เล่ม 2 ตอนที่ 145 ไว้ชีวิต

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์

หยดน้ำทะลุผ่านช่องท้องของนาคาปีกทมิฬกลืนเวหาอย่างรวดเร็ว!

ถึงแม้จะเป็นหยดเล็กๆ ทว่าพลังนั้นกลับรุนแรงนัก ซึ่งมันได้ทิ้งรูเลือดขนาดเท่ากำปั้นไว้บนร่างของนาคาปีกทมิฬกลืนเวหา!

เกล็ดแข็งแตกกระจาย เลือดเนื้อสาดกระเซ็น!

นาคาปีกทมิฬกลืนเวหาไม่เคยเสียเปรียบเช่นนี้มาก่อน มันร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด และยิ่งเกลียดแค้นฉู่หลิวเยว่มากขึ้น

สัตว์อสูรที่เฝ้าดูตรงตีนเขาต้องตื่นตระหนกเมื่อเห็นภาพนี้!

ในความคิดของพวกมัน นาคาปีกทมิฬกลืนเวหาคือสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังที่สุด เป็นราชาที่พวกมันต้องยอมจำนน ทว่าในยามนี้ มันกลับบาดเจ็บเพราะเงื้อมมือมนุษย์!

เหล่าสัตว์อสูรต่างกระวนกระวาย

ในพื้นที่นอกสุด สัตว์อสูรเริ่มล่าถอยอย่างลังเล

พวกมันล้วนมีสติปัญญา เมื่อเห็นเช่นนั้น พวกมันรู้ว่าฉู่หลิวเยว่ไม่ง่ายที่จะลงมือ

เมื่อครุ่นคิดพิจารณาแล้ว อยู่ห่างๆ ชั่วครู่ย่อมเป็นเรื่องที่ดีกว่า

และแน่นอนว่าสัตว์อสูรส่วนใหญ่ยังอยู่ปกป้องที่นี่ และเฝ้าดูนาคาปีกทมิฬกลืนเวหาบนท้องฟ้าอย่างใกล้ชิด

เมื่อนาคาปีกทมิฬกลืนเวหาเห็นภาพเหล่านั้น มันก็ยิ่งหงุดหงิด

มันเป็นผู้นำในบรรพตวั่นหลิงมาหลายปี ทว่าตอนนี้สถานะของมันกำลังพังทลายเพราะฉู่หลิวเยว่เพียงผู้เดียว!

หากวันนี้เขาแพ้ฉู่หลิวเยว่ในที่สาธารณะ มันจะไม่เหลือศักดิ์ศรีอีกต่อไป!

ครั้นเมื่อคิดเช่นนั้น ความบ้าคลั่งจึงปรากฏในแววตาของนาคาปีกทมิฬกลืนเวหา จากนั้นมันจึงพุ่งเข้าหาฉู่หลิวเยว่อีกครั้ง!

ตู้ม!

มันสะบัดหาง ทว่าฉู่หลิวเยว่หลบได้อย่างหวุดหวิด แต่หินที่ด้านหลังนางกลับแตกเป็นเสี่ยงๆ ก่อนกรวดกระจัดกระจาย!

แม้ว่านางจะรอดจากการโจมตี ทว่าบาดแผลที่อยู่บนร่างกายกลับเจ็บปวดขึ้นเรื่อยๆ

ฉู่หลิวเย่ก้มลงมองไหล่ซ้ายของตนเอง

อาการบาดเจ็บอื่นๆ ไม่สำคัญ ที่เป็นปัญหาคือไหล่ของนางกระแทกเข้ากับหิน กระดูกไหล่หัก และเกรงว่าตอนนี้จะทนต่อไปได้อีกนาน

นางต้องหาทางหนีให้เร็วที่สุด!

ครั้นเมื่อคิดเช่นนั้น นางจึงหลบไปอีกด้านหนึ่ง

นาคาปีกทมิฬกลืนเวหาไล่ตามอย่างบ้าคลั่ง

ทุกที่ที่ฉู่หลิวเยว่ผ่านไป มีความยุ่งเหยิงอยู่ด้านหลัง!

ปัง!

ทันใดนั้นเกิดเสียงดังสนั่น

สิ่งที่เคลื่อนไหวอยู่ด้านหลังนางหยุดนิ่งไปชั่วขณะ

ฉู่หลิวเยว่หันกลับไปมอง นางกลับเห็นบาดแผลที่ท้องของนาคาปีกทมิฬกลืนเวหาขยายใหญ่ขึ้นอีกครั้ง ราวกับว่ามันถูกโจมตีอีกครั้ง ในตอนนี้มันขดตัวด้วยความเจ็บปวด

ฉู่หลิวเยว่ขมวดคิ้วด้วยความงุนงง

นี่…มันคือพลังของหยดน้ำ!

นาคาปีกทมิฬกลืนเวหาดิ้นพล่านด้วยความเจ็บปวด พลังแห่งความโกลาหลบดขยี้ก้อนหินโดยรอบจนแหลกละเอียด!

ตอนนี้คือโอกาสหลบหนี!

ฉู่หลิงเยว่หันหลังกลับ และเดินออกไปได้เพียงสองก้าว ทันใดนั้นกลับรู้สึกว่ามีมือยื่นออกมาข้างๆ!

นางหันกลับไปในทันที

สายตาของนางแหลมคมราวกับกริช ทำให้ฝ่ายตรงข้ามหยุดการเคลื่อนไหวอย่างขี้ขลาด

ฉู่หลิวเยว่ได้เห็นใบหน้าของฝ่ายตรงข้ามอย่างชัดเจน

“กู้หมิงจู!”

ในขณะนี้ร่างกายของกู้หมิงจูเต็มไปด้วยคราบเลือดคราบสกปรก ใบหน้าเหมือนมีอะไรขีดข่วน ผมเผ้ายุ่งเหยิง สีหน้าตื่นตระหนก

นางจ้องไปที่ฉู่หลิวเยว่ พลางพูดอย่างร้อนรน “ฉู่หลิวเยว่ ฉู่หลิวเยว่ช่วยข้าด้วย! เจ้าพาข้าไปด้วย!”

ฉู่หลิวเยว่ไม่พูดอะไร เพียงแต่กวาดสายตามองนางตั้งแต่หัวจรดเท้า และเดาว่านางเจอสิ่งใดมา

นางหันหลังกลับ พร้อมทั้งเดินจากไปอย่างไร้ความรู้สึก

กู้หมิงจูตื่นตระหนก นางไม่คิดว่าฉู่หลิวเยว่จะใจร้ายถึงเพียงนี้

“ฉู่หลิวเยว่! เจ้าอย่าทิ้งข้าอย่างใจดำเช่นนี้! ข้ากับเจ้าคือสหายที่มีอาจารย์เดียวกัน หากเจ้าทำกับข้าเช่นนี้ ในภายภาคหน้า…”

ฉู่หลิวเยว่ทำเป็นหูทวนลมและเดินต่อไปไม่หยุด

ในตอนนี้แค่นางรักษาชีวิตตัวเองยังเป็นเรื่องยาก หากนางพากู้หมิงจูไปด้วย นางต้องตายเป็นแน่!

หากต้องทำให้นางเดือดร้อน เหตุใดนางจะต้องพาไปด้วย!

กู้หมิงจูหันกลับไปมองนาคาปีกทมิฬกลืนเวหาที่ดิ้นทุรนทุรายด้วยความเจ็บปวด พลางกัดริมฝีปาก

แม้ว่านางจะไม่ยอมรับ แต่ก็รู้ดีว่าในยามนี้นางต้องตามฉู่หลิวเย่เท่านั้นจึงจะมีโอกาสรอด

นางค้นหามาเป็นเวลานาน แต่กลับไม่พบผลึกแก้วใสสีดำลึกลับที่เป็นไม้ตายของนาง จึงจำต้องลงจากเขา โดยที่นางคิดว่าตนอาจจะโชคดีที่สามารถหลีกเลี่ยงสัตว์อสูรเหล่านั้นและออกมาอย่างปลอดภัย

แต่คิดไม่ถึงว่านางจะเดินมาได้เพียงไม่นาน กลับถูกพวกมันค้นพบและเกือบตายในเงื้อมมือของพวกมัน!

ด้วยความสิ้นหวัง นางจึงเลือกที่จะกลับมาอีกครั้ง และนางก็ไม่พบสัตว์อสูรอีกเลย

น่าจะเป็นผลจากการควบคุมของนาคาปีกทมิฬกลืนเวหา

ถึงแม้พวกมันจะไม่ขึ้นมา แต่ก็ไม่จากไปไหน และขวางทางลงเขาเต็มไปหมด ไม่รู้ว่าฉู่หลิวเยว่ทำอย่างไร จึงสามารถหยุดยั้งการโจมตีของนาคาปีกทมิฬกลืนเวหาได้ นางจำเป็นต้องหนีไปกับฉู่หลิวเยว่!

เมื่อคิดเช่นนั้น นางจึงรีบเดินตามไป ทันใดนั้นฉู่หลิวเย่กลับหันกลับมาพลางมองนางอย่างเย็นชา

“แม้ว่าตอนนี้ข้าจะบาดเจ็บ แต่หากต้องการจะฆ่าเจ้า ข้าก็สามารถทำได้อย่างง่ายดาย หากเจ้ายังอยากมีชีวิตที่ยืนยาว ดีที่สุดคืออย่ายั่วโมโหข้า”

กู้หมิงจูตกใจกับน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยแรงอาฆาตที่เปิดเผยของนาง

นางใช้เวลาสักพักกว่าจะตอบสนอง ฉู่หลิวเยว่กำลังข่มขู่นาง!

ในตอนนี้ฉู่หลิวเยว่ไม่สนใจความรู้สึกของสหายที่มีอาจารย์คนเดียวกันเท่าไหร่นัก นางจึงพูดออกมาเช่นนั้น!

“ฉู่หลิวเยว่! เจ้ากำลังบังคับให้ข้าไปตายใช่หรือไม่!?” กู้หมิงจูตะโกนออกมาอย่างเหลือเชื่อ

ฉู่หลิวเยว่ยิ้มอย่างเยือกเย็น

“ยามที่เจ้านำหมีแผงคอทองคำมา เจ้าควรคิดถึงวันนี้”

เมื่อนางพูดจบ นางก็เดินจากไปอย่างไม่รีรอ

ความโกรธและความแค้นของกู้หมิงจูที่มีฉู่หลิวเยว่เพิ่มทวีคูณขึ้นในตอนนี้

ดีมากฉู่หลิวเย่!

เห็นได้ชัดว่าฉู่หลิวเยว่มีหนทางช่วยเหลือ ทว่ากลับยังใจดำ และยังต้องการจะฆ่านาง!

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็อย่าโทษนางที่ผิดศีลธรรม

ฉู่หลิวเยว่เพิ่งเดินไปเพียงไม่นาน ทันใดนั้นกลับรู้สึกถึงลมเย็นที่อยู่ด้านหลังนาง!

นางหลบอย่างรวดเร็ว และก้อนหินหนึ่งก้อนก็ลอยผ่านหูนางไป!

ก้อนหินนั่นคือหินที่แตกเมื่อสักครู่นี้ ขอบและมุมนั้นแหลมคม สิ่งที่สำคัญก็คือหินนั้นพุ่งตรงไปยังแผลที่หลังของนาง!

หากนางหลบไม่ทัน หินนั้นอาจจะกระทบกับกระดูกไหล่ที่แตกของนาง!

ฉู่หลิวเยว่ขมวดคิ้วพลางหันกลับมา “กู้หมิงจู เจ้า…”

ในขณะที่นางยังไม่ทันพูดจบ ฉับพลันกู้หมิงจูก็กระโจนเข้ามาหานางทันที!

ฉู่หลิวเยว่ยกขาขึ้น พร้อมทั้งเตะหน้าอกของนางอย่างดุเดือด!

กู้หมิงจูกระแทกลงบนพื้นอย่างแรง และกระอักเลือดออกมาเต็มปาก ทว่านางกลับกัดฟันและคลานเข้าไปกอดขาฉู่หลิวเยว่ไว้แน่น แล้วหันกลับมากรีดร้องใส่นาคาปีกทมิฬกลืนเวหาที่อยู่ด้านหลัง “ข้า ข้าช่วยเจ้าขัดขวางนาง! ได้โปรดจงไว้ชีวิตข้าได้หรือไม่!? เจ้าต้องการเพียงแค่ชีวิตนางใช่หรือไม่? เจ้าอย่าฆ่าข้าได้หรือไม่?”

ในตอนนี้แสงเย็นยะเยือกปรากฏขึ้นในแววตาของฉู่หลิวเยว่!