บทที่ 116 กลมเกลียวกันไว้ ทุกเรื่องขอให้กลมเกลียวกันไว้

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน

บทที่ 116 กลมเกลียวกันไว้ ทุกเรื่องขอให้กลมเกลียวกันไว้
เสิ่นเทียนรับปืนสั้นกระบอกนี้มาพิจารณาอย่างละเอียด

ก่อนจะพบว่าปืนนี้มีความยาวราวๆ สามฉื่อ เป็นสีดำมืดทุกส่วน

แต่ปากปืนกลับเป็นสีทอง รูปทรงเหมือนดอกบัวสีทองที่ยังไม่เบ่งบาน

บนตัวปืนแกะสลักลวดลายมรรคาลึกลับยากจะคาดเดา มองปราดเดียวก็รู้ว่าไม่ใช่สมบัติวิเศษธรรมดา

ฉินอวิ๋นตี๋กล่าวว่า “ศิษย์พี่ แก่นเหล็กทมิฬหมื่นปีนี้ล้ำค่ากว่าแก่นเหล็กทมิฬธรรมดาหลายเท่าเลย ปืนนี่หลอมด้วยแก่นเหล็กทมิฬหมื่นปี แข็งแรงมากถึงขั้นรับแรงระเบิดจากยันต์ระเบิดอัสนีหลายแผ่นได้

ในตัวปืนซ่อนยันต์ระเบิดอัสนีไว้ร้อยใบ ทุกครั้งที่ศิษย์พี่เปิดตราเวทจุดชนวนระเบิดจะระเบิดยันต์ระเบิดอัสนีในนั้นห้าใบ ตอนนี้เองดอกบัวสีทองจะบานออก แล้วยิงตะปูเทพที่สลักตราเวททะลวงปราการไว้ตรงดอกตูมออกไป สังหารศัตรูได้ในพริบตา

ขณะเดียวกัน ตะปูเทพทะลวงปราการดอกที่สองที่ซ่อนอยู่ในตัวปืนจะถูกตราเวทส่งออกไปประกบอยู่ในดอกบัวใหม่ แค่ศิษย์พี่เปิดตราเวทจุดชนวนอีกครั้ง ตะปูเทพทะลวงปราการดอกที่สองก็จะถูกยิงออกไป ถ้าอีกฝ่ายไม่มีการป้องกันละก็ แม้แต่ผู้แข็งแกร่งแก่นพลังทองรอบสามก็อาจจะต้องคับแค้นใจเช่นกัน”

ผู้แข็งแกร่งแก่นพลังทองรอบสามที่ฉินอวิ๋นตี๋บอก ก็คือผู้แข็งแกร่งระดับแก่นพลังทองช่วงปลาย

ในบรรดาผู้บำเพ็ญระดับแก่นพลังทอง ระดับนี้ถือว่าเป็นผู้ค่อนข้างแข็งแกร่งแล้ว

เมื่อได้ฟังฉินอวิ๋นตี๋อธิบายถึงวิธีการใช้ปืนปทุมฆาตเทพแล้ว เสิ่นเทียนยังอดปลงอนิจจังในใจมิได้

ต้องบอกว่าในโลกบำเพ็ญเซียนมีวิชาต่างๆ เป็นตัวช่วย การพัฒนาเทคโนโลยีจึงง่ายมากจริงๆ

ตนแค่บอกเจ้าพวกนี้ว่าไฟฟ้าแยกน้ำจะเกิดเป็นพลังหยินและหยาง จากนั้นชี้แนวทางการวิจัยให้พวกเขา ปรากฏว่าแค่สามเดือนสั้นๆ เจ้าพวกนี้กลับสร้างการผลิตอัตโนมัติครบวงจรกับปืนกลกึ่งอัตโนมัติยี่สิบนัดได้

ฉินอวิ๋นตี๋กล่าวต่อ “ในปืนนี้มีตะปูเทพทะลวงปราการยี่สิบดอก ในนั้นสลักตราเวทเคลื่อนวัตถุไว้ หลังจากศิษย์พี่จัดการศัตรูเสร็จแล้วก็ใช้ตราเวทดึงมันกลับมาบรรจุใช้ใหม่ได้

นอกจากนี้ ตัวปืนยังเป็นอาวุธสมบัติวิญญาณระดับกลาง มีอานุภาพไม่ธรรมดายิ่ง หลังจากศิษย์พี่หยดเลือดให้มันยอมรับเป็นนายแล้ว ก็จะใช้ปืนนี่ขี่เป็นอาวุธกระบี่บินสังหารศัตรูได้

ช่วงที่ฝ่ายตรงข้ามลดการป้องกันลง ก็กระตุ้นตราเวทจู่โจม เช่นนี้บางทีอาจจะเกิดผลเกินคาดก็ได้”

……

เมื่อเห็นฉินอวิ๋นตี๋มีใบหน้าหลงใหล ดวงตาหรี่ลงทั้งหมดเหมือนใสซื่อไม่มีพิษมีภัยโดยธรรมชาติ เสิ่นเทียนถึงกับตกใจ

ศิษย์น้องหนอศิษย์น้อง ตอนแรกข้าก็คิดว่าเจ้าเป็นเด็กเนิร์ดที่ไม่มีความคิดแผนการอะไร ไม่นึกเลยว่าเจ้าจะ…!

ฉินอวิ๋นตี๋เหมือนอ่านความคิดจากสีหน้าเสิ่นเทียนออก จึงรีบอธิบาย

“ศิษย์พี่อย่าเข้าใจผิด อันนี้ท่านแม่พูดตอนที่สร้างมันขึ้นมา ข้าเองก็คิดว่าสมบัติวิเศษชนิดนี้ดูไม่ถูกต้องชอบธรรมเช่นกัน”

เสิ่นเทียนยิ้ม “สมบัติวิเศษมีถูกต้องไม่ถูกต้องด้วยรึ อีกทั้งก็ไม่ได้ใช้วิธีการโหดเหี้ยมไร้ซึ่งมนุษยธรรมหลอมสมบัติวิเศษชั่วร้ายขึ้นมา ศิษย์น้องอย่าไปถือเลย”

เสิ่นเทียนพูดพลางโคจรพลังฤทธิ์ บีบแก่นสารโลหิตจากนิ้วชี้หยดหนึ่งลงบนปืนยาว

ทันใดนั้นปรากฏแสงสว่างวาววับ เขารู้สึกว่าตนกับปลายปืนสั้นกระบอกนี้เกิดการเชื่อมต่อกัน

ซ่า~!

เสิ่นเทียนประสานมุทรา ปืนปทุมฆาตเทพพลันสั่นไหวเบาๆ

เขาลองใช้พลังฤทธิ์ควบคุมปืนปทุมฆาตเทพ พบว่ามันไม่ได้ยากเลย

หลังหยดโลหิตรับเป็นนายแล้ว ปืนปทุมฆาตเทพขยับคล่องแคล่วมากเหมือนกับแขนขาของตัวเอง

เสิ่นเทียนควบคุมปืนปทุมฆาตเทพให้หันปากปืนช้าๆ เล็งที่หินยักษ์สูงประมาณหนึ่งจั้งก้อนหนึ่งข้างๆ

ปัง~!

เสียงดังขึ้นเบาๆ ปืนปทุมฆาตเทพสั่นไหวเล็กน้อย ดอกบัวตรงปากปืนเบ่งบานออกทีละกลีบ งดงามยิ่ง

ส่วนตะปูเทพทะลวงปราการที่ฝังอยู่กลางดอกบัวพลันกลายเป็นแสงสว่างสีทองสายหนึ่งทะลวงหินยักษ์สูงประมาณหนึ่งจั้งนั้น

ต่อมา ตะปูเทพดอกนั้นพุ่งชนยอดค่ายกลคุ้มกันภูเขาบนพื้นอย่างแรง ทะลวงยอดค่ายกลคุ้มกันภูเขาเป็นรูหนึ่งทันที

ตะปูเทพฝังลึกลงดิน แม้อานุภาพจะไม่แรงเท่าค้อนของเสิ่นเทียนเมื่อครู่ แต่พลังทะลุทะลวงก็ยังรุนแรงกว่า

เสิ่นเทียนแอบชมว่าปืนดีเงียบๆ จากนั้นใช้พลังฤทธิ์เรียกปืนเทพกับตะปูเทพกลับมาใหม่ บรรจุใส่อีกครั้ง

……

“ศิษย์น้องอวิ๋นตี๋ เหตุใดอาจารย์อาบัวทองคำถึงหลอมปืนสั้นเช่นนี้ล่ะ ท่านได้บอกอะไรไว้หรือไม่”

เสิ่นเทียนพลิกปืนปทุมฆาตเทพไปมา แม้ระดับของมันจะพอสูงกว่าค้อนม่วงทอง แต่สำหรับผู้บำเพ็ญขั้นต่ำกว่าแก่นพลังทองแล้ว อานุภาพไม่ได้ต่างกันมากจริงๆ

หากสู้กันระยะประชิด เทียบกันแล้วเสิ่นเทียนยังชอบค้อนม่วงทองมากกว่า

ถึงอย่างไรตอนสู้ระยะประชิดยาวหนึ่งนิ้วก็แกร่งกว่าหนึ่งนิ้ว ผู้ชายส่วนใหญ่ไม่มีใครชอบใช้ปืนที่สั้นเกินไปต่อสู้หรอก

ทว่าอาวุธที่มีพลังอย่างค้อนม่วงทอง ตอนต่อสู้ยังมีน้ำหนักและให้ความรู้สึกพึงพอใจกว่า โดยเฉพาะตอนที่ใช้ควบคู่กับยันต์ระเบิดอัสนีเทพกำเนิดฟ้า ตั้งแต่จุดชนวนไปจนถึงระเบิด!

ดังนั้นเสิ่นเทียนจึงไม่ค่อยเข้าใจว่าเหตุใดปืนนี่ถึงสั้นเช่นนี้

เมื่อได้ฟังเสิ่นเทียนถาม ฉินอวิ๋นตี๋ก็พูดด้วยสีหน้าแปลกๆ “ศิษย์พี่ชอบปืนยาวรึ ท่านแม่บอกว่าปืนปทุมฆาตเทพมีการใช้งานหลักๆ คือโจมตีระยะไกล ดังนั้นจะต้องมีความคล่องแคล่วและรวดเร็วเป็นหลัก

หากหลอมเป็นปืนยาวแปดจั้ง การควบคุมจะไม่คล่องแคล่วอีก กลับจะวางความสำคัญสลับหน้าหลังกันด้วยซ้ำ ปืนสั้นสามฉื่อมีการใช้งานที่เบา ควบคุมทิศทางได้รวดเร็ว ท่านแม่คิดว่าความยาวขนาดนี้เหมาะสมที่สุดแล้ว

แน่นอนว่ายังมีอีกเหตุผล นั่นคือราคาของแก่นเหล็กทมิฬหมื่นปี…แค่กๆ ดังนั้นจะต้องใช้ประหยัดๆ หน่อย”

เสิ่นเทียนเข้าใจแจ่มแจ้งแล้ว “ที่แท้ก็เช่นนี้เอง ศิษย์พี่คิดไม่รอบคอบเอง ข้าชอบของขวัญชิ้นนี้มากนะ”

เมื่อเห็นว่าเสิ่นเทียนยอมรับ ฉินอวิ๋นตี๋ก็ยิ้มหยีตา “ถ้าศิษย์พี่ชอบก็ดีแล้วขอรับ”

ฉินอวิ๋นตี๋พูดพลางกลอกตาใต้หนังตาเล็กน้อย

เขาคิดว่าถึงเวลาที่ต้องเอ่ยปากขอคำชี้แนะจากศิษย์พี่เรื่องมหามรรคหยินหยางทวนวารีแล้ว

ถึงอย่างไรศิษย์พี่แค่พูดไม่กี่คำก็ทำให้แดนศักดิ์สิทธิ์วิจัยสร้างเป็นอาวุธทรงพลังเช่นนี้ออกมาได้ ความเข้าใจในมหามรรคหยินหยางจะต้องเหนือธรรมดาอย่างแน่นอน

ช่วงนี้ฉินอวิ๋นตี๋ใคร่ครวญมาตลอดว่าจะมีวิธีใดที่จะพัฒนาอานุภาพของอัสนีเทพหยินหยางได้บ้าง แต่เขาก็เจอคอขวด ดูท่าคงได้แต่ต้องให้ศิษย์พี่ชี้แนะแล้ว

คอขวดนั้นน่าจะถูกทะลวงได้อย่างรวดเร็วกระมัง!

…..

ฉินอวิ๋นตี๋กำลังจะพูดพลันได้ยินเสียงคำรามดังสนั่นมาจากบนฟ้าไกลๆ

“เสิ่นเทียน ไอ้คนต่ำช้าไร้ยางอาย เจ้าใช้บัญญัติบรรพชนฝ่ายเรารังแกศิษย์น้องอวิ๋นซีรึ! เก่งจริงก็ออกมาวัดกับแซ่ฟางว่าใครจะเหนือกว่ากัน แซ่ฟางอยากรู้นักว่าเจ้ามีความสามารถอะไร ถึงได้รับฐานะบุตรศักดิ์สิทธิ์ฝ่ายเรา!”

เพิ่งสิ้นเสียงก็เห็นแสงเทพสีแดงอมทองยิ่งออกมากลางฟ้า บุรุษสวมชุดเกราะศักดิ์สิทธิ์สีทองมือถือทวนมังกรแดงเพลิงคนหนึ่งพุ่งทะยานเข้ามา

ปรากฏการณ์วิหคชาดและกิเลนยักษ์เบื้องหลังเขาย้อมสีผืนฟ้า แผ่กระจายพลังบ้าอำนาจอย่างยิ่งออกมาตามอำเภอใจ

ใช่ คนนี้ก็คือผู้แข็งแกร่งที่สุดในศิษย์รุ่นนี้ของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ ศิษย์พี่ใหญ่แก่นพลังทองแปดรอบ ฟางฉาง!

ก่อนจะเห็นเขาเส้นผมชี้ฟ้าด้วยความโกรธเกรี้ยว ขนคิ้วตั้งขึ้น กำลังพุ่งทะยานมายังยอดเขาบุตรศักดิ์สิทธิ์ที่เสิ่นเทียนอยู่ และข้างหลังเขายังมีบุรุษชุดคลุมดำหน้าตาหล่อเหลาอีกคน ใบหน้าเขาเต็มไปด้วยความร้อนใจ

“ศิษย์พี่ใหญ่อย่าใจร้อน ทุกคนเป็นศิษย์พี่ศิษย์น้องร่วมฝ่ายเดียวกัน กลมเกลียวกันไว้ ทุกเรื่องขอให้กลมเกลียวกันไว้เถอะ!”

……………………