ตอนที่ 285 ความสงสัยของผู้คน (1) / ตอนที่ 286 ความสงสัยของผู้คน (2)

เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา

ตอนที่ 285 ความสงสัยของผู้คน (1)

เพี้ยะ!

ถังอวี้ตบหน้าหงอวี้

หงอวี้ไม่กล้าตอบโต้ ได้แต่ยอมให้ถังอวี้ตบต่อหน้าต่อตา

แก้มของหงอวี้บวมแดงเป็นรอยนิ้ว

“เจ้าเลิกพูดถึงคนเนรคุณเสียที! ท่านอาจารย์บาดเจ็บหนัก ข้าดูแลนางเป็นเวลาสิบปี ลูกสาวของนางรู้ข่าวว่านางได้รับบาดเจ็บ กลับไม่เห็นแม้แต่เงา! ยังดีที่ท่านอาจารย์เตรียมใจไว้ก่อนเรื่องนางทรพีนั่น จึงไม่ได้บอกนางเรื่องจวนเฟิงอวิ๋น ไม่อย่างนั้น จวนเฟิงอวิ๋นคงถูกนางชุบมือเปิบ”

หงอวี้ตัวสั่นเล็กน้อย

เป็นไปไม่ได้!

นายหญิงเป็นคนอ่อนโยนเช่นนั้น ลูกสาวของนางไม่มีทางเป็นคนเนรคุณจิตใจเลวทรามเป็นแน่

หากตอนนั้นนายหญิงไม่ได้สั่งไว้ เมื่อนางหายสาบสูญไป คนของจวนเฟิงอวิ๋นจะต้องตามสืบประวัติของนางแน่

แต่นายหญิงเคยบอกไว้ว่า ไม่ว่าต่อไปนางอยู่หรือไม่ ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น ทุกคนในจวนเฟิงอวิ๋นห้ามขุดคุ้ยเรื่องคนในครอบครัวนางเป็นอันขาด!

ดังนั้น จนถึงบัดนี้ คนของจวนเฟิงอวิ๋นต่างไม่ทราบภูมิหลังที่แท้จริงเกี่ยวกับนายหญิง

คนที่เคยพบนายหญิง น้อยยิ่งกว่าน้ำในทะเลทราย

นอกจากเหล่าขุนนางภักดีที่ติดตามนายหญิงแล้ว ก็มีเพียงนางคนเดียวเท่านั้นที่เคยเห็นหน้านายหญิง

ต่อให้นางอยากพิสูจน์สิ่งที่ถังอวี้พูดแค่ไหน ก็ไม่กล้าขุดคุ้ยสืบหาคนในครอบครัวของนายหญิงโดยพลการ!

นี่คือสิ่งที่คนทั้งจวนเฟิงอวิ๋นเคยรับปากนายหญิงไว้เมื่อสมัยก่อน!

“หงอวี้ เจ้าเป็นแค่สาวใช้ เจ้ากล้าขัดขวางคุณหนูหรือ” เหวินเฟิงหัวเราะหึๆ

สมัยก่อนตอนเขาอยู่ข้างนอก หงอวี้ในฐานะผู้พิทักษ์เคยตำหนิเขาไว้ไม่น้อย

ตอนนี้เป็นเวลาเอาคืน เขาจึงเป็นฝ่ายบดขยี้ผู้หญิงคนนี้บ้าง

“ทุกคนในจวนเฟิงอวิ๋น พื้นที่ในจวนทุกกระเบียดนิ้วล้วนเป็นของคุณหนู! ในเมื่อนี่เป็นเรือนที่ดีที่สุดในจวนเฟิงอวิ๋น ก็ต้องเป็นของคุณหนูโดยปริยาย เจ้าเป็นแค่สาวใช้จะวุ่นวายอะไรนักหนา! คิดหรือว่าผู้อาวุโสพวกนั้นจะคุ้มกะลาหัวเจ้าได้ อย่าลืมนะว่าคุณหนูเป็นศิษย์เพียงคนเดียวของนายหญิง จึงเป็นผู้สืบทอดเพียงคนเดียวของจวนแห่งนี้!”

ลูกสาวแท้ๆ ที่ไม่มีใครเคยเห็นนั่นน่ะ มีตัวตนอยู่จริงหรือไม่ก็ไม่รู้ ต่อให้มีอยู่จริง นายหญิงมอบป้ายคำสั่งให้คุณหนูถังอวี้แล้ว นั่นแสดงว่านางไว้วางใจคุณหนูมากกว่า

ตำแหน่งผู้สืบทอดจวนเฟิงอวิ๋นต้องเป็นของนางแน่นอน!

“เหวินเฟิง เจ้าไปตามคนมาทำความสะอาดเฟิงอวี้ย่วน วันนี้ข้าจะเข้าไปพัก!” ถังอวี้หัวเราะหึ นางเดินไปอยู่ตรงหน้าหงอวี้แล้วพูดถากถาง “หงเอ๋อร์ เจ้าอย่าคิดนะว่าสมัยก่อนอาจารย์ของข้าช่วยเจ้าไว้ แล้วเจ้าจะทำอะไรก็ได้! ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ยอมสวามิภักดิ์ต่อข้า แต่ใครใช้ให้เจ้าทำตัวน่าสมเพชเวทนาคอยตามติดอาจารย์ข้าล่ะ”

ที่นางถากถางหงอวี้ก็เพราะหงอวี้เป็นเด็กที่หรงเยียนเก็บมาเลี้ยงเมื่อสมัยก่อน แถมหรงเยียนยังดีกับนางมากเป็นพิเศษ

ถังอวี้โมโห อิจฉา และเกลียด

ทุกสิ่งทุกอย่างของหรงเยียนต้องเป็นของนางคนเดียวเท่านั้น ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ห้ามมาแย่ง

ไม่ว่าจะเป็นลูกสาวของหรงเยียน หรือจะเป็นหงอวี้ที่เคยเป็นที่สงสารของหรงเยียนก็ตาม!

ถังอวี้ไม่มองหงอวี้อีก นางเดินเข้าไปในเรือน

เมื่อเห็นถังอวี้เดินเข้าไป หงอวี้กำมือแน่น แววตาของนางมีความโกรธ รู้สึกผิด และจนใจ

สุดท้ายนางทำได้เพียงเดินจากไป ไม่อาจขัดขวางถังอวี้ต่อไปได้

ที่ชุมนุมผู้พิทักษ์ ผู้พิทักษ์คนอื่นๆ กำลังรอหงอวี้กลับมา

เมื่อเห็นหงอวี้เดินเข้าห้องมา พวกเขาต่างดีใจ แต่ทันทีที่เห็นรอยนิ้วมือที่แก้มของนาง พวกเขาก็รู้สึกโมโหขึ้นมาทันที

“หงอวี้ นางตบเจ้าใช่หรือไม่” ชายหนุ่มในชุดสีเทาสีหน้าเปลี่ยน เขาถามด้วยความอดกลั้น

ทั้งๆ ที่เมื่อครั้งผู้อาวุโสห้ายังอยู่ นางไม่ทำตัวโอหังขนาดนี้ แต่พอผู้อาวุโสห้าไม่อยู่ ตัวตนที่แท้จริงจึงเปิดเผยออกมา

ด้วยนิสัยใจคอของนายหญิงแล้ว มีหรือที่นางจะรับคนแบบนี้เป็นลูกศิษย์

ตอนที่ 286 ความสงสัยของผู้คน (2)

“นางเข้าไปที่เฟิงชิงย่วนแล้ว”

เฟิงชิงย่วนถือเป็นที่ต้องห้ามของจวนเฟิงอวิ๋น

ด้วยเหตุนี้เมื่อทุกคนได้ยินสิ่งที่หงอวี้พูด จึงพากันเงียบและหายใจแรงราวกับคนกำลังโมโห

“ในเฟิงชิงย่วนมียาที่ล้ำค่าที่นายหญิงปลูกเอาไว้ แถมยังมียาวิเศษอีกจำนวนมาก ก้อนหินในสวนกลางเรือนล้วนเป็นหินวิเศษสีดำ ราคามหาศาลและช่วยในการรวบรวมพลังวิเศษ ส่วนน้ำก็เอามาจากบึงศักดิ์สิทธิ์ในป่าแห่งสัตว์วิเศษ ใช้แรงงานคนจำนวนมากค่อยๆ หาบมาทีละถัง! ผนังห้องแขวนภาพวาดภาพอักษรของผู้มีชื่อเสียง มูลค่าสูงนัก ส่วนถ้วยน้ำก็เช่นกัน…”

น้ำเสียงของชายหนุ่มชุดสีเทาดูพลุ่งพล่านและโมโห

แต่เขากลับถูกห้ามปรามเอาไว้

“พอเถอะ ไม่ต้องพูดแล้ว พูดมากไปจะมีประโยชน์อะไร” ชายชุดเขียวเอามือคลึงขมับตัวเอง “ป้ายคำสั่งนั้นเป็นของนายหญิงจริงๆ คนที่มีมันในครอบครองก็คือนายคนรองของจวนเฟิงอวิ๋น ทั้งๆ ที่นายหญิงสลักป้ายนี้เพื่อลูกสาวของนาง แต่ทำไมถึงตกอยู่ในมือของถังอวี้ได้”

แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือบนตัวของถังอวี้ยังมีกลิ่นอายของนายหญิงหลงเหลืออยู่ ยิ่งกว่านั้น นางยังมีวิทยายุทธแบบเดียวกับนายหญิงด้วย

นี่แสดงให้เห็นว่า นางเป็นศิษย์ของนายหญิงจริงๆ !

ถ้าป้ายของนายหญิงถูกขโมยไป และถูกถังอวี้ฆ่าละก็ นายหญิงคงไม่สอนวิทยายุทธให้ถังอวี้

ดังนั้นฐานะของถังอวี้ พวกเขาจึงไม่รู้สึกสงสัย

แต่ตอนนี้มาคิดดูอีกที ด้วยนิสัยใจคอของนายหญิง จะรับศิษย์ที่มีความโอหัง ยอมศิโรราบต่อผู้มีอำนาจและกลั่นแกล้งรังแกผู้อ่อนแอกว่าแบบนี้หรือ

“ชิงหย่วน เจ้าออกไปทำภารกิจข้างนอกเป็นประจำ เจ้าจงสืบหาข่าวคราวของนายหญิงต่อไป ข้าไม่เชื่อว่านายหญิงตายแล้ว! เพราะคนที่นี่ นอกจากเหล่าผู้อาวุโสแล้ว มีเพียงเจ้ากับข้า และหงอวี้ที่เคยพบนายหญิง” เฟิงอิงสีหน้าเคร่งเครียด

ชายหนุ่มที่ชื่อชิงหย่วนกัดฟันถาม “พวกเราจะ…ออกไปตามหาคนในครอบครัวของนายหญิงหรือไม่ ด้วยความสามารถของคนในจวนเฟิงอวิ๋นแล้วมันไม่ใช่เรื่องยากอะไร หากเป็นแบบนี้ไม่แน่ว่า…”

“ไม่ได้!” เฟิงอิงส่ายหน้า “สมัยก่อนนายหญิงเคยพูดไว้ ไม่ว่าต่อไปจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับนาง ห้ามใครไปยุ่งเกี่ยวกับคนในครอบครัวนางเด็ดขาด สถานภาพของนางไม่เหมือนคนทั่วไป เกรงว่าจะทำให้คนในครอบครัวต้องเป็นอันตราย ดังนั้นพวกเราไม่อาจถือภาพวาดนางเดินป่าวประกาศตามหาได้!”

ด้วยความสามารถของจวนเฟิงอวิ๋นแล้ว การตามหาคนไม่ใช่เรื่องยากอะไร

ขอแค่มีภาพเหมือนของคนที่จะตามหาก็พอ

แต่ตอนนี้บรรดาศิษย์ของจวนเฟิงอวิ๋น ต่างไม่มีใครรู้จักรูปพรรณสัณฐานของนายหญิง ถ้าจะออกตามหาคงเป็นเรื่องที่ยากมาก

มีหลายครั้งที่พวกเขาอยากใช้ภาพเหมือนออกตามหานายหญิง แต่ทุกครั้งก็ต้องหักห้ามใจเอาไว้เป็นเพราะนายหญิงเคยพูดไว้ ถ้าคนอื่นได้เห็นภาพเหมือนของนาง ย่อมจะนำพาภัยอันตรายมาสู่ญาติของนาง

เมื่อไม่อาจใช้หนทางดังกล่าวได้ พวกเขาทำได้เพียงอาศัยคนไม่กี่คนเที่ยวออกตามหานางอย่างยากลำบากกว่าสิบปี แต่สุดท้ายกลับตามไม่พบ!

ชิงหย่วนเหมือนยังมีบางอย่างที่อยากพูด แต่เมื่อเห็นว่าคนอื่นๆ ไม่เห็นด้วยกับวิธีการของเขา เขาจึงทำได้แค่เก็บมันไว้ในใจ

“ถึงอย่างไร ข้าก็ไม่เชื่อว่านายหญิงจะรับลูกศิษย์แบบนี้ ข้าสงสัยว่าถังอวี้เป็นศิษย์แท้หรือศิษย์เทียมกันแน่!”

เฟิงอิงกลอกตาไปมา “แม้ผู้อาวุโสห้าจะยืนยันความสัมพันธ์ระหว่างนางกับนายหญิงแล้ว แต่มีหลายเรื่องที่เขาเองก็ไม่ทราบแน่ชัด ดังนั้นจึงไปที่ต้องห้ามด้วยตนเอง เพื่อเรียกผู้อาวุโสท่านอื่นมาหารือด้วยว่าจะทำอย่างไร”

ความจริงแล้ว พวกเขาก็ไม่ได้เชื่อในตัวถังอวี้นัก

แต่ก็ไม่มีทางยืนยันได้ว่านางคือตัวปลอม ดังนั้นจึงได้แต่ปล่อยนางอวดเบ่งไปก่อน ถ้าหากศิษย์คนนี้เป็นของปลอมจริงละก็ ต่อไป…พวกเขาต้องไม่ปล่อยนางไปแน่!

“แล้วก็ไปสืบดูภูมิหลังของถังอวี้ ดูว่าหลายปีที่ผ่านมานางเกี่ยวข้องกับใครบ้าง”