บทที่ 109 ศัตรูเก่าของพระสนมหลาน

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน

บทที่ 109 ศัตรูเก่าของพระสนมหลาน
ยอดเขาบัวทองคำอยู่ทางตะวันตกของโลกเล็กเทพสวรรค์ ทุกที่มีแต่ทองคำ

บนยอดเขาวิญญาณลูกนี้วางค่ายกลพิเศษเอาไว้ สามารถแปลงชีพจรวิญญาณธรรมดาได้ ดังนั้นจึงใช้พลังวิญญาณธาตุทองเข้มข้นที่แผ่มาจากเหมืองแร่ศิลาวิญญาณโดยธรรมชาติช่วยคนฝึกบำเพ็ญได้

ศิษย์ปัญจธาตุทองของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ส่วนใหญ่ที่อยู่บนยอดเขาบัวทองคำนี้จะมีชื่อเสียงค่อนข้างโด่งดัง

ตอนนี้ ศิษย์สายตรงหลายท่านบนยอดเขาบัวทองคำกำลังสนทนากัน

คนที่หนึ่ง “ได้ยินหรือไม่ แดนศักดิ์สิทธิ์เราเลือกบุตรศักดิ์สิทธิ์ในรอบร้อยปีนี้แล้ว”

คนที่สอง “อะไรนะ เลือกบุตรศักดิ์สิทธิ์แล้ว ใครกัน ศิษย์พี่ใหญ่ ศิษย์พี่รองหรือศิษย์พี่หญิงสาม”

คนที่หนึ่ง “ศิษย์พี่หญิงสามเป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์ เจ้าโง่ ลูกผู้พี่ข้ากับศิษย์สูงสุดของยอดเขาโอฬารหลี่อวิ๋นเฟิงสนิทกันมากน่ะ เขาบอกว่าหลี่อวิ๋นเฟิงบอกเขาว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์คนใหม่ไม่ใช่ศิษย์พี่ใหญ่และก็ไม่ใช่ศิษย์พี่รอง แต่เป็นคนนอก”

คนที่สอง “คนนอก จะเป็นไปได้อย่างไร ไม่ใช่ศิษย์เราแต่เป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ จะสยบทุกคนได้อย่างไร”

คนที่สาม “ศิษย์พี่รองอ่อนโยนน่าคบหา ศิษย์พี่ใหญ่มีพลังบำเพ็ญน่าตกใจ พวกเขาใครก็เป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ได้ แล้วคนนอกมีสิทธิ์อะไร”

คนที่หนึ่ง “พวกเจ้าไม่รู้ล่ะสิ! ได้ยินศิษย์พี่หลี่อวิ๋นเฟิงบอกว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์คนใหม่ท่านนี้เป็นคนมหัศจรรย์ที่สุดแห่งยุค เขาชำนาญวิชาค้นวิญญาณประเมินแร่ แร่วิญญาณที่เลือกไม่มีชิ้นใดไม่สร้างความตื่นตกใจ และก็เพราะเขานี่แหละที่หาจี้มังกรพยัคฆ์สิ่งยืนยันของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์จากร้านแร่วิญญาณสักแห่งมาคืนฝ่ายเราได้”

เมื่อรู้สึกถึงความกระหายในแววตาศิษย์ร่วมสำนักแล้ว คนที่หนึ่งยิ่งพูดยิ่งสนุก

คนที่หนึ่ง “พวกเจ้ารู้หรือไม่ว่าบัญญัติบรรพชนฝ่ายเราคืออะไร”

คนที่สอง “ศิษย์พี่ ขอให้ท่านชี้แนะด้วย”

คนแรก “จิ๊ๆ บัญญัติบรรพบุรุษนี่สุดยอดไปเลยละ! ตามบัญญัติบรรพบุรุษของฝ่ายเราแล้ว ในจี้มังกรพยัคฆ์มีมรดกสะเทือนโลกอยู่ ผู้ที่หาจี้มังกรพยัคฆ์มาคืนแดนศักดิ์สิทธิ์ได้ จะได้เป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ ได้ตบแต่งกับสตรีศักดิ์สิทธิ์!”

คนที่สอง “เวร บัญญัติบรรพบุรุษแรงขนาดนี้เชียวรึ แล้วถ้าศิษย์พี่หญิงสตรีศักดิ์สิทธิ์ไม่ยอมล่ะ!”

คนที่หนึ่ง “ไม่ยอมแล้วจะทำอะไรได้ นั่นคือบัญญัติบรรพบุรุษ สำหรับแดนศักดิ์สิทธิ์แล้ว บัญญัติบรรพบุรุษใหญ่เทียมฟ้า จะแอบบอกพวกเจ้าให้ก็ได้ ข้าได้ยินลูกผู้พี่บอกว่าศิษย์พี่หญิงสตรีศักดิ์สิทธิ์ฝึกฝนคู่ประสานกับบุตรศักดิ์สิทธิ์คนใหม่แล้ว”

คนที่สาม “ซี้ด จริงรึ การฝึกคู่ประสานแบบใด ใช่การฝึกคู่ประสานแบบที่ศิษย์พี่ใหญ่กับศิษย์รองทำกันหรือไม่”

คนที่หนึ่ง “ไร้สาระ ชายหญิงฝึกคู่ประสานด้วยกันเจ้าว่าแบบใดล่ะ เหมือนจะมีคนได้ยินเสียงด้วย”

คนที่สอง “แต่ดูจากนิสัยศิษย์พี่หญิงสตรีศักดิ์สิทธิ์เมื่อก่อนแล้ว ไม่เหมือนคนยอมมอบกายให้บุรุษนะ!”

คนที่หนึ่ง “แล้วจะทำอะไรได้! บัญญัติบรรพบุรุษวางอยู่ตรงนั้น ศิษย์พี่หญิงก็ได้แต่ยอมแล้ว!”

คนที่สาม “มันจะเกินไปแล้ว แค่เพราะบัญญัติบรรพบุรุษ ศิษย์พี่หญิงสตรีศักดิ์สิทธิ์ถึงกับต้องมอบกายบริสุทธิ์ออกไปรึ”

คนที่สอง “ศิษย์พี่ใหญ่หลงรักสตรีศักดิ์สิทธิ์ ถ้ารู้ว่าสตรีศักดิ์สิทธิ์ถูกบังคับให้ยอมพลีกาย แดนศักดิ์สิทธิ์ได้วุ่นวายแน่!”

คนที่หนึ่ง “เรื่องนี้รู้กันสองคนก็พอ ห้ามบอกใครมั่วซั่วเด็ดขาด ข้ารับปากกับลูกผู้พี่ไว้แล้ว”

คนที่สองกับคนที่สาม “ขอให้ศิษย์พี่วางใจเถอะ พวกข้าจะปิดปากเงียบดั่งขวด ไม่พูดสุ่มสี่สุ่มห้าเด็ดขาด!”

คนหนึ่งยังพูดกำชับอีกว่า “โดยเฉพาะห้ามให้ถึงหูศิษย์พี่ใหญ่”

คนสองกับสาม “วางใจได้ พวกข้าไม่ใช่คนเช่นนั้นแน่!”

……..

สองคนเพิ่งพูดจบ ก็ได้ยินเสียงไพเราะเสนาะหูดังขึ้นมา “ได้ยินข่าวนี้มาจากที่ใด”

เมื่อเสียงดังขึ้นบนยอดเขาบัวทองคำ พลันมีสายลมโชยเข้ามาพร้อมกับกลิ่นหอมรัญจวนใจ

ผู้หญิงผมทองสวมชุดกระโปรงยาวผ้าบางสีเงิน รูปร่างอรชรอ้อนแอ้นเดินมาช้าๆ ทุกก้าวของนางจะมีพลังวิญญาณวนเวียนใต้ขาดั่งหมอกควัน

อีกทั้งร่างที่อ้อนแอ้นดั่งไม่มีกระดูกของนางยังดูน่าหลงใหลกว่าเดิมภายใต้หมอกวิญญาณแผ่กระจาย

พูดได้ว่านี่คือบุคคลที่งดงามที่สุดแห่งยุคท่านหนึ่ง คิ้วและรอยยิ้มของนางเต็มไปด้วยเสน่ห์สูงสุด

บุรุษในโลกไม่มีใครไม่เสียอาการ

ช่วงที่นางปรากฏกายนั้น ศิษย์สามคนรีบโค้งตัวน้อมคำนับ ไม่กล้าแม้แต่เงยหน้า “ขอคารวะท่านผู้คุมเหมือง”

ใช่ ผู้หญิงคนนี้คือหนึ่งในเก้าผู้อาวุโสใหญ่ระดับหลอมรวมเทพในยุคนี้ของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำ ผู้คุมเหมืองแร่แห่งยอดเขาบัวทองคำ

เล่าลือว่าผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำก็เคยเป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์รุ่นหนึ่งของแดนศักดิ์สิทธิ์ ในช่วงที่พรสวรรค์ความปราดเปรื่องและหน้าตาเลิศล้ำนั้นไม่ด้อยไปกว่าจางอวิ๋นซีเลย

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำในตอนนั้นโอหังและเย็นชา มีวีรบุรุษมากมายมาตามเกี้ยวพาก็ไม่ชายตามอง จนมีครั้งหนึ่งผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำได้พบนาง

นั่นคืออุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดในชีวิตของผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำ ใบหน้าของผู้หญิงคนนั้นอยู่เหนือนางทุกอย่าง ศักดิ์สิทธิ์บริสุทธิ์และน่าหลงใหล งดงามที่สุดและยังเพียบพร้อม เห็นๆ อยู่ว่าพลังบำเพ็ญธรรมดา แต่กลับมีเอกลักษณ์ดั่งเซียนสวรรค์

การปรากฏตัวของนางทำให้ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำพ่ายแพ้ต่อใบหน้าเลอโฉมอย่างราบคาบ กระทั่งแทบจะเกิดจิตมารขึ้นมา

รู้ตัวเลยว่าถ้าเทียบเอกลักษณ์อันศักดิ์สิทธิ์และบริสุทธิ์แล้ว เกรงว่าชาตินี้นางคงไม่อาจเทียบกับคนผู้นั้นได้

ดังนั้นผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำจึงเดินเส้นทางใหม่ เริ่มควบฝึกฝนวิชาเสน่ห์เลิศล้ำเป็นพิเศษ

หลายปีผ่านไป ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำชำนาญวิชาเสน่ห์ลึกซึ้งขึ้นเรื่อยๆ มีแรงดึงดูดแกร่งขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน

ทว่าเมื่อสิบปีก่อนนางเตรียมจะไปพบสตรีคนนั้นเพื่อประชันกันอีกครั้ง แต่ก็พบว่าอีกฝ่ายลาจากไปนานแล้ว แรงกระทบกระเทือนนี้ทำให้ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำโมโหมาก จึงทุ่มความเสียใจและความไม่ยอมเต็มอกไปกับการฝึกฝนวิชาเสน่ห์

ตอนนี้ผ่านไปอีกสิบปี วิชาเสน่ห์ของนางถึงจุดสูงสุดแล้ว แค่ขมวดคิ้วหรือยิ้มก็ทำให้คนคลุ้มคลั่งได้

นางมีความมั่นใจว่าต่อให้ผู้หญิงที่เรียกตัวเองว่า ‘หลาน’ คืนชีพกลับมา ตนก็จะไม่แพ้ให้นางเด็ดขาด!

…..

แต่ต่อให้เป็นเช่นนั้น ส่วนลึกในใจผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำก็ยังคิดถึงตัวเองที่สูงส่งและเย็นชาคนนั้น

ด้วยเหตุนี้เมื่อพบจางอวิ๋นซีที่สูงส่งเย็นชาและโอหัง ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำจึงรู้สึกสนิทสนมมาก กล่าวได้ว่าวิชาอัสนีธาตุทองลำดับเจ็ดของจางอวิ๋นซีส่วนใหญ่ ก็ได้รับถ่ายทอดมาจากผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำทั้งหมด

สตรีศักดิ์สิทธิ์คนนี้ นางรักเหมือนกับลูกสาวแท้ๆ จริงๆ

ตอนนี้ได้ยินว่าจางอวิ๋นซีต้องตบแต่งกับคนแปลกหน้าเพราะบัญญัติบรรพชน กระทั่งยังไม่ทำพิธีอย่างเป็นทางการ ก็ถูกเจ้าคนหน้าด้านไร้ยางอายนั่นบีบบังคับให้ฝึกคู่ประสาน

แม้ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำจะฝึกบำเพ็ญมาหลายปีก็ยังอดโมโหมิได้ อยากจะเรียกร้องความเป็นธรรมให้ศิษย์หลานอวิ๋นซี!

นางมองศิษย์สามคนนั้นด้วยความเย็นชา “ที่พวกเจ้าพูดเมื่อครู่นี้คือความจริงรึ”

คนที่หนึ่ง “เรียนท่านผู้คุมเหมือง คือลูกผู้พี่ข้าได้ยินมาจากศิษย์พี่หลี่อวิ๋นเฟิงขอรับ”

ช่วงที่ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำกำลังจะซักถามต่อนั้น ก็มีกระแสจิตส่งมา

“ศิษย์น้องหญิงบัวทองคำ มายอดเขาเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ด่วน มีเรื่องสำคัญจะหารือกัน!”

เสียงที่ไร้ซึ่งคลื่นอารมณ์ใดๆ เช่นนี้ นี่มันศิษย์พี่รองเจ้าคนไร้คุณธรรมนั่น!

รอยยิ้มบนใบหน้างามผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำเย็นชาขึ้นเรื่อยๆ “ตอนนี้เพิ่งจะอยากหารืออะไรกับข้ารึ”

เอ่ยจบ ตรงระหว่างคิ้วผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำขยับประกายวูบวาบ ก่อนจะเรียกบัวทองคำคุณธรรมระดับเจ็ดออกมาใต้เท้า

ดอกบัวกลายเป็นแสงทองทะลวงอากาศออกไป พริบตาเดียวก็โผล่มาไกลหมื่นจั้ง มาปรากฏอยู่ตรงประตูวิหารเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์

ปัง!

ประตูใหญ่ถูกชนเปิดออก ก่อนที่เสียงไพเราะแต่เย็นชาของผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำจะดังขึ้นกลางวิหาร “โอ้ ศิษย์พี่ยังจำ…”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำยังพูดไม่จบก็อึ้งไปแล้ว

เพราะนางพบว่ากลางวิหารเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ นอกจากศิษย์พี่ใหญ่หน้าไม่อาย ศิษย์พี่รองไร้คุณธรรม กับบุตรชายที่ไม่เอาไหนของตนแล้ว ยังมีผู้ชายอยู่อีกคน

คนนี้สวมชุดคลุมขาวใบหน้าหล่อเหลาเอาการ เหมือนเซียนที่เดินออกมาจากภาพวาด

เมื่อเห็นผู้ชายแปลกหน้าคนนี้แล้ว ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำตกตะลึงในใจ

โลกนี้ยังมีบุรุษรูปหล่อเหนือธรรมดาเช่นนี้อยู่อีกหรือ

หือ เหตุใดรู้สึกว่าหนุ่มน้อยท่านนี้…ดูคุ้นตานิดๆ!

……………………….