เมื่อรับรู้การกระทำของพญายม เล่อเหยาเหยาที่เดิมทีมึนงง ทันใดนั้น ก็ได้สติขึ้นมา ดวงตาเบิกกว้าง ร้องขึ้นอย่างตกใจ
ทว่าเพื่อตอบกลับเธอ พญายมตั้งใจใช้สิ่งที่แข็งแกร่งในท่อนล่างจู่โจมภายในต้นขาของเธออย่างรุนแรง ทำให้เล่อเหยาเหยาแข็งทื่อทั่วร่าง ทั้งขวยเขินและกังวล อยากตายขึ้นมา
ฮือๆ
นกใหญ่ของพญายมกำลังชนเธอ!
นกใหญ่ของพญายม ที่ครั้งก่อนเธอลูบคลำด้วยมือตนเอง
ขนาดนั้น ไม่ใช่ของคน…
เธอไม่อยากถูกแยกร่าง!
ขณะเล่อเหยาเหยาร้องอยู่ในใจ คางของพญายมที่ฝังอยู่ในซอกคอของเธออย่างอาลัยอาวรณ์ จากนั้นก็ใช้ลิ้นที่เปียกชื้น เลียที่ติ่งหูอย่างหยอกเย้า
ทำให้เล่อเหยาเหยาสั่นเทิ่มทั่วร่างกาย รู้สึกเพียงมีกระแสไฟฟ้ากำลังไหลจากติ่งหูไปสู่ทั่วร่างกาย
แรงทั้งหมดในร่างกายคล้ายถูกดูดไปจนว่างเปล่า กระทั่งกระดูกอ่อนระทวย ทั่วร่างแทบกลายเป็นชายหาดในฤดูใบไม้ผลิ
เวลาเดียวกัน เสียงที่เต็มไปด้วยไฟปรารถนามีเสน่ห์ของพญายม ดังขึ้นมาที่ข้างหูเธอ แฝงไปด้วยเสน่ห์อันเย้ายวนใจ และท้าทายเธออย่างไม่มีสิ้นสุด
“รู้สึกถึงมันหรือไม่ เพราะเจ้ามันจึงตื่นตัวขึ้นมา”
“เอ่อ”
เมื่อได้ยินคำพูดกำกวมเช่นนี้ของพญายมที่เอ่ยออกมาอย่างตรงไปตรงมา เล่อเหยาเหยามีสีหน้าเก้อเขิน ไอร้อนทะลักขึ้นด้านบนศีรษะ สองแก้มร้อนผ่าว ดุจน้ำต้มที่กำลังเดือดพล่านไม่หยุด
สวรรค์!
คนที่ทับอยู่บนตัวเธอนี้ คือพญายมที่ปกติมักเย็นชาไร้ความรู้สึกมีสีหน้าเบื่อหน่ายและเย็นชา ทำหน้าเหมือนคนอื่นติดค้างเงินเขามากมายแล้วไม่คืนทั้งวัน!
เหตุใดเขาที่เย็นชาจึงพูดเผ็ดร้อนยั่วยวนคนเช่นนี้ออกมาได้!
หรือนี่คือสำนวนที่ว่าคนที่เงียบขรึม เพียงเอ่ยปากก็ทำให้คนตกใจ!
ขณะที่เล่อเหยาเหยาสับสนร้องตะโกนในใจ พญายมที่ทับอยู่บนตัวเธอ ใช้มือใหญ่ที่ทรงพลังคู่นั้นสำรวจบริเวณเอวของเธออย่างออกนอกลู่นอกทาง
เล่อเหยาเหยาเห็นเข้าจึงร้อนใจ
ครั้งนี้ ในที่สุดน้ำตาก็ไหลลงมาอย่างทนไม่ไหว
“ฮือๆ ท่านอ๋อง บ่าวไม่ต้องการ ท่านปล่อยบ่าวไปเถิด เสน่ห์ของท่านอ๋อง ต้องการชายหนุ่มมากเพียงใดก็ได้ บ่าวเป็นขันที ที่ชายก็ไม่ใช่หญิงก็ไม่เชิง มีแต่จะทำให้ชื่อเสียงท่านอ๋องแปดเปื้อน ”
เอาเถอะ เพื่อชีวิต เล่อเหยาเหยาจึงทำลายภาพพจน์ของตนเอง
และเพื่อเตือนสติเขา เธอเป็นขันที หากถูกคนรู้เข้า กลายเป็นข่าวฉาวโฉ่ไปทั่วเมือง!
รุ่ยอ๋องผู้สง่างามแห่งเทียนหยวน กลับรับขันทีคนหนึ่งเป็นชายเลี้ยง หากเรื่องนี้หลุดออกไป ไม่เพียงราษฎรของแคว้นเทียนหยวนต่างตกตะลึง อาจยังเล่าลือกันไปถึงแคว้นอื่น เวลานั้นจะน่าอัปยศเพียงใด!
เหลิ่งจวิ้นอวี๋หลังได้ยินคำพูดของเล่อเหยาเหยา ก็เข้าใจความหมายของเธอ
แต่ไม่รู้เหตุใดหลังได้ยินประโยคนี้จากปากของ ‘เขา’ ทำให้เหลิ่งจวิ้นอวี๋ยิ้มที่มุมปาก
ที่แท้ในใจของ ‘เขา’ เขาคือคนชอบเพศเดียวกัน
ตอนนี้เหมือนจะใช่!
แม้ในใจเขาจะไม่อยากยอมรับ
แต่ความจริงที่เขาอยากจะพูดก็คือ ความจริงคนที่เขาชอบก็คือ ‘เขา’ ไม่สนใจเพศของ ‘เขา’
หาก ‘เขา’ เป็นผู้หญิงก็ดี แม้ตอนนี้ ‘เขา’ เป็นขันที แต่ผู้ใดให้เขาชื่นชอบ ‘เขา’ เขาก็ยอมรับ
แต่เขามองออกว่า ‘เขา’ ทำอะไรไม่ถูกและไม่พอใจ
อาจเพราะในใจ ‘เขา’ เขาได้ถูกวางไว้ในส่วนของสัตว์ที่ดุร้าย
พอคิดถึงตรงนี้ ในใจเหลิ่งจวิ้นอวี๋ไม่มีทางเลือก
เขารู้ดีว่าควรปล่อย ‘เขา’ ไป ไม่ใช่เพราะเขากลัวจะถูกผู้อื่นรู้ว่าชื่นชอบขันที ถูกคนหัวเราะเยาะ
เพราะในสายตาของคนบนโลก ข่าวลือเกี่ยวกับเขามีมากมายนับไม่ถ้วน เขาจึงไม่สนใจสายตาของผู้อื่น
เพราะว่าตนเป็นคนใช้ชีวิตที่ผ่านไป จะสนใจสายตาของผู้อื่นไปเพื่อสิ่งใด!
แต่หากปล่อย‘เขา’ไปจริง ไฟปรารถนาที่ฟื้นตัวมาให้พร้อมรบและท่อนล่างของเขาที่กำลังขยายตัวไม่หยุด จะให้เขาทนเช่นไรไหว!
ท่อนล่างคล้ายจะระเบิดออกมาแล้ว!
แต่เมื่อ‘เขา’ไม่ยินยอม ช่างเถิด เขาก็ไม่บีบบังคับ
พอคิดถึงตรงนี้ เหลิ่งจวิ้นอวี๋เพียงข่มไฟปรารถนาด้านล่างเอาไว้ กดทับไว้แน่น
แต่ว่าคนใต้ร่างกลับหอมหวานชวนหลงใหลเกินไป ดุจขนมอันหอมหวาน ทำให้คนหิวกระหาย
อยากควบคุมไม่ให้ตนทำรุนแรงกับ‘เขา’ความจริงจำเป็นต้องใช้ความอดทนอย่างมาก!
ดังนั้น ไม่นาน หน้าผากอิ่มเอิบของเหลิ่งจวิ้นวอี๋ก็เต็มไปด้วยเหงื่อเม็ดโตอย่างรวดเร็ว จมูกแทบหลอมรวมเข้าด้วยกัน และลมหายใจก็ฝืดเคือง อดกลั้น
เหงื่อร้อนนั้นไหลลงมาที่ซีกแก้มของเขา ค่อยๆ ไหลลงมาที่คาง ก่อนจะตกลงบนใบหน้าเล็กขนาดเท่าฝ่ามือของเล่อเหยาเหยา
เล่อเหยาเหยารู้สึกเพียงบนใบหน้าถูกหยดน้ำไหลลงมากระทบไม่หยุด ในใจอดหวั่นไหวไม่ได้ และรู้ว่านั่นคือสิ่งใด
เพราะเพียงพญายมทับอยู่บนตัวเธอ แต่ว่ากลับไม่ได้ทำเรื่องไม่ดีกับเธอ เล่อเหยาเหยาจึงรู้ว่าตอนนี้พญายมกำลังอดทนและอดกลั้น
แม้เขาจะเสียสติ มักบีบบังคับจุมพิตเธอโดยไม่สนใจความยินยอมของเธอ แทบใช้กำลังกับเธอ แต่ทุกครั้งในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ เพียงเธอไม่ยินยอม เขาจะข่มกลั้นไฟปรารถนาของตนเอาไว้ตลอด
สำหรับเรื่องนี้ ความจริงทำให้เล่อเหยาเหยารู้สึกแปลกใจ
เพราะพญายมคือคนที่ทำสิ่งใดก็ได้ เพียงเขาอยากทำ ยังมีสิ่งใดที่ทำไม่ได้!
แต่ตอนนี้ เพราะว่าเธอไม่ยินยอม และเคารพการตัดสินใจของเธอ เขากลับไม่บีบบังคับเธอ ยอมให้ตนเองต้องข่มกลั้นมันเอาไว้
แม้เธอจะไม่รู้ว่าผู้ชายเวลาต้องข่มไฟปรารถนาจะรู้สึกเช่นไร ทว่าจากเหงื่อของพญายมในตอนนี้ ดูแล้ว ตอนนี้เขาน่าจะทรมานและลำบากอย่างมากแน่!
พอคิดถึงตรงนี้ เล่อเหยาเหยาอดทนไม่ได้
ขมวดคิ้วเล็กน้อย พลันเอ่ยโพล่งออกไปอย่างไม่ทันคิด
“บ่าวสามารถช่วยสิ่งใดท่านอ๋องได้บ้างหรือไม่!”
น้ำเสียงเล่อเหยาเหยาแฝงความร้อนรนเจ็ดส่วน กังวลสามส่วน ชัดเจนคมชัด ในคืนที่เงียบสงบจึงดังกังวานเป็นพิเศษ!
เพียงแต่เมื่อเล่อเหยาเหยาเอ่ยออกไป เธอพลันนึกเสียใจขึ้นมา!
สวรรค์!
เธอโง่ไปแล้วหรือ!
ไม่ง่ายกว่าพญายมจะไม่ทำอะไรเธอ ตอนนี้เธอหาเรื่องใส่ตัวชัดๆ!
เพราะเรื่องพรรค์นี้ ยังจะสามารถช่วยได้อย่างไร!
พอคิดถึงตรงนี้ เล่อเหยาเหยาสีหน้าเก้อเขิน ในใจหวั่นวิตก พลันรีบร้อนเอ่ยขึ้นว่า
“เอ่อ คือว่า…บ่าวปากพล่อย ท่านอ๋องอย่าคิดเป็นจริงเป็นจังเลยนะ ฮ่าๆ”
เล่อเหยาเหยาหัวเราะฮ่าๆกลบเกลื่อนออกไป
น่าเสียดายที่คำพูดที่ออกจากปากนี้ บางคนกลับคิดไปแล้ว
เล่อเหยาเหยาเพียงรู้สึกว่าตนคล้ายวิงเวียนอีกครั้ง เธอยังไม่ได้สติ พญายมที่เดิมทีรัดแน่นอยู่บนตัวเธอ เวลานี้พลันพลิกเปลี่ยนลงมาอยู่ด้านล่าง
เมื่อครู่ชายอยู่บนหญิงอยู่ล่างจนถึงตอนนี้หญิงอยู่บนชายอยู่ล่าง
เรื่องนี้ ทำให้เล่อเหยาเหยาอดยิ้มมุมปากไม่ได้ พลันรู้สึกพูดไม่ออก
เพราะตอนนี้เธอพบว่า คนที่มีพลังมากถึงจะยอดเยี่ยม และมักคิดว่าเธอคือแพนเค้กจึงพลิกไปพลิกมา
แต่ตอนนี้ ไม่ใช่เวลาที่จะมาคุยปัญหาเรื่องแพนเค้ก เพราะพญายมตอนนี้หมายถึงสิ่งใดกันแน่!
เล่อเหยาเหยากำลังสงสัย อดกระพริบตาสดใสนั้นไม่ได้ ก่อนมองไปยังใบหน้าของพญายม
เพราะกลางคืนมืดมน ทำให้เธอมองไม่เห็นสีหน้าของพญายม แต่เธอกลับรู้สึกถึงสายตาอันร้อนแรงของพญายม ที่ไม่เคยละไปจากตัวเธอเลยตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงตอนนี้
เวลานี้สายตาของเขา พลันทำให้เธอรู้สึกวิตกกังวล และเกิดความคิดที่ไม่ดีขึ้นมาในใจ
เพราะเหตุการ์ตอนนี้ไม่ได้แปลกใหม่เลย หรือพญายมคิดอยากจะทำดังเช่นในหออวี๋หง ให้เธอใช้มือ…
ขณะที่เล่อเหยาเหยาอกสั่นขวัญแขวน คำพูดของพญายมกลับดังขึ้นมา
“ไม่ ครั้งนี้ไม่ต้องใช้มือของเจ้า”
เมื่อได้ยินเล่อเหยาเหยาโล่งอกอย่างที่สุด
ฟู่ว ไม่ใช้มือก็ดี
ขณะถอนหายใจ ประโยคต่อมาของพญายม กลับทำให้เล่อเหยาเหยาตกใจราวถูกฟ้าผ่า
“ครั้งนี้ ใช้ปากของเจ้ามอบความสุขให้มัน!”
……………………………….