ภาคที่ 1 บทที่ 103 เลเวล 22

เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁]

บทที่ 103 เลเวล 22

ในหอพักนักศึกษา

ซูเย่กำลังเปิดแอปสำหรับการบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส

ก่อนอื่น เขาบริจาคเงินเป็นจำนวน 25,000 หยวน

“แต้มศีลธรรม +1”

เมื่อบริจาคเสร็จแล้ว เสียงสัญญาณเตือนก็ดังขึ้นในหัวของเขา

ซูเย่เข้าใจทุกอย่างโดยทันที

เพียงบริจาคเงิน 25,000 หยวนก็เพียงพอที่จะทำให้แต้มศีลธรรมเพิ่มขึ้นมาได้แล้ว

“เราต้องจำข้อมูลตรงนี้เอาไว้ให้ดีแล้วสิ อีกหน่อยจะได้ไม่ต้องบริจาคเงินให้เยอะมากเกินไป จนตัวเองจนกรอบอย่างนี้”

ซูเย่พยักหน้าหงึกหงักกับตัวเอง และกดบริจาคเงินอีก 50,000 หยวน

หลังจากนั้น

เขาก็มีแต้มศีลธรรม 32 แต้ม และแต้มจิตสาธารณะอีก 1 แต้ม

“เราต้องเก็บสะสมคะแนนศีลธรรมอีก 68 แต้มสินะ” ซูเย่พูดด้วยความมุ่งมั่น “จากนี้ไป เราจะขี้เกียจไม่ได้แล้ว”

ความเป็นจริงของโลกใบนี้กำลังจะเปิดเผยออกมาอย่างเชื่องช้า

ซูเย่จำเป็นต้องเตรียมตัวให้พร้อมเข้าไว้

ในบัตรเอทีเอ็มของเขายังมีเงินเหลืออยู่อีก 25,000 หยวน

ชายหนุ่มไม่ได้วางแผนจะเอาเงินก้อนนี้ไปบริจาคอีกแล้ว เพราะในระยะหลัง เขาเอาเงินไปบริจาคทั้งหมดจนแทบจะไม่เหลือสำหรับการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เพราะฉะนั้นเงินจำนวนนี้จึงเป็นค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันของเขาที่จะให้หมดไปกับอย่างอื่นไม่ได้อีกเด็ดขาด

บ่ายวันเดียวกันนั้น

ลานจอดรถของตึกผู้บริหาร

“ใครเป็นคนทำวะ!?”

หยางเหวินป๋อระเบิดเสียงคำรามลั่นลานจอดรถ

ล้อรถยนต์ของเขาถูกปล่อยลมยางอีกแล้ว!

วันนี้มีการประชุมผู้บริหารสุดสัปดาห์ หยางเหวินป๋อออกจากห้องพักมาตั้งแต่เช้าตรู่ และคร่ำเคร่งอยู่กับการประชุมจนถึงช่วงบ่าย แต่เมื่อกลับออกมาก็พบว่าลมยางของรถยนต์ตนเองถูกมือดีแอบมาปล่อยอีกแล้ว!

เดี๋ยวนี้รถของเขาโดนปล่อยลมยางถึงสองครั้งต่อวัน!

ให้ตายสิ

กลุ่มรปภ.ที่เฝ้ายามอยู่ในลานจอดรถรีบวิ่งเข้ามาหาเร็วไว

“รีบไปตรวจสอบดูเดี๋ยวนี้ ไม่ว่าจะใช้วิธีไหนก็ตาม แต่พวกนายต้องตามหาตัวคนผิดมาลงโทษให้ได้!”

หยางเหวินป๋อกัดฟันกรอดด้วยความเคียดแค้น

เขารู้ดี

ว่าตนเองเป็นเป้าหมาย

มีคนอยากจะกลั่นแกล้งเขา

มิฉะนั้นแล้วไม่มีทางที่รถยนต์ของหยางเหวินป๋อจะถูกปล่อยลมยางทุกวันเด็ดขาด

แค่วันสองวันยังพอทน แต่เหตุการณ์เช่นนี้ดำเนินมาได้หลายวันติด ๆ กันแล้ว

ไม่ว่าจะจอดรถไว้ที่หอพักหรือที่มหาวิทยาลัย ก็ไม่สามารถรอดพ้นจากการถูกปล่อยลมยางได้เลย จนในที่สุดหยางเหวินป๋อก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป!

“ฉันไม่สนว่าแกเป็นใคร”

“แต่ฉันจะตามหาตัวแกให้เจอ และฉันจะทำให้แกต้องเสียใจ!”

เป็นเวลา 22:00 น.

วันนี้เป็นกำหนดเปิดเขตแผนที่ระดับ 20 – 30 ในเกม Fantasy Dream

วันนี้เป็นวันที่ผู้เล่นซึ่งมีเลเวล 20 ต่างก็รอคอยด้วยใจจดจ่อที่จะได้อัพเลเวลกันอีกครั้ง!

ในหอพักนักศึกษา

ซูเย่ ซูชือ และจินฟานสวมหมวก VR ก้าวเข้าสู่โลกแห่งเกมพร้อมกัน

ครั้งนี้ซูเย่ยังคงตัดสินใจใช้หมวกใบใหม่เข้าเล่นเกม

เมื่อเข้าสู่โลกแห่งเกมแล้วเขาก็พบว่าตนเองอยู่ในส่วนลึกของป่าดำในเขตแผนที่ระดับ 19 และสิ่งที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าก็คือภูมิประเทศของเขตแผนที่ระดับ 20 เป็นต้นไป

ตอนที่ซูเย่เข้ามาอยู่ในเกม เขาก็พบว่าพื้นที่นี้มีคนกำลังรวมตัวกันอย่างหนาแน่น

เพียงไม่นาน

ทางเดินในป่าดำก็เต็มไปด้วยกลุ่มผู้คน

ไม่ว่ากวาดตามองไปทางไหนก็มีแต่หัวคนเต็มไปหมด

“พวกที่มีเลเวล 20 มีอยู่เป็นล้านคนจริง ๆ ด้วย”

ซูเย่ถอนหายใจออกมาด้วยความพิศวง

ไม่รู้เลยว่าในกลุ่มผู้เล่นที่มีเลเวล 20 เหล่านี้ มีกี่คนกันที่ยินยอมลงนามในสัญญารักษาความลับ และมีกี่คนกันที่สามารถเปิดจุดลมปราณได้สำเร็จ

ทันใดนั้นมีตัวอักษรหลากสีสันปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าพร้อมด้วยการยิงพลุดอกไม้ไฟเสียงดังปุงปัง

“เขตแผนที่ระดับ 20 – 30 เปิดให้เข้าผจญภัยแล้ว!”

ม่านพลังสีขาวที่กั้นอยู่เบื้องหน้าค่อย ๆ สลายหายไปอย่างแช่มช้า และเปิดเผยให้เห็นถึงสภาพแวดล้อมของเขตแผนที่ระดับ 20 อย่างเต็มรูปแบบ

“พวกเราลุย! เขตแผนที่ใหม่เปิดให้เข้าเล่นแล้วโว้ย”

กลุ่มผู้เล่นจำนวนนับไม่ถ้วนวิ่งกรูเข้าสู่เขตพื้นที่การผจญภัยรูปแบบใหม่

ซูเย่ยืนอยู่ในกลุ่มฝูงคน

เขากวาดสายตามองรอบตัว และพบว่ามีผู้เล่นจำนวนไม่น้อยที่ยังคงพกดาบติดตัว

นั่นหมายความว่ากลุ่มคนเหล่านี้เป็นผู้ที่ไม่สามารถอัพเลเวลขึ้นมาอยู่ในระดับ 20 ได้ในเวลาหนึ่งเดือนตามกำหนด หรือไม่อย่างนั้นก็เป็นคนที่ยังเปิดจุดลมปราณไม่สำเร็จ หรือไม่ก็เป็นผู้ที่พกดาบด้วยความเคยชิน และลืมไปว่าในการต่อสู้หลังจากนี้พวกเขาสมควรต่อสู้ด้วยมือเปล่าเท่านั้น

“ไม่แปลกใจอีกแล้วว่าทำไมเกมนี้ถึงไม่มีของประดับฉากอะไรเลย”

จากสถานการณ์ที่เป็นอยู่ คงไม่มีผู้เล่นคนไหนสนใจเดินสำรวจวิวทิวทัศน์สักเท่าไหร่

ซูเย่คิดกับตนเองก่อนจะเริ่มเดินตามฝูงชนเข้าสู่เขตแผนที่ระดับ 20 อย่างเป็นทางการ

เมื่อเคยเห็นกระบวนการอัพเลเวลของท่านเทพ X จากคลิปวิดีโอ ผู้เล่นจำนวนมากก็สามารถเลื่อนระดับของตนเองขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว

แม้ว่าเขตแผนที่ระดับ 20 เพิ่งเปิดให้เข้าเล่นได้เพียงครู่เดียว แต่กลับมีผู้เล่นจำนวนมากบุกตะลุยเข้าไปยังเขตแผนที่ระดับ 21 แล้ว และตอนนี้ก็มีบางส่วนกำลังไล่ล่าฆ่าสัตว์ประหลาดอยู่ในเขตแผนที่ระดับ 22 อีกด้วย

โดยเฉพาะผู้ที่เปิดจุดลมปราณได้สำเร็จแล้ว

พวกเขายิ่งมั่นใจในการต่อสู้มากขึ้น

สัตว์ประหลาดระดับ 22 เหล่านี้ไม่สามารถทำอะไรพวกเขาได้เลย

ซูเย่เดินตรงเข้าไปสู่เขตแผนที่ระดับ 23

ไม่มีใครอยู่

ที่นี่เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำ มีแม่น้ำไหลผ่าน

แม่น้ำทอดยาวไกลไปสุดลูกหูลูกตา ตัดผ่านส่วนกลางของพื้นที่ชุ่มน้ำซึ่งขนาบข้างอยู่ทั้งสองฝั่ง

และบริเวณริมฝั่งก็เต็มไปด้วยปลิงปีศาจ!

สัตว์ประหลาดชนิดนี้สามารถเดินสองขาได้เหมือนมนุษย์ มันมีความยาวลำตัวมากกว่าหนึ่งเมตร

“ปกติปลิงจะกลัวเกลือใช่ไหม ในเกมนี้จะไปหาเกลือได้จากที่ไหนบ้างเนี่ย?”

ซูเย่จ้องมองไปที่ปลิงยักษ์เหล่านั้นด้วยความขยะแขยง

เขาไม่ปล่อยให้ตัวเองเสียเวลาอีกแล้ว ชายหนุ่มรีบพุ่งตรงเข้าไปทันที

เมื่อเท้าสัมผัสลงบนพื้นดินเขตชายฝั่ง กลุ่มปลิงกลายพันธุ์เหล่านั้นก็หันมามองด้วยความประหลาดใจ ก่อนที่พวกมันจะรวมตัวกันอย่างบ้าคลั่ง

ซูเย่กระโดดเข้าไปหาปลิงยักษ์ตัวหนึ่ง

เขาเงื้อหมัดขึ้นเหนือศีรษะ

เมื่อปล่อยหมัดใส่ลำตัวของปลิงปีศาจสุดแรงเกิด กำปั้นของชายหนุ่มก็กระแทกเข้าใส่จุดศูนย์รวมประสาทที่อยู่บนช่วงท้องของสัตว์ประหลาดชนิดนี้พอดี

นี่ไม่ต่างไปจากการโจมตีเข้าสู่หัวใจ เป็นการโจมตีโดยตรงเข้าไปสู่จุดตาย

“ตู้ม!”

ได้ยินเสียงบางอย่างแตกกระจาย

ซูเย่รู้สึกเหมือนตนเองทำตุ่มหนองขนาดใหญ่แตกกระจาย แต่มันกลับไม่ได้มีของเหลวน่าขยะแขยงสาดกระเด็นออกมา

กลับกลายเป็นว่าปลิงยักษ์ตัวนั้นร่างกายแตกสลายหายไปเป็นเม็ดทรายกองหนึ่ง และก่อนที่มันจะตายนั้น เจ้าปลิงก็ไม่ลืมใช้ขาของมันเกาะเกี่ยวแขนของซูเย่เอาไว้จนถึงวินาทีสุดท้าย

เมื่อเห็นเพื่อนร่วมเผ่าพันธุ์ของพวกมันถูกฆ่า เจ้าปลิงปีศาจตัวอื่น ๆ ก็แสดงความโกรธแค้นออกมาทันที

พวกมันเพิ่มความเร็วในการเข้ามาหาซูเย่มากยิ่งขึ้น

“ผลั่ก!”

“ผลั่ก!”

“ผลั่ก!”

ชายหนุ่มกระแทกกำปั้นออกไปข้างหน้าครั้งแล้วครั้งเล่า

รอบตัวเขาเต็มไปด้วยกองทรายสีขาวในเวลาอันรวดเร็ว

“ขอแสดงความยินดีด้วย คุณคือผู้เล่นคนแรกที่ได้ขึ้นสู่เลเวล 21 ในเกม Fantasy Dream ระบบจะทำการแจ้งเตือนไปทั้งเซิร์ฟเวอร์ ไม่ทราบว่าต้องการปกปิดชื่อไอดีของคุณหรือไม่?”

“ไม่ต้อง”

ซูเย่กดตัวเลือกอย่างรวดเร็ว

“ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่น ‘เวรกรรม ทำไมถึงตั้งชื่อยากเย็นขนาดนี้ฮะ’ ที่ได้กลายเป็นผู้เล่นคนแรกของเกม Fantasy Dream ผู้สามารถเลื่อนระดับขึ้นสู่เลเวล 21 ได้สำเร็จ และทำคะแนนเป็นอันดับ 1 ของเซิร์ฟเวอร์ในขณะนี้!”

ข้อความแจ้งเตือนปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าตามด้วยการยิงพลุดอกไม้ไฟอย่างสวยงาม มีแม้แต่นกกระเรียนกางปีกบินอยู่ในกลุ่มก้อนเมฆสีขาวใต้ข้อความเหล่านั้นด้วยซ้ำ

ในเวลาเดียวกันนี้

ผู้เล่นเกมทุกคนที่เห็นข้อความแจ้งเตือนต่างก็ตกอยู่ภายใต้ความพิศวง

“เวร ใครวะเนี่ย? ทำไมอัพเลเวลได้เร็วขนาดนี้?”

“ตอนแรกฉันนึกว่าเป็นท่านเทพ X แต่นี่ไม่ใช่ท่านเทพ X นี่นา!”

“ท่านเทพ X โดนทีมงานบล็อกไปแล้วไม่ใช่เหรอ? เขาไม่เคยปรากฏตัวออกมาร่วมครึ่งเดือนแล้วนะ”

“นี่ไม่ใช่ท่านเทพ X แต่เป็นคนอื่น!”

“แล้วทำไมมันถึงตั้งชื่อไอดีแบบนั้นวะนั่น?”

“ตอนตั้งชื่อไม่รู้จักหาชื่อที่มันดีกว่านี้แล้วหรือไง?”

ในเขตแผนที่ระดับ 22

ซูชือที่กำลังฆ่าสัตว์ประหลาดด้วยมือเปล่ารู้สึกตัวเย็นเฉียบไปทั้งร่างกายเมื่อเห็นข้อความแจ้งเตือน

ทันทีที่เขาล็อกอินเข้ามาสู่ตัวเกม ชายหนุ่มก็ตรงมาที่เขตแผนที่ระดับ 22 เป้าหมายของเขาคือการอัพเลเวลเป็นคนแรกให้ได้ และที่ผ่านมาเขาก็สามารถฆ่าสัตว์ประหลาดไปได้สองสามตัวแล้ว

แต่ปรากฏว่า…

ค่าประสบการณ์ของเขายังขึ้นมาไม่ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ แต่กลับมีใครบางคนอัพเลเวลได้สำเร็จเสียอย่างนั้น

“เฮ้ย แบบนี้มันไม่ใช่แล้ว!”

“เวรกรรม ทำไมถึงตั้งชื่อยากเย็นขนาดนี้ฮะงั้นเหรอ?”

“นี่มันไอดีของเสี่ยวเย่ไม่ใช่หรือไง?”

ซูชือรีบเปิดดูรายชื่อเพื่อนของตนเอง แล้วดวงตาของเขาก็ต้องเบิกกว้าง

“เชี่ย เป็นเสี่ยวเย่ไปได้ยังไงวะเนี่ย?”

เมื่อเห็นว่าซูเย่มีชื่อเป็นผู้ที่อยู่ในเลเวล 21 เรียบร้อย ซูชือก็ถึงกับตกตะลึงทำอะไรไม่ถูก

“หมอนี่มันทำได้ยังไง?”

“สามารถขึ้นมาอยู่ในเลเวล 20 ได้ในเวลาแค่สามวัน ก็ถือว่าน่าเหลือเชื่อแล้ว แต่ไอ้การอัพเลเวลแบบปัจจุบันทันด่วนอย่างนี้มันหมายความว่ายังไงวะ?”

ซูชือเปิดโหมดสื่อสาร และพยายามติดต่อไปที่ซูเย่ เพื่อสอบถามถึงการเลื่อนระดับโดยตรง

แต่ทันใดนั้นกลับมีข้อความแจ้งเตือนปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าอีกครั้งหนึ่งว่า

“ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่น ‘เวรกรรม ทำไมถึงตั้งชื่อยากเย็นขนาดนี้ฮะ’ ที่ได้กลายเป็นผู้เล่นคนแรกของเกม Fantasy Dream ผู้สามารถเลื่อนระดับขึ้นสู่เลเวล 22 ได้สำเร็จ และทำคะแนนเป็นอันดับ 1 ของเซิร์ฟเวอร์ในขณะนี้!”

บ้าไปแล้ว!!!

ซูชือได้แต่ยืนตกตะลึงอยู่ตรงนั้นเอง