ตอนที่ 737-738

ลำนำบุปผาพิษ

บทที่ 737 + 738 โดย Ink Stone_Romance

บทที่ 737 ข้าเชื่อใจเจ้า

ใบหน้าเขาซีดขาวอย่างร้ายกาจ มือคล้ายต้องการล้วงบางอย่างออกมาจากอกเสื้อ ทว่ามือสั่นเท่ายิ่งนัก ล้วงออกมาไม่ได้ชั่วขณะ

กู้ซีจิ่วทนดูไม่ได้ “หาอะไรอยู่? ข้าจะช่วยท่านหา”

“ยา…” ตี้ฝูอีเอ่ยออกมาคำเดียว

กู้ซีจิ่วนึกว่ายาของเขาอยู่ในถุงตรงอกเสื้อ แต่พอยื่นมือเขาไปคลำหาอยู่นานสองนาน กุ้งฝอยสักตัวก็หาพบไม่ กลับสัมผัสถูกแผ่นอกเขาโดยไม่ได้ตั้งใจอยู่หลายครั้ง…

กู้ซีจิ่วแทบจะหลั่งน้ำตา ตอนนี้มือข้างหนึ่งของเธอโอบเขาไว้ อีกข้างควานอยู่ในอกเสื้อเขา มองอย่างไรเธอก็เหมือนเติ้งถูจื่อภาคสตรีที่กำลังลวนลามคนผู้นี้เอยู่

โชคดีที่ละแวกนี้ไม่มีคนอื่น หากปล่อยให้ผู้อื่นพบเห็นเข้า อาจจะเกิดข่าวลืออันใดแพร่ออกไปก็เป็นได้

กู้ซีจิ่วรู้สึกห่อเหี่ยวอยู่บ้าง “อยู่ตรงไหนกัน?”

“อกเสื้อตรงตำแหน่งหัวใจ ห้วงมิติ…” เขากระซิบ

กู้ซีจิ่วมองอย่างตกตะลึง ห้วงมิติ?!

หลังจากฝึกฝนพลังวิญญาณจนบรรลุขั้นที่เจ็ดถึงจะฝึกจนเรียกใช้สิ่งนี้ได้ เธอก็เคยได้ยินจากที่อาจารย์เล่าเท่านั้น ยังไม่เคยเห็นมาก่อน

ยิ่งไปกว่านั้นคือาจารย์กล่าวไว้ว่า ห้วงมิติของทุกคนจะมีเพียงเจ้าของหรือคนที่มีฝีมือเหนือชั้นกว่าเขา (หรือนาง) เท่านั้นถึงจะเปิดออกได้ ผู้อื่นแค่คิดก็อย่าได้ฝัน ต่อให้สังหารอีกฝ่ายก็ยังไม่แน่ว่าจะนำของในห้วงมิติของผู้อื่นออกมาได้

กู้ซีจิ่วรู้สึกอยู่ลึกๆ ว่าตนดูแลเขาไม่ไหว จึงปรึกษากับเขาโดยตรง “มิสู้ให้ข้าไปเรียกผู้อื่นมาดีกว่า? ข้ามีพลุสัญญาณที่เรียกผู้อื่นมาที่นี่ได้…”

เธอกำลังจะหยิบพลุสัญญาณอันนั้นออกมา กลับถูกมือของเขากดไว้ทันที “ไม่ได้!”

“เพราะเหตุใด?”

“ไม่อาจให้ผู้อื่นเห็นข้า…ในสภาพนี้ได้”

กู้ซีจิ่วพูดไม่ออก

เธอมองเขาด้วยท่าทีจริงใจ “ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย ข้ารู้ว่าท่านรักหน้ามาก ไม่ยินดีให้ผู้อื่นเห็นรูปลักษณ์ของท่านในยามนี้ เกรงว่าจะอับอายขายหน้า แต่ถึงหน้าตาจะมีราคา แต่ชีวิตนั้นมีค่ายิ่งกว่า เมื่อเทียบกับชีวิตของท่านแล้ว ข้ารู้สึกด้วยใจจริงว่าหน้าตาอันใดล้วนเป็นเพียงเมฆาเลื่อนลอย…”

ตี้ฝูอีหลับตาลงเล็กน้อยหอบหายใจหลายระลอก “ปัญหา…มิใช่เรื่องหน้าตา”

กู้ซีจิ่วไม่เข้าใจ

เอาเถอะ ในเมื่อท่านทูตสวรรค์ผู้นี้ไม่ยินยอมยิ่งนัก เธอก็จะไม่บังคับฝืนใจ ใคร่ครวญอยุ่ครู่หนึ่งก็ปรึกษากับเขาอีกหน “เอาเช่นนี้แล้วกัน ท่านรออยู่ที่นี่ ข้าจะไปเรียกลูกน้องสักคนของท่านมาแบบเงียบๆ ดีไหม?”

ตี้ฝูอีขยุ้มแขนเสื้อของเธอไว้ มองเธอด้วยสายตาที่ค่อนข้างเศร้าหมอง “เจ้า…คิดจะทิ้งข้าไว้เช่นนี้หรือ?”

กู้ซีจิ่วจึงอธิบาย “…ข้าเปล่า แค่คิดจะไปเรียกคนให้ท่านเท่านั้น ท่านก็เห็นตัวข้าในยามนี้ช่วยเหลือท่านไม่ได้…”

ตี้ฝูอีพ่นลมหายใจออกมาเล็กน้อย “มิใช่ว่าเจ้าฝังเข็มเป็นหรอกหรือ?”

กู้ซีจิ่วชะงักไปแวบหนึ่ง วิธีฝังเข็มกดจุดสามารถแก้ไขการถูกธาตุไฟเข้าแทรกแบบทั่วไปได้จริงๆ แต่ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายที่อยู่เบื้องหน้านี้เห็นได้ชัดว่ามิใช่การถูกธาตุไฟเข้าแทรกแบบทั่วไป ไหนเลยจะฝังส่งๆ ได้?

ตี้ฝูอีคล้ายว่าจะอ่านความคิดเธอออก “ไม่ต้องกลัว ข้าจะสอนให้เจ้าฝัง…”

เอาเถิด! เธอจะได้เรียนรู้ทักษะอีกแขนงหนึ่งเพิ่มพอดี

เข็มทองนั้นเธอพกติดตัวอยู่แล้ว จึงหยิบออกมาได้เลย จากนั้นก็ฝังลงไปตามจุดที่ตี้ฝูอีชี้แนะด้วยเสียงแผ่วๆ…

เคราะห์ดีที่ตัวเธอก็นับว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญ แถมยังหลักแหลม ขอเพียงตี้ฝูอีบอกจุดฝังและระดับความลึกที่เหมาะสม เธอก็จะฝังลงไปตรงตำแหน่งทันที

จุดที่เขาสอนให้เธอฝังลงไปเหล่านี้ล้วนเป็นจุดฉีเหมิน[1] มีอยู่หลายจุดที่เป็นจุดตาย หากฝังพลาดไปสักจุดก็จะทำให้ผู้อื่นสิ้นชีพได้

หากมิใช่เพราะกู้ซีจิ่วเชี่ยวชาญด้านนี้ ต่อให้มีคนจับมือสอน ก็รับประกันได้ยากว่าจะไม่เกิดข้อผิดพลาด

หลักจากฝังทั้งหมดเสร็จสิ้นฝ่ามือกู้ซีจิ่วก็ประหม่าจนมีเหงื่อผุดเต็มฝ่ามือ เธอพ่นลมหายใจออกมาพลางมองเขา “จุดเหล่านี้สำคัญยิ่งนัก ท่านไม่กลัวว่าจะข้าจะฝังให้พิการหรือ?”

ศีรษะของตี้ฝูอีพิงอยู่บนไหล่เธอ ตอบด้วยเสียงแผ่วเบา “ข้าเชื่อใจเจ้า”

————————————————————————————-

บทที่ 738 ท่าทางเช่นนี้ของเธอกับเขาคืออะไร?

กู้ซีจิ่วเงียบงันไป

เขาเชื่อใจเธอ? แต่ตอนนี้เธอไม่เชื่อใจเขาแล้ว…

หลังจากฝังเข็มเหล่านี้เสร็จ เส้นเลือดปูดโปนที่เต้นตุบตับบนร่างตี้ฝูอีดูคล้ายว่าจะค่อยๆ สงบลง กู้ซีจิ่วเห็นเขามีสัญญาณว่าบรรเทาลงบ้างแล้วก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก “ตอนนี้ท่านรู้สึกอย่างไร?”

“ดี…ดีขึ้นมากแล้ว ซีจิ่ว โชคดีที่มีเจ้า” เขาถอนหายใจเบาๆ น้ำเสียงอ่อนโยน ถ้อยคำหวานซึ้ง

กู้ซีจิ่วพูดไม่ออก

เธอมองเขาแวบหนึ่งอย่างอดไม่ได้ “ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย ท่านยังอยู่ในสังขารนี้…ไม่ได้ถูกแทนที่กระมัง?”

จู่ๆ เขาก็ว่าง่ายและอ่อนโยนถึงเพียงนี้ ทำให้กู้ซีจิ่วไม่คุ้นชินยิ่งนัก

ตี้ฝูอีเหลือบมองเธอแวบหนึ่ง นัยน์ตาส่องสกาวภายใต้แสงดาว เขายิ้มบางๆ “ผู้ใดจะกล้ายึดครองสังขารของข้า?”

วาจาเดียวที่กล่าวออกมาแฝงความเย่อหยิ่งไว้เต็มที่ เป็นบุคลิกของเขาในยามปกติ

และในที่สุดกู้ซีจิ่วก็นึกขึ้นได้ว่าท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายผู้นี้สันทัดด้านการปลอมตัวยิ่ง นึกถึงสมัยก่อนที่เขาปลอมเป็นซือเฉินบัณฑิตหนึ่งตำลึงผู้นั้น นิสัยของเขาก็แตกต่างจากยามปกติอย่างมาก

ตัวเขาในยามนี้ค่อนข้างคล้ายซือเฉิน…

ดูเหมือนทุกครั้งที่เขาอยู่ในช่วงอ่อนแอ ก็จะมีลักษณะเช่นนี้ พูดคุยได้ ทำตัวน่ารักได้…

อาจเป็นเพราะการฝังเข็มของกู้ซีจิ่วได้ผลดีมากจริงๆ ยามนี้สีหน้าของเขาจึงดูดีขึ้นไม่น้อย แต่ยังไม่ค่อยมีเรี่ยวแรงเช่นเคย พิงร่างกู้ซีจิ่วดั่งศีรษะไม่กระดูก

เดือนดาราเหนือยอดศีรษะส่องสลัว คนทั้งสองนั่งอิงแอบกันอยู่ริมแม่น้ำ

ในหุบเขาหนาวเย็น โดยเฉพาะยามราตรีในหุบเขายิ่งหนาวเย็น อีกทั้งร่างกายของทั้งคู่ล้วนเปียกโชก ยิ่งทำให้หนาวเหน็บยิ่งนัก

สายลมยะเยือกหอบหนึ่งโชยมา กู้ซีจิ่วจามออกมาคราหนึ่ง

“หนาวหรือ?” แขนเขาโอบรอบเอวเธอ ทำให้ร่างกายเธอและเขาแนบชิดกันยิ่งขึ้น “แบบนี้ดีขึ้นบ้างหรือไม่?”

แบบนี้อบอุ่นขึ้นจริงๆ แต่หัวใจกู้ซีจิ่วกลับเต้นแรงขึ้นแวบหนึ่ง!

ท่าทางเช่นนี้ของเธอกับเขาคืออะไร?

เธอตัดสินใจแล้วว่าจะคบหาดูใจกับหลงซือเย่ และเขากับอวิ๋นชิงหลัวก็คล้ายว่าจะตกลงปลงใจกันอย่างลับๆ แล้ว

สามารถกล่าวได้ว่าทั้งเขาและเธอล้วนมีเจ้าของอยู่แล้ว ยามนี้มาอิงแอบแนบชิดกันเช่นนี้ไม่เข้าท่านัก! ตอนแรกเพื่อช่วยชีวิตคน เรื่องเร่งด่วนยังพอว่าได้ แต่ตอนนี้…

เธอตัดสินใจลุกขึ้นมาทันที

ความเร็วของเธอว่องไวเกินไป ตี้ฝูอีกำลังพิงเธออยู่ ศีรษะเกือบคะมำเพราะเธอ เคราะห์ดีที่กู้ซีจิ่วประคองเขาไว้ทันการ

“เจ้าเป็นอะไร?” ตี้ฝูอีเอ่ยถาม

กู้ซีจิ่วไม่รอให้เขาถามจบก็พยุงเขาไปพิงโขดหินใหญ่ก้อนหนึ่ง “หนาวเกินไป ท่านพิงอยู่ตรงนี้ ข้าจะไปหาฟืนมาก่อไฟ”

พลางจากไปปานลมหอบหนึ่ง

ตี้ฝูอีนิ่งงัน

….

กองไฟลุกโชน อยู่บนพื้นราบเบื้องหน้าโขดหินก้อนหนึ่ง

กู้ซีจิ่วนั่งอยู่บนหินน้อยก้อนหนึ่งกำลังผิงกองไฟให้เสื้อผ้าเปียกๆ บนร่างตนแห้ง ตี้ฝูอีเอนหลังพิงโขดหิน ใบหน้าที่ส่องสะท้อนแสงเพลิงมองไม่เห็นสีเลือดเลยสักกึ่งหนึ่ง

เขามองกู้ซีจิ่วที่ยุ่งง่วนดั่งผึ้งงานตัวน้อย นัยน์ตามีแววรู้สึกผิดพาดผ่านแวบหนึ่ง

สาวน้อยผู้นี้ยังบาดเจ็บอยู่! กลับทำให้นางตรากตรำถึงเพียงนี้…

เขาฝืนยื่นมือเข้าไปในอก ปลายมีแสงสีขาวอ่อนจางโผล่ออกมา ช่องว่างหนึ่งปรากฏเบื้องหน้าเขา

กู้ซีจิ่วกำลังผิงเสื้อผ้าอยู่ตรงนั้น ถูกลำแสงสีขาวดึงดูด จึงเงยหน้ามองแวบหนึ่ง มองช่องว่างที่ลอยอยู่เบื้องหน้าอย่างค่อนข้างประหลาดใจ หรือว่านี่ก็คือห้วงมิติ?

อดไม่ได้ที่จะเขยิบเข้าไปชมใกล้ๆ หน่อย มองเห็นว่าช่องว่างนี้ใหญ่โตยิ่งนัก ที่ยิ่งไปกว่านั้นคือข้าวของที่อยู่ด้านในจัดวางไว้อย่างเป็นระเบียบยิ่งนัก

ตี้ฝูอีหยิบชุบุรุษและชุดสตรีออกมาอย่างละหนึ่งชุด แล้วยื่นชุดสตรีให้เธอ “เอ้า ไปเปลี่ยนสิ”

กู้ซีจิ่วก็ไม่เกรงอกเกรงใจเขา รับเอาไว้ “ได้ ข้าจะไปเปลี่ยนด้านโน้น ท่านก้เปลี่ยนด้วยตัวเองที่นี่แล้วกัน” พลางรีบร้อนก้าวไป

————————————————————————————-

[1] จุดฉีเหมิน คือจุดที่เกี่ยวข้องกับธาตุหยาง และกายภาพต่างๆ