บทที่ 137 มื้ออาหารชั้นยอด
ลั่วอู๋เดินออกมานอกลานด้วยสีหน้าที่ไม่ดีนัก เขารินชาเย็น ๆ ลงไปในถ้วย เพื่อสงบสติอารมณ์ที่ไม่ดีของเขาลง
เฉินหมิงหยู่มองมาที่เขาพลางคิดว่าเขาเป็นคนที่ใจร้อนมาก
เมื่อกำลังประสบปัญหา ก็ควรจะต้องใช้เวลาให้มากขึ้นในการประเมินและแก้ปัญหา แน่นอนว่านางไม่คิดว่า เขาจะใช้เวลาเพียงแค่ครึ่งชั่วโมงทำสิ่งเหล่านั้นได้
แม้ว่าข้าจะมีทักษะพิเศษ แต่ข้าก็ไม่สามารถทำมันได้ ช่างน่าอับอาย
เอาเถอะอย่างน้อย ข้าก็ทำดีที่สุดแล้ว
ลั่วอู๋ก้มหน้าลงอย่างเงียบงัน ราวกับว่ากำลังคิดอะไรอยู่
ผู้ใช้พลังวิญญาณของสัตว์วิญญาณทั้ง 10 ตัวที่อยู่ด้านนอกมองเข้ามาด้วยความกระตือรือร้น พวกเขาไม่รู้ว่าต้องทำเช่นไร พวกเขาไม่กล้าเข้าไปถาม พวกเขาทำได้เพียงแค่รอ
เฉินหมิงหยู่กล่าวขึ้นมาว่า “ถ้าเจ้าไม่มีวิธีจัดการกับพวกมัน เจ้าก็แค่ต้องยอมรับความพ่ายแพ้”
“ยอมแพ้งั้นเหรอ?” ลั่วอู๋แสดงสีหน้าอันว่างเปล่า จากนั้นเขาก็ขมวดคิ้ว “ทำไมข้าต้องยอมรับความพ่ายแพ้ด้วย”
“เจ้าจะอวดดีมากเกินไปหน่อยไหม ?” ภาพลักษณ์ของลั่วอู๋ในใจของเฉินหมิงหยู่ตกลงไปอีกระดับหนึ่ง
“ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็กลับไปปรับแต่งต่อเถอะแล้ว เวลาของข้ามีค่ามากและข้าไม่มีเวลารอเจ้ามานั่งเอ้อระเหย”
ลั่วอู๋กำลังสับสน “จะให้ข้าไปทำอะไรอีก ? ข้าได้ปรับแต่งพวกมันเสร็จไปแล้ว”
รอยยิ้มของเฉินหมิงหยู่หายไป
แม้แต่ใบหน้าของเฉินซังเทียนก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย
แค่ครึ่งชั่วโมงเนี่ยนะ?
ล้อเล่นรึเปล่า ?
เฉินหมิงหยู่ตอบและขมวดคิ้ว “ที่ข้าต้องการคือการแก้ปัญหาเรื่องความก้าวหน้าทางมิติวิญญาณของสัตว์วิญญาณทั้งสิบตัว ถ้าเจ้าแก้ปัญหาไปแค่ตัวเดียวมันยังไม่นับว่าเสร็จหรอกนะ”
ลั่วอู๋มีเบ้ปาก “แน่นอนสิ ข้าจัดการเสร็จแล้วทั้งสิบตัวเรียบร้อย”
จากนั้นลั่วอู๋ก็โบกมือเรียกให้สัตว์วิญญาณทั้งสิบตัวออกมาจากลานหลังร้านเดินมาหาลั่วอู๋
แน่นอนว่าพวกมันเปลี่ยนไปราวกับเป็นคนล่ะตัว
ลมปราณของพวกมันได้รับการปรับปรุงจนแตกต่างออกไปจากเดิม และพวกมันหลายตัวก็ได้ก้าวข้ามขีดจำกัดของมิติวิญญาณได้สำเร็จ ทำให้ความแข็งแกร่งของพวกมันเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ผู้ใช้พลังวิญญาณทั้งสิบที่เป็นเจ้าของพวกมัน รีบวิ่งเข้าหาสัตว์วิญญาณของตัวเอง กอดและจูบตรวจสอบสภาพสัตว์วิญญาณของพวกเขาอย่างระมัดระวังและได้แสดงความขอบคุณต่อลั่วอู๋
“ไม่เป็นไร ๆ ข้ายินดี” ลั่วอู๋โบกมืออย่างเต็มใจ
เฉินหมิงหยู่กัดฟันของนาง “เป็นไปไม่ได้ ข้าขอตรวจสอบสัตว์วิญญาณเหล่านี้”
“เอาสิ” ลั่วอู๋ไม่ได้คัดค้าน เขานั่งอยู่ด้านข้าง ยังคงดูเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างเหมือนเขาจะมีบางอย่างที่สำคัญซ่อนอยู่ในใจ
เฉินหมิงหยู่หายใจเข้าลึก ๆ
ข้าไม่เชื่อหรอก
วิชาลับของคนคนนี้มีพลังมากมายขนาดนี้เชียวหรือ
ไม่สิมันต้องเป็นของปลอม
ชายคนนี้รู้ว่าตัวเองไม่มีทางผ่านการทดสอบของข้าได้ จากนั้นเขาจึงใช้วิธีการลบล้างจุดแก่นวิญญาณของสัตว์วิญญาณ และบังคับให้พวกมันยกระดับมิติวิญญาณของตัวเอง?
ถ้าเป็นแบบนั้น ข้าจะให้ลุงหลงเด็ดหัวของลั่วอู๋ทิ้งซะ
เด็กหนุ่มคนนี้ไม่สมควรถูกเรียกว่าผู้ปรับแต่งพลังวิญญาณ
เฉินหมิงหยู่ตรวจสอบสัตว์วิญญาณเหล่านี้อย่างระมัดระวัง แต่ใบหน้าของนางก็ยิ่งสับสนตกใจมากขึ้นเรื่อย ๆ
จระเข้ทรายได้รับการยกระดับมิติวิญญาณเรียบร้อย ไม่มีปัญหาอะไร
จิ้งจกทรายพันทางถูกแก้จุดบอดทางแก่นวิญญาณแล้ว ไม่มีปัญหาอะไร
หมาป่าราตรีแก่นวิญญาณกลับมาเสถียรหลอดเลือดวิญญาณถูกรวมเข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์และแม้กระทั่งศักยภาพเดิมก็ได้รับการปรับปรุงเล็กน้อย ไม่มีปัญหาอะไรเช่นกัน
……
นี่มันเกิดขึ้นได้อย่างไร
เฉินหมิงหยู่รู้สึกกลัวมากขึ้นเรื่อย ๆ
แมงมุมดอกไม้ได้รับการยกระดับมิติวิญญาณเรียบร้อย ไม่มีปัญหาอะไร
“นี่มันเกิดขึ้นได้อย่างไร”เฉินหมิงหยู่เกือบหมดสติไป นางรู้สึกขุ่นมัวในใจ ทำไมเด็กหนุ่มคนนี้ถึงได้แข็งแกร่งขนาดนี้
เฉินหมิงหยู่จ้องไปที่ลั่วอู๋ “เจ้าทำได้อย่างไรกัน?”
“มันก็แค่นั้นแหละ” ลั่วอู๋ตอบกลับอย่างลวก ๆ
เฉินหมิงหยู่กัดฟันแน่น “ตราบใดที่เจ้าให้เวลาข้า ข้าก็สามารถแก้ปัญหาของสัตว์วิญญาณเหล่านี้ได้ทุกตัว เว้นเสียแต่แมงมุมดอกไม้ตัวนี้ … ”
“แมงมุมดอกไม้ตัวนี้มันเป็นอะไร” ลั่วอู๋ไม่เข้าใจ
เฉินหมิงหยู่โกรธมาก “แมงมุมดอกไม้ตัวนี้เจ็บปวดจากความรัก มันเต็มใจที่จะเสื่อมถอย มันไม่ต้องการฝึกฝนหรือได้รับการเลื่อนขั้นวิญญาณอีกแล้ว เจ้าทำได้อย่างไรในช่วงเวลาสั้น ๆ เช่นนี้ แม้ว่าเจ้าจะ สามารถช่วยมันคลายปมได้ ก็ไม่มีเหตุผลที่มันจะเร็วได้ขนาดนี้ ”
“โอ้ เจ็บปวดด้วยความรักงั้นเหรอ” ทันใดนั้นลั่วอู๋ก็นึกขึ้นได้ว่าเขาดูเหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่างแล้ว “ไม่น่าแปลกใจเลยที่มันจะดูป่วยอยู่เสมอ ข้าพยายามให้ช่วยให้มันดีขึ้น แต่มันก็ยังคงหดหู่ ทั้งๆ ที่สุขภาพโดยรวมดีมาก และแก่นวิญญาณเองก็ไม่มีปัญหาอะไรเลย”
เฉินหมิงหยู่ตบโต๊ะด้วยความรู้สึกไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ “เจ้าทำได้อย่างไร”
ลั่วอู๋เกาคางของเขา
ก็นะ..
“ข้าคิดว่ามันอารมณ์ไม่ดี ข้าอยากจะให้มันสบายใจ ข้าเลยปล่อยมันออกมาให้เดินเล่น เพื่อดูว่ามันจะอารมณ์ดีขึ้นไหม” ลั่วอู๋กล่าว
“แค่นั้นเหรอ?”
“ ไม่ใช่แค่นั้นหรอก หลังจากนั้นแมงมุมดอกไม้ตัวนี้ก็ดันไปถูกกลุ่มนกหน้าโง่จับและทุบตีมันอย่างแรง พอข้าไปช่วยมันออกมา มันก็เลื่อนขั้นเองโดยอัตโนมัติ” ลั่วอู๋กล่าว
นี่เป็นสัตว์วิญญาณที่ทำให้ลั่วอู๋สบายใจที่สุด
มันได้เลื่อนขั้นมิติวิญญาณด้วยตัวมันเอง
เขาก็เลยไม่จำเป็นต้องเสียแต้มเซียน
เฉินหมิงหยู่กุมหน้าอกของนางและรู้สึกต้องการที่จะอาเจียนเป็นเลือด
เกินจากการทะเลาะกันเนี่ยนะ?
ทำไมถึงกล้าพล่ามอะไรแบบนี้.
เฉินซังเทียนดูเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างได้ เขาพูดออกมาว่า “มันเป็นสัญชาตญาณของสิ่งมีชีวิตทุกชนิดที่จะไล่ตามความโชคดีและหลีกเลี่ยงอันตราย หากมันเจออันตรายมันก็จะไม่สนใจความเจ็บปวดใด ๆ เมื่อมันต้องการได้รับการเลื่อนขั้นเพื่อปกป้องตัวเอง มันก็เป็นเรื่องธรรมดาที่มันจะเลื่อนขั้นได้ ”
ลั่วอู๋ยกนิ้วให้ “ตาเฒ่าท่านมีความเข้าใจที่ไม่เลวเลยนะเนี่ย”
เฉินซังเทียนหัวเราะไม่ออก
เขาคนนี้ได้รับการยกย่องจากรุ่นน้อง
ส่วนเฉินหมิงหยู่ต้องการที่จะร้องไห้ มันเป็นแบบนี้ได้ด้วยงั้นเหรอ?
“ แล้วทำไมเจ้าถึงมีใบหน้าเช่นนั้นตลอดเวลาล่ะ มันดูเหมือนว่าเจ้ากำลังมีปัญหาเลยไม่ใช่รึไง” ใบหน้าของเฉินหมิงหยู่แดงเล็กน้อย
ถ้าสีหน้าของเขาไม่เป็นแบบนั้น
นางคงจะไม่คิดว่าเขาจะล้มเหลว และนางคงไม่ต้องมาเสียหน้าแบบนี้
เมื่อนึกถึงสิ่งที่นางเพิ่งพูดกับลั่วอู๋ เฉินหมิงหยู่ รู้สึกว่าใบหน้าของนางไหม้เกรียม มันช่างน่าอายจริงๆ
ลั่วอู๋กลอกตาของเขา “ข้ามีปัญหาจริง ๆ ข้ากำลังคิดอยู่ว่าใครเป็นคนทำให้สัตว์วิญญาณของเขาเป็นแบบนี้โดยตั้งใจ”
“เจ้าต้องการจะสื่ออะไร?”เฉินหมิงหยู่ถาม
ลั่วอู๋เหลือบมองนาง “ทำไมข้าต้องบอกเจ้าด้วยล่ะ”
เฉินหมิงหยู่โกรธ
ลั่วอู๋เริ่มประสบกับปัญหาบางอย่าง เพราะเขาพบว่าจำนวนของแต้มเซียนที่เสียไปเพื่อช่วยให้สัตว์วิญญาณเหล่านี้ก้าวหน้านั้นสูงมาก
เขาใช้แต้มเซียนมากกว่าปกติ 50%
เขาก็เลยงงและคิดว่าทำไม ตอนนี้เขารู้สึกสับสนเล็กน้อยว่าทำไมเฉินหมิงหยู่ต้องเลือกสัตว์วิญญาณที่ยากลำบากเหล่านี้ ซึ่งนำไปสู่การใช้แต้มเซียนจนมากเกินไปด้วย
“พวกเจ้ายังพร้อมที่จะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายหรือไม่ ?” ลั่วอู๋ถาม
เฉินหมิงหยู่จ้องมองที่ลั่วอู๋ด้วยความเกลียดชัง
การชดใช้ การชดใช้ หัวของเจ้ามันคิดแต่เรื่องคุณค่าของเงิน
ลั่วอู๋จ้องมองอย่างงงงวย
เฉินซังเทียนกล่าวด้วยรอยยิ้ม “แน่นอน เจ้าคงได้สูญเสียหินวิญญาณไปเป็นจำนวนมากสินะ”
ลั่วอู๋เริ่มคำนวณค่าใช้จ่าย
การปรับแต่งครั้งนี้ เขาเสียแต้มเซียนไปประมาณ 6000 แต้ม
แต่เนื่องจากการยกระดับมิติวิญญาณโดยการปรับแต่งด้วยไหปีศาจในทันที มันไม่ได้ใช้พลังวิญญาณและความเร็วในการปรับแต่งทั้งหมดก็เร็วมากและไม่จำเป็นต้องนับต้นทุนแรงงานไปด้วย
“ 3 แสนหินวิญญาณ” ลั่วอู๋ให้ราคา
เฉินหมิงหยู่กุมหน้าผากของนางอย่างช่วยไม่ได้ มันถูกขนาดนี้ได้ยังไง? วิชาลับของเด็กหนุ่มคนนี้เป็นสำนักประหยัดเงินหรือยังไง?
เขาควรรู้ว่าราคาของสมุนไพรทุกชนิดสำหรับการปรับแต่งสัตว์วิญญาณนั้นค่อนข้างสูง
เฉินหมิงหยู่ประเมินว่าถ้านางต้องการช่วยให้สัตว์วิญญาณสิบตัวนี้ ผ่านการพัฒนามิติวิญญาณจนสำเร็จ แค่ค่าวัตถุดิบเพียงอย่างเดียวก็น่าจะเกิน 5 แสนหินวิญญาณไปแล้ว นับประสาอะไรกับค่าแรงของนางเอง
ค่าธรรมเนียมใช้บริการครั้งแรกสำหรับผู้ปรับแต่งพลังวิญญาณระดับสูงนั้นสูงมาก
เฉินซังเทียนจ้องมองไปที่ลั่วอู๋ตรง ๆ เขาอดคิดไม่ได้ว่าเด็กหนุ่มคนนี้ได้เข้าสู่ระดับปรมาจารย์แล้วหรือยัง?
เขาสามารถแก้ปัญหาของสัตว์วิญญาณ ได้อย่างง่ายดายและปรับปรุงอัตราการใช้พลังวิญญาณ รวมถึงผลกระทบในแง่ทรัพยากรด้วยการควบคุมอันแม่นยำ