ตอนที่ 566 คุยเรื่องเก่าๆกับดื่มเหล้า

แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย

ทำไมอยู่ๆเสี่ยวเชี่ยนก็ทำเป็นขรึม? 

 

 

เพราะภายในร้านอาหารที่ขนาดไม่เล็กนี้ นอกจากเธอกับอวี๋หมิงหลางแล้วยังมีคนรู้จักนั่งอยู่อีกโต๊ะ 

 

 

“หมอเฉิน” หูเหม่ยจิ้งพอเห็นเสี่ยวเชี่ยนก็โบกมือให้อย่างดีใจ 

 

 

“หัวหน้ากลาง” หวางย่าเฟยเองก็ยืนขึ้น 

 

 

โต๊ะนี้ไม่เพียงแต่จะมีหูเหม่ยจิ้งกับฉู่เซวียนสองสามีภรรยานั่งอยู่ ยังมีหวางย่าเฟยที่เพิ่งเข้าร่วมการแข่งขันเสร็จได้รับอันดับที่ดีนั่งอยู่ด้วย 

 

 

หวางย่าเฟยเป็นเพื่อนกับหูเหม่ยจิ้ง ตอนนั้นที่เขาได้เจอกับเสี่ยวเชี่ยนก็เป็นเพราะฉู่เซวียนแนะนำ 

 

 

พวกเขาเป็นเพื่อนเก่ากัน เสี่ยวเชี่ยนเคยรักษาให้ทั้งสามคน 

 

 

หวางย่าเฟยได้รับการรักษาไประยะหนึ่งก็หายสนิท ก่อนหน้านี้ปีครึ่งเขาได้เข้าร่วมการทดสอบจนได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของ011 ต่อมาได้เป็นมือสไนเปอร์ฝีมือยอดเยี่ยมรับช่วงต่อจากอวี๋หมิงหลาง 

 

 

ตอนแรกหวางย่าเฟยยังเกลียดเสี่ยวเชี่ยน เพราะเธอเอาเรื่องที่เขามีปัญหาสุขภาพไปรายงาน ทำให้เขาพลาดโอกาสเข้าทีมของทหารหน่วยรบพิเศษ แต่ต่อมาทั้งสองคนก็ทลายกำแพงในใจได้ เขาเลือกให้เสี่ยวเชี่ยนรักษา นึกไม่ถึงว่าพอเขาหายแล้ว หน่วย011จะจัดการทดสอบให้เขาเป็นกรณีพิเศษ 

 

 

เป็นการทดสอบที่มีเขาเพียงแค่คนเดียว 

 

 

หลังจากที่หวางย่าเฟยได้เข้าหน่วยไปแล้ว เขาเคยไปหาอวี๋หมิงหลางเป็นการส่วนตัวเพื่อถามว่าเป็นเพราะเสี่ยวเชี่ยนช่วยพูดหรือเปล่าถึงได้จัดการทดสอบให้เขาเป็นกรณีพิเศษ อวี๋หมิงหลางบอกว่าก็ครึ่งๆ 

 

 

อวี๋หมิงหลางถูกใจความสามารถของเด็กหนุ่มคนนี้เป็นทุนเดิม เสี่ยวเชี่ยนเองก็รับรองให้หวางย่าเฟยว่าเขาไม่ได้มีอาการผิดปกติทางจิตใจที่จะส่งผลต่อการทำงาน 

 

 

แต่สิ่งที่ทำให้หน่วย011จัดสอบให้เป็นพิเศษเป็นเพราะความพยายามและความสามารถของตัวหวางย่าเฟยเอง หลังจากที่ถูกปฏิเสธไปคราวก่อนเขายังสามารถลุกขึ้นมาให้ความร่วมมือในการรักษาอีกทั้งยังทำการฝึกตามปกติ แค่นี้ก็เพียงพอที่จะพิสูจน์ว่าสภาพจิตใจของเขาสามารถเป็นมือสไนเปอร์มือวางอันดับหนึ่งได้ 

 

 

หลังเสร็จเรื่องหวางย่าเฟยรู้สึกขอบคุณมาก เขารู้สึกเป็นหนี้บุญคุณเสี่ยวเชี่ยน เสี่ยวเชี่ยนตอบเขามาว่า ฝนตกฟ้าร้องก็ยังเป็นเพราะสวรรค์เมตตา 

 

 

เห็นค่าในความล้มเหลว เพราะถ้าจัดการกับความล้มเหลวให้ดีก็จะกลายเป็นทรัพย์สมบัติอันล้ำค่า 

 

 

หวางย่าเฟยรู้สึกกับอวี๋หมิงหลางและเสี่ยวเชี่ยนแตกต่างออกไป ซึ่งเขาไปแสดงออกในการฝึกที่พยายามมากเป็นพิเศษ ทำให้อวี๋หมิงหลางได้ทหารเก่งๆเพิ่มเข้ามา 

 

 

ส่วนหูเหม่ยจิ้งและสามีรู้สึกขอบคุณเสี่ยวเชี่ยนยิ่งกว่า ถึงหูเหม่ยจิ้งจะจำเรื่องที่เสี่ยวเชี่ยนช่วยปลุกตัวตนให้เธอไม่ได้ แต่ฉู่เซวียนสามีเธอจำได้ชัดเจน หลังจากที่ลูกในท้องของหูเหม่ยจิ้งคลอดออกมา เขาก็ได้เชิญเสี่ยวเชี่ยนไปเป็นสักขีพยานให้กับปาฏิหาริย์ของชีวิตน้อยๆนี้ 

 

 

พอเห็นเสี่ยวเชี่ยนกับอวี๋หมิงหลางทั้งโต๊ะก็พากันดีใจ 

 

 

“เจ้าตัวแสบทำไมยังไม่นอนอีก?” เสี่ยวเชี่ยนเดินเข้าไปแล้วก็เห็นเด็กน้อยตัวอ้วนในอ้อมกอดของหูเหม่ยจิ้ง 

 

 

“อย่าให้พูดเลย เด็กแสบคนนี้พลังเยอะเหลือเกิน ดึกดื่นไม่หลับไม่นอนก่อกวนฉันกับพ่อเขาอยู่เรื่อย นี่พ่อเขากลับจากเลิกงานเจอย่าเฟยพอดีเลยออกมากินข้าวด้วยกัน” หูเหม่ยจิ้งส่งเด็กให้เสี่ยวเชี่ยนอุ้ม 

 

 

เด็กคนนี้พอไปอยู่กับเสี่ยวเชี่ยนก็เอาแต่ยิ้ม เด็กอายุไม่ถึงสองขวบแต่อ้วนตุ๊ต๊ะ พ่อกับแม่ทุ่มเทความรักทั้งหมดที่มี ดูได้จากเนื้อหนังที่เกินออกมา นี่เป็นเด็กที่เติบโตในครอบครัวที่มีความสุข 

 

 

“หมอเฉินฉันว่าเสียวส่วงชอบหมอมากเลยนะคะ พอหมออุ้มเขาก็ยิ้มไม่หยุดเลย” หูเหม่ยจิ้งสังเกตเห็นว่าทุกครั้งที่เจอเสี่ยวเชี่ยนลูกชายจะดีใจมาก อีกทั้งยังพยายามเอามือตีเสี่ยวเชี่ยน 

 

 

“เขาคงถูกชะตาฉันมั้งคะ” เสี่ยวเชี่ยนอุ้มเด็กพลางยิ้มแย้ม 

 

 

เด็กคนนี้มีชื่อจริงว่าฉู่ส่วง ชื่อเล่นชื่อหลางหลาง 

 

 

ตอนเกิดฉู่เซวียนถามหูเหม่ยจิ้งว่าจะให้ลูกชื่ออะไร เธอตอบอย่างไม่ลังเลว่า ชื่อจริงให้ชื่อฉู่ส่วง ชื่อเล่นว่าหลางหลาง 

 

 

เกือบทำศาสตราจารย์หลิวที่ไปด้วยช็อคตาย ยังนึกว่าเพราะเธอนึกอะไรออกหรือเปล่า 

 

 

แต่ไม่เลย ส่วนใหญ่หูเหม่ยจิ้งจะค่อนข้างอ่อนโยน มีอารมณ์ร้อนบ้างเล็กน้อย แต่นิสัยกลมกลืนกันได้ดี เธอนึกเรื่องเมื่อก่อนไม่ออกเลยแม้แต่น้อย 

 

 

เสี่ยวเชี่ยนกับศาสตราจารย์หลิวเคยนั่งวิเคราะห์เรื่องความหมายของชื่อที่หูเหม่ยจิ้งตั้ง จนสุดท้ายได้ข้อสรุปที่ว่า ภายในจิตใต้สำนึก หูเหม่ยจิ้งกับโลนวูล์ฟได้เป็นคนๆเดียวกันแล้ว เด็กคนนี้ก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของโลนวูล์ฟเหมือนกัน 

 

 

“ลูกผมชอบยิ้มอยู่แล้ว เห็นใครก็ส่งยิ้มตลอด” ฉู่เซวียนเองก็ชอบเด็กคนนี้ที่กว่าจะได้มาเกิดไม่ง่าย และรู้สึกขอบคุณเสี่ยวเชี่ยนที่ช่วยเหลือครอบครัวเขาตอนที่เจอความลำบากที่สุด 

 

 

“หัวหน้ากลางกินด้วยกันสิครับ วันนี้ตอนลงจากเครื่องผมอยากจะเลี้ยงหัวหน้า แต่หัวหน้าบอกรีบ ที่แท้ก็รีบมาหาหมอเฉินนี่เอง” หวางย่าเฟยพูดอย่างเป็นกันเอง 

 

 

เสี่ยวเชี่ยนใบหน้าร้อนผ่าว รู้สึกว่าทุกคนรู้ว่าอวี๋หมิงหลางมาหาเธอทำไม 

 

 

“หมอเฉินคะ เอาเหล้าสักเหยือกไหมคะ?” หูเหม่ยจิ้งถามเสี่ยวเชี่ยน 

 

 

เสี่ยวเชี่ยนยิ้มอย่างอ่อนโยน “ขอบคุณค่ะ แต่ฉันดื่มไม่ค่อยเป็น” 

 

 

อวี๋หมิงหลางได้ยินแบบนั้นในใจก็ได้แต่ เหอๆ แสร้งทำเข้าไป ต่อหน้าคนนอกเอาให้เต็มที่ 

 

 

“หมอเฉินไม่ดื่มงั้นหัวหน้ากลางเอาหน่อยสิครับ หมอเฉินวางใจได้ผมไม่มอมเขาหรอก ไม่ทำให้ ‘เสียงาน’ คืนนี้แน่นอน รับรองส่งการบ้านได้ครับ” 

 

 

“นายนี่ทำไมพูดมากแบบนี้? กลับไปอยากเพิ่มเมนูเหรอไง?” อวี๋หมิงหลางทำมาดเข้มต่อหน้าทหารของตัวเอง 

 

 

“เพิ่มเมนูคืออะไรเหรอ?” หูเหม่ยจิ้งถามด้วยความสงสัย 

 

 

“เซตAคือเดินทางวิบากระยะทางหมื่นฟุตอีกทั้งยังต้องแบกของหนัก เซตBคือวิดพื้น500ครั้ง นี่ไม่นับเป็นการฝึกปกติ เป็นเซตพิเศษ” ใครทำผิดก็จะได้รับเซตพิเศษ 

 

 

“นายฝึกทหารแบบนี้เหรอ?” เสี่ยวเชี่ยนถามอวี๋หมิงหลาง 

 

 

เธอเองก็เคยได้ยินสืออวี้บ่น บอกว่าอวี๋หมิงหลางเวลาอยู่ในค่ายเหมือนคนกระหายสงคราม ฝึกคนแบบเอาเป็นเอาตาย น่าสงสารพี่เฉียวเจิ้นที่แต่ละครั้งเหนื่อยจนเกือบตาย 

 

 

“พวกเขาก็พูดเว่อร์กันไป” อวี๋หมิงหลางเป็นตายก็ไม่ยอมรับ ต่อหน้าคู่หมั้นเขายังอยากแสร้งทำเป็นหมาฮัสกี้สุดเชื่อง แต่ทหารของเขากลับไม่ไว้หน้า 

 

 

“ไม่ได้เว่อร์แม้แต่นิดเดียว วันๆพวกเราฝึกกันแบบนี้แหละครับมีแต่จะหนักกว่าไม่มีเบากว่านี้ หมอเฉินคงไม่รู้ว่าหัวหน้าป่าเถื่อนแค่ไหน พวกเรายังแอบสงสัยกันเลยว่าเขาเป็น—” 

 

 

หวางย่าเฟยรู้สึกได้ถึงรังสีอำมหิต จึงรีบเอาเมนูมาปิดหน้าเพื่อบังสายตาอาฆาตของอวี๋หมิงหลาง 

 

 

จบกัน กลับไปโดนเพิ่มเมนูแน่ ดูจากสายตาของหัวหน้าแล้ว คงได้เพิ่มตั้งแต่เซตAไปจนถึงเซตGแน่ 

 

 

“เป็นอะไร?” เสี่ยวเชี่ยนกำลังฟังอย่างสนุก เห็นหวางย่าเฟยไม่พูดต่อจึงรีบถาม 

 

 

“ถ้าผมพูด กลับไปหัวหน้าเก็บผมแน่” 

 

 

เสี่ยวเชี่ยนหันไปถามอวี๋หมิงหลางด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “นายเป็นพวกคนหน้าไม่อายที่เอาความแค้นไปปนกับเรื่องงานไหม?” 

 

 

ใช่ อวี๋หมิงหลางตะโกนในใจ แต่ปากปฏิเสธลูกเดียว 

 

 

“ไม่ใช่แน่นอน รับประกันเลยว่ากลับไปไม่ลงโทษอะไรทั้งนั้น” มากสุดก็แค่เพิ่มเซตใหม่ให้สองเซต 

 

 

ถึงกับมาฟ้องเมียเขาคิดว่าจะรอดเหรอ? 

 

 

ไอ้ลูกน้องใจดำทำไมไม่ลองนึกถึงตอนที่เขาไม่ฝึก เขาถ่ายทอดประสบการณ์จีบสาวยังไงบ้าง? 

 

 

เขาทุ่มหมดตัวโดยไม่เหลือไว้สักนิด เสี่ยวเชี่ยนมีเขียนจดหมายหาอวี๋หมิงหลางบ้างหลังจากที่ถูกเขาตื๊อบ่อยๆ จดหมายรักของคนมีมันสมองแฝงไปด้วยความหมายลึกซึ้งสำบัดสำนวนเลิศเลอ บางครั้งอวี๋หมิงหลางอารมณ์ดีก็จะอนุญาตให้ทุกคนอ่านเพื่อให้ทุกคนได้ศึกษาสำนวนการเขียน จุดประสงค์สำคัญคือต้องการอวด นี่แหละหน่วย011 

 

 

หวางย่าเฟยคิดในใจว่าสิ่งที่หัวหน้ากลางสอนนั้นมีพิษ เพื่อนๆในหน่วยไปจีบสาวตามที่หัวหน้าสอนไม่มีใครทำสำเร็จสักคน ตอนนี้ได้โอกาส ‘ล้างแค้น’ แล้ว แล้วจะให้ปล่อยโอกาสหลุดลอยไปเหรอ?