ตอนที่ 101 หลิ่วอวี่เจ๋อตามจีบหวังเจียเหยา

เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)

ซ่งหงเย่รับสาย “ฉันทำงานอยู่ที่สตาบัคเป็นไง มีข่าวดีแล้วใช่ไหมล่ะ?”

หวังเจียเหยากล่าวอย่างดีใจ “อื้ม ท้องแล้วล่ะ!”

“จริงเหรอเนี่ย! ดีจริงๆ เลย… แหม!”

ซ่งหงเย่ดีอกดีใจแทนเพื่อนสนิทของตนเองที่ตั้งครรภ์

แต่ในทันใดนั้นเองก็ได้ยินเสียงอุทานอย่างตกใจของอีกฝ่าย

จู่ๆ ในสตาบัคก็มีผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังถือแก้วกาแฟ แล้วไม่ทันระวังทำหกใส่เสื้อผ้าบริเวณไหล่ซ้ายของซ่งหงเย่

เดิมทีซ่งหงเย่หัวเสียอย่างมาก แล้วเงยหน้ามองอย่างอารมณ์เสีย ในทันใดนั้นเองก็พบผู้ชายอายุน้อยรูปร่างสูงโปร่งหน้าตาหล่อเหลา ความโกรธบนใบหน้าก็หายไปอย่างไร้ร่องรอยทันที

“เป็นอะไรไป? หงเย่?” พอหวังเจียเหยาได้ยินก็เป็นห่วงเพื่อนสนิทของตนเองขึ้นมา

ซ่งหงเย่คุยกับฝั่งปลายสาย “อ้อ ไม่เป็นไร มีคนทำน้ำหกใส่ฉัน ฉันขอวางก่อน ไว้ค่อยคุยกัน”

พอกดวางสายแล้ว หนุ่มน้อยคนนั้นก็ยังขอโทษซ่งหงเย่อย่างมีมารยาท “ขอโทษด้วยจริงๆ นะครับคนสวย ผมเช็ดให้คุณนะครับ”

หนุ่มรูปหล่อหยิบกระดาษออกมาเช็ดให้ซ่งหงเย่

ซ่งหงเย่มองประเมินหนุ่มน้อยคนดังกล่าว คิดว่าเขาน่าจะเด็กกว่าหล่อนสามถึงห้าปี ใบหน้าหล่อเป๊ะขาวใส ส่วนสูงก็กำลังดีถือเป็นประเภทชายหนุ่มที่หล่อนชื่นชอบ

ซ่งหงเย่กล่าว “หนุ่มน้อย เสื้อตัวนี้ของฉันน่ะแบรนด์กุชชี่เชียวนะ เธอเช็ดสะอาดไป ฉันก็ใส่ซ้ำไม่ได้แล้วนะ”

ชายหนุ่มกล่าว “งั้นผมซื้อให้คุณอีกตัวดีไหมล่ะ? กี่บาทครับ?”

ซ่งหงเย่กล่าวพลางหัวเราะคิกคัก “พูดเรื่องเงินกันดูตลาดล่างมากเลยนะ เธอมาคนเดียวเหรอ? นั่งลงสิ”

ชายหนุ่มนั่งลงตรงข้ามกับซ่งหงเย่อย่างว่าง่าย

ซ่งหงเย่ถามต่อ “สุดหล่อชื่ออะไร?”

ชายหนุ่มยิ้มเขินๆ “ผมชื่อหลิ่วอวี่เจ๋อ”

……

กลางคืน ณ งานเลี้ยงของตระกูลหวัง

เย่เฉินมาถึงวิลล่าเขตซีซาน ทันทีที่เข้าบ้านคนตระกูลหวังก็ทักทายเขาอย่างเป็นมิตร

“พี่เขยมาแล้วเหรอคะ”

หวังหยวนหยวนว่าง่ายขึ้นมามาก

เย่เฉินยิ้มและบีบแก้มยุ้ยๆ ของหวังหยวนหยวนแล้วกล่าว “ในที่สุดก็เรียกพี่เขยสักที ไม่เห็นพี่เป็นที่รักของเธอแล้วใช่ไหมล่ะ?”

ก่อนนี้หวังหยวนหยวนเอาแต่แย่งชิงตนเองกับหวังเจียเหยา ทุกครั้งที่เจอหน้ากันมักจะให้จดหมายรักกับเขาอยู่เสมอ

หวังหยวนหยวนถอนหายใจ “ข้าวสารกลายเป็นข้าวสุกแล้ว ฉันหมดโอกาสแล้วล่ะค่ะ”

“ข้าวสารกลายเป็นข้าวสุกเหรอ?”

เย่เฉินยังไพล่คิดว่าหวังหยวนหยวนใช้สุภาษิตผิดอีก คิดไม่ถึงว่าจะเพิ่งถึงโต๊ะอาหาร หวังเจียเหยาก็บอกข่าวดีกับเขาทันที

“ที่รักคุณจะเป็นพ่อคนแล้วนะ!”

หวังเจียเหยาบอกกับเย่เฉินอย่างมีความสุข

คนตระกูลหวังต่างก็หัวเราะเฮขึ้นมาอย่างมีความสุขแล้วแสดงความยินดีกับเย่เฉิน

เย่เฉินเองก็ดีใจมากเขากอดหวังเจียเหยาแล้วจุมพิตอีกฝ่าย เขามีความสุขอย่างมากที่ตนเองกำลังจะก้าวเข้าสู่อีกช่วงหนึ่งของชีวิต!

ซูหลานเองก็เรียกให้เย่เฉินนั่งลงอย่างมีน้ำใจ แล้วเจ้าหล่อนยิ้มกว้าง “เย่เฉินเอ้ย ชื่อของหลานคงต้องไหว้วานลูกแล้วล่ะ ไม่อย่างนั้นให้คุณปู่ของเธอเป็นคนตั้งแล้วกัน เขาน่าจะต้องมีความรู้มากแน่ๆ!”

“แล้วก็นะ พอได้ยินว่าเจียเหยาตั้งท้อง คนเยอะแยะมากมายต่างก็อยากหมั้นหมายกับเด็กในท้อง! แม่มีเพื่อนคนหนึ่ง…”

ซูหลานยังไม่ทันพูดจบหวังจื้อหย่วนก็ขัดภรรยา “เพื่อนนักเรียนพวกนั้นของคุณน่ะจะไปคู่ควรกับหลานของเราได้ยังไง คุณนี่เหลวไหลจริงๆ!”

ซูหลานเถียงกลับ “เพื่อนนักเรียนของฉันมีเงินโอเคไหม?”

ทั้งสองคนมักจะปะทะคารมกันบ่อยๆ เย่เฉินและหวังเจียเหยาเห็นเป็นเรื่องตลก ฟังเพื่อความเพลิดเพลิน

ตอนที่กินข้าวกันอยู่นั้น จู่ๆ เย่เฉินก็พูดขึ้นมาว่า “อีผิ่นเจียเหยาตอนนี้เป็นยังไงบ้าง? ถ้าเกิดสร้างอีผิ่นเจียเหยาเสร็จก่อนลูกเราจะเกิดก็คงดี”

หวังเจียเหยากล่าว “กำลังราบรื่นเลยล่ะ สถาปนิกของญี่ปุ่นที่เคยใช้ก่อนหน้านี้ฉันไม่ค่อยชอบ สื่อสารกันก็ลำบาก ฉันชอบสถาปนิกของประเทศเรามากกว่า ที่รักคงไม่โกรธฉันใช่ไหมคะ?”

สถาปนิกญี่ปุ่นคนก่อนนั้นเป็นสถาปนิกที่มีชื่อเสียงอย่างมากของประเทศญี่ปุ่น เป็นคนที่เย่เฉินออกหน้าติดต่อเขาแทนหวังเจียเหยา

เย่เฉินกล่าวด้วยรอยยิ้ม “จะได้ยังไง โปรเจกต์นี้คุณเป็นคนรับผิดชอบนี่นา คุณอยากใช้สถาปนิกจากประเทศไหนก็ได้แล้วแต่เลย”

……

บ่ายสองของอีกวัน หวังเจียเหยาได้รับสายจากซ่งหงเย่

“อยู่ที่ไหนจ๊ะเพื่อนรัก?” ซ่งหงเย่ถาม

หวังเจียเหยาตอบ “อยู่ที่ปราสาทราชินีของฉันน่ะสิ”

‘ปราสาทราชินี’ ที่หล่อนพูดถึงก็คืออีผิ่นเจียเหยาเพราะมันถูกตั้งตามชื่อของหญิงสาว ดังนั้นหล่อนจึงเรียกที่นี่ว่าเป็น ‘ปราสาทราชินี’ ของตนเอง

ซ่งหงเย่กล่าว “อยู่รอฉันที่นั่น เดี๋ยวฉันจะไปหา”

ผ่านไปไม่นานนักรถสปอร์ตยี่ห้อแอสตันมาร์ติน one77 รุ่นลิมิเต็ดก็มาจอดเทียบสถานที่ก่อสร้าง ‘อีผิ่นเจียเหยา’

รถยนต์เพิ่งมาถึง หวังเจียเหยาก็พบว่าพนักงานทุกคนในสถานที่ก่อสร้างก็มองกันเป็นตาเดียว

เห็นได้ชัดว่ารถยนต์คันนี้ สะดุดตาอย่างมาก ดึงดูดสายตาของทุกคน

พอเห็นเพื่อนสนิทของหล่อนอย่างซ่งหงเย่เดินลงจากที่นั่งด้านข้างคนขับ หวังเจียเหยาถึงได้เดินไปหา

ในเวลานี้เอง หวังเจียเหยาก็พบว่ามีชายหนุ่มอ่อนวัยรูปร่างสูงโปร่งหล่อเหลาคนหนึ่งเดินลงมาจากฝั่งคนขับรถ

หวังเจียเหยาถามอย่างประหลาดใจ “หงเย่ นี่ใครหรอ?”

ซ่งหงเย่กล่าวด้วยรอยยิ้ม “นี่คือสถาปนิกชื่อดังที่ฉันหามาให้เธอไง เขาชื่อหลิ่วอวี่เจ๋อ!”