บทที่ 39.1 จักรพรรดิสีเงิน (1)

Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา

ด้านล่างยังมีคำอธิบายสำหรับทักษะธาตุลมทั้ง 3 ชนิดที่เหลือเขียนกำกับเอาไว้

ทักษะภาพลวงตาทวีคูณ ใช้ทักษะธาตุลมเพื่อแสดงภาพลวงตาทีละหลายๆ ภาพทันที ผู้ใช้สามารถสลับตำแหน่งระหว่างภาพที่ซ้ำกันได้ จำนวนภาพที่ซ้ำกันและระยะเวลาใช้งานขึ้นอยู่กับระดับพลังปราณ

ทักษะสะบัดปีกเฉือน มีความสามารถในการทำลายล้างที่แข็งแกร่งมาก เมื่อใช้ควบคู่กับทักษะกระชากมิติจะกลายเป็นทักษะคู่จักรพรรดิสีเงินกระชากมิติ ถือได้ว่าเป็นทักษะที่เกือบทำให้ผู้ใช้ไร้เทียมทานแล้ว ความสามารถในการทำลายล้างขึ้นอยู่กับระดับพลังปราณ

ทักษะทะลวงสายฟ้า สามารถบิดร่างให้กลายเป็นเป็นเข็มสีเงิน พุ่งเจาะทะลวงทุกอย่างได้ในทันที ในขณะเดียว กันก็ทำให้เคลื่อนที่ได้ด้วยความเร็วมากกว่าเดิม 3 เท่า นี่เป็นทักษะที่สามารถใช้ได้ทั้งการรุกและรับ จักรพรรดิสีเงินใช้ทักษะนี้สำหรับทั้งโจมตีและหลบหนี

หลังจากอ่านคำอธิบายทักษะแล้ว กระแสไอเย็นก็พุ่งเข้าเกาะกุมกระดูกสันหลังของโจวเหว่ยชิงทันที แม้ว่าจักรพรรดิสีเงินตัวนี้จะไม่มีทักษะมากมาย แต่ทักษะทั้งหมดของมันก็ล้วนแล้วแต่ทรงพลังและมีพลังทำลายล้างอย่างไม่น่าเชื่อ สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือเพื่อนตัวน้อยที่ดูไร้พิษสงตัวนี้ แท้จริงแล้วเป็นนกดุร้ายที่กินสมอง!

ทักษะธาตุลมและธาตุมิติ! โจวเหว่ยชิงอดจะรู้สึกคันยิบในใจไม่ได้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทักษะของจักรพรรดิสีเงินนั้นทรงพลังมากแค่ไหน อีกทั้งทักษะธาตุมิติยังมีเพียงทักษะเดียวนั่นก็คือทักษะกระชากมิติ แน่นอนว่าเป็นทักษะที่เขาต้องกักเก็บ! สำหรับโจวเหว่ยชิงนั้นทักษะธาตุลมอีก 3 ชนิดก็น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง ตามที่ชายวัยกลางคน 2 คนที่อยู่ข้างนอกได้กล่าวไว้ อสูรสวรรค์ระดับราชาเช่นนี้หาได้ยากมาก! ทว่าตอนนี้เขากลับได้พบแล้ว ดังนั้นเขาจะไม่เสียโอกาสนี้ไปโดยเปล่าประโยชน์แน่

อย่างไรก็ตาม การทดลองกักเก็บทักษะแต่ละครั้งก็ต้องใช้เงินถึง 100,000 เหรียญทองโจวเหว่ยชิงจึงไม่อาจแบกรับค่าใช้จ่ายระดับนี้ไหว นอกจากนี้ ในบรรดามณีธาตุทั้ง 3 ดวงของเขา เขาได้กักเก็บทักษะธาตุลมไว้ 2 ทักษะแล้ว ดังนั้นจึงเหลือที่ว่างอีกเพียง 1 ดวงสำหรับกักเก็บทักษะธาตุลมจากจักรพรรดิสีเงิน

หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง โจวเหว่ยชิงก็พูดกับตัวเองว่า ไม่สนใจแล้วโว้ย! ปล่อยให้เป็นไปตามโชคชะตาแล้วกัน! ลองกักเก็บทักษะกระชากมิติก่อน หลังจากนั้นค่อยดูว่าอัตราการฟื้นฟูของวิชาเทพอมตะเพียงพอที่จะให้กักเก็บทักษะที่สองได้หรือไม่ และถ้าหากทำได้ เช่นนั้นค่อยลองกักเก็บทักษะธาตุลมอื่นๆ ดู อย่างไรเสียทักษะธาตุลมทั้ง 3 ชนิดของจักรพรรดิสีเงินนั้นก็ยอดเยี่ยมมากอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นข้าจะเหลืออีก 2 ทักษะไว้กักเก็บในมณีดวงที่ 4 และ 5 ก็แล้วกัน

ด้วยเหตุนี้โจวเหว่ยชิงจึงค่อยๆ ยกมือซ้ายขึ้น ถอดความสามารถของแหวนปกปิดตัวตนออกและเผยให้เห็นไพฑูรย์ตาแมวสองสีของเขา เนื่องจากไม่มีแสงแดด มันจึงดูเหมือนไพฑูรย์ตาแมวสีเขียวอมฟ้าที่เปล่งประกายท่ามกลางแสงสลัวๆ จากคบไฟ

วงล้อทักษะธาตุหมุนไปยังพื้นที่สีเงินภายใต้การควบคุมของโจวเหว่ยชิง มณีดวงที่ 2 ลอยเข้ามาในฝ่ามือของเขา จากนั้นเขาก็ทาบแสงสีเงินเรืองรองในฝ่ามือของเขาลงบนหน้าผากของจักรพรรดิสีเงิน

เขายังจดจำเหตุการณ์ระหว่างการกักเก็บทักษะครั้งแรกของเขาในวังกักเก็บทักษะเมืองภูเขาลอยฟ้าได้เป็นอย่างดี แน่นอนว่ากุญแจแห่งความสำเร็จของก็อยู่ตรงนี้นี่เอง เพื่อทำให้รอบนี้ดีกว่าครั้งก่อนๆ เขาจึงหมุนเวียนพลังปราณสวรรค์ไปที่ขาขวาของเขาด้วยเพื่อทำให้กลิ่นอายที่เป็นเอกลักษณ์ของเสือดำแผ่กระจายออกมาได้อย่างเต็มที่

ขณะที่ฝ่ามือซ้ายของโจวเหว่ยชิงแตะลงที่หน้าผากของจักรพรรดิสีเงิน เจ้านกน้อยที่ถูกผนึกอยู่ก็เกิดสั่นเทาขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว พริบตาต่อมาดวงตาของมันก็เบิกกว้างขึ้น

เมื่อมองเข้าไปในดวงตาของจักรพรรดิสีเงิน โจวเหว่ยก็ชิงเกือบสูญเสียการควบคุมร่างกายของตนเอง ดวงตาของมันเป็นสีขาวขุ่น มีเพียงขีดสีเทาวาดไว้แทนที่รูม่านตาของมัน ในช่วงเวลาที่มันลืมตาตื่นขึ้น กลิ่นอายความตายที่เข้มข้นน่าพิศวงก็แผ่กระจายออกมาจากร่างของมัน นั่นให้ความรู้สึกที่แตกต่างกับกลิ่นอายชั่วร้ายของโจวเหว่ยชิงเป็นอย่างมาก

เนื่องจากมันเป็นความรู้สึกเย็นยะเยือกราวกับความตายและความโดดเดี่ยวอ้างว้าง ดวงตาของมันจับจ้องไปที่ โจวเหว่ยชิงอย่างเย็นชา

แสงสีเงินสว่างเจิดจ้าขึ้น ในขณะที่เขาหมุนเวียนพลังปราณเหล่านั้นไปที่ฝ่ามือซ้ายของเขาพลังปราณสวรรค์จากร่างของโจวเหว่ยชิงพุ่งออกมาเป็นระรอกคลื่นขนาดใหญ่ พลังปราณถูกส่งต่อเข้าไปในร่างของจักรพรรดิสีเงินเพื่อจะได้เริ่มกักเก็บทักษะของมัน แต่ทว่าสิ่งต่างๆกลับไม่ได้เป็นไปตามที่เขาคาดหวังเอาไว้ แน่นอนว่ามันแตกต่างจากครั้งก่อนๆ ที่เขากักเก็บทักษะจากอสูรสวรรค์ระดับเทวะ โจวเหว่ยชิงต้องตกตะลึงเมื่อพบว่าพลังปราณสวรรค์ของเขาไม่อาจไหลเข้าสู่ร่างกายของจักรพรรดิสีเงินได้ไม่ว่าเขาจะพยายามแค่ไหนก็ตาม นั่นทำให้เขาไม่อาจดำเนินการขั้นต่อไปได้  ราวกับว่าพลังปราณสวรรค์ของเขาถูกปิดกั้นด้วยขุมพลังแปลกๆ

สำหรับจักรพรรดิสีเงิน มันจ้องมองมาที่เขาอย่างเย็นชา ไร้ความกลัวในดวงตาเหมือนอสูรสวรรค์ระดับเทวะตัวอื่นๆ

สิ่งที่โจวเหว่ยชิงไม่รู้ก็คือ สำหรับอสูรสวรรค์ระดับเทวะที่เขาได้กักเก็บทักษะไว้ก่อนหน้านี้นั้น จริงๆ แล้วพวกมันไม่ได้เกรงกลัวเพียงแค่กลิ่นอายของเจ้าของดั้งเดิมของไข่มุกรัตติกาลเท่านั้น แต่ยังรวมถึงทักษะกลืนกินของไข่มุกรัตติกาลด้วย ดังนั้นพวกมันจึงกลัวว่าตนจะถูกกลืนกินพลังปราณไปจนตายนั่นเอง อย่างไรก็ตาม สำหรับจักรพรรดิสีเงินที่อยู่ตรงหน้าเขา ตอนนี้มันไม่เพียงแต่จะมีระดับสูงกว่าเท่านั้น แต่มันยังมีความพิเศษในแง่ที่สามารถใช้ทักษะกระชากมิติตอบโต้ทักษะกลืนกินได้  อีกทั้งมันก็ยังเป็นหนึ่งในอสูรสวรรค์ที่หายาก ด้วยเหตุนี้มันจึงไม่ได้กลัวทักษะกลืนกินของเขาแม้แต่น้อย

แน่นอนว่านี่เป็นหนึ่งในจุดแข็งที่แท้จริงของจักรพรรดิสีเงิน ไม่ว่าจะคนผู้นั้นมีทักษะที่ทรงพลังเพียงใด ตราบเท่าที่ยังไม่สามารถเอาชนะทักษะกระชากมิติของมันได้ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะต่อต้านจักรพรรดิสีเงิน แม้ว่ามันจะถูกปิดผนึกและถูกคุมขังเอาไว้ แต่การกักเก็บทักษะจากมันก็ยังคงยากเป็นอย่างยิ่ง บางครั้งอาจยากกว่าอสูรสวรรค์ระดับมหาราชาที่มีระดับปราณสูงกว่ามันด้วยซ้ำ

โจวเหว่ยชิงรู้สึกไม่อยากจะเชื่อกับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นตรงหน้า จากนั้นไม่นานเขาก็เริ่มรู้สึกเศร้าหมองในใจ ความหวังของเขาพลันแปรเปลี่ยนเป็นความเหน็บหนาว ทว่าทันใดนั้นเสียงคำรามต่ำๆ ก็ดังลอดออกมาจากอ้อมแขนของเขา

แสงสีขาวเปล่งประกายขึ้น จากนั้นเจ้าแมวอ้วนก็ปรากฏตัวต่อหน้าจักรพรรดิสีเงินทันที ดวงตาสีม่วงเข้มจดจ้องไปที่ดวงตาของจักรพรรดิสีเงิน เสียงคำรามต่ำๆ ของมันดึงดูดสายตาของจักรพรรดิสีเงินในทันที

ทันทีที่มันเห็นเจ้าแมวอ้วน ร่างกายของจักรพรรดิสีเงินก็กระตุกขึ้นมาหนหนึ่งทันที มันสั่นสะท้าน ดวงตาก็หดแคบลงด้วยความตื่นตระหนก เสียงพึมพำที่ดังแว่วออกมาจากปากของมันฟังดูค่อนข้างรีบร้อนและอ้อนวอน ราวกับว่ามันกำลังขอความช่วยเหลือจากเจ้าแมวอ้วนอยู่

เจ้าแมวอ้วนคำรามเบาๆ อีกครั้งพร้อมกับส่ายหัวให้จักรพรรดิสีเงิน ความหวังที่ผุดขึ้นมาในดวงตาของมันจึงดับวูบลงทันที และเมื่อแสงในดวงตาของมันอ่อนลง โจวเหว่ยชิงก็รู้สึกได้ว่าสิ่งที่ขวางกั้นพลังปราณสวรรค์ของเขาได้หายไปแล้ว พริบตาถัดมามวลพลังเย็นยะเยือกก็ไหลเข้าสู่ฝ่ามือของเขาและแทรกซึมเข้าไปยังมณีธาตุดวงที่ 2 ของเขาโดยไม่ทันได้ตั้งตัว

ไม่เพียงแค่นั้น ขณะที่ความเย็นเยียบพุ่งผ่านร่างของโจวเหว่ยชิงและตรงเข้าสู่มณีของเขา เขาก็รู้สึกได้ว่าประสาทสัมผัสของเขาพร่ามัวไปชั่วขณะ ในช่วงเวลาถัดมาวงล้อทักษะธาตุซึ่งเดิมอยู่ที่พื้นที่สีเงินก็เคลื่อนไปยังพื้นที่ส่วนสีเขียว จากนั้นทั่วทั้งร่างก็รู้สึกเบาสบาย มณีธาตุดวงที่ 2 ในฝ่ามือของเขาถูกมณีดวงที่ 3 ขยับเข้ามาเข้าแทนที่อย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกได้ถึงทักษะที่ถูกกักเก็บเอาไว้อีกทักษะหนึ่ง ทักษะธาตุลม!

เกิดอะไรขึ้น? ใบหน้าของโจวเหว่ยชิงเต็มไปด้วยความประหลาดใจ เขารู้สึกราวกับว่าตนพยายามจะหลอกล่อหญิงสาวคนหนึ่ง แต่สุดท้ายก็โดนเธอ ‘ขืนใจ’ แทน!

จักรพรรดิ์สีเงินได้บังคับส่งทักษะของมันเข้าสู่ร่างของเขาและกักเก็บมันไว้ในมณีธาตุของเขาด้วยตัวเองจริงๆ! ความแข็งแกร่งของอสูรสวรรค์ระดับราชานั้นไม่ใช่สิ่งที่สามารถอธิบายได้ด้วยตรรกะทั่วไปเลยแม้แต่น้อย!

ก่อนที่โจวเหว่ยชิงจะทันได้ขยับตัว  มณีธาตุดวงที่ 3 ของเขาได้กักเก็บทักษะใหม่เสร็จสิ้นและกลับมาหมุนวนส่องแสงประกายเจิดจ้าอยู่ที่ข้อมือของเขาอย่างเงียบๆ แล้ว

เจ้าแมวอ้วนส่งเสียงคำรามต่ำๆ อีกครั้ง คราวนี้น้ำเสียงของมันฟังดูพึงพอใจมาก มันพยักหน้าไปทางจักรพรรดิสีเงินพร้อมกับแววตาที่พึงพอใจ

จักรพรรดิสีเงินมองมันกลับและร้องออกมาด้วยน้ำเสียงเว้าวอน ดวงตาสีขาวขุ่นของมันเต็มไปด้วยความคาดหวังอีกครั้ง เจ้าแมวอ้วนนิ่งไปสักครู่ก่อนจะส่งเสียงคำรามสั้นๆ ออกมาอีก 2 คำ ดวงตาของจักรพรรดิสีเงินสว่างวาบขึ้นด้วยความยินดี มันเอนหลังบนพื้นและหลับตาลงอย่างมีความสุข เจ้าแมวอ้วนกระโดดกลับเข้าไปในอ้อมแขนของโจวเหว่ยชิงแล้วเชิดหน้าขึ้นอย่างภาคภูมิใจราวกับกำลังขอคำชม

โจวเหว่ยชิงบีบจมูกเล็กๆ ที่น่ารักน่าชังของมันเบาๆ ก่อนจะยิ้มและกล่าวว่า “ดูเหมือนว่ามันจะกลัวเจ้านะ! เฮ้อ เสียดายที่ข้าไม่เข้าใจสิ่งที่พวกเจ้าทั้งคู่พูดคุยกัน แมวอ้วน จมูกน้อยๆ ของเจ้าช่างนุ่มนิ่มดีเหลือเกิน แค่ได้จับมันเล่นข้าก็พึงพอใจแล้ว!”

ดวงตาของเจ้าแมวอ้วนเบิกกว้างด้วยความขุ่นเคือง และมันก็อดไม่ได้ที่จะคิดกับตัวเองว่า หนอย! เจ้าอันธพาลไร้หัวใจนี่…ฮึ่ม!

โจวเหว่ยชิงจับแมวอ้วนซุกกลับเข้าไปในอกเสื้อของเขาพลางลูบใบหน้าด้วยท่าทางหดหู่ก่อนจะแสร้งเดินคอตกกลับออกไป นี่ไม่ใช่เวลาที่จะตื่นเต้นกับทักษะใหม่หรือว่าทดลองใช้พวกมัน ท้ายที่สุดหากมีใครพบว่าเขาสามารถกักเก็บทักษะของจักรพรรดิสีเงินได้ ความลับของเขาจะต้องถูกเปิดโปงทั้งหมด จากนั้นวันเวลาของเขาคงจะเหลือน้อยเต็มที

เมื่อเขากลับไปที่ห้องโถงธาตุมิติ ชายวัยกลางคนทั้ง 2 กำลังรออยู่ที่นั่นแล้ว “เสร็จแล้วหรือ?” ชายที่อยู่ทางซ้ายร้องออกมา

โจวเหว่ยชิงกล่าวด้วยสีหน้าเศร้าหมอง “ข้าจะทำอะไรได้อีกนอกจากหนีออกมา? พลังปราณสวรรค์ของข้าไม่อาจทะลวงเข้าสู่ร่างกายของมันได้ แล้วจะนับประสาอะไรกับการกักเก็บทักษะจากมัน จักรพรรดิสีเงินนั้นช่างมีพลังแข็งแกร่งจนข้าประทับใจแม้มันจะมีขนาดเล็กมากก็ตาม! ข้ารู้แค่ว่ามันแข็งแกร่งแค่ไหนหลังจากอ่านป้ายข้อมูลของมัน ข้าคิดมาเสมอว่าขนาดตัวของอสูรสวรรค์จะต้องสัมพันธ์กับพลังของมัน แต่วันนี้ข้าก็ได้เปิดหูเปิดตาแล้ว! แน่นอนว่าข้าจะกลับมาลองอีกครั้งเมื่อระดับพลังปราณของข้าสูงขึ้น!” เขาเตรียมประโยคสุดท้ายไว้เพื่ออนาคตเพราะเขายังคงหมายตาทักษะธาตุลม 2 ทักษะสุดท้ายอยู่!

ชายทั้ง 2 คนยิ้มออกมาพร้อมกัน แน่นอนว่าสถานการณ์ของโจวเหว่ยชิงนั้นได้ถูกคำนวณเอาไว้ล่วงหน้าก่อนแล้ว หลังจากที่จักรพรรดิ์สีเงินถูกจับได้ จ้าวมณีธาตุ และจ้าวมณีสวรรค์เกือบทุกคนในวังกักเก็บทักษะได้ทดลองกักเก็บทักษะจากมันดูแล้ว แต่ทว่าพวกเขาทั้งหมดล้วนพบปัญหาเดียวกันกับที่โจวเหว่ยชิงกล่าว ไม่สามารถเจาะทะลวงเกราะป้องกันของจักรพรรดิสีเงินได้ ท่านหัวหน้ากล่าวว่าหากจะกักเก็บทักษะของจักรพรรดิสีเงินให้สำเร็จนั้น พวกเขาจำเป็นต้องมีปราณสวรรค์ขั้นทะลวงพิภพเป็นอย่างน้อยเพื่อทำลายเกราะป้องกันของมัน จากนั้นถึงจะมีโอกาสกักเก็บทักษะได้สำเร็จ พวกเขาไม่รู้เลยว่าโจวเหว่ยชิงนั้นทำสำเร็จไปแล้ว ไม่เพียงแต่กักเก็บทักษะกระชากมิติได้เท่านั้น แต่เขายังสามารถกักเก็บ 1 ในทักษะธาตุลมภายใต้ความร่วมมือของจักรพรรดิสีเงินอีกด้วย!

ขณะที่พวกเขาส่งบัตรเก็บเหรียญทองให้โจวเหว่ยชิง ชายทางขวาก็พูดว่า “น้องชาย เจ้าอย่ารู้สึกหดหู่ไปเลย อย่างไรเสียอาจารย์ศาสตรามณียุทธ์เช่นเจ้าก็ไม่จำเป็นต้องมีทักษะที่ทรงพลังมากนักหรอก รับไป นี่คือ 450,000 เหรียญทอง พวกเราได้พูดคุยกับหัวหน้าของเราแล้ว เนื่องจากเจ้าทำการค้าขายให้พวกเราหลายกล่องในคราเดียว ครั้งนี้เราจึงจะให้เพิ่มเงินให้อีก 50,000 เหรียญทอง หวังว่าในอนาคตหากเจ้ามีม้วนคัมภีร์ศาสตรามณียุทธ์ที่จะขายเพิ่ม เจ้าจะมาที่นี่เพื่อตามหาพวกเรา 2 คน พวกเราจะพยายามให้ราคาที่ดีที่สุดแก่เจ้า”

“นอกจากนี้ หากเจ้าทำการค้ากับเราครบจำนวนที่กำหนดไว้ ในอนาคตหากเจ้ามาที่นี่เพื่อกักเก็บทักษะจากอสูรสวรรค์ระดับปฐม พวกเราจะอนุญาตให้เจ้ากักเก็บได้โดยไม่ต้องเสียเงิน”

อาจารย์ศาสตรามณียุทธ์นั้นหายากมากและอาจมีค่ามากกว่าจ้าวมณีสวรรค์ด้วยซ้ำ โดยเฉพาะผู้ที่ได้กลายเป็นอาจารย์คัมภีร์ศาสตรามณียุทธ์ระดับพื้นฐานตั้งแต่อายุยังน้อยเช่นโจวเหว่ยชิง อนาคตของเขาดูสดใสและรุ่งโรจน์เหลือเกิน แม้ว่าวังกักเก็บทักษะจะแข็งแกร่งและมีอิทธิพลมาก แต่ก็ยังไม่กล้างัดข้อหรือเล่นตุกติกกับอาจารย์ศาสตรามณียุทธ์ ไม่เช่นนั้นพวกเขาอาจจะถูกจ้าวมณีและจ้าวมณีสวรรค์ทั้งหมดในอาณาจักรต่อต้านก็เป็นได้ ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงทำได้เพียงใช้กลยุทธ์ที่นุ่มนวลและเข้าหาพวกเขาด้วยผลประโยชน์ล่อใจ สำหรับการว่าจ้างโจวเหว่ยชิงนั้น พวกเขาไม่ได้นึกถึงเรื่องนี้ด้วยซ้ำ ความจริงก็เห็นอยู่ได้ชัดเต็มตา เนื่องจากวัตถุดิบที่จำเป็นต้องใช้สำหรับสร้างคัมภีร์นั้นมีราคาสูงมาก อย่างไรเสียอาจารย์ศาสตรามณียุทธ์ที่อายุน้อยขนาดนี้ก็ต้องได้รับการฝึกฝนและสังกัดอยู่ภายใต้สำนักหรือนิกายที่มีอิทธิพลอยู่แล้วอย่างแน่นอน พวกเขาคงไม่เสียเวลาและทรัพยากรไปกับการกระทำที่ไร้จุดหมายหรอก

……………………………