เล่ม 1 ตอนที่ 98 ยาวิเศษยอดราชัน

สลับชะตา ชายามือสังหาร

ซือหม่าโยวเย่ว์รับยาวิเศษมาแล้วมองดูยาลูกกลอนสีดำขลับในมือ คิดไม่ถึงว่ายาวิเศษพลังวิญญาณที่หมัวซาหลอมขึ้นมาส่งๆ ล้วนเป็นขั้นสามทั้งสิ้น เช่นนั้นที่แท้แล้วระดับทักษะการหลอมยาของเขาสูงส่งเพียงใดกันแน่

“ในเมื่อท่านเองก็หลอมยาวิเศษได้ เพราะเหตุใดจึงต้องให้ข้าช่วยท่านหลอมยาด้วยเล่า” เมื่อนึกถึงที่เขาบอกว่าต้องการให้เธอช่วยหลอมยาวิเศษ ในใจซือหม่าโยวเย่ว์จึงเกิดความสงสัยไม่น้อย

“ถึงอย่างไรข้าก็เป็นร่างวิญญาณ ยังพอทนรับการหลอมยาวิเศษขั้นต่ำพรรค์นี้ได้ ถ้าหากหลอมยาระดับสูงๆ ข้าย่อมมีไอมารไม่พอสำหรับการผนึกยาหรอก”

“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้นี่เอง” เธอเก็บยาวิเศษลงไปแล้วลุกขึ้นยืนก่อนจะเอ่ยว่า “พวกเราเริ่มกันเถิด”

หมัวซาไม่รู้ว่าซือหม่าโยวเย่ว์กำลังคิดอะไรอยู่ จึงเดินนำเธอไปยังห้องหลอมยา

เจ้าวิญญาณน้อยรออยู่ที่นั่นก่อนแล้ว รู้ว่าตอนนี้ซือหม่าโยวเย่ว์กำลังเป็นกังวล มันจึงมองเธอปราดหนึ่งโดยไม่พูดอะไร

“ข้าจะเริ่มต้นเดี๋ยวนี้ พอข้าบอกให้เริ่ม เจ้าก็เริ่มใส่พลังวิญญาณเข้าไปข้างในเลยนะ หากข้าไม่บอกให้หยุด เจ้าก็ห้ามหยุด มิฉะนั้นคงจบเห่แน่ ตอนที่พลังวิญญาณไม่พอก็ใช้ยาวิเศษช่วย” หมัวซาเอ่ยแนะนำอย่างหาได้ยากยิ่ง

“อืม” ซือหม่าโยวเย่ว์พยักหน้าแล้วเบนสายตามายังเตาหลอมยา

คราวนี้ถึงแม้จะบอกว่าหลอมยาวิเศษให้ท่านปู่ แต่ก็เป็นโอกาสในการเรียนรู้ด้วย ยิ่งดูผู้อื่นหลอมยามาก ก็จะสะท้อนข้อบกพร่องของตัวเอง ช่วยในการพัฒนาได้

คล้ายว่าหมัวซาเองก็มีความคิดเช่นเดียวกัน ดังนั้นจึงพยายามชะลอความเร็วอย่างที่สุดระหว่างกระบวนการหลอมยา ให้ซือหม่าโยวเย่ว์ดูแล้วเข้าใจได้ แต่ด้วยเหตุนี้เดิมทีต้องใช้เวลาเพียงแค่สามสี่ชั่วโมงเท่านั้น จึงเนิ่นช้าไปอีกเกือบหนึ่งชั่วโมง

“เริ่มได้” หมัวซาพูด

ซือหม่าโยวเย่ว์เองก็คาดการณ์เอาไว้ว่าใกล้จะต้องผนึกยาแล้ว ดังนั้นจึงได้เตรียมตัวเอาไว้ก่อนแล้ว พอตอนที่หมัวซาบอกให้เริ่ม เธอจึงรวบรวมพลังวิญญาณออกมาแล้วใส่เข้าไปในเตาหลอมยา

เพื่อให้ยาวิเศษมีพลังวิญญาณเจืออยู่ด้วย เธอจึงจำเป็นต้องใส่พลังวิญญาณเข้าไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้นเพียงไม่นานเธอก็รู้สึกได้ว่าพลังวิญญาณในร่างกายไม่เพียงพอเสียแล้ว

ในขณะที่พลังวิญญาณใกล้จะเหือดหายแล้วนั้นเอง เธอก็หยิบยาวิเศษที่หมัวซาหลอมเอาไว้มากิน ยาวิเศษออกฤทธิ์ภายในร่างกายเธออย่างรวดเร็ว เธอรู้สึกว่าพลังวิญญาณที่ว่างโหวงกลับมาเต็มเปี่ยมอีกครั้ง ไม่แน่ว่าพลังภายในยาวิเศษนี้อาจยังดูดซับเข้ามาจากในอากาศอีกด้วย

เดิมทีหมัวซายังเป็นกังวลว่าซือหม่าโยวเย่ว์อาจยังไม่คุ้นชินจนทำให้การใส่พลังวิญญาณขาดตอน แต่เมื่อเห็นเธอใส่พลังเข้ามาด้วยความเร็วคงที่จึงมองเธอด้วยสายตาชื่นชม

เธอกินยาวิเศษลงไปทั้งหมดสองเม็ดแล้วทำต่อไปอีกราวๆ สิบนาที หมัวซาจึงตะโกนให้หยุด ซือหม่าโยวเย่ว์รีบเก็บมือของตัวเองกลับมา  จากนั้นก็ทิ้งตัวลงไปบนพื้นอย่างหมดสิ้นเรี่ยวแรง

หมัวซาหลอมยาต่อไปอีกครู่หนึ่ง รอจนหลอมยาวิเศษเสร็จสมบูรณ์แล้วจึงดับไฟแล้วเก็บเม็ดยามา

ยาวิเศษสีเหลืองทองเม็ดหนึ่งปรากฏสู่สายตาของซือหม่าโยวเย่ว์ สีทองอร่ามตานั้นเป็นสีที่คล้ายจะทำให้เธอมองเห็นความหวัง

“เจ้าพักผ่อนฟื้นฟูพลังวิญญาณในร่างกายที่นี่สักครู่หนึ่งก่อนเถิด” หมัวซาพูด

ซือหม่าโยวเย่ว์พยักหน้าแล้วนั่งขัดสมาธิบำเพ็ญ ตอนนี้พลังวิญญาณในร่างกายของเธอจวนเจียนจะหมดสิ้นแล้ว พลังวิญญาณที่ดูดซับเข้ามาจากอากาศเข้ามาเติมเต็มภายในร่างกายอย่างรวดเร็ว

เธอรู้สึกว่าพลังวิญญาณในร่างกายถูกเติมเต็มอีกครั้ง ความรู้สึกเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังกลับมาอีกครา

ซือหม่าโยวเย่ว์รู้สึกได้ว่าพลังวิญญาณเหล่านั้นดูคล้ายจะไม่เสถียรอยู่บ้าง พลังวิญญาณภายนอกยังคงทะลุเข้ามาภายในร่างกายไม่หยุด

“ความรู้สึกเช่นนี้… กำลังจะเลื่อนระดับแล้วอย่างนั้นหรือ” ซือหม่าโยวเย่ว์เอ่ยพึมพำ “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ลองทดสอบดูดีกว่าว่าจะเลื่อนไปยังระดับหกได้หรือไม่”

ในขณะที่เธอเตรียมจะวางมืออยู่นั้นเอง เจ้าวิญญาณน้อยก็ปรากฏตัวขึ้นที่ห้องหลอมยา ขัดจังหวะการบำเพ็ญของเธอ

“มีอะไรหรือ” ซือหม่าโยวเย่ว์มองเจ้าวิญญาณน้อยพลางเอ่ยถาม

“ข้าจะบอกให้เจ้าอย่าได้สิ้นเปลืองเวลาและพลังจิตเลย” เจ้าวิญญาณน้อยพูด “เจ้ามิอาจเลื่อนระดับภายในมณีวิญญาณได้หรอก ไม่ว่าเจ้าจะดูดซับพลังวิญญาณไปมากมายเพียงใด ก็ได้แต่กักตุนเอาไว้ในร่างกายเท่านั้นแหละ”

“มิอาจเลื่อนระดับได้อย่างนั้นหรือ เพราะเหตุใดเล่า” ซือหม่าโยวเย่ว์ไม่เข้าใจ

“เพราะที่นี่ไม่มีวิถีสวรรค์” เจ้าวิญญาณน้อยพูด

“วิถีสวรรค์…คือสิ่งใดหรือ” ซือหม่าโยวเย่ว์ถามต่อไป

“ข้าเองก็บอกมิได้เช่นกันว่าคือสิ่งใด เจ้าสัมผัสเอาเองแล้วกัน” เจ้าวิญญาณน้อยพูด “ที่นี่ไม่สามารถเลื่อนระดับได้ มิสู้เจ้าออกไปข้างนอก ไม่แน่ว่าอาจสำเร็จก็เป็นได้”

เมื่อนึกถึงสถานการณ์ของซือหม่าเลี่ย เธอก็รู้สึกว่ามิอาจเนิ่นช้าอยู่ที่นี่ได้อีกแล้ว จึงลุกขึ้นไปหาหมัวซา แต่พอเปิดประตูกลับเห็นเขากำลังยืนเอามือไพล่หลังมองดูทิวทัศน์ไกลออกไปอยู่นอกประตู

“เสร็จแล้วหรือ” หมัวซาหันมาถาม

“อืม พวกเราไปกันเถิด” ซือหม่าโยวเย่ว์พูด

หมัวซาพยักหน้า ซือหม่าโยวเย่ว์ออกนำไปก่อนแล้ว

ภายในห้องของซือหม่าเลี่ย ซือหม่าโยวหรานและซือหม่าโยวเล่อมองซือหม่าเลี่ยอย่างเป็นกังวล

“พี่สาม ท่านหมอกับนักหลอมยาที่เชิญมาล้วนบอกว่าไร้หนทางกันทั้งสิ้น ท่านว่าน้องห้าจะมีวิธีอะไรมาช่วยท่านปู่หรือ” ซือหม่าโยวเล่อพูด

ซือหม่าโยวหรานนึกถึงแผ่นหลังของซือหม่าโยวเย่ว์ยามจากไปพลางเอ่ยว่า “ข้าก็ไม่รู้เช่นกัน ตอนนี้พวกเราก็ได้แต่หวังว่าเขาจะคิดหาวิธีอันใดได้แล้วเท่านั้น หวังว่าเขาจะมีวิธีจริงๆ นะ…”

ซือหม่าโยวเล่อรู้สึกว่าซือหม่าโยวหรานพูดคำนี้อย่างแปลกพิกล แต่แปลกตรงไหนนั้นก็บอกไม่ถูกเช่นกัน

เส่าหลิงเคาะประตูสองครั้ง จากนั้นจึงผลักประตูเข้ามาพูดกับคนทั้งสองว่า “คุณชายสาม คุณชายสี่ ดูเหมือนว่าคุณชายห้าจะไม่อยู่ในห้องนะขอรับ”

“น้องห้าไม่อยู่ในห้องอย่างนั้นหรือ” ซือหม่าโยวเล่อพูดอย่างไม่เชื่อ “หากเขาไม่อยู่ในห้องแล้วจะไปไหนได้เล่า”

“ข้าน้อยไปเคาะประตูห้องคุณชายห้า แต่คล้ายว่าในนั้นจะไม่มีเสียงอันใดเลยขอรับ” เส่าหลิงพูด

“น้องห้ากลับไปได้เกือบวันหนึ่งแล้ว ตอนนี้ท่านปู่เหลือเวลาอีกเพียงแค่วันเดียวเท่านั้น แล้วเขาจะไปไหนในเวลาเช่นนี้ได้เล่า” ซือหม่าโยวเล่อพูดอย่างกังวลใจ

“ข้าออกไปหาของมาน่ะสิ” ซือหม่าโยวเย่ว์ปรากฏตัวขึ้นที่ประตูในทันใด ทำให้ทั้งสามคนตกใจจนสะดุ้ง

“น้องห้า เจ้าคิดวิธีช่วยท่านปู่ออกหรือยัง” ซือหม่าโยวหรานถาม

ซือหม่าโยวเย่ว์พยักหน้าพลางเอ่ยว่า “คิดออกแล้ว แต่ข้าต้องการความเงียบสงบ พวกท่านช่วยออกไปสักครู่หนึ่งได้หรือไม่”

ซือหม่าโยวเล่อและซือหม่าโยวหรานประสานสายตากันแวบหนึ่ง ไม่รู้ว่าซือหม่าโยวเย่ว์คิดจะทำเช่นไร

“วางใจได้เลย ข้าจะต้องช่วยท่านปู่กลับมาได้อย่างแน่นอน” ซือหม่าโยวเย่ว์เอ่ยรับรอง “ข้าไม่มีทางปล่อยให้เกิดเรื่องขึ้นกับท่านปู่แน่”

ซือหม่าโยวหรานยืดกายลุกขึ้นมายังข้างกายซือหม่าโยวเย่ว์ คิดจะลูบหัวเธอ แต่ยื่นมือมาถึงกลางทางแล้วก็ปล่อยทิ้งไปก่อนจะเอ่ยว่า “พวกเราจะไปรอเจ้าข้างนอกแล้วกัน”

ซือหม่าโยวเย่ว์พยักหน้า เธอเห็นแววตาของซือหม่าโยวหรานแปลกพิกลอยู่บ้าง ทั้งยังแฝงไว้ด้วยความกระจ่างแจ้ง ทำให้เธออดคิดไม่ได้ว่าเขาค้นพบตัวตนของเธอแล้วใช่หรือไม่

“น้องห้า ฝากท่านปู่ไว้กับเจ้าด้วยนะ!” ซือหม่าโยวเล่อและซือหม่าโยวหรานออกไปพร้อมกัน

ซือหม่าโยวเย่ว์หันไปปิดประตู พลางมองคนหลายคนที่เฝ้ายามอยู่นอกประตูแล้วเอ่ยว่า “วางใจเถิด ท่านปู่รักใคร่ทะนุถนอมข้าถึงเพียงนี้ ตอนนี้ถึงเวลาที่ข้าจะตอบแทนเขาแล้ว”

พูดจบเธอก็ปิดประตูลง

ซือหม่าโยวเล่อเห็นท่าทีเช่นนั้นของซือหม่าโยวเย่ว์จึงพูดพึมพำว่า “น้องห้าโตแล้วจริงๆ ด้วย!”

ซือหม่าโยวหรานมองดูประตูห้องที่ปิดสนิทโดยมิได้แสดงความคิดเห็นอันใดต่อคำพูดของซือหม่าโยวเล่อ

โตแล้วจริงๆ น่ะหรือ หรือจะพูดว่าเปลี่ยนคนไปแล้วดี…

ภายในห้อง ซือหม่าโยวเย่ว์มาที่ข้างเตียงของซือหม่าเลี่ย ความคิดวูบไหวคราหนึ่ง หมัวซาก็ปรากฏตัวขึ้นข้างๆ เธอ

เพราะนอกห้องมีคนอยู่ ซือหม่าโยวเย่ว์จึงมิอาจเอ่ยคำพูดได้ จึงติดต่อกับหมัวซาผ่านสายสัมพันธ์แห่งพันธสัญญา

“หมัวซา เริ่มกันเถิด…”