝานพยักหน้าอย่างไม่ลังเล “ไม่มีปัญหาแน่นอน แค่ยาเตาเดียวเท่านั้น ต้องกลั่นได้อยู่แล้ว แต่แค่สมุนไพรไม่ค่อยพอ”

ลู่เฮ่าหรานยิ้มจนปากจะฉีก โบกมือไปมา แล้วพูดว่า “สมุนไพรจะเอาเท่าไรก็ได้ ลู่หาว ตอนนี้นายไปเอาสมุนไพรออกมาทั้งหมด ไปเอาของดีในโกดังสมบัติมาด้วย ลู่ฝาน นายพาฉันไปเจอผู้ฝึกชี่เถ่เมี่ยนสิ ฉันเข้าใจกฎของผู้ฝึกชี่ ยาหนึ่งเตา ต้องมียาวิเศษหนึ่งต้น สมบัติหนึ่งชิ้น”

ลู่ฝานรีบโบกมือพัลวัน “ไม่ต้องๆ ผู้ฝึกชี่เถ่เมี่ยนคนนี้ ไม่ชอบเจอคนอื่น ผมเอาสมุนไพรไปให้ก็พอ ยาวิเศษ สมบัติ ไม่จำเป็นหรอกครับ ผมสนิทกับเขามาก มีความสัมพันธ์อันดีต่อกันมาก ไม่ต้องพูดถึงเรื่องกฎหรอกครับ”

ตลก ตัวเขานี่แหละคือผู้ฝึกชี่เถ่เมี่ยน จะให้ปู่ตามไปได้ยังไง นั่นไม่ใช่การเปิดเผยตัวหรือไง