บทที่ 237 แฟนสาวสอบเอน / บทที่ 238 ค่าเรียน โดย Ink Stone_Romance
บทที่ 237 แฟนสาวสอบเอนทรานซ์
อย่าว่าแต่ซือเซี่ยเลย แม้แต่สวี่อี้ที่ยืนรออยู่ด้านข้างก็อึ้งเหมือนกัน สองปีเต็มๆ เลยนะ ไม่ว่าเยี่ยหวันหวั่นจะก่อเรื่องอย่างไรก็ไม่เป็นผล ตอนนี้แม้ว่าจะยกเงื่อนไขขึ้นมามากมาย แต่นายท่านก็ยอมปล่อยแล้วจริงๆ
เธอเป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ยังไม่จบมัธยมปลายด้วยซ้ำ ความสัมพันธ์กับคนในครอบครัวก็ไม่ดี สองปีมานี้มีคนคอยหาเสื้อผ้าอาหารมาให้ตลอด เข้าออกก็มีบอดี้การ์ดคนรับใช้จำนวนนับไม่ถ้วน ตอนนี้กลับยอมปล่อยให้เธอไปอยู่ข้างนอกคนเดียว แล้วจะใช้ชีวิตอย่างไร?
หรือว่านายท่านเปลี่ยนกลยุทธ์แล้ว อยากให้เธอยอมมาอยู่ข้างกายเขาด้วยความเต็มใจหลังจากล้มเหลวอย่างไม่เป็นท่าเมื่อได้ไปใช้ชีวิตข้างนอก?
ซือเซี่ยลุกขึ้นพรวดพราด “เยี่ยหวันหวั่นสมองเธอโดนหมูแทะไปหรือไง? สัญญาขายตัวอยุติธรรมแบบนี้เธอก็ยังยอมเซ็นตกลง?”
เยี่ยหวันหวั่นกลัวว่าเรื่องที่เธอกว่าจะเจรจาได้ต้องมาถูกกวนจนน้ำขุ่นอีก จึงรีบถลึงตาใส่เขา “ฉันชอบขายตัวให้เบบี๊ของฉันจะเป็นอะไร?”
นายตัวแสบ! ยุแยงสองครั้งสามครั้ง วอนโดนทืบเสียเหลือเกิน!
ซือเยี่ยหานปรายตามองเธอ “เบบี๊คือใคร?”
เยี่ยหวันหวั่นรีบอธิบายเสียงหวาน “เบบี๊ก็คือคุณไงคะ เป็นคำเรียกชื่อเล่นสำหรับคนรักน่ะ~”
“…” เวลานี้เอง หนุ่มน้อยได้โดนทำร้ายจิตใจถึงขั้นสงสัยในชีวิต
ทำไมเขารู้สึกว่าตัวเองไม่เพียงยุแยงไม่สำเร็จ แต่กลับกลายเป็นกำลังเสริมไปได้!?
ซือเซี่ยกัดฟันเอ่ยขัดจังหวะคนแก่ไม่น่าเคารพสองคนนั้น “กรอกแบบฟอร์มสมัครสอบเข้ามหาวิทยาลัยเสร็จแล้ว ตอนนี้ผมไปได้หรือยัง?”
“ได้” ซือเยี่ยหานอารมณ์ดีใช้ได้ ในที่สุดก็ใจดียอมปล่อยคนไป
……
ซือเซี่ยเพิ่งจะเดินออกไปได้ไม่กี่ก้าว ผู้ชายคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดสีสันฉูดฉาดก็เดินเข้ามาจากห้องด้านนอก “เฮ้ เซี่ยเซี่ย นายก็อยู่ด้วยเหรอ! เด็กคนนี้เป็นอะไรเหรอ? ทำไมทำหน้าแบบนี้ล่ะ?”
สีหน้าแบบนี้ดูคุ้นๆ อย่างบอกไม่ถูก…
ซือเซี่ยไม่มีอารมณ์มาสนใจเขา เดินหน้าบึ้งออกไป
เยี่ยหวันหวั่นเห็นหลินเชวียในชุดสีสันฉูดฉาด มุมปากพลันกระตุก นี่มันเหมือนรสนิยมของเอ้อเชวียชัดๆ
หากไม่ใช่เพราะโชคดีที่หนังหน้าดี แต่งชุดฉูฉาดมองแล้วตาบอดได้เลยแบบนี้ ยังกล้ามาตำหนิเธออีก
“พี่เก้า ฉันนัดพี่แปดสิบครั้งแล้วก็ไม่ยอมออกมาสักครั้ง ไม่ไว้หน้ากันเกินไปแล้วนะ!”
ดูจากท่าทางของหลินเชวียนน่าจะเพราะนัดไม่สำเร็จจึงเอาตัวมาเยือนเองถึงที่
หลินเชวียนร้องเรียนด้วยท่าทีดุดัน “ปกติก็ไม่ถือสาอะไร! วันนี้ก็ยังไม่มาอีก! วันนี้เป็นวันสำคัญที่ฉันจะแนะนำแฟนสาวให้พวกนายได้รู้จัก! ทำแบบนี้คงนับถือกันเป็นพี่เป็นน้องไม่ได้แล้ว! ตัดสัมพันธ์เถอะ!”
ซือเยี่ยหานเอามือหนุนหน้าผากในแนวทแยงมุม ปรายตามองเขาเล็กน้อย “ได้”
เสียงลมพัดหวืด…
หลินเชวีย “…”
แม้แต่เยี่ยหวันหวั่นที่อยู่ข้างๆ ยังอดเห็นใจหลินเชวียไม่ได้
แต่ว่าเขามีแฟนนับว่าเป็นวันที่สำคัญมากด้วยเหรอ? เห็นๆ กันอยู่ว่าเขาเปลี่ยนแฟนเร็วเหมือนกับเปลี่ยนเสื้อผ้า…
หลินเชวียนกอดน้ำตา ด่าทอด้วยความเศร้าใจและหมดหวัง “นายมันคนไม่มีหัวใจคนไร้ยางอาย! นายทำแบบนี้กับฉันได้ไง! หนึ่งเดือนแล้วที่นายไม่สนใจคนเขา! วันๆ ตั้งแต่เช้าจนค่ำนายยุ่งอะไรนักหนา?”
ซือเยี่ยหานไม่เงยหน้าเลยสักนิด ใช้ปากกาแดงวาดเครื่องหมายติ๊กถูกบนสมุดแบบฝึกหัด “แฟนฉันจะสอบเอนทรานซ์ ช่วงนี้ไม่ร่วมงานสังสรรค์”
หลินเชวียตะลึง ถึงได้สังเกตเห็นของในมือของซือเยี่ยหาน เป็นแบบฝึกหัดวิชาคณิตศาสตร์เล่มหนึ่งจริงๆ แก้ไขตัวแดงและส่วนมากเป็นลายมือของซือเยี่ยหานทั้งหมด
หลินเชวียยืนอึ้งอยู่นานถึงได้สบถไปคำ “…เชี่ย!”
เขาเพิ่งจะรู้ตัวว่าทำไมเมื่อครู่จึงรู้สึกคุ้นๆ กับสีหน้าของซือเซี่ยเป็นอย่างมาก นั่นมันสีหน้าของคนโสดที่โดนทำร้ายจิตใจชัดๆ!
เขาไม่ได้มีแฟนมานานแล้ว เพราะรู้สึกว่ามันไม่สนุก ครั้งนี้เป็นการมาเพื่อแก้แค้นที่ครั้งก่อนโดนทำร้ายจิตใจ จึงตั้งใจจะมาอวดโดยเฉพาะ
ใครจะรู้ มีแฟนเป็นเกราะป้องกันแล้วยังจะโดนทำร้ายจิตใจกลายเป็นคนกากอีก…
…………………………………
บทที่ 238 ค่าเรียน
หลังจากซือเซี่ยออกไป หลินเชวียก็ถูกยั่วโมโหจนออกไปแล้วเหมือนกัน
เยี่ยหวันหวั่นมองซือเยี่ยหานด้วยความรู้สึกสับสนพลางเอ่ยถาม “หลายคืนนี้ที่คุณอยู่บ้านตลอด ก็เพราะจะสอนพิเศษฉันเหรอ?”
เมื่อกี้ได้ฟังหลินเชวียพูด เธอก็เลยนึกขึ้นได้ ช่วงนี้ซือเยี่ยหานกลับมาก่อนสองทุ่มทุกวันจริงๆ ไม่เคยมาสายเลย
ซือเยี่ยหานไม่ได้ปฏิเสธ มองเธออย่างมีความหมายลึกซึ้ง “เพื่อป้องกันไม่ให้มีคนไม่พอใจกับการเรียนการสอน แล้วมาขอค่าเรียนคืน”
“แค่กๆๆ…” เยี่ยหวันหวั่นที่ถูกพูดแทงใจดำพลันรู้สึกละอายใจ “จะ…จะเป็นไปได้ยังไง…”
เรื่องขอค่าเรียนคืนอะไรนั่น เธอเคยคิดจริงๆ…
หลังจากส่งแบบฟอร์มแล้ว อาทิตย์ต่อมา เยี่ยหวันหวั่นทุ่มเทกายใจทั้งหมดไปกับช่วงสุดท้ายก่อนการสอบ
เพียงพริบตาก็ถึงคืนสุดท้ายก่อนการสอบเข้า
ซือเยี่ยหานที่อยู่ข้างกายนั้นหลับไปแล้ว ส่วนเยี่ยหวันหวั่นกำลังพลิกตัวไปมานอนไม่หลับอยู่บนเตียง เพราะตื่นเต้นกับการสอบในวันพรุ่งนี้
เฮ้อ ไม่ทันรู้ตัวเธอกับซือเยี่ยหานนอนก็ด้วยกันมาหนึ่งเดือนแล้ว
ความอกสั่นขวัญแขวนในตอนแรก มาตอนนี้เธอสามารถทำตัวเองเป็นหมอนข้างได้อย่างสมบูรณ์แบบแล้ว
เพราะว่าการนอนที่ซือเยี่ยหานพูดนั้น เป็นการนอนหลับจริงๆ อีกทั้งยังนอนอย่างจริงจังอีกด้วย
นอกเสียจากเรื่องที่เธอไม่ชินกับท่าทางใกล้ชิดแบบนี้แล้ว เรื่องอื่นกลับยังพอได้
อีกทั้งพรุ่งนี้ก็เป็นวันสอบเข้าแล้ว นี่เป็นการจ่ายค่าเรียนคืนสุดท้ายแล้ว…
คงเป็นเพราะคืนนี้เธอขยับตัวบ่อยครั้งจากการนอนไม่หลับ ขนตาของซือเยี่ยหานจึงขยับเล็กน้อยราวปีกผีเสื้อ จากนั้นค่อยๆ ลืมตาขึ้น
ท่ามกลางความมืด ดวงตาลึกซึ้งคู่นั้นจ้องมองหญิงสาวในอ้อมกอด ยกหัวขึ้นเล็กน้อย จากนั้นพลันแนบลงบนริมฝีปากของหญิงสาว…
เยี่ยหวันหวั่นที่กำลังขยับไปมาเบิกตาโพลง
“เธอทำให้ฉันตื่น” น้ำเสียงของชายหนุ่มแฝงไปด้วยความตำหนิอย่างเข้มข้นชัดเจน
จบกัน! คาดไม่ถึงว่าจะไม่ระวังจนทำให้เขาตื่น! อารมณ์ร้ายตื่นนอนของปีศาจร้าย!
เยี่ยหวันหวั่นกลืนน้ำลาย “ฉัน…ฉันไม่ได้ตั้งใจ…คือพรุ่งนี้เป็นวันสอบเข้าแล้ว…ตื่นเต้นเกินไปก็เลยนอนไม่หลับ…”
“งั้นก็ไม่ต้องนอนแล้วละกัน”
ทันทีที่พูดจบ ชายหนุ่มก็กดหญิงสาวไว้ใต้ร่างอย่างแนบชิดจนแม้แต่ลมก็ผ่านไปไม่ได้…
เยี่ยหวันหวั่นแทบจะร้องไห้ออกมาอยู่แล้ว บาปกรรมแท้ๆ ทั้งๆ ที่คืนสุดท้ายแล้วทำไมยังไปกระตุกหนวดปีศาจร้ายเสียได้!
“ฉันผิดไปแล้ว! ฉันจะนอนนิ่งๆ ไม่ขยับซี้ซั้วอีกแล้ว! คุณใจเย็นๆ นะ! ทำแบบนี้จะส่งผลกระทบต่อการสอบพรุ่งนี้ของฉันนะคะ”
ซือเยี่ยหาน “ไม่หรอก”
เยี่ยหวันหวั่นคว้าหมอนมาขวางเขาไว้ “ทำไมจะไม่กระทบล่ะ!”
ซือเยี่ยหาน “โจทย์พวกนั้น เธอหลับตายังทำได้เลย”
เยี่ยหวันหวั่นหมดคำพูด “โอ้โห!”
จะมาหลอกให้หลงเชื่อไม่ได้หรอกนะ จะบอกให้!
เยี่ยหวันหวั่นฉวยโอกาสที่ชายหนุ่มเพิ่งตื่นค่อนข้างสะลึมสะลือ กลิ้งหลุนๆ ไปยังขอบเตียง
ชายหนุ่มมองเยี่ยหวันหวั่นที่ดิ้นหลุดไปอย่างไม่พอใจ นัยน์ตามืดมิดขึ้นเรื่อยแผ่เป็นสัญญานเตือน “มานี่”
กลับไปก็โง่น่ะสิ! กลับไปแล้วพรุ่งนี้เธอยังจะมีแรงปีนขึ้นมาไปสอบเหรอ?
แต่จะไม่กลับไปก็เป็นไปไม่ได้แน่นอน
เยี่ยหวันหวั่นหมดหนทาง ทำได้แค่เขยิบกลับไปอย่างระมัดระวัง จากนั้นฉวยโอกาสระหว่างที่ซือเยี่ยหานจูบเธอ มือน้อยลูบศีรษะและหลังคอของเขาเบาๆ น้ำเสียงอ่อนโยนแฝงไปด้วยเวทมนต์ ทำให้รู้สึกคล้ายจมเข้าไปในกลุ่มเมฆ “นอนซะนะ…ดีไหม…ฉันนอนด้วยกันเป็นเพื่อนคุณ…”
“ไม่…” ชายหนุ่มพูดเพียงคำเดียว ก็ฟุบหลับที่ซอกคอของหญิงสาว ลมหายใจค่อยๆ ลากยาว
………………………………………………