เล่ม 1 ตอนที่ 111 ความสงสัย

สลับชะตา ชายามือสังหาร

“ถูกต้อง” เจ้าอ้วนชวีกะเทาะเมล็ดแตงแล้วพูดว่า “ได้ยินว่าวันเฉลิมพระชนมพรรษาครบหนึ่งร้อยห้าสิบชันษาของฝ่าบาทในครั้งนี้จะจัดงานใหญ่โต ขุมอำนาจชั้นหนึ่งของเมืองหลวงล้วนได้รับเชิญกันหมด เจ้าก็รู้ว่าตระกูลน่าหลานต้องไปอย่างแน่นอน ไม่เพียงแค่พวกเขาเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นสมาคมนักหลอมยา สมาคมนักฝึกสัตว์อสูร สมาคมปรมาจารย์วิญญาณอะไรก็ต้องส่งคนไปเข้าร่วมกันหมด อย่างเช่นพวกเราก็ต้องเข้าตาองค์ชายสามจึงจะไปได้”

ซือหม่าโยวเย่ว์เคาะนิ้วบนโต๊ะหินพลางเอ่ยว่า “ดูเหมือนว่าวันนั้นขุมอำนาจทุกฝ่ายคงจะไปกันหมดเลยสินะ!”

“ถูกต้อง” เจ้าอ้วนชวีพยักหน้า “ว่ากันตามจริง วันนั้นเป็นโอกาสอันดีที่จะได้สืบข้อมูลเชิงลึก ถ้าหากเจ้าไปดูได้ก็คงไม่เลวเลย”

“อืม ไม่แน่ว่าถึงวันนั้นแล้วอาจจะไปก็ได้” ซือหม่าโยวเย่ว์พูด

“ถ้าหากเจ้าไปด้วย ข้าจะได้มีเพื่อนคุย” เจ้าอ้วนชวีพูด “พี่ชายข้าอยากให้ข้าไปเปิดโลกทัศน์ยิ่งนัก แต่ความจริงแล้วข้าเองก็มิได้สนใจเรื่องนั้นสักเท่าใดหรอก ทั้งยังไม่ชอบประจบประแจงองค์ชายสามผู้นั้นด้วย หากเจ้าไปข้าจะได้ไม่เบื่อหน่ายอย่างไรเล่า”

“ค่อยว่ากันเถิด”

“อืม เช่นนั้นข้ากลับก่อนล่ะ อย่าลืมที่บอกนะ ถ้าหากต้องการไหว้วานอะไรเจ้าอ้วนเช่นข้าก็บอกมาได้เลย” เจ้าอ้วนชวียืนขึ้นพูด

“ข้าจะบอกแน่” ซือหม่าโยวเย่ว์พูดด้วยรอยยิ้ม

เธอเดินไปส่งเจ้าอ้วนชวีแล้วกลับไปยังเรือนพักของตน เรื่องที่เธอเป็นนักหลอมยานี้มีเพียงพวกเขาไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ ดังนั้นสายตาที่ทุกคนมองเธอจึงมิได้มีอะไรแตกต่างไปจากเดิมเลย มีเพียงคนที่สนิทสนมกับเธอเท่านั้นที่รู้ว่าเธอมิใช่เธอคนเดิมอีกต่อไปแล้ว

ทุกคนในเมืองหลวงล้วนให้ความสนใจกับเรื่องของตระกูลซือหม่าและตระกูลน่าหลาน ฝ่ายหนึ่งคือตระกูลน่าหลานที่มีพลังยุทธ์ อีกฝ่ายคือจวนแม่ทัพที่ทรงอิทธิพล พวกเขาล้วนไม่อยากช่วยเหลือเลยสักฝ่ายเดียว เพราะถ้าหากยืนผิดฝ่าย สิ่งที่รอพวกเขาอยู่นั้นย่อมต้องเป็นหายนะของการวางเดิมพันผิดข้าง

ทุกคนต่างรู้เรื่องที่ตระกูลน่าหลานเชิญนักหลอมยาท่านหนึ่งมาเข้าร่วมอยู่ก่อนแล้ว และพวกเขาก็รู้ว่าตระกูลซือหม่ามีความสัมพันธ์ที่มิใคร่จะดีนักกับนักหลอมยามาโดยตลอด คิดในใจไว้ว่าคราวนี้ตระกูลซือหม่าต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน

ข่าวที่ว่ายาวิเศษของร้านค้าตระกูลซือหม่าหมดเกลี้ยงนั้นแพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็วราวกับไฟไหม้ ตระกูลจำนวนไม่น้อยได้แต่ส่ายหน้าถอนหายใจ ยาวิเศษนี้เป็นสิ่งสำคัญยิ่งชีพสำหรับทุกตระกูลเลยก็ว่าได้!

แต่หลังจากนั้นไม่นาน ร้านค้าตระกูลซือหม่าก็นำยาวิเศษออกมาจำหน่ายอีกครั้ง นอกจากนี้ราคายังต่ำลงกว่าเมื่อก่อนถึงหนึ่งในสามอีกด้วย ราคาถูกกว่าของตระกูลน่าหลานเสียอีก

สำหรับทหารรับจ้างที่มิได้มั่งมีมากนัก ราคานี้ย่อมมีแรงดึงดูดมหาศาลอย่างไม่ต้องสงสัย ดังนั้นเพียงไม่นานทหารรับจ้างจำนวนไม่น้อยจึงย้ายไปที่ร้านค้าตระกูลซือหม่าแทน

ตระกูลน่าหลานก็ได้รับทราบข่าวอย่างรวดเร็วเช่นกัน เรื่องที่ยาวิเศษของตระกูลซือหม่าถูกซื้อไปจนหมดอย่างรวดเร็วก็เป็นเพราะพวกเขาส่งคนไปกว้านซื้อนั่นเอง เพื่อให้ร้านค้าของพวกเขาเสียความดึงดูดใจไป แต่คิดไม่ถึงว่าพวกเขาจะสามารถดึงเอายาวิเศษออกมาได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ราคายังต่ำกว่าของพวกตนเสียอีก ซึ่งเป็นเรื่องเหนือความคาดหมายของพวกเขาอย่างยิ่ง

ในห้องปรึกษาธุระของตระกูลน่าหลาน น่าหลานเหอนั่งอยู่บนเก้าอี้ประธานด้วยสีหน้าคร่ำเคร่ง ผู้อาวุโสสองคนยืนอยู่ข้างๆ ส่วนคนอื่นๆ นั่งอยู่เบื้องล่าง

“ท่านประมุขตระกูล เรื่องที่ตระกูลซือหม่ายังมียาวิเศษอยู่อีกนั้นเป็นความจริงหรือ” ผู้อาวุโสรองพูด

“ใช่” น่าหลานเหอพยักหน้า “เพิ่งได้รับข่าวมาเมื่อครู่ว่าพวกเขายังคงขายยาวิเศษต่อไปจริงๆ”

“แต่มิใช่ว่าพวกเราไปกว้านซื้อยาวิเศษชุดสุดท้ายของพวกเขามาจนหมดแล้วหรือ ร้านค้าเหล่านั้นก็ได้รับปากเอาไว้แล้วว่าจะไม่ให้สินค้ากับตระกูลซือหม่าอีก แล้วพวกเขาไปเอายาวิเศษมาจากไหนกัน” ผู้อาวุโสรองพูดอย่างสงสัย

“หรือจะมีคนไม่ยอมทำตามข้อตกลงที่ทำไว้กับพวกเรา แอบขายยาวิเศษให้พวกเขาเป็นการส่วนตัว” ผู้อาวุโสใหญ่พูด

“ไม่น่าจะใช่หรอก” น่าหลานเหอพูด “ต่อให้คนเหล่านั้นไม่ยอมทำตามข้อตกลงแล้วขายยาวิเศษให้กับพวกซือหม่าเลี่ย พวกเขาก็ไม่มีทางไปซื้อหามาได้มากมายเช่นนั้นในเวลาเพียงชั่วครู่เดียวหรอก นอกจากนี้ยังกดราคาให้ต่ำลงได้ถึงขนาดนี้อีกด้วย”

“เช่นนั้นท่านประมุขตระกูลก็หมายความว่า…”

น่าหลานเหอนิ่งคิดชั่วครู่แล้วเอ่ยว่า “ถ้าหากข้าเดาไม่ผิด พวกเขาน่าจะหาตัวนักหลอมยาพบแล้วล่ะ”

“จะเป็นไปได้อย่างไร!” ผู้อาวุโสรองส่ายหน้าอย่างมั่นใจ “คนที่พวกเราส่งไปบอกว่านักหลอมยาทุกคนที่ติดต่อกับตระกูลซือหม่าล้วนไม่ประสบความสำเร็จกันทั้งสิ้น จู่ๆ พวกเขาจะมีนักหลอมยาเต็มใจมาเข้าร่วมตระกูลพวกเขาอย่างปุบปับได้อย่างไรกัน”

“ท่านประมุขตระกูล ผู้อาวุโสใหญ่ ผู้อาวุโสรองขอรับ” ผู้ดูแลร้านหนวดโค้งที่นั่งอยู่เบื้องล่างผู้หนึ่งเอ่ยปากพูด “จากข่าวที่แพร่สะพัดอยู่ข้างล่าง ตระกูลซือหม่ามียาวิเศษกว่าพันเม็ดโผล่มาอย่างปุบปับ นักหลอมยาคนไหนๆ ก็ไม่มีทางหยิบเอายาวิเศษมากมายถึงเพียงนี้ออกมาได้ในชั่วพริบตาหรอกขอรับ”

“กว่าพันเม็ดเลยหรือ” จำนวนนี้ทำเอาผู้อาวุโสใหญ่ที่สงบนิ่งมาโดยตลอดตกตะลึงอยู่บ้าง

“เจ้าแน่ใจหรือ”

“ข้าน้อยแน่ใจขอรับ แน่ใจว่ามีกว่าพันเม็ดเลยทีเดียว” บุรุษหนวดโค้งพูด “นอกจากนี้ราคายาวิเศษของพวกเราในตอนนี้ยังถูกตั้งเอาไว้ที่ราคาทุนแล้วด้วย แต่พวกเขายังตั้งราคาต่ำกว่าเราอีกนะขอรับ”

“เฮอะ ซือหม่าเลี่ยคิดจะดึงดูดลูกค้าเหล่านั้นด้วยวิธีเช่นนี้ ไม่สนใจต้นทุน เช่นนั้นพวกเขาก็คงทนไหวได้ไม่นานเท่าไหร่นักหรอก!” ผู้อาวุโสรองพูด

“ข้าเองก็รู้สึกเช่นนั้นเหมือนกัน” ผู้อาวุโสใหญ่พูด “ฆ่านกเพื่อเก็บไข่ ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่แผนการในระยะยาวอยู่ดี”

“เช่นนั้นยาวิเศษของพวกเราจำเป็นจะต้องลดราคาด้วยหรือไม่ขอรับ” บุรุษหนวดโค้งถาม

“ไม่ต้องหรอก” น่าหลานเหอพูด “พวกเขาทนได้ไม่นานหรอก พอพวกเขาขายยาวิเศษหมดแล้ว ลองดูสิว่าพวกเขาจะยังจะทำต่อไปได้อีกหรือไม่ นอกจากพวกเราจะให้การคารวะและมอบเครื่องยาแก่ปรมาจารย์เหอ ก็ทำให้เราเสียรายได้ไปมากพอแล้ว หากลดราคาอีกอาจส่งผลกระทบต่อการจัดหาในภายหน้าได้”

“ขอรับ ท่านประมุขตระกูล”

น่าหลานเหอลูบแขนเสื้อซ้ายอันว่างเปล่า สีหน้ามืดหม่นจนน่ากลัว ถึงแม้ว่าจะไม่มีหลักฐานตรงๆ แต่สัญชาตญาณของเขาบอกเขาว่า เรื่องที่เทือกเขาผู่สั่วย่อมมีความสัมพันธ์กับตระกูลซือหม่าอย่างแยกไม่ออก

“ท่านประมุขตระกูลขอรับ เดือนหน้าเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาของฝ่าบาท ได้จัดเตรียมของขวัญเอาไว้เรียบร้อยแล้ว วันนี้เพิ่งมาถึงคลังสมบัติเลยขอรับ”

เปรียบเทียบกับเรื่องของตระกูลซือหม่าแล้ว วันเฉลิมพระชนมพรรษาของกษัตริย์ตงเฉินก็เป็นหนึ่งในเรื่องที่พวกเขาให้ความสำคัญในระยะนี้เช่นเดียวกัน

“ถึงแล้วหรือ เช่นนั้นพวกเราไปดูกันเถิด พวกเจ้ากลับไปสังเกตการณ์ดูสถานการณ์ทางนั้นต่อไปนะ” น่าหลานเหอพูดกับผู้ดูแลร้านที่อยู่เบื้องล่าง

“ขอรับ”

“ผู้อาวุโสทั้งสอง พวกเราไปดูของขวัญวันเฉลิมพระชนมพรรษากันดีกว่า…”

เรื่องที่ร้านค้าตระกูลซือหม่าจำหน่ายยาวิเศษราคาถูกแพร่สะพัดไปในหมู่ทหารรับจ้าง ทหารรับจ้างจำนวนไม่น้อยจึงวิ่งไปซื้อกันคนแล้วคนเล่า นอกจากนี้ยังซื้อมามากกว่าปกติสองเม็ดอย่างเต็มใจเพราะราคาที่ถูกแสนถูก เพียงไม่กี่วันยาวิเศษเหล่านั้นก็ขายไปจนหมดเกลี้ยง

ในขณะที่ทุกคนนั่งรอตอนที่ตระกูลซือหม่าไม่มียาวิเศษจำหน่ายอยู่นั้นเอง พวกเขาก็ยกอีกชุดหนึ่งออกมาวางจำหน่ายในทันที โดยที่ราคายังคงไม่เปลี่ยนแปลง

การเคลื่อนไหวนี้ทำให้ผู้คนทั้งเมืองหลวงตาค้าง หมายความว่าอย่างไรน่ะหรือ ก็หมายความว่าตระกูลซือหม่าได้เชิญนักหลอมยาท่านหนึ่งมาแล้วจริงๆ! นอกจากนี้เมื่อดูจากยาวิเศษที่พวกเขาวางจำหน่ายแล้ว อย่างน้อยคนผู้นั้นก็ต้องเป็นนักหลอมยาขั้นสองอีกด้วย!

ข่าวนี้ทำให้น่าหลานเหอตกตะลึงไปครู่หนึ่ง แต่กลับมิได้โจมตีเขาเลย เขาส่งคนไปตรวจสอบร้านที่เป็นผู้จัดหาเครื่องยาให้ตระกูลซือหม่า พยายามจะตัดต้นทางวัตถุดิบเครื่องยาของพวกเขา แต่ข่าวที่ได้รับกลับกลายเป็นว่า… ตระกูลซือหม่ามิได้ซื้อหาเครื่องยาใดๆ จากผู้อื่นมาตั้งแต่ต้นแล้ว!

“หรือว่ายาวิเศษของพวกเขาหล่นลงมาจากฟ้ากันเล่า” ผู้อาวุโสรองสงสัยไม่น้อยเลย “หรือจะบอกว่ามีขุมอำนาจใหญ่อะไรคอยสนับสนุนพวกเขาอยู่เบื้องหลัง”

น่าหลานเหอส่ายศีรษะ “นอกจากสมาคมนักหลอมยาแล้ว ตอนนี้ขุมอำนาจใดเล่าที่จะมีความสามารถขนาดที่จะมาช่วยเหลือตระกูลซือหม่าอย่างมือเติบเช่นนี้ได้ แต่พวกเราก็รู้ถึงความสัมพันธ์ของซือหม่าเลี่ยกับสมาคมนักหลอมยาดี ไม่ขุดหลุมพรางขว้างก้อนหินใส่ก็ดีถมไปแล้ว จะยื่นมือช่วยเหลือพวกเขาน่ะหรือ เรื่องนั้นย่อมเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว”

“เช่นนั้นจะอธิบายเรื่องตระกูลซือหม่าอย่างไรเล่า”

น่าหลานเหอหัวเราะเสียงเยียบเย็น “ใกล้จะถึงงานฉลองแห่งรัฐแล้ว ถึงตอนนั้นจะต้องมีวิธีทำให้ตาเฒ่าซือหม่าเลี่ยนั่นคายความจริงออกมาอย่างแน่นอน!”

……………………