ตอนที่ 283 อย่าร้องไห้เลย / ตอนที่ 284 หวานเหลือเกิน

หวานรักจับหัวใจท่านประธาน

ตอนที่ 283 อย่าร้องไห้เลย

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ “…”

 

 

น่าอึดอัดจัง

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ตะลึงไปหลายวินาที แต่อยู่ๆ ก็ยื่นมือไปปิดปากของเขาเอาไว้

 

 

“ชู่ว! ตอนดูหนังห้ามพูด จะรบกวนคนอื่น!” เธอพูดจบก็หันหน้าไปมองจอหนังอีกครั้งทันที

 

 

ทำเป็นว่าตนเองกำลังตั้งใจดูหนัง

 

 

ในโรงหนังมืดมาก อวี๋เยว่หานมองไม่เห็นว่าเธอหูแดง แถมยังลามไปที่หน้าแล้วด้วย

 

 

เมื่อรู้ว่าสายตาของเขาเลื่อนออกจากตนเอง เหนียนเสี่ยวมู่ถึงจะโล่งใจได้

 

 

เธอกอดป็อปคอร์นไว้ พลางใส่เข้าไปในไปทีละชิ้น

 

 

แกรบๆ

 

 

พอกินเข้าไปเยอะแล้ว เธอก็หยิบเครื่องดื่มขึ้นมาดื่มตามสัญชาตญาณ

 

 

แต่เพิ่งเตรียมจะดื่มอีกอึกหนึ่ง อยู่ๆ เธอก็รู้สึกว่ามีตรงไหนแปลกๆ ไป

 

 

หญิงสาวก้มหน้าลงมอง เครื่องดื่มแก้วที่เป็นของเธอยังตั้งอยู่ในพนักวางแขนเรียบร้อย

 

 

ส่วนแก้วในมือของเธอเป็นของอวี๋เยว่หาน…

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่พลันลนลาน เกือบจะพ่นน้ำในปากออกมาแล้ว

 

 

เธอจึงรีบวางเครื่องดื่มของเขากลับที่เดิมอย่างลนลาน

 

 

ขณะกำลังเลว่าต้องอธิบายกับเขาว่าตนเองไม่ระวังเลยดื่มผิดแก้ว ก็พลันเห็นเขายื่นมือไปยกเครื่องดื่มที่เธอเพิ่งวางลงไปขึ้นมา…

 

 

“เดี๋ยวก่อน แก้วนั้นฉันเพิ่ง…” ยังไม่ทันได้พูดคำว่าดื่มออกมา ริมฝีปากบางของเขาก็แนบอยู่บนตำแหน่งที่เธอเพิ่งดื่มไปแล้ว และดื่มมันเข้าไปอย่างสงบนิ่ง

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ตัวแข็งทื่อทันที!

 

 

แบบนี้นับว่าพวกเขาจูบกันหรือเปล่า

 

 

“เมื่อกี้คุณจะพูดว่าอะไรนะ” อวี๋เยว่หานวางเครื่องดื่มลง ชำเลืองมองเธอ

 

 

หญิงสาวดึงสติกลับมาทันควัน แล้วส่ายหน้าอย่างรวดเร็ว

 

 

“ไม่มีอะไร ฉันไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้น!”

 

 

อยากพูดอะไรก็ไม่ทันแล้ว

 

 

พูดออกมาตอนนี้ ก็มีแต่จะน่าอึดอัดกว่าเดิม

 

 

ถึงอย่างไรเขาก็ไม่รู้ ทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็แล้วกัน

 

 

เธอไม่ได้หลอกจูบเขา…

 

 

ถุยๆ! พูดผิดแล้ว ไม่ได้แอบหลอกดื่มเครื่องดื่มของเขา

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่รู้สึกผิดต่อเขา จึงหยิบป็อปคอร์นยื่นไปที่ปากเขาชิ้นหนึ่ง

 

 

เมื่อเห็นเขากินเข้าไป เธอถึงจะหันไปดูหนังต่อ

 

 

เรื่องรักใคร่ในหนังกำลังเข้าสู่ช่วงที่สวยงามที่สุดพอดี เมื่อเห็นแบบนั้น เธอพลันดูจนเคลิบเคลิ้ม

 

 

โดยไม่ได้สังเกตว่าชายหนุ่มข้างๆ มองเธอไม่ละสายตาอยู่ตลอด ตั้งแต่กินป็อปคอร์นชิ้นนั้นเข้าไป

 

 

เขามองเธอ ที่กำลังตาแดงเพราะหนังที่เริ่มซึ้งขึ้นมา

 

 

เขามองเธอ ที่ร้องไห้ก็ไม่ลืมที่จะกินป็อปคอร์นจนหมด…

 

 

ความจริงแล้วท่าทางไม่ระวังตัว ไม่เรียบร้อยเหมือนลูกคุณหนู ก็ทำให้รู้สึกสบายใจมากเหมือนกัน

 

 

ช่วงสุดท้ายของหนัง ตัวละครชายและหญิงไม่ได้อยู่ด้วยกันเพราะเหตุผลบางอย่าง

 

 

และต่างก็ใช้ชีวิตอยู่ในสถานที่ที่แตกต่างกัน

 

 

แต่บางครั้งใครคนหนึ่งก็จะคิดถึงคนที่เคยอยู่ในชีวิตของตนเองขึ้นมา…

 

 

สมจริงมาก เป็นตอนจบที่ทิ่มแทงใจมาก

 

 

เสียงสะอื้นพลันดังขึ้นที่ข้างหู

 

 

เขาหันไปเห็นคนที่เมื่อครู่เอาแต่กิน กำลังร้องไห้ขี้มูกโป่ง

 

 

หญิงสาวก้มหน้าควานหากระดาษทิชชู่ในกระเป๋าถือ

 

 

ทันใดนั้นมือข้างหนึ่งก็ยื่นข้ามตัวเธอ ก่อนจะล้วงเข้าไปในกระเป๋าของเธอ แล้วหยิบกระดาษทิชชู่ออกมา

 

 

เขาดึงออกมาส่งให้เธอหนึ่งแผ่น

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ตะลึงไปในทันที

 

 

ก่อนจะเงยหน้ามองเขาพร้อมใบหน้าเปื้อนน้ำตาอันน่าอายด้วยความสับสนเล็กน้อย

 

 

เดิมทีเธอคิดว่าจะเห็นรอยยิ้มเยาะบนใบหน้าของเขา

 

 

แต่ที่เธอเห็น มีเพียงดวงตาสีดำลุ่มลึกเหมือนจักรวาลคู่หนึ่ง

 

 

เมื่อเห็นเธออึ้งงัน มือของเขาก็ยกขึ้นเช็ดน้ำตาบนใบหน้าของเธอเล็กน้อย

 

 

“อย่าร้องไห้เลย หนังก็หลอกคนทั้งนั้นแหละ”

 

 

 

 

ตอนที่ 284 หวานเหลือเกิน

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่รับกระดาษทิชชู่จากมือของเขา มาเช็ดน้ำตาของตนเอง จากนั้นก็โต้แย้งพร้อมจมูกแดงๆ “ศิลปะมาจากชีวิต ต้องมีคนเป็นแบบนี้จริงๆ”

 

 

เธอพูดพรางตาแดงก่ำขึ้นอีก

 

 

ทั้งสองคนรักกันแต่อยู่ด้วยกันไม่ได้ ช่างทรมานใจเกินไปจริงๆ

 

 

“งั้นก็อย่าร้องไห้เลย” เสียงของอวี๋เยว่หานทุ้มลงเล็กน้อย เธอยังไม่ทันซาบซึ้ง เขาก็พูดเสริมขึ้นอีก “ร้องไห้แล้วน่าเกลียด”

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ “…” !!

 

 

จบความเป็นเพื่อน!

 

 

หนังจบแล้ว คนรอบข้างจึงทยอยกันออกไป

 

 

ส่วนพวกเขาเดินรั้งท้าย

 

 

เสี่ยวลิ่วลิ่วหลับอุตุอยู่ในโรงหนัง เมื่อเดินออกมาข้างนอกโรงหนังแล้ว เธอถึงจะสะลึมสะลือลืมตาขึ้นมา

 

 

เด็กหญิงกำหมัดเล็กๆ ขึ้นมาขยี้ตาเล็กน้อย

 

 

แถมยังหาวน่ารักครั้งหนึ่ง ก่อนจะมองไปรอบๆ ด้วยท่าทางอยากรู้อยากเห็น

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่เห็นเด็กหญิงตื่นแล้ว จึงเตรียมจะยื่นมือไปอุ้มเธอ แต่ก็เห็นใครบางคนถือดอกกุหลาบช่อใหญ่เดินมาทางพวกเขาเสียก่อน

 

 

“คุณครับ ซื้อกุหลาบให้ภรรยาสักดอกสิครับ”

 

 

“…”

 

 

“ภรรยาสวยขนาดนี้ คลอดลูกสาวน่ารักให้คุณด้วยคนหนึ่ง คุณคงจะไม่เสียดายเงินซื้อดอกกุหลาบให้ภรรยาสักดอกหรอก” พ่อค้าเห็นพวกเขาเป็นครอบครัวพ่อแม่ลูกที่เพิ่งดูหนังจบ

 

 

พลางขายอย่างตั้งอกตั้งใจ

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ดึงสติกลับมา ก่อนจะรีบพูด “พวกเราไม่ใช่สามีภรรยากันค่ะ พวกเราไม่ซื้อ!”

 

 

เธอเพิ่งจะเตรียมอุ้มเสี่ยวลิ่วลิ่วเดินไป รีบหลบเลี่ยงสถานการณ์ที่น่าอึดอัดแบบนี้

 

 

ใครจะรู้ว่าเพิ่งอุ้มเสี่ยวลิ่วลิ่ว เด็กหญิงก็ยื่นนิ้วออกไปจิ้มดอกกุหลาบตรงหน้า

 

 

และพูดขึ้นพร้อมรอยยิ้ม “ปาปาซื้อดอกไม้เร็ว หนูกับพี่สาวคนสวยชอบดอกไม้นะ!”

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ “…”

 

 

“ฮ่าๆ สาวน้อยตาแหลมจริงๆ ดอกกุหลาบพวกนี้พวกเราปลูกเอง ให้ดอกกุหลาบสาวสวยคนนี้เหมาะสมที่สุด คุณจะซื้อกี่ดอกดีครับ” พ่อค้าได้ยินเสี่ยวลิ่วลิ่วพูดดังนั้น ก็รีบตอบรับ

 

 

โดยไม่สนว่าพวกเขามีความสัมพันธ์อะไร ขอเพียงขายดอกไม้ได้ก็พอแล้ว

 

 

อวี๋เยว่หานสวมเสื้อกันลมตัวยาว ขับเน้นให้ร่างสูงโปร่งของเขายิ่งดูสูงและหล่อเหลา

 

 

สองมือของเขาล้วงอยู่ในกระเป๋าเสื้อ มีความรำคาญเจืออยู่ในท่าทางดุดันด้วย

 

 

เครื่องหน้าหล่อเหลา พร้อมทั้งมาดอันโดดเด่น ทำให้รอบกายเขามีแต่ความสูงส่งที่บรรยายไม่ได้ เพียงแค่ยืนอยู่ที่เดิมเท่านั้น

 

 

เขาเงยหน้ามองเหนียนเสี่ยวมู่ หลังจากได้ยินพ่อค้าพูด

 

 

ริมฝีปากบางขยับเล็กน้อย “ดอกกุหลาบในมือคุณ ผมเหมาหมดเลย”

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ “…” !!

 

 

วิธีขายของห่วยๆ แบบนี้ เขาก็เชื่อด้วยเหรอเนี่ย

 

 

เธอยังไม่ทันมีปฏิกิริยาอะไร อวี๋เยว่หานก็ซื้อดอกไม้ให้เธอแล้ว

 

 

“เสี่ยวลิ่วลิ่วชอบ ถือว่าเอาใจเธอ”

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ “…”

 

 

คุณชายหาน คุณหลงลูกสาวมาก รู้ไปมเนี่ย

 

 

แต่ทำไมมองเห็นดอกกุหลาบสดตรงหน้าแล้ว หัวใจของเธอพลันเต้นเร็วขึ้นมาบ้างล่ะ

 

 

เหมือนเวลาออกเดต และอยู่ๆ ก็ได้รับดอกไม้จากแฟนหนุ่มอย่างไรอย่างนั้น

 

 

ท่ามกลางความประหลาดใจ เธอรู้สึกดีใจอยู่เล็กๆ…

 

 

วันนี้เธอต้องถูกวางยาแน่!

 

 

หญิงสาวมองอวี๋เยว่หานที่อยู่ตรงหน้า และรู้สึกว่าเขาอ่อนโยนขึ้นมากทีเดียว

 

 

ต้องเป็นเพราะเสี่ยวลิ่วลิ่วแน่ๆ

 

 

ถูกต้อง! เสี่ยวลิ่วลิ่วน่ารักขนาดนี้ ใครอยู่ใกล้เธอก็ต้องอ่อนโยนขึ้นแน่นอน

 

 

“ขอบคุณ”

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่รับดอกไม้มา และพยายามไม่ให้ตนเองคิดมั่วซั่วอีก

 

 

“ตอนนี้กลับบ้านเลยไหม รถของพวกเราจอดอยู่ไหน…” เธอหันไปมองรอบๆ

 

 

หญิงสาวยังพูดไม่จบ อยู่ๆ อวี๋เยว่หานก็ยื่นมือมาจับท้ายทอยของเธอเอาไว้ แล้วกอดทั้งเธอและเสี่ยวลิ่วลิ่วเข้าแนบอก!

 

 

กลิ่นอายเพศชายอันรุนแรงพุ่งมาเตะจมูก

 

 

แถมยังมีความเอาแต่ใจในแบบของเขาด้วย…