บทที่ 74 คุณคือแสงของผม

บัญชามังกรเดือด

ทุกคนนี่ถึงเข้าใจในทันที

ที่แท้ฉินเทียนก็แค่อาศัยอำนาจคนอื่นทำให้กลัว

“คิดไม่ถึงโกวเฉินเป็นคนอย่างนี้ ไม่คิดว่าจะอยู่กับนักเลง” หลี่เฟินมีใบหน้าที่น่าเสียดาย

ถงชวนตบหน้าอกอยู่ตั้งใจแสดงกล้ามเนื้อที่แข็งแกร่ง มองซูซูอยู่พูดด้วยสายตาที่ร้อนผ่าว“คุณซู คุณดูผมเป็นยังไง?”

“วางใจ! ขอแค่คุณอยู่กับผมแล้วไม่มีใครกล้ารังแกคุณ!”

หยางหลินก็พูดอย่างรีบร้อน“น้องสาว ถงชวนเป็นชายชาตรีของแท้ราคายุติธรรม ที่ท่าเรือเธอก็มองเห็นแล้วเขาจับนักโทษที่หลบหนีได้”

“อีกทั้งถ้าเป็นอย่างที่คิด เขาจะเป็นแชมเปี้ยนของงานดอกเบญจมาศของปีนี้แน่นอน”

“ถึงเวลานั้นเข้าร่วมพันธมิตรฉู่ใช้เวลาไม่กี่ปี ไม่แน่ว่าจะสามารถกลายเป็นผู้นำได้”

“เวลานั้นเธอก็เป็นคุณหญิงของผู้นำแล้ว!”

ซูซูมีใบหน้าที่ไม่รู้จะพูดยังไง

กว่าโกวเฉินจะออกไปได้ก็มีถงชวนมาอีกแล้ว

สองคนนี้ในสายตาของเธอก็น่ารำคาญเหมือนกัน

“คุณซู คุณกลัวคนแซ่ฉินกวนใจคุณใช่ไหม?”

“วางใจ มอบให้ผม!” ถงชวนเห็นซูซูสับสน เขาคำรามเสียงต่ำถลึงตาวัวคู่หนึ่งอยู่ ฝืนเดินมาถึงด้านหน้าของฉินเทียน

“คนแซ่ฉิน ถ้าเก่งก็สู้กับผมสักรอบ!”

“ขอแค่ชนะผมแล้ว คุณซูก็คือของคุณ !”

คุณหญิงของผู้นำ?

ฐานะอันนี้ดึงดูดการให้ความสำคัญของคนตระกูลหยางสำเร็จ ถึงแม้พูดว่าพวกเขาเป็นคนมีการศึกษาแบ่งแยกชัดเจนกับคนในสังคม

แต่แรงผลกระทบของพันธมิตรฉู่ที่ฉู่โจวมีอยู่ทุกที่

ถ้าหากซูซูกลายเป็นคุณหญิงของผู้นำแล้ว พวกเขาก็มีอำนาจมีหน้ามีตาตามไปด้วย

กระทั่งหลี่เฟินมีความเสียใจภายหลังเล็กน้อย ก่อนหน้านี้ตัวเองทำไมไม่ได้คิดถึงจุดนี้

ดูจากด้านนี้ศักยภาพของถงชวนมีมากกว่าโกวเฉินมากแล้ว

เธอพูดอย่างตื่นเต้น“ฉินเทียน ได้ยินว่านายก็เป็นนักเลง ทำไม ตอนนี้ไม่กล้าประลองฝีมือกับถงชวนเหรอ?”

“ถ้าหากกระทั่งความสามารถและความกล้าของนายจุดนี้ต่างก็ไม่มี งั้นวันหลังจะปกป้องให้ความสุขแก่ซูซูได้ยังไง?”

“ประโยคหนึ่ง ถ้าหากไม่กล้าตอนนี้ก็ออกไปจากซูซู ไสหัวออกไปจากตระกูลหยาง!”

ซูซูและหยางยู่หลัน ทั้งหมดต่างก็มองฉินเทียนอยู่อย่างตื่นเต้น

พวกเธอต่างก็รู้อารมณ์โกรธของฉินเทียนไม่ดีมาก ๆ เป็นห่วงมากวันนี้จะเกิดเรื่องนองเลือด

เผชิญหน้ากับการบีบบังคับของพลังความรุนแรงและการถามด้วยศีลธรรม สุดท้ายฉินเทียนก็ไม่ได้ลงมือ

ขอแค่เขาอยาก อย่างวิชากังฟูชนิดนี้ของถงชวนฝ่ามือหนึ่งก็สามารถตบให้ตายสิบคน

เพียงแต่นั่นสำคัญเหรอ?

เขาอาศัยกำลังมาแย่งชิงผู้หญิงกับนักต่อสู้คนหนึ่ง?

ด้านหนึ่ง นั่นไม่เหมาะสมกับฐานะของเขา อีกด้านหนึ่งคือผลลัพธ์อย่างนั้นก็ไม่ใช่สิ่งที่เขาอยากได้

ความรักต้องการความรู้สึกที่ดีซึ่งกันและกันทั้งสองฝ่าย หลังมีเงื่อนไขก็จะสำเร็จตามธรรมชาติแต่ไม่ใช่อาศัยพลังการต่อสู้ไปรับมา

“คุณน้าคุณป้า คุณยายคุณตา ผมรู้พวกคุณคือได้ยินอะไรบางอย่างมาแล้วแน่นอน ดังนั้นถึงได้ขับไล่ผม”

“ผมไม่โทษพวกคุณ กลับกันผมยังต้องขอบคุณพวกคุณเพราะผมรู้พวกคุณต่างก็หวังดีต่อซูซู”

“มีญาติมิตรอย่างพวกคุณนี้ ผมรู้สึกดีใจแทนซูซู”

เขาเอ่ยปากด้วยเสียงที่จริงใจที่ออกมาจากใจ เปรียบเทียบกับคนตระกูลซูของหลงเจียงขึ้นมาแล้วคนตระกูลหยางดีมากแล้วจริง ๆ

เพียงอาศัยความคิดที่ดีของพวกเขาที่มีต่อซูซูมานาน นี่ก็เพียงพอแล้ว

หยางหลินพูดกัดฟัน“ไอ้เด็กหนุ่ม นายรู้ก็ดีแล้ว!”

“ตอนนี้ออกไปจากซูซูยังทัน!”

ฉินเทียนส่ายหน้าแล้วพูด“พี่ชาย ผมจะไม่ออกไปจากซูซู”

“ผมยอมรับ พวกเราจากที่รู้จักถึงแต่งงานเป็นสวรรค์ล้อเล่นหรือพูดได้ว่าเป็นการตั้งใจหยอกล้อให้น่าเกลียด”

“ในการหยอกล้อนี้ผมและคุณซูต่างก็ได้รับการทำร้ายอย่างใหญ่หลวง”

“แต่สำหรับผมแล้วก็ได้รับของขวัญที่ล้ำค่าที่สุดในชีวิต

“ผมพบว่าผมรักเธอเข้าแล้ว เธอก็เหมือนแสงบริสุทธิ์ที่ศักดิ์สิทธิ์หนึ่งที่ส่องแสงเข้ามาในชีวิตที่มืดมิดของผม ให้ผมมีความกล้าที่จะยืนขึ้นมาใหม่อีกครั้ง”

“ผมสาบานจะต้องพยายามสร้างโลกของตัวเองให้ได้”

“คืนแต่งงานใหม่ผมถูกคนหักแขนขาทิ้งในแม่น้ำเจียงที่หนาวเย็น โชคดีที่ถูกยอดฝีมือช่วยไว้”

“ห้าปีมานี้ ผมประสบพบเจอมามากมาย จำไม่ได้แล้วที่หลายครั้งชีวิตแขวนด้วยเส้นด้าย”

“แต่ผมต่างก็อดทนผ่านมาได้ ตอนที่ทนไม่ไหวทุกครั้งในใจต่างก็คิดถึงคุณซูขึ้นมา”

“เป็นเธอให้ผมมีความกล้าที่จะมีชีวิตต่อไป”

“ตอนนี้ผมกลับมาแล้ว”

“ผมก็มีความสามารถเพียงพอให้เธอมีอนาคตที่สดใสสวยงามให้ชีวิตเต็มไปด้วยความสุข”

“ดังนั้นไม่ว่าพวกคุณจะพูดยังไง ผมต่างก็จะไม่ปล่อยมือ”

“นอกซะจาก”

ฉินเทียนมองไปทางซูซู สายตามีความเงียบเหงาเล็กน้อย“เธอต้องการออกไปจากผมเอง”

“ถ้าหากคุณซูคิดว่าผมคือการดำรงอยู่ในชีวิตของเธอที่ไม่สามารถรับได้ อย่างนั้นผมจะออกไปอย่างเงียบ ๆ ”

“จะไม่รบกวนตลอดชีวิต”

น้ำเสียงของเขาเรียบเฉียบมากแต่ข้อมูลเหล่านั้นที่เปิดเผยมา อีกทั้งเรื่องที่เป็นตัวแทนอยู่เบื้องหลังทำให้ทุกคนตกใจ

คนหนึ่งที่ถูกตีแขนขาหัก คนที่ถูกทิ้งลงในแม่น้ำเจียงที่หนาวเย็นมีชีวิตรอดมาได้ยังไง?

เขาเองต่างก็จำไม่ค่อยได้แล้ว มีหลายครั้งชีวิตแขวนด้วยเส้นด้ายเขาต่างก็ประสบพบเจออะไรมา?

และผลักดันให้เขามีชีวิตต่อมาคิดไม่ถึงว่าจะเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง ผู้หญิงคนที่เขาสัญญาไว้ต้องการให้ความเจริญรุ่งเรือง

ซูซูหน้าตาไหลเต็มหน้านานแล้ว

เธอจู่ ๆ พบว่าที่จริงแล้วตัวเองเห็นแก่ตัวมาก ไปคิดปัญหาในมุมของตัวเองตลอดกลับไม่เคยคิดถึงความรู้สึกของผู้ชายคนนี้

พูดขึ้นมาห้าปีก่อน ถึงแม้เขาแย่งชิงครั้งแรกของตัวเองแล้วแต่นั่นก็หมดหนทางแล้วเพื่อที่ช่วยตัวเอง

เธอยังจำได้คลุมเครือ เวลานั้นฤทธิ์ยาของตัวเองกำเริบหลายครั้งกระโจนเข้าใส่ฉินเทียนที่ส่งอาหารเดลิเวอรี่ เข้ามาต่างก็ถูกผลักออกแล้ว

เห็นได้ว่าเขาเป็นคนตรงมากคนหนึ่ง

สุดท้ายรับไม่ไหวกับภายใต้ความปรารถนาของตัวเองฉีกเสื้อผ้าขาด ต้องการบุกออกจากห้องเขาไม่รู้จะทำยังไงสุดท้ายถึงได้กอดตัวเองไว้แล้ว
ถ้าหากเวลานั้นไม่มีการกอดนั่น เธอเปลือยกายบุกออกจากห้องเปิดเผยต่อหน้าทุกคน นั่นจะเป็นผลเสียยังไง?

เพียงกลัวว่าบนโลกนี้จะไม่มีซูซูนานแล้ว

เธอจะกระโดดลงในแม่น้ำเจียงให้กระแสแม่น้ำเจียงชะล้างความสะอาด

ต่อมาตัวเองเพื่อรักษาชื่อเสียงไว้ให้เขาเป็นลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านอย่างสมัครใจ เขารับปากแล้วแต่กลับในคืนแต่งงานใหม่ถูกคนตีแขนขาหัก

ในแม่น้ำเจียงที่มืดมิดหนาวเย็น เขาควรจะหมดหวังและทุกข์ทรมานยังไง?

การทำร้ายเหล่านี้ต่างก็เป็นตัวเองที่นำพามาให้เขา

และเขาไม่เพียงไม่โกรธแค้นตัวเอง แต่กลับดิ้นรนกลับมาครั้งแล้วครั้งเล่าในช่วงเวลาของความเป็นความตาย เพียงเพื่อมีวันหนึ่งมีความสามารถที่เพียงพอมาปกป้องตัวเอง

เขากลับมาแล้วไม่เพียงรักษาโรคของตัวเองให้หายดี ยังช่วยตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่า

สุดท้ายตัวเองถึงได้มีสภาพในตอนนี้

ถ้าหากไม่มีเขาตอนนี้ตัวเองยังคงนั่งอยู่บนรถเข็นนั่น เป็นคนอัมพาตมุมปากน้ำลายไหล

นาทีนี้เธอใจสลายมาก รู้สึกว่าตัวเองทำให้ผู้ชายคนนี้ผิดหวังแล้ว

หยางยู่หลันก็ตาแดงนานแล้ว

เธอจับมือของลูกสาว อมยิ้มพูด“ลูก ฉินเทียนกำลังถามลูกอยู่ ลูกให้คำตอบแก่เขาหน่อย”

“ลูกจะออกไปจากเขาไหม?จะรู้สึกรับเขาไม่ได้ไหม?”

ซูซูนี่ถึงมีปฏิกิริยากลับมา เธอเช็ดน้ำตาพูดด้วยใบหน้าที่แดงว่า“ถึงยังไงแหวนแต่งงานนี้ก็เป็นคุณที่สวมใส่ให้ฉัน”

“มีวันหนึ่งถ้าคุณต้องไป ขอให้คุณเอามันถอดออกด้วยตัวเอง”

ฉินเทียนดีใจมาก

ซูซูพูดอย่างนี้ความหมายก็คือเธอจะไม่ออกไปจากเขา นอกจากว่าเขาไม่ต้องการเธอแล้ว

“รอเสร็จเรื่องเหล่านี้แล้ว พวกเราแต่งงานอย่างเป็นทางการ!”

“ผมเคยพูดจะจัดงานแต่งงานที่สั่นสะเทือนไปทั่วโลกให้คุณ!” เขาพูดอย่างตื่นเต้น

ซูซูหน้าแดงไม่ได้พูด แต่ทุกเส้นความเขินอายบนใบหน้าที่สวยงามนั่นเหมือนดอกท้อที่บานในสายลมอ่อน ต่างก็แสดงความตระหง่านในฤดูใบไม้ผลิ

เกิดอะไรขึ้น?

ทำไมผู้ชายที่ไม่ซื่อสัตย์กับความรัก ในพริบตาก็กลายเป็นผู้ชายที่จริงใจแล้ว?

รายการแสดงละครหย่ากลายเป็นเครื่องดนตรีทรัมเป็ตที่เร่งแต่งงานแล้ว?

หยางหลินไม่มีวิธีที่จะรับได้ เขาพูดเสียงดังด้วยความโกรธ“พอแล้ว ไม่ต้องแสดงละครอีกแล้ว!”

เพิ่งพูดจบด้านนอกประตูใหญ่ก็ส่งเสียงแตรรถที่บ้าคลั่งมา

ในเสียงที่หยิ่งผยองเป็นบริเวณ มีคนใช้ลำโพงขยายเสียงร้องตระโกนว่า“พวกคุณได้ถูกล้อมไว้แล้ว!”

“ไอ้เลวนั่นยังไม่รีบไสหัวออกมาฟังพี่หยางจัดการ!”