บทที่ 90 เจ้าแห่งสลาแมนเดอร์

Myth Online ฮีลเลอร์สายบู๊ [网游之奶个锤子]

บทที่ 90 เจ้าแห่งสลาแมนเดอร์

เจ้าแห่งสลาแมนเดอร์

เลเวล: 15

ระดับ: อีลิตบอส

พลังชีวิต: 32,000

พลังโจมตีกายภาพ: 164-182

พลังโจมตีเวทย์: 169-185

พลังป้องกันกายภาพ: 108-120

พลังป้องกันเวทย์: 110-122

สกิล: [คลุ้มคลั่ง] [กระทืบพสุธา] [อัคคีคลั่ง] [หมุนตัว] [สายฟ้าฟาด] [ลาวาพิโรธ] [แก่นแห่งลาวา]

อธิบาย: เจ้าแห่งสลาแมนเดอร์ มันอันตรายมาก มันจะอาศัยอยู่ในเขตที่ร้อนไปด้วยลาวาเท่านั้น และหากใครไปรบกวนมัน มันจะจัดการกับผู้บุกรุกอย่างบ้าคลั่ง

คุณสมบัติ: อีลิตบอสตนนี้เป็นบอสที่อันตรายมาก เป็นไปไม่ได้ที่จะจัดการมันด้วยตัวคนเดียว ในอาณาเขตที่เป็นธาตุไฟนั้นมันจะกลายเป็นสิ่งที่ไร้ทางต่อกรอย่างแท้จริง

ทุกๆ คนข้ามสะพานมาแล้วยืนอยู่ที่ขอบของพื้นที่นั้นโดยไม่ได้พูดอะไร

ร่างของเจ้าแห่งสลาแมนเดอร์ใหญ่พอๆ กับภูเขาขนาดเล็ก พวกเขายืนนิ่งโดยไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี และถ้ายึดตามคำอธิบาย… เจ้าแห่งสลาแมนเดอร์ก็ถือว่าต่อกรด้วยยากสุดๆ ยิ่งในสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อมันขนาดนี้ด้วยแล้ว

“พลังโจมตี 180.. ไม่มีใครต้านการโจมตีนั้นได้แน่… ต่อให้ที่นี่ไม่ใช่พื้นที่พิเศษก็คงต้องใช้คนมากกว่านี้สักเกือบๆ หมื่นคนได้มั้ง…”

มันเป็นปกติของบอสที่อยู่ในโซนเขตพิเศษ และความสามารถของบอสก็จะเพิ่มขึ้นตามความแข็งแกร่งของคนที่เข้ามาในโซน จึงเลยยิ่งทำให้ยากกว่าบอสทั่วๆ ไปเป็นอย่างมาก

ตามปกติแล้วผู้เล่นที่เข้ามาในโซนจะมีเลเวลมากกว่าเลเวลของโซน เช่นเดียวกับอุปกรณ์ก็จะมีประสิทธิภาพสูงมากกว่าปกติ แต่ตอนนี้ทุกคนที่อยู่ที่นี่เลเวลต่ำ และไอเทมก็ยังไม่แข็งแกร่งพอทั้งนั้น ยกเว้นเซียวเฟิง ซึ่งนั่นทำให้ความสามารถห่างชั้นกับบอสมากทีเดียว

ถึงเจ้าแห่งสลาแมนเดอร์จะตัวเล็กกว่าบอสสลาแมนเดอร์ตัวก่อนหน้า แต่ตัวมันก็ยังใหญ่เท่าๆ กับภูเขา ผิวหนังของมันนั้นปริแตกออกทุกครั้งที่มันหายใจ แล้วเนื้อภายในของมันที่เห็นตามรอยปริแตกต่าง ๆ ก็แดงฉานราวกับแมกม่า

“เตรียมตัวจัดการมันอย่างสุดกำลัง ถ้าพวกเรายังทำไม่ได้พวกอเมริกาเหนือก็คงทำไม่ได้เหมือนกัน เพราะตอนนี้พวกเราทั้งหมดยังคงเลเวลน้อยและไอเทมก็ยังไม่พร้อมมากนัก”

เล่าสวีนั้นถอนหายใจออกมา คนอื่นๆ ก็รู้สึกไม่ต่างกับเขามากนัก

“เรียกสัตว์เลี้ยงออกมาแล้วรวบรวมข้อมูลให้มากกว่านี้กันก่อน และถึงปล่อยไว้ พวกสัตว์เลี้ยงก็คงโจมตีได้เองอยู่แล้ว”

สิ้นเสียงของเล่าสวี แสงสว่างจำนวนมากก็ปรากฏในกลุ่มผู้เล่น หลังจากที่แสงหายไปก็ปรากฏเหล่าสัตว์เลี้ยงเต็มไปหมด

สัตว์เลี้ยงสามารถช่วยโจมตีบอสได้ก็จริง แต่ถ้าเกิดว่าตายไปจะใช้เวลา 24 ชั่วโมงในการฟื้นคืนชีพ ดังนั้นพวกผู้เล่นจึงไม่นิยมเรียกสัตว์เลี้ยงออกมาช่วยสู้ ยกเว้นว่าจะเป็นบอสตัวสุดท้ายที่พวกเขาต้องสู้

“ท่านฮีลเลอร์ไม่เรียกสัตว์เลี้ยงออกมาเหรอ? ผมจำได้ว่าคุณมีสัตว์เลี้ยงระดับเทพอยู่ในการครอบครองไม่ใช่เหรอ?”

สัตว์เลี้ยงที่พวกเขาแนวหน้าใช้นั้นไม่ใช่พวกไก่โง่ๆ ที่ระบบให้มา กว่าครึ่งนั้นเป็นสัตว์เลี้ยงระดับเขียว ส่วนอีก 2 ตัวนั้นเป็นระดับน้ำเงิน

ตอนนี้พวกเขาทุกคนเรียกสัตว์เลี้ยงของตัวเองออกมากันแล้วตามคำเตือนของเล่าสวี ยกเว้นเซียวเฟิงที่ยังคงยืนนิ่ง คนอื่นๆ จึงถามเขาด้วยความแปลกใจ

“ฉันมีเหตุผลบางอย่างที่จะไม่ใช้มันน่ะ” เซียวเฟิงยอมรับออกมาตรงๆ

“ทำไมไม่เรียกออกมาล่ะ? หรือว่าทำตายไปก่อนหน้านี้? นอกจากว่าจะเข้าไปในโซนเลเวลสูงแล้วสู้จนสัตว์เลี้ยงของตัวเองตาย ฉันไม่แปลกใจเลยว่าทำไมนายเก็บเลเวลได้เร็วขนาดนี้” ฉันคือพาลาดินแห่งการรักษาพูดถากถาง

“ก็แบบนั้นแหละนะ” เซียวเฟิงไม่ได้ใส่ใจคำพูดของอีกฝ่าย เพราะมันก็มีส่วนจริงอยู่บ้าง เขตของวิหารแห่งแสงเป็นโซนเลเวลสูงจริงๆ น่ะแหละ

“น่าเสียดายนะ สัวต์เลี้ยงระดับเทพนั้นมีพลังชีวิตตั้งกว่า 1,000 หน่วยแท้ๆ ถ้ามีมันล่ะก็งานน่าจะง่ายกว่านี้แน่ๆ” เล่าสวีส่ายหัวอย่างเสียดายแล้วพูดต่อไป “งั้นมาเริ่มกันเลย ใช้สัตว์เลี้ยงคอยช่วยต้านรับความเสียหาย จังหวะนั้นให้นักรบสายป้องกันคอยโจมตีกลับไปด้วย อย่ายืนรับความเสียหายพร้อมๆ กันเด็ดขาด! ให้ใช้บัฟด้วย และยืนห่างๆ กันเอาไว้!”

เล่าสวีแจกงานให้กับทุกคนตามความสามารถ แล้วทุกคนก็ทำตามที่เขาสั่งไว้ทันที ผู้เล่นแนวหลังแบ่งออกเป็น 2 แถวยืนขนาบข้าง พวกเขาได้รับบัฟทั้งหมด

“ลุยได้เลย!”

ทันทีที่ได้รับคำสั่ง ไนฟและสัตว์เลี้ยงจึงเข้าโจมตีบอสพร้อมๆ กัน เพราะเขาแข็งแกร่งที่สุดในทุกคนที่รับหน้าที่เป็นแนวหน้าแล้ว

“ฮูววววววว!” ดวงตาของเจ้าแห่งสลาแมนเดอร์เบิกกว้าง แล้วมันก็ตื่นขึ้นมาในทันที ก่อนที่มันจะกวาดสายตาแล้วคำรามขึ้นไปข้างบน

ร่างยักษ์ราวกับภูเขานั้นยกตัวขึ้น มันหันหัวกลับมา แล้วจึงเตะขาหน้าของมันใส่ไนฟและสัตว์เลี้ยง

“โครม!”

ไนฟก้มหัวหลบการโจมตีนั้น โดยยังคงพุ่งเข้าใส่บอสต่อไป แต่สัตว์เลี้ยงของเขาไม่ได้โชคดีแบบนั้น กระต่ายฟันยักษ์ที่โดนเตะพุ่งตามแรงเข้าใส่ผนังถ้ำราวกับโดนรถชน ก่อนจะร่วงลงกับแมกม่าแล้วสลายหายไป

“พวกมันตายแล้ว! อย่าตกลงไปในแม่น้ำแมกม่าเด็ดขาดเลยนะ!” เจ้านายของสัตว์เลี้ยงที่เพิ่งตายไปตะโกนขึ้นมาทันที

สัตว์เลี้ยงอีกตัวที่ตามมาติดๆ คือหมียักษ์ของเล่าสวี และเพราะมันตัวใหญ่จึงแข็งแรงมากจนทำให้ไม่ตกไปที่แม่น้ำแมกม่า แค่กระเด็นกลับมาเท่านั้น แต่พลังชีวิตของมันก็เหลือแค่ครึ่งเดียวแล้วภายใต้การโจมตีในครั้งนี้

“ความเสียหายจากท่าแบบนั้นแรงถึง 200 หน่วยเชียวเหรอ! ไนฟจะต้านได้ไหม ?”

พลังชีวิตของหมียักษ์นั้นมีอยู่แค่ 300 เล่าสวีที่เห็นอย่างงั้นจึงถอยออกมาทันทีแล้วหันไปถามไนฟ

“ไม่ลองไม่รู้!”

ไนฟพูดออกมาอย่างไม่มั่นใจ ตอนนี้เป้าหมายในการโจมตีของบอสนั้นมาอยู่ที่เขาแล้ว มันยกขาหน้าขึ้นมาแล้วกระทืบใส่ไนฟทันที

ไนฟกลิ้งตัวถอยออกมาจากการโจมตี ทำให้การโจมตีของบอสพลาดเป้า แต่พื้นที่ถูกกระทืบสั่นไหวราวกับมีแผ่นดินไหว ทำให้ไนฟที่ยืนอยู่ใกล้กระเด็นจนตัวลอย และตอนที่ลอยอยู่ในอากาศนั่นเอง บอสก็ได้ถีบใส่จนเขาลอยออกมาอย่างไร้ทางต่อต้าน

แต่โชคดีที่ไนฟเตรียมตัวไว้แล้ว เขายกโล่ขึ้นมาเพื่อป้องกันการโจมตีของบอสแต่ก็ยังคงรับความเสียหายอันหนักหน่วงอยู่ดี

-113!

“ชิ! นี่แค่สะกิดยังเจ็บหนักขนาดนี้! คงต้องให้ทุกคนช่วยแล้วล่ะ!”

ไนฟยอมแพ้ในทันที และหลังจากที่ฟื้นฟูพลังชีวิตเสร็จเขาก็ตะโกนออกมา

แต่ว่าไม่ต้องรอให้เขาพูดแบบนั้น เพราะตอนที่ไนฟกระเด็นจากการโจมตีก็มีนักรบอีกคนเข้าโจมตีทันที

“ฮูวววววววว!”

ตอนนี้เจ้าแห่งสลาแมนเดอร์เริ่มที่จะโกรธแล้ว มันอ้าปากกว้างแล้วพ่นไฟออกมา ทำให้ร่างของผู้เล่นคนนั้นโดนไฟคลอกในทันที

“บัดซบ!”

พลังชีวิตของนักรบคนนั้นแทบจะหมดในทันที

“ระวังด้วย! บอสตัวนี้โจมตีได้ทั้งกายภาพและเวทย์พร้อมๆ กัน!”

พลังชีวิตของไนฟที่ใกล้จะหมดกลับมาเต็มในทันที เขารีบใช้สกิลยั่วยุเพื่อดึงดูดการโจมตีของบอส ก่อนจะตะโกนสั่งแนวหลังโดยไม่ได้หันมามอง

“บอสพุ่งเป้ามาที่ฉันแล้ว! จัดการได้เลย!”

สิ้นเสียงนั้นทุกคนต่างโจมตีใส่บอสด้วยทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเขามีทันที

-14!

-24!

-32! คริติคอล!

-19!

“พลังป้องกันมันสูงเกินไป!” ความเสียหายที่ทำได้นั้นต่ำมาก พวกผู้เล่นแนวหลังจึงต่างมีสีหน้าคร่ำเครียด

-109!

-88!

-20!

-18!

ไนท์ คูนเนอร์กับแนวหน้าคนอื่นๆ ต่างลอบเข้าโจมตีบอส …และทั้งที่ไนท์ คูนเนอร์ทำความเสียหายได้รุนแรงมาก แต่คนอื่นๆ กลับทำได้เบาอย่างน่าใจหาย

ถึงเลขความเสียหายจำนวนนับไม่ถ้วนจะปรากฏขึ้น แต่พลังชีวิตของบอสแทบไม่ลดลงเลย

“โชคดีที่ยังสร้างความเสียหายได้บ้าง! ถึงจะช้าก็ตาม! อย่าลืมที่จะระวังการโจมตีของบอสด้วย!”

ถึงเล่าสวีจะกระวนกระวาย แต่สิ่งที่เขาทำต่อไปก็คือการให้กำลังใจอยู่ดี

“เราต้องการคนมากกว่านี้! ตอนนี้แทบจะต้านไม่อยู่แล้ว!”

ไนฟรีบตะโกนขึ้นมา ตอนนี้พลังชีวิตของเขาเหลือแค่ครึ่งเดียวแล้ว หลังจากใช้สกิลยั่วยุจนดึงการโจมตีของบอสมาได้แล้ว บอสก็ทั้งตีทั้งพ่นไฟใส่จนไนฟต้องหลบการโจมตีไปมาราวกับลิง แต่การโจมตีนั้นต่อเนื่องเกินไปจนในที่สุดเขาก็หลบไม่พ้นจนได้ ทำให้ร่างของไนฟโดนระเบิดและแทบจะตายในพริบตาที่โดน

“ฉันมาแล้ว!”

นักรบอีกคนรีบเข้ามาช่วยทันที เขาช่วยใช้สกิลดึงการโจมตีของบอสไปที่ตัวเอง ตอนนี้นักรบ 3 คนกำลังยืนล้อมรอบบอสอยู่ พวกเขาต่างผลัดกันรับการโจมตี

พวกเขาทั้ง 3 คนนั้นรุมเข้าโจมตีบอสพร้อมๆ กัน ผลัดกันต้านการโจมตีคนละ 10 วินาที และคนทั้งสามก็คงสามารถรับมือได้ไปอีกสักพัก ตราบใดที่ยังไม่มีใครโดนจัดการไปซะก่อน

“ฮูวววววว!”

แต่ตอนนี้บอสสลาแมนเดอร์กลับเริ่มที่จะคลั่งแล้วจากการที่โดนผลัดกันรับการโจมตี ทันใดนั้นมันก็ลุกขึ้นมายืน 2 ขาและขดตัวเข้าไปราวกับว่าเป็นลูกบอล ก่อนที่มันจะกลิ้งมาทางกลุ่มคนอย่างรวดเร็ว

“ถอยออกมาเร็ว!”

พวกแนวหน้าต่างหลบกันอุตลุด ปล่อยให้การโจมตีของมันพุ่งไปต่อที่แนวหลัง

เจ้าแห่งสลาแมนเดอร์พุ่งเข้าโจมตีแนวหลังที่ตอนนี้ตื่นตระหนกกันจนหน้าซีด พวกเขารีบหนีในทันที แต่ทว่าพวกเขาก็ลืมไปว่าข้างหลังเป็นแมกม่า จึงมีคนหนึ่งในนั้นกระโดดลงไปแล้วตายทันที มองไม่เห็นแม้แต่กระทั่งศพด้วยซ้ำ

“ไอ้บื้อ! นี่โง่รึเปล่าเนี่ย?” ฉันคือพาลาดินแห่งการรักษาสบถขึ้นมา ส่วนคนในกลุ่มต่างก็ทำหน้าสิ้นหวัง ดูแล้วน่าขำมาก

“รีบกลับมาเกิดใหม่เร็ว! ระหว่างทางที่กลับมาอย่าไปสู้กับมอนสเตอร์เชียว!”

เล่าสวีตะโกนบอกคนอื่นๆ “ถ้าเกิดตายระหว่างทางให้รีบกลับมา พยายามอย่าต่อสู้กับมอนสเตอร์ระหว่างทางเชียว!”

“นักรบโล่! รีบช่วยเหลือพวกเขาเร็ว! บอสจะใช้สกิลแล้ว!”

ตอนนั้นจู่ๆ สลาแมนเดอร์ก็หยุดกลิ้ง มันหยุดอยู่ที่ขอบของที่ราบโดยไม่ได้ตกลงไปในแมกม่า ไนฟและแนวหน้าคนอื่นๆ จึงรีบติดตามไปในทันที ขณะเดียวกันพวกที่โจมตีระยะไกลต่างก็ใช้โอกาสนี้ตั้งขบวนใหม่อยู่อีกด้านของพื้นที่ราบ