บทที่ 135 บททดสอบรอบที่สอง

ไหปีศาจ

บทที่ 135 บททดสอบรอบที่สอง

มีข่าวลือว่าภูตแสงจันทร์เป็นหนึ่งในสัตว์วิญญาณที่เหมาะสมที่สุดที่จะเป็นเพื่อนคู่หู

เนื่องจากสัตว์วิญญาณชนิดนี้สามารถดูดซับแสงจันทร์และเสริมพลังวิญญาณได้อย่างอิสระ

กล่าวคือแม้ว่าจะเป็นสัตว์วิญญาณระดับทอง แต่ก็ถูกกำหนดให้เป็นสัตว์วิญญาณที่มีจะพัฒนาไปเป็นระดับเพชร

แน่นอนว่าบางคนคิดว่ามันไม่มีประโยชน์

ทำไมไม่ไปหาสัตว์วิญญาณระดับเพชรไปเลยทีเดียวล่ะ

ตามหลักการแล้ว

ผู้ใช้พลังวิญญาณสามารถทำพันธสัญญากับสัตว์วิญญาณที่มีแก่นวิญญาณระดับสูงกว่าได้เพียงระดับเดียว นั่นหมายความว่าต้องไปถึงระดับทอง ถึงจะสามารถทำพันธสัญญากับ สัตว์วิญญาณ ระดับเพชรได้

แต่ถ้าทำพันธสัญญากับภูตแสงจันทร์นั่นหมายความว่า เขาจะได้รับสัตว์วิญญาณระดับทองที่มี ศักยภาพความแข็งแกร่งระดับเพชร

ยิ่งฝึกฝนช่องว่างของพลังที่เพิ่มขึ้นก็จะยิ่งโดดเด่นมากขึ้น

ลั่วอู๋มองไปที่ภูตแสงจันทร์และลังเลเล็กน้อย

“มีอะไรเหรอ? หรือจะบอกว่าทำไม่ได้งั้นเหรอ? ทีหลังอย่าเพิ่งคุยโม้โอ้อวด ถ้าทำไม่ได้ จะให้เปลี่ยนเป็นสัตว์วิญญาณระดับเงินแทนไหมล่ะ” เฉินหมิงหยู่ยิ้มเยาะ

ลั่วอู๋กลอกตาของเขา “ คือ…ข้าแค่อยากถามเจ้าว่า เจ้าสามารถจ่ายเงินสำหรับทรัพยากรที่ใช้ในการปรับแต่งสัตว์วิญญาณตัวนี้ได้หรือไม่?

เฉินหมิงหยู่ตกตะลึง

เขาคิดว่าสามารถทำให้ภูตแสงจันทร์เรียนรู้ทักษะก้าวพริบตาได้งั้นเหรอ

มันเป็นเรื่องยากมาก

ที่สำคัญคือต่อให้เฉินหมิงหยู่ เชี่ยวชาญวิชาลับในตอนนี้ นางก็คงไม่สามารถทำให้ภูตแสงจันทร์เรียนรู้ทักษะก้าวพริบตาได้

เฉินซังเทียนกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ข้าสามารถจ่ายเงินสำหรับทรัพยากรที่ใช้ในการปรับแต่งให้ได้ เพราะยังไง ๆ ภูตแสงจันทร์ ตัวนี้ก็เป็นของพวกเรา ถ้าเจ้าทำสำเร็จละก็นะ ”

ลั่วอู๋พยักหน้า “ถ้าอย่างนั้นก็ไม่มีปัญหาอะไร”

ด้วยเหตุนี้ลั่วอู๋จึงพาภูตแสงจันทร์ไปที่ลานหลังร้าน

เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ

เฉินหมิงหยู่ถามด้วยเสียงต่ำ “ท่านปู่คิดว่าเขาจะทำได้ไหม?”

“ ไม่น่า ” เฉินซังเทียนส่ายหัว “แม้ว่าแต่ล่ะสำนักจะมีจุดแข็งและทักษะที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง แต่เขาก็อายุเพียง 18 ปีเท่านั้น แม้ว่าเขาจะเป็นผู้ปรับแต่งพลังวิญญาณระดับสูงจริงๆ ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะบรรลุได้ถึงระดับนั้น นั่นเป็นช่องว่างขนาดใหญ่ของประสบการณ์ของผู้ปรับแต่งพลังวิญญาณระดับสูง ”

การปรับแต่งทุกรูปแบบมีความแตกต่างกัน

แต่หนึ่งรูปแบบอาจมีได้ถึงหมื่นวิธี

ซึ่งในระดับของเฉินซังเทียน เขาเองก็มีมุมมองอย่างละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบของเขา

แม้ว่าเขาจะไม่รู้วิชาลับของสำนักอื่น แต่ด้วยความแข็งแกร่งของเขา เขาสามารถบรรลุผลลัพธ์แบบเดียวกันได้อย่างง่ายดายในรูปแบบของเขาเอง

นี่ไม่ใช่สิ่งที่ผู้ปรับแต่งพลังวิญญาณระดับสูงทั่วไปสามารถทำได้ โดยเฉพาะการช่วยให้ สัตว์วิญญาณระดับทองเรียนรู้ทักษะระดับ A

เฉินซังเทียนยอมรับได้ว่าบนโลกนี้มีคนที่มีพรสวรรค์อันน่าทึ่งเช่นเดียวกับหลานสาวของเขา แต่เขาไม่สามารถยอมรับที่จะมีคนที่มีพรสวรรค์มากกว่าหลานสาวของเขา

เฉินหมิงหยู่พยักหน้า

“เขาจะใช้เวลานานขนาดไหนกันเนี่ย ข้าเบื่อที่จะรอแล้ว” หลังจากนั้นประมาณหนึ่งชั่วโมง เฉินหมิงหยู่ก็เริ่มบ่น

เฉินซังเทียนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องตำหนินาง “จงอดทนนี่เพียงแค่หนึ่งชั่วโมงเอง มันเป็นเรื่องปกติที่จะปรับแต่งสัตว์วิญญาณด้วยเวลาหนึ่งวันถึงสองวันเลยด้วยซ้ำไป”

เฉินหมิงหยู่ไม่พอใจจนเบ้ปากของนาง แต่นางก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ

ที่ปู่ของนางพูดคือความจริง.

แต่มันน่าเบื่อ.

ขณะเดียวกันนั้นลั่วอู๋ก็เดินกลับมาจากลานหลังร้านพร้อมกับแสงอันบริสุทธิ์

“เจ้ากลับมาเร็วจัง” ดวงตาของ เฉินหมิงหยู่สว่างขึ้นเล็กน้อยและโบกมืออย่างพึงพอใจ “เจ้าล้มเหลวสินะ ข้ารู้อยู่แล้ว เจ้าไปพยายามให้เต็มที่กับสัตว์วิญญาณระดับเงินเถอะ ตราบใดที่เจ้าทำสำเร็จ ข้าจะนับให้ว่าเจ้าผ่านรอบแรก”

ลั่วอู๋มองนางเหมือนคนงี่เง่า “ใครบอกเจ้ากันว่าข้าล้มเหลว”

“แล้วเจ้ามาทำอะไรอยู่ที่นี่ล่ะ.

“ก็ในเมื่อข้าปรับแต่งมันเสร็จแล้ว ข้าจะกลับมาก็ไม่ได้รึไง?”

การแสดงออกของเฉินหมิงหยู่ แข็งทื่อเล็กน้อยแล้วถามซ้ำอีกรอบ “เจ้าปรับแต่งเสร็จแล้วงั้นหรือ?”

“แน่นอนสิ” ลั่วอู๋ตอบด้วยท่าทางที่มั่นใจ

เฉินหมิงหยู่ออกคำสั่งต่อสัตว์วิญญาณ จากนั้นนางก็ได้เห็นว่าภูตแสงจันทร์กลายเป็นแสงสีขาวหายไปแล้วก็มาปรากฏขึ้นที่เท้าของเฉินหมิงหยู่

มันคือทักษะ [ก้าวพริบตา]

“เจ้าทำได้อย่างไร … ” เฉินหมิงหยู่ เหวอ ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความประหลาดใจ

เขาทำมันได้สำเร็จจริง ๆ

การที่ทำได้สำเร็จก็พอเข้าใจได้

แต่มันเร็วขนาดนี้ได้ยังไง? เพียงแค่ชั่วโมงกว่า ๆ เท่านั้น

แม้แต่เฉินซังเทียน ก็ยังประหลาดใจมาก ต่อให้เป็นเขาเพียงแค่ชั่วโมงเดียวก็น่าจะยังไม่เพียงพอ

เด็กผู้ชายอาจจะเป็นผู้เชี่ยวชาญ เฉินซังเทียนคิด

ลั่วอู๋มองไปที่เฉินซังเทียน “ก่อนหน้านี้เจ้าบอกว่าสามารถรับผิดชอบจ่ายค่าทรัพยากรการปรับแต่งได้ใช่ไหม ?”

“แน่นอนข้าคือเฉินซังเทียน เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวลไป” เฉินซังเทียนกล่าว

เฉินซังเทียน?

ชื่อนี้ดูเหมือนจะเป็นชื่อที่เขาคุ้นเคย

ลั่วอู๋ปัดเป่าความคิดที่แวบเข้ามาในใจออกไป “ ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็ต้องจ่ายข้าเกือบ 100,000 หินวิญญาณ ตามทรัพยากรที่ถูกใช้ไปแล้ว”

การทำให้ภูตแสงจันทร์มีทักษะก้าวพริบตา ลั่วอู๋ต้องเสียไปกว่า 1 พันแต้มเซียน

นอกจากนี้เขาต้องพยายามมากกว่า 400 ครั้งติดต่อกันและพลังวิญญาณก็ได้หมดลงไปหลายครั้ง ค่าแรงและทรัพยากรเหล่านี้ สามารถคำนวณได้เทียบเท่ากับ 1 แสนหินวิญญาณ

“เจ้าบอกว่าเท่าไหร่นะ ?” ดวงตาของ เฉินหมิงหยู่ เบิกกว้าง

ลั่วอู๋ตกใจกับปฏิกิริยาของเฉินหมิงหยู่

เรียกมากไปงั้นเหรอ?

เขาไม่ได้เชี่ยวชาญวิชาลับใด ๆ ในการปรับแต่ง ดังนั้นเขาจึงไม่รู้ว่าควรใช้ทรัพยากรเท่าไหร่สำหรับการปรับแต่งระดับนี้

ราคาของการปรับแต่งเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยได้รู้มาก่อน

ลั่วอู๋ได้แต่เสริมความกล้าของเขาแล้วยืนยันต่อไป “1 แสนหินวิญญาณ คิดว่ายังไงบ้าง ศาลาไป่หยู่ของเรามีค่าใช้จ่ายสำหรับทุกอย่างเสมอ ถ้าเจ้าคิดว่ามันแพงเกินไป จะให้ข้าลดให้ไหม”

เฉินหมิงหยู่ไม่สามารถหัวเราะหรือร้องไห้ออกมาได้

มันไม่ได้แพงเกินหรอก มันถูกเกินไปต่างหาก

รู้หรือไม่ว่าต้องใช้พลังงานและทรัพยากรมากแค่ไหนเพื่อทำให้ สัตว์วิญญาณระดับทองเรียนรู้ทักษะใหม่? ราคามันถูกขนาดนี้ไปได้ยังไง

“รับไปสิ” เฉินหมิงหยู่ ส่ง 1 แสนหินวิญญาณให้กับลั่วอู๋

ซึ่งลั่วอู๋รับไปแต่โดยดี

เฉินหมิงหยู่รู้สึกหดหู่ในใจ หากนางรีบเร่งด้วยวิธีนี้ก็ยิ่งสามารถพิสูจน์ได้ว่าระดับของอีกฝ่ายเป็นผู้ปรับแต่งพลังวิญญาณระดับสูงและไม่ใช่ระดับล่างสุดอย่างแน่นอน อย่างน้อย ๆ ในเรื่องของทักษะอีกฝ่ายก็ดีกว่าตนมาก

ลั่วอู๋ดูหงุดหงิดมาก “เจ้าจะทดสอบอะไรอีกในรอบที่สอง”

“รอบที่สอง … ” ดวงตาสีเข้มของ เฉินหมิงหยู่ หลุบตาข้างหนึ่งเผยให้เห็นรอยยิ้มอันเจ้าเล่ห์ “ข้าต้องการทดสอบความสามารถในการปรับแต่งขั้นสูงของเจ้า”

ความสามารถในการปรับแต่งขั้นสูง คือการทำให้สัตว์วิญญาณพัฒนาระดับมิติได้ดีขึ้นอย่างก้าวกระโดด

เฉินหมิงหยู่มั่นใจในเรื่องนี้มาก

นี่เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการสืบทอดวิชาลับของตระกูลเฉินและความสามารถของเฉินหมิงหยู่ในการทำให้สัตว์วิญญาณพัฒนามิติวิญญาณก็เป็นสิ่งที่นางทำได้ดีที่สุดเช่นกัน

นี่คือจุดแข็งของนาง นางคิดว่าแม้แต่ผู้ปรับแต่งพลังวิญญาณระดับสูงบางคนก็ยังด้อยกว่าตัวเองในแง่นี้ด้วยซ้ำ

หากสัตว์วิญญาณมีมิติวิญญาณอยู่ในระดับสูง มันจะเริ่มเกิดปัญหาและอุปสรรคต่างๆ

ต่อให้มีศักยภาพระดับทอง แต่ก็มี สัตว์วิญญาณจำนวนนับไม่ถ้วนที่ไม่สามารถก้าวข้ามระดับทองได้ทั้งชีวิต

ในกรณีนี้มีทางเดียวก็คือการไปหาผู้ปรับแต่ง

นี่เป็นการทดสอบความสามารถและประสบการณ์ของผู้ปรับแต่งวิญญาณ

ท้ายที่สุดปัญหาที่พบในสัตว์วิญญาณแต่ล่ะชนิดนั้นค่อนข้างแตกต่างกัน ความก้าวหน้าของมิติวิญญาณในสัตว์วิญญาณแต่ล่ะชนิดนั้นแตกต่างกันมาก

หากไม่ได้รับการปรับแต่งที่ดี พวกมันก็จะกลายเป็นสัตว์วิญญาณที่บกพร่องแทน

“ได้เลย ไม่มีปัญหา” ลั่วอู๋พยักหน้า