เย่ฉงไห่กล่าวพลางถอนหายใจ “เสี่ยวเฉินเอ้ย ตอนนั้นที่ปู่ให้แกแต่งเข้าน่ะ ที่จริงก็เดาเอาไว้อยู่แล้วว่าจะต้องเกิดเรื่องทำนองนี้ขึ้นแน่ๆ จะหญิงหรือชายชีวิตนี้จำเป็นต้องเคยโดนทรยศหักหลังกันทั้งนั้น นี่อาจจะไม่ใช่เรื่องแย่ก็ได้ เพียงแต่คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าแกจะรักหวังเจียเหยาเข้าจริงๆ

เฮ้อ ที่จริงแล้วตอนนั้นฉันก็ไม่อยากให้แกแต่งงานกับหล่อนหรอก อยากจะหาผู้หญิงธรรมดาๆ ให้แกแค่นั้นแหละ แต่พี่รองแกนั่นแหละทู่ซี้จะหาภรรยาให้แกเป็นสาวงามล่มเมืองอยู่ได้ บอกว่าปล่อยให้แกแต่งเข้าสามปีก็ถือว่าทำให้แกลำบากมากแล้วต้องหาเมียให้สวยๆ ไม่อย่างนั้นแกจะรันทดเกินไป ตอนนี้ดูไปแล้วความหวังดีของพี่รองแกในตอนนั้นกลายเป็นมาทำร้ายแกแทน”

ก็เป็นแบบนั้นจริงๆ ผู้ชายทุกคนต่างก็ชอบผู้หญิงสวยๆ ทั้งนั้น เพียงแต่ให้ความสำคัญของหน้าตาไม่เท่ากัน

ถ้าหวังเจียเหยาไม่ได้สวยขนาดนั้น หุ่นก็ไม่ได้ดีแบบนั้น สามปีมานี้เย่เฉินอาจจะไม่ชอบหล่อนขนาดนี้

ในวินาทีนี้เย่เฉินถึงได้รู้ว่าผู้หญิงหน้าตาสะสวยก็เหมือนกุหลาบที่มีหนาม ชื่นชมได้แต่ไม่เหมาะที่จะเด็ดดม

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนที่คุณไม่มีศักยภาพมากเพียงพอ!

ไม่อย่างนั้นดอกซิ่งแดงออกนอกกำแพง[1]เป็นเรื่องที่ไม่ช้าก็เร็วอย่างไรก็ต้องเกิดขึ้น

อย่างไรเสียคนจีบผู้หญิงสวยๆ นั้นมีมากมาย จะสวยขนาดไหนก็เป็นแค่ปุถุชน ให้ต้านทานการล่อลวงสักครั้งอาจจะยังพอไหว แต่ถ้านับครั้งไม่ถ้วนล่ะ?

ประเมินพวกหล่อนสูงเกินไปแล้ว!

เย่ฉงไห่เห็นเย่เฉินไม่พูดไม่จาก็กล่าวถาม “เสี่ยวเฉินแล้วแกจะทำยังไง? จะหย่ากับหล่อนไหมล่ะ? ยังไงเสียตอนนี้หล่อนก็ไม่ได้ครอบครองทรัพย์สินอะไรของตระกูลเย่ ด้วยศักยภาพของตระกูลเย่ เราก็แค่บีบให้หล่อนเซ็นหย่า หล่อนไม่กล้าไม่เซ็นหรอก ทว่าตอนนี้หล่อนตั้งท้องสายเลือดตระกูลเย่เรา เด็กคนนี้จะต้องอยู่กับเรา! แน่นอนว่าถ้าเด็กคลอดออกมาต้องทำการตรวจ DNA ก่อน!”

คนแก่มักจะให้ความสำคัญกับเด็กอย่างมาก

บ้านคนรวยบางคนถึงขนาดที่ว่าให้ลูกชายแต่งงานกับผู้หญิงสวยๆ แล้วก็ให้ลูกสะใภ้คลอดลูกชายอย่างน้อยสองคนภายในสองสามปี

หลังจากเด็กคลอดออกมาแล้วก็ขับลูกสะใภ้ออกจากตระกูลในทันที เพราะสิ่งที่พวกเขาต้องการก็คือเด็กเท่านั้น

หวังเจียเหยามีรูปโฉมงดงามแถมยังมีพรสวรรค์ในด้านดนตรีศิลปะอย่างมาก ซึ่งพันธุกรรมแบบนี้ก็เป็นสิ่งที่ตระกูลเย่ต้องการ

เย่ฉงไห่ไม่สนใจนิสัยหวังเจียเหยา ขอแค่หล่อนคลอดทายาทตระกูลเย่ แล้วยกเด็กให้พวกเขาดูแล

เย่เฉินเองก็รู้สึกว่าเด็กบริสุทธิ์ เขาเองก็ไม่ใจร้ายมากพอที่สังหารชีวิตน้อยๆ ที่ยังไม่แม้แต่จะได้เกิดมา!

ดังนั้นเขาจึงคิดเหมือนกับคุณปู่ พวกเขาต้องการให้หวังเจียเหยาให้กำเนิดเด็กคนนี้!

เย่เฉินกล่าวว่า “คุณปู่ครับ ผมไม่สามารถขอหย่ากับหวังเจียเหยาได้ ก่อนหน้านี้ก่อนย่าเล็กหวังจะเสีย ผมรับปากกับหล่อนเอาไว้ว่าผมจะไม่หย่ากับหวังเจียเหยา นอกเสียจากว่าหล่อนจะเป็นฝ่ายขอหย่ากับผมก่อน”

“แกหมายความว่า?” เย่ฉงไห่จับต้นชนปลายไม่ถูก

เย่เฉินกล่าวว่า “หวังเจียเหยาเป็นผู้หญิงที่หลงไหลไปกับชื่อเสียงเงินทอง ทันทีที่ผมกลายเป็นยาจก หล่อนจะต้องเป็นฝ่ายขอหย่ากับผมแน่นอน 100% ดังนั้นผมหวังว่าคุณปู่จะขับผมออกจากตระกูล“!”

ได้ยินหลานชายกล่าวเช่นนี้เย่ฉงไห่ก็สะดุ้ง

จะให้ขับหลานชายออกจากตระกูล เย่ฉงไห่จะทำลงได้อย่างไร!

เย่ฉงไห่กล่าว “ก็ได้ปู่จะร่วมแสดงละครกับแกแล้วกัน ตระกูลหลิ่วอยากจะเล่นงานแกพอดีไม่ใช่เหรอ?งั้นปู่จะไม่ช่วยแบกราคาหุ้นที่ลงไม่หยุดของบริษัทหัวเซิ่งกรุ๊ปแล้ว ส่วนแกก็แกล้งทำเป็นแพ้คนตระกูลหลิ่วนั่นแล้วกัน”

“ครับ!”

นี่ก็เป็นข้ออ้างที่ดีมากเหมือนกัน หวังเจียเหยาน่าจะไม่สงสัย

พูดไปแล้วเย่เฉินเองก็ต้องขอบคุณการปั่นหุ้นครั้งนี้ของหลิ่วอวี่เจ๋อ ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่รู้ว่าจะหาข้ออ้างอะไรมาสลัดหวังเจียเหยาผู้หญิงหน้าไม่อายคนนี้ทิ้ง!

เมื่อกดสายทิ้งแล้วเย่เฉินก็ล้างหน้าแปรงฟัน ตอนเขาแปรงฟันยังเหมือนมีเสียงน่าอายของหวังเจียเหยาสะท้อนอยู่ที่ริมหู!

เย่เฉินหงุดหงิดอย่างมาก แปรงฟันยังแปรงจนเลือดออก!

“ถุย!”

เย่เฉินถ่มเลือดที่ผสมอยู่ในยาสีฟันทิ้งแล้วกล่าวกับตนเองในกระจก “หวังเจียเหยาเสียดายที่ผมเชื่อใจคุณ คิดไม่ถึงว่าคุณจะวางแผนต่างๆ นานาหลอกลวงผมมานานขนาดนี้!”

ที่จริงเรื่องของหวังเจียเหยาและฟางเชาเองไม่ได้รุนแรงจนไม่อาจให้อภัย แต่สิ่งที่เย่เฉินเกลียดชังที่สุดคือการหลอกลวงของหญิงสาว!

เมื่ออาบน้ำเสร็จเขาก็กลับไปที่ห้องนอน เตรียมสวมเสื้อผ้าเพื่อไปทำงานที่บริษัทจะได้ไม่ต้องเห็นหน้าหล่อนทั้งวัน ถ้าเขาเห็นภรรยาตอนนี้คงจะอดถามไม่ได้ ถึงขนาดที่อยากจะลงไม้ลงมือกับหญิงสาวด้วยซ้ำไป!

“ที่รัก ทำไมตื่นเช้าจัง?”

ในช่วงนี้หวังเจียเหยาตื่นแต่เช้าเพื่อจะได้ไปออกเดทกับหลิ่วอวี่เจ๋อ

ดังนั้นเมื่อได้ยินเสียงกุกกักเพียงเล็กน้อยในห้องก็สะดุ้งตื่น

หวังเจียเหยาขยี้ตาแล้วมองผู้เป็นสามี

เย่เฉินบอกกับตัวเองว่าเขาจะต้องไม่ทำให้อีกฝ่ายรู้ว่าตนเองรู้ความจริงแล้วเด็ดขาด มิฉะนั้นคงจะจบชีวิตแต่งานครั้งนี้ไม่ได้!

เย่เฉินไม่มองหญิงสาวเพียงแต่ส่งเสียงรับคำหล่อนเท่านั้น

หวังเจียเหยามองเวลาแล้วกล่าว “ฉันควรตื่นได้แล้ว ที่รักช่วยเตรียมน้ำผสมน้ำผึ้งให้ฉันแก้วหนึ่งสิ”

ตั้งแต่ทั้งสองคนคืนดีกันแล้ว กิจวัตรเดิมๆ ก็กลับมา

ตอนเช้าของทุกวันเย่เฉินจะเตรียมน้ำผสมน้ำผึ้งให้หวังเจียเหยา เพื่อสุขภาพของหญิงสาว

แต่ในวินาทีนี้เย่เฉินไม่อยากทำสักนิดเดียว!

“ผมเตรียมน้ำผสมน้ำผึ้งให้คุณทุกวันตอนเช้า แถมยังซื้อมาสก์หน้าวาลมองท์จากสวิตเซอร์แลนด์ที่ดีที่สุดให้คุณ บำรุงผิวหน้าของคุณ เพื่อให้คุณเอาหน้าสวยๆ นี้ของคุณไปล่อลวงผู้ชายคนอื่นหรือไง!”

เย่เฉินระบายโทสะในใจ

ทว่าหวังเจียเหยาไม่ได้สังเกตการเปลี่ยนแปลงของสามีจึงกล่าวอย่างหัวเสีย “ยืนนิ่งอยู่ทำไม ไปเร็วๆ ฉันหิวน้ำแล้วนะ”

เย่เฉินฝืนสะกดโทสะในใจแล้วรับคำหล่อน “ได้สิ”

เย่เฉินเดินออกไปที่ห้องนั่งเล่นด้านนอกแล้วผสมน้ำอุณหภูมิ 60 องศากับน้ำผึ้งให้กับหวังเจียเหยา แล้วส่งไปให้หญิงสาวในห้อง

หวังเจียเหยาไม่ลุกจากที่นอน หล่อนเอนตัวดื่มน้ำบนเตียง

ดื่มไปได้สองอึกหวังเจียเหยาก็กล่าวอย่างมีความสุขว่า “ได้ดื่มน้ำผสมน้ำผึ้งที่ที่รักทำให้ทุกวันแบบนี้มีความสุขจังเลย!”

“ชิ คุณก็ต้องมีความสุขแน่ล่ะ มีผู้ชายคนหนึ่งในบ้านคนหนึ่ง นอกบ้านอีกคนหนึ่ง มีผู้ชายมากมายขนาดนี้คอยพะเน้าพะนอเอาใจจะไม่มีความสุขได้ยังไง!”

เย่เฉินเหยียดหยามหญิงสาวในใจ

“ที่บริษัทมีงาน ผมต้องไปแล้ว” เย่เฉินผละตัวออก

“เดี๋ยวก่อนค่ะ” จู่ๆ หวังเจียเหยาก็เรียกเย่เฉิน “คุณยังไม่ได้จูบฉันเลย!”

ตั้งแต่กลับมาคืนดีกันแล้ว เย่เฉินและหวังเจียเหยาก็มีข้อตกลงกัน นั่นคือหลังจากที่ตื่นนอนแล้วจะต้องจุมพิตกันหรือที่เรียกกันว่า morning kiss

ไม่ใช่แค่หวังเจียเหยาและไม่ใช่ผู้หญิงจีนเท่านั้น กระทั่งผู้หญิงต่างชาติก็ชื่นชอบการ morning kiss กับคู่รักหลังจากตื่นนอนตอนเช้า

แต่เมื่อเขานึกถึงการทรยศของหญิงสาวจะให้จูบหล่อนลงอีกได้อย่างไร!

แต่เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายสงสัย เขาจึงต้องจำใจทำเช่นนี้

“ผมไปล่ะ คืนนี้อาจจะกลับมาดึก”

เย่เฉินจุมพิตภรรยาลวกๆ แล้วเดินออกจากห้องนอนในชั้นสาม แต่เขาไม่ได้ตรงออกจากวิลล่าแต่อย่างใด เขาแวะห้องน้ำที่ชั้นหนึ่งก่อน

แล้วแปรงฟันอีกครั้ง!

จูบกับหวังเจียเหยาทำให้เขารู้สึกขยะแขยงเหลือเกิน!

[1] คบชู้