ตอนที่ 87 ถังถังก็กลัวความมืด

นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น

“เปิดดูสิ” ฮ่อหยุนเฉิงใช้นิ้วแตะริมฝีปาก และน้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความนุ่มนวล
ซูฉิงเปิดกระติกน้ำร้อนออกด้วยความสงสัย ทันใดนั้นกลิ่นของอาหารก็ลอยออกมาทันที ข้างในนั้นบรรจุอาหารที่เธอชอบทั้งนั้น
“เอามาจากไหนอะ?” ซูฉิงดม เมื่อกี้เธอจดจ่อกับงานจนลืมกินข้าวเย็น ทันทีที่เธอได้กลิ่นหอมนั้น ท้องของเธอก็ส่งเสียงร้องทันที
ฮ่อหยุนเฉิงมองเธอราวกับอยากจะหัวเราะออกมา แต่แค่ยกริมฝีปากบางของเขาขึ้นเล็กน้อย “ฉันทำเอง”
เขารู้ว่าเมื่อซูฉิงเริ่มทำงาน เธอจะลืมทานข้าวเย็น หลังเลิกงานเขาก็กลับไปทำอาหารเย็น และตอนนี้เขาก็เอามาส่งให้ซูฉิงที่บริษัท
ราวกับมีกระแสน้ำอุ่นไหลผ่านหัวใจของเธอ ซูฉิงยิ้มและกล่าวว่า “ขอบคุณนะ!”
“ลองกินดูว่าชอบไหม” ฮ่อหยุนเฉิงนั่งลงข้างๆ ซูฉิง มองดูแก้มที่เคี้ยวตุ้ยๆ ของเธอด้วย มุมปากของเขาก็อดไม่ได้ที่จะยกโค้งขึ้นอย่างนุ่มนวล
“ไม่เลวเลยนะ” ซูฉิงพยักหน้า และพูดชมตามความจริง
ทันใดนั้นโทรศัพท์มือถือของซูฉิงก็ดังขึ้น เธอจึงเหลือบมอง คือเฉินจุนเหยียนโทรมานั่นเอง
เมื่อเขาเห็น “เฉินจุนเหยียน” บนหน้าจอมือถือของซูฉิง ใบหน้าที่หล่อเหลาของฮ่อหยุนเฉิงก็บูดเบี้ยวทันที
ซูฉิงงเหลือบมองฮ่อหยุนเฉิงนิดหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้สนใจเขา และกดรับโทรศัพท์ทันที “เฉินจุนเหยียน โทรมามีอะไรเหรอ?”
“ผมเองซูฉิง” เฉินจุนเหยียนพูดด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง “ผมเห็นข่าวเกี่ยวกับเลิฟ&เลิฟวันนี้แล้ว และผมรู้ว่ามันไม่ดีสำหรับคุณเลย แต่คุณไม่ต้องกังวลนะ ผมจะเป็นพยานให้คุณเอง พิสูจน์ว่าคุณไม่ได้ลอกเลียนแบบ”
ตอนที่เฉินจุนเหยียนถ่ายทำโฆษณา ตัวอย่างของ “น้ำแข็งและไฟ” ได้ถูกทำออกมา และถูกใช้ในระหว่างการถ่ายทำแล้ว ดังนั้นเฉินจุนเหยียนจึงสามารถพิสูจน์ได้ว่าสินค้าตัวอย่างของ “น้ำแข็งและไฟ” ถูกสร้างขึ้นก่อนที่เลิฟ&เลิฟจะเปิดตัวเมื่อวานเสียอีก
แม้แต่บรูซ หลิวเสี่ยวหนิง และคนอื่นๆ ก็สามารถเป็นพยานได้
แต่เลิฟ&เลิฟก็ต้องคิดเรื่องนี้มาแล้วเหมือนกัน พวกเขาต้องเตรียมการมาโจมตีฮ่อกรุ๊ปอย่างแน่นอน
ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะเปิดโปงว่าเลิฟ&เลิฟเป็นฝ่ายลอกเลียนแบบในงานแถลงข่าวภายในสองวัน
ซูฉิงยิ้มบาง ๆ “ขอบคุณนะ เรื่องนี้ฉันสามารถรับมือได้ ตอนนี้สิ่งที่ฉันกังวลมากกว่าคือการออกแบบของฉันรั่วไหลออกไปได้อย่างไร”
คนที่รู้จักการออกแบบของ “น้ำแข็งและไฟ” จะว่ามีเยอะก็ไม่เยอะ จะว่ามีน้อยก็ไม่น้อย
ไป๋เซียวเซียวจากแผนกออกแบบ บรูซและผู้ช่วยของเขาจากฝรั่งเศส ช่างภาพ เอเจนซี่ และแม้แต่ผู้นำระดับสูงของบริษัทบางคนต่างก็ได้เห็นตัวอย่างของ “น้ำแข็งและไฟ”
พูดได้ว่าคนเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะทำให้แนวคิด “น้ำแข็งและไฟ” รั่วไหลออกไปได้ทั้งนั้น
“คุณคิดว่าใคร?” เฉินจุนเหยียนถามจากอีกด้านของโทรศัพท์
ซูฉิงรู้สึกถึงลมหายใจที่เย็นชาของชายที่อยู่ข้างๆ ซูฉิงหรี่จึงตาลงเล็กน้อย “ฉันไม่รู้”
หลังจากวางสายไป ซูฉิงก็หยักยกริมฝีปากขึ้นเล็กน้อย แล้วหันไปมองฮ่อหยุนเฉิง “ฮ่อหยุนเฉิง นายคิดว่าใครเป็นคนเปิดเผยมัน?”
ฮ่อหยุนเฉิงพูดนิ่ง ๆ “ฉันให้หลินเหยียนเฟิงไปสืบแล้ว ถ้าไม่มีอะไรผิดปกติอีกไม่นานก็น่าจะรู้แล้ว”
ซูฉิงพยักหน้า และไม่ได้พูดเรื่องนี้ต่อ
หลังจากทานอาหารค่ำที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักที่ฮ่อหยุนเ​ฉิงนำมาให้ เดิมทีซูฉิงอยากจะทำงานต่อ แต่ฮ่อหยุนเฉิงกลับยืนกรานจะพาซูฉิงกลับบ้านด้วยกัน
“เธอไม่ค่อยสบาย กลับไปพักผ่อนก่อน” น้ำเสียงของฮ่อหยุนเฉิงหนักแน่น
ซูฉิงทำอะไรไม่ได้ ถ้าเธอไม่ไป ฮ่อหยุนเฉิงก็ไม่ไปเช่นกัน
และถ้าฮ่อหยุนเฉิงนั่งอยู่ข้างเธอแบบนี้ เธอก็ทำงานไม่ได้เช่นกัน
ดังนั้นจึงทำได้แค่เดินตามฮ่อหยุนเฉิงกลับบ้านเท่านั้น
ทั้งสองเดินเข้าไปในลิฟต์ เสียงติ๊งดังขึ้น ประตูลิฟต์ก็ปิดลง
ซูฉิงเอื้อมมือออกไปกดหมายเลข “-1” ทันใดนั้นหลอดไฟที่ด้านบนของลิฟต์ก็ส่งเสียงเหมือนหลอดขาด จากนั้นไฟก็กระพริบสองสามครั้ง และก็ตกอยู่ในความมืดสนิท
“อ๊ะ!” ซูฉิงร้องอุทานออกมา
เธอกลัวความมืด กลัวมาตั้งแต่เด็ก
เป็นความหวาดกลัวที่อธิบายไม่ได้ และในขณะที่ไฟดับ แขนขาของซูฉิงก็อ่อนแรงลงทันที
ซูฉิงนั่งคุกเข่า ภาพความทรงจำผุดขึ้นในหัวของเธอ แต่เธอกลับไม่สามารถปะติดปะต่ออะไรได้เลย
ขณะที่ซูฉิงกำลังรู้สึกกลัวและสิ้นหวังนั้น เสียงของฮ่อหยุนเฉิงก็ดังขึ้นในหูของเธอ “ไม่ต้องกลัวนะ”
ฮ่อหยุนเฉิงกางแขนอันแข็งแรงของเขาออก และโอบกอดซูฉิงโดยไม่ลังเล ริมฝีปากบางๆ ของเขาแนบกับหูของเธอและพูดเบา ๆ ว่า “ไม่ต้องกลัว ฉันอยู่นี่แล้ว”
เสียงของเขาราวกับแสงสว่างในความมืด นำความอบอุ่นและแสงสว่างที่ไม่มีที่สิ้นสุดมาให้ซูฉิง
ความรู้สึกของความหวาดกลัวและความสิ้นหวังในหัวใจของซูฉิงหายไปในทันที ซูฉิงรู้สึกสงบมากในอ้อมกอดของฮ่อหยุนเฉิง
“เกิดอะไรขึ้น?” ซูฉิงสูดหายใจลึกๆ สงบสติอารมณ์แล้วถามขึ้น
“น่าจะลิฟต์เสีย” ฮ่อหยุนเฉิงหยิบมือถือออกมาเปิดไฟฉายพร้อมกับขมวดคิ้ว
“แล้วตอนนี้เราจะทำยังไงดี?” ซูฉิงพิงไหล่ของฮั่วหยุนเฉิง และถามอย่างกังวล
เธอคงจะไม่ติดอยู่ในลิฟต์ที่มืดมิดและคับแคบนี้ตลอดทั้งคืนใช่ไหม?
เมื่อเห็นซูฉิงอยู่ในอ้อมแขนของเขาราวกับสาวน้อย มุมปากฮ่อหยุนเฉิงก็หยักยิ้มขึ้น
คิดไม่ถึงเลยว่าซูฉิงผู้เข้มแข็งจะมีด้านที่อ่อนแอเช่นนี้ด้วย
ซูฉิงในด้านนี้ทั้งอ่อนโยน และน่าเห็นใจจนทำให้ฮ่อหยุนเฉิงอยากปกป้องเธอมาก
ฮ่อหยุนเฉิงได้กลิ่นหอมจาง ๆ บนร่างกายของซูฉิง ทั้งสองมือของเขาโอบเธอไว้แน่น
ความรู้สึกที่คุ้นเคยอย่างนั้นพุ่งไปทุกอณูในร่างกายของฮ่อหยุนเฉิงอีกครั้ง
ซูฉิง และถังถังไม่ใช่คนเดียวกันจริงหรือ?
ทำไมความรู้สึกที่พวกเขามีให้เขานั้นถึงเหมือนกันมากขนาดนั้น?
เมื่อเห็นว่าฮ่อหยุนเฉิงเงียบ และกอดเธอแน่น ซูฉิงจึงเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย “ฮ่อหยุนเฉิง?”
หลังจากรู้สึกตัว ฮ่อหยุนเฉิงจึงกล่าวอย่างเคร่งขรึม “ฉันโทรเรียกรปภ.ให้เขาหาคนมาซ่อมดีกว่า”
ไม่นานพนักงานซ่อมบำรุงก็เข้ามาซ่อมลิฟต์
ทันใดนั้นไฟก็เปิดขึ้น และลิฟต์ก็กลับมาสว่างอีกครั้ง
“เธอไม่เป็นไรใช่ไหม?” ฮ่อหยุนเฉิงมองลงไปที่หญิงสาวในอ้อมแขนของเขา
ตอนนั้นเองซูฉิงก็ตระหนักได้ว่าเธอกำลังพิงอยู่ในอ้อมแขนของฮ่อหยุนเฉิงอย่างแนบ และที่แย่กว่านั้นก็คือไม่รู้ว่ามือของเธอไปคล้องคอเขาตั้งแต่ตอนไหน ตัวเธอทั้งตัวแทบจะแขวนอยู่บนตัวเขาอยู่แล้ว
ท่านี้ดูคลุมเครือมาก
เธอทำตัวไม่ถูกอยู่พักหนึ่ง ซูฉิงก็รีบปล่อยฮ่อหยุนเฉิง “ขอโทษ ฉันกลัวความมืด ก็เลย…”
ฮ่อหยุนเฉิงมองลึกไปที่ตาของซูฉิง และพูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มลึก “ถังถังก็กลัวความมืดเหมือนกัน”
ถังถัง?
หัวใจของซูฉิงหยุดนิ่งไปครู่หนึ่ง
เมื่อกี้ฮ่อหยุนเฉิงมองว่าเธอเป็นถังถังอีกแล้วเหรอ?
ซูฉิงเม้มริมฝีปากและกำลังจะพูด แต่เธอได้ยินเสียงที่ต่ำ และแหบของฮ่อหยุนเฉิงดังขึ้นในหูของเธอ “ซูฉิงเธอไม่ใช่ถังถังจริงๆ เหรอ?”