ภาคที่ 1 บทที่ 92 เลเวลอัพในคืนเดียว

เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁]

บทที่ 92 เลเวลอัพในคืนเดียว

“วูบ”

ลำแสงสีทองส่องประกาย แล้วตัวบอสของแผนที่ระดับ 3 ก็ปรากฏตัวออกมา

“พวกเราจัดการมัน!”

กลุ่มผู้เล่นรีบกระจายกำลังห้อมล้อมเจ้าสัตว์ประหลาดระดับบอสประจำแผนที่ทันที

แต่ในทันใดนั้น กลับมีคมดาบสาดประกายออกมาจากกลุ่มผู้เล่น

“ฉัวะ!”

หัวของสัตว์ประหลาดขาดกระเด็น ร่างกายของมันค่อย ๆ เลือนหายไปอย่างเชื่องช้า

กลุ่มผู้เล่นที่ยืนอยู่โดยรอบได้แต่มองหน้ากันด้วยความงงงัน

“เวรเอ๊ย ฝีมือใครวะ?”

“บอกมาเดี๋ยวนี้ว่าเป็นฝีมือใคร? ทำไมถึงเอาคะแนนไปคนเดียว?”

“ใครเป็นคนทำ?”

“ติ๊งงง…”

ได้ยินเสียงแจ้งเตือนการอัพเลเวลดังขึ้นในกลุ่มคน

กลุ่มผู้เล่นรีบหันหน้ามองพวกเดียวกันเองเลิ่กลั่ก

และพวกเขาก็พบว่ามีหนึ่งในกลุ่มคนของตนเองได้อัพเลเวลขึ้นมาแล้ว!

แต่สุดท้าย กลับไม่มีใครหาเจอว่าผู้เล่นที่ได้รับการอัพเลเวลนั้นคือใครกันแน่

“หรือว่ามีคนนอกแอบแฝงตัวเข้ามา?”

หลายคนเริ่มกวาดตามองรอบตัว แต่ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติ

“แม่งเอ๊ย อย่าให้รู้นะว่าเป็นใคร ไม่งั้นล่ะก็…”

กลุ่มผู้เล่นพร้อมใจกันระเบิดเสียงคำรามด้วยความโกรธแค้น แต่กลับมีบางส่วนที่แอบคิดในใจว่า “คนที่เล่นเก่งขนาดนี้ เราต้องขอเป็นเพื่อนกับเขาให้ได้!”

ในเมื่อสัตว์ประหลาดตัวบอสถูกฆ่าตายไปแล้ว พวกเขาก็ทำได้เพียงไล่ฆ่าสัตว์ประหลาดตัวอื่น ๆ เท่านั้น

ณ เขตแผนที่ระดับ 4

ซูเย่จัดการสัตว์ประหลาดตัวบอสได้ไม่มีปัญหา

จากนั้น เขาก็เดินทางไปยังแผนที่ระดับ 5

ราชากบปีศาจถูกสังหารอย่างง่ายดาย

ใช้เวลาไม่นานนัก ซูเย่ก็อัพเลเวลขึ้นมาอยู่ในระดับ 6 ได้สำเร็จ เข็มกลัดทองคำที่ติดอยู่บนหน้าอกแสดงหมายเลข 6 โดดเด่นสะดุดตา ชายหนุ่มก้มมองหน้าอกของตนเอง แล้วก็ต้องขมวดคิ้วเล็กน้อย

“ไม่ได้การ เราไม่ควรอัพเลเวลเร็วเกินไป เดี๋ยวทุกคนจะสงสัยเอาได้ ดีไม่ดีอาจจะผิดสังเกตจนรู้ว่าเรากับผู้เล่น X คือคนคนเดียวกัน”

เขาต้องลดระดับความเร็วในการฆ่าสัตว์ประหลาดลงบ้างแล้ว

ซูเย่เปิดแผนที่ตรวจสอบดู และพบว่าแผนที่ระดับ 20 ยังไม่เปิดให้เข้าเล่น

ชายหนุ่มกดปิดแผนที่ และเปิดรายชื่อเพื่อนที่เข้าร่วมเล่นเกมนี้ จากนั้นเขาก็กดค้นหาไอดีของจินฟานกับซูชือ

‘อาชาผู้หล่อเหลา’ เป็นชื่อไอดีของซูชือ

‘ยอดโคผู้แข็งแกร่ง’ เป็นชื่อไอดีของจินฟาน

ซูเย่ได้แต่ถอนหายใจ

ไม่ต้องแปลกใจอีกแล้วว่าชื่อดี ๆ หายไปไหนหมด…

ห่างออกไปไม่ไกล

ซูชือกับจินฟานซึ่งมีเลเวลอยู่ในระดับ 20 กำลังออกล่าสัตว์ประหลาดเพื่อเก็บอุปกรณ์ ตอนที่พวกเขาได้รับคำขอเป็นเพื่อนโดยไม่ทันตั้งตัว ทั้งสองหนุ่มก็รู้ทันทีว่าจะต้องเป็นซูเย่อย่างแน่นอน พวกเขารีบตรวจสอบเลเวลของเพื่อนร่วมห้อง และพบว่าซูเย่เพิ่งจะอยู่เลเวล 6 เท่านั้น

“ทำไมนายเพิ่งอยู่เลเวล 6 เองเนี่ย?”

ซูชือส่งข้อความเสียงไปสอบถาม “ตลอดเวลาทั้งเดือนที่ผ่านมา นายเอาแต่เดินเล่นชมนกชมไม้อยู่ในป่าจริง ๆ สินะ ต่อให้เดินเล่นอย่างเดียวก็เถอะ อย่างน้อยก็สมควรอยู่เลเวล 10 แล้วไม่ใช่เหรอ?”

“รีบ ๆ อัพเลเวลขึ้นมาเหอะวะ นายไม่มีเวลาให้ทำตัวเรื่อยเปื่อยอีกแล้วนะ”

จินฟานเองก็ส่งข้อความเสียงมาทักทายเช่นกัน

เมื่อได้รับข้อความจากเพื่อนทั้งสอง ซูเย่ก็ยิ้มเล็กน้อย และเริ่มต้นอัพเลเวลต่อไป

คืนนี้ ชายหนุ่มค่อย ๆ เลื่อนระดับขึ้นมาถึงเลเวล 8 อย่างเชื่องช้า

“อัพมาถึงเลเวล 8 ในคืนเดียว คงไม่มีใครผิดสังเกตหรอกมั้ง”

ซูเย่คิดในใจขณะกดออกจากระบบเกมโดยไม่ปรึกษาใครทั้งสิ้น

ในเวลาเดียวกันนั้น ณ ห้องพักแห่งหนึ่งในเขตศูนย์การค้า…

หวังเหากำลังเบิกตาโตอ่านข้อมูลของชายหนุ่มที่ชื่อซูเย่ด้วยความเหลือเชื่อ

“หมอนี่แค่คืนเดียวก็อัพได้ถึง 8 เลเวลรวด เหมาะสมที่จะนำมาเป็นผู้ฝึกยุทธ์มากจริง ๆ แบบนี้คงต้องแจ้งเตือนให้ทางเบื้องบนอนุมัติเสียแล้ว”

แต่นี่ก็คงเป็นเพียงเรื่องดีเรื่องเดียวที่ทำให้หวังเหาพอจะดีใจได้บ้าง เพราะคดีที่เขาสืบ ยังคงตามหาตัวผู้ขโมยหมวก VR ไม่พบอยู่ดี

“เจ้า X ความแค้นระหว่างเราไม่จบแค่นี้แน่ อย่าลืมว่านายขโมยหยกปราณบริสุทธิ์ของฉันไปด้วย…”

คืนต่อมา ซูเย่สวมหมวก VR ใบใหม่เข้าสู่โลกแห่งเกมเป็นคืนที่สองติดต่อกัน

เขาบังเอิญเจอตัวบอสแรคคูนของแผนที่ระดับ 10 และสามารถสังหารได้ในเวลาเพียงพริบตาเดียว ซูเย่จึงเลื่อนระดับจากเลเวล 8 ขึ้นสู่เลเวล 10 ได้โดยไม่ต้องเหนื่อยแรง

จากนั้น เขาก็เดินเข้าสู่แผนที่ระดับ 11

หนึ่งชั่วโมงผ่านไป

“นายอยู่ที่ไหนเนี่ย? มาเจอกันหน่อยสิ”

ซูชือส่งข้อความเสียงมาหาซูเย่

“อยู่ในสวนสัตว์อสูร”

ซูเย่ตอบกลับไปพร้อมส่งที่อยู่ปัจจุบันของตนเองให้แก่ซูชือ

ไม่นานหลังจากนั้น เพื่อนรักทั้งสองคนก็มาปรากฏกายอยู่ในเขตสวนสัตว์อสูร

ซูเย่สามารถมองเห็นซูชือกับจินฟานได้ตั้งแต่ระยะไกล และดูเหมือนว่าเพื่อนร่วมห้องทั้งสองคนของเขาจะภูมิใจกับเข็มกลัดที่มีตัวเลข 20 ซึ่งติดหราอยู่บนหน้าอกมากทีเดียว

ซูชือกับจินฟานเดินเข้ามาพร้อมกับกวาดสายตาสำรวจผู้เล่นคนอื่นรอบบริเวณ

“ไอ้เพื่อนยาก” ซูชือเดินเข้ามาสวมกอดซูเย่อย่างรักใคร่ พลางพูดว่า “นายอยากอัพเลเวลเร็ว ๆ ไหม เดี๋ยวฉันจะพานายไปล่าสัตว์ประหลาดเอง!”

พูดจบแล้วซูชือก็หันหน้ามองกลุ่มผู้เล่นคนอื่น ๆ ที่ยืนรวมตัวกันอยู่รอบบริเวณอีกครั้ง

“พวกฉันเพิ่งไปฆ่าตัวบอสระดับ 20 มา แต่น่าเสียดายที่ไม่เหลืออุปกรณ์อะไรมาฝากนายแล้วว่ะ”

จินฟานเงยหน้าขึ้น เจตนาพูดออกมาเสียงดังกว่าปกติ

แน่นอนว่าคำพูดของเขาย่อมทำให้กลุ่มผู้เล่นคนอื่น ๆ ที่อยู่ในบริเวณนั้นต้องอุทานออกมาด้วยความตกตะลึง

“สามารถฆ่าสัตว์ประหลาดระดับ 20 ได้ง่ายดายขนาดนี้ สมแล้วที่เป็นผู้เล่นเลเวล 20 ฉันล่ะอิจฉาในความเก่งกาจแบบนี้เหลือเกิน”

“พวกเราดูระดับของทั้งสองคนนั้นสิ นับดูในเกมนี้ พวกเขาเป็นยอดเซียนได้เลยนะ”

“เราเดินเข้าไปขอฝากตัวเป็นลูกศิษย์พวกเขาดีไหม”

“ท่านเทพทั้งสอง ได้โปรดยอมรับข้าน้อยเป็นลูกศิษย์ด้วย”

“พวกเราคุกเข่าลง”

“ท่านเทพทั้งสอง ช่วยพาเราไปอัพเลเวลด้วยได้ไหมครับ?”

ในขณะนี้

มีผู้เล่นจำนวนมากเดินเข้ามาห้อมล้อมจินฟานกับซูชือ

ทุกคนต่างก็ขอร้องอ้อนวอนให้สองหนุ่มช่วยเหลือตนเองอัพเลเวล

ทั้งสองคนต่างก็เชิดหน้าขึ้นอย่างวางมาด

“นั่นไม่ใช่หน้าที่ของพวกเราสักหน่อย”

“แต่ถือว่าเราจะบอกให้เอาบุญก็แล้วกันนะ”

ซูชือพูดด้วยน้ำเสียงของผู้เชี่ยวชาญ “สิ่งสำคัญที่สุดในเกมนี้คือ การพึ่งพาความสามารถของตนเองอัพเลเวลให้ได้ ถ้าพวกนายสามารถอัพเลเวลได้ทันเวลาที่กำหนด ทางผู้ผลิตเกมก็จะมีของรางวัลพิเศษมอบให้ด้วย พวกนายไปลุ้นเองก็แล้วกันว่าของรางวัลเหล่านั้นคืออะไร”

พูดจบ

ไอ้ลูกคุณหนูตัวแสบก็พยักหน้าส่งสัญญาณบอกซูเย่ให้เดินไปที่อื่นกันเถอะ

ซูเย่เฝ้ามองเพื่อนทั้งสองคนวางมาดใส่คนอื่นโดยไม่พูดอะไร

แต่เดินกันออกมาได้เพียงไม่กี่ก้าวเท่านั้น

ซูชือก็หยุดชะงักแล้วหันกลับมามองเข็มกลัดที่อยู่บนหน้าอกของซูเย่ด้วยสีหน้าตกตะลึง

เหมือนเขาได้ค้นพบเรื่องราวที่น่าประหลาดใจบางอย่าง

เพราะหมายเลขที่อยู่บนเข็มกลัดของซูเย่เป็นหมายเลข 12

“เฮ้ย!”

“นี่มันอะไรกันครับเนี่ย?”

ซูชือยกมือชี้ไปที่เข็มกลัดบนหน้าอกซูเย่และพูดว่า “เมื่อคืนนี้นายเพิ่งอยู่เลเวล 8 เองไม่ใช่เหรอ? ทำไมวันนี้ถึงขึ้นมาอยู่เลเวล 12 ได้แล้วล่ะ?”

“อย่าบอกนะว่าเพิ่งเข้าเล่นเกมคืนนี้ นายก็อัพขึ้นมาได้สี่เลเวลแล้ว?”

จินฟานถามด้วยความไม่อยากเชื่อ “ทำไมอัพเร็วแบบนี้วะ?”

“ก็ไม่เห็นมันจะยากตรงไหนนี่นา”

ซูเย่ยักไหล่เหมือนไม่เห็นเป็นเรื่องสำคัญ

หลังพูดคำนั้นออกมา

สายตาของผู้เล่นเกมคนอื่น ๆ ก็จ้องมองมาที่เขาเป็นตาเดียว

แม้แต่ซูชือกับจินฟานก็พูดอะไรไม่ออกอีกแล้ว

ในเวลาเดียวกันนั้น

ผู้เล่นเกมจำนวนมากก็กดเรียกดูชื่อไอดีของซูเย่ให้แสดงขึ้นมาเหนือศีรษะของเขา

‘เวรกรรม ทำไมถึงตั้งชื่อยากเย็นขนาดนี้ฮะ’

เมื่อเห็นชื่อไอดีของเพื่อนร่วมห้อง

ซูชือพูดอะไรไม่ออก

จินฟานก็ตกอยู่ในอาการอึ้งกิมกี่เหมือนกัน

ชื่อตัวละครมีให้ตั้งเยอะแยะ ทำไมซูเย่ถึงได้ตั้งชื่อที่ฟังดูสิ้นคิดขนาดนี้?

อย่างน้อยถ้านับดูในเรื่องความสามารถด้านต่าง ๆ จินฟานกับซูชือก็รู้แล้วว่าตนเองมีความสามารถในการตั้งชื่อตัวละครเหนือล้ำมากกว่าซูเย่หลายเท่านัก!