“เพื่อนเหรอ?”
“ใช่ ฉันกลับมาในครั้งนี้ ไม่ได้มีการเตรียมการอะไรเลย เลยได้ให้ทางโรงพยาบาลเคลียร์ส่งหนังสือทางการแพทย์ของฉันไปที่เขา เมื่อคืนเลยได้ไปเอา”
เส้นหมี่อธิบาย
แต่ความจริงแล้ว นี่ก็เป็นความจริง เมื่อคืนเธอไปที่บริษัทของคณาธิป ก็เพื่อเอาหนังสือ
ในที่สุดเคมีก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นท่านประธานครับ คุณให้เธอโอกาสเธออีกสักครั้งเถอะ เธอก็ไม่ได้ทำเรื่องเลวร้ายอะไรนี่ใช่ไหมล่ะครับ? คุณดูเช้าวันนี้สิ เธอได้ยินว่าคุณชายเล็กไม่สบายก็รีบมาทันทีเลย อีกอย่าง ท่านประธาน คุณชายเล็กคงใกล้จะตื่นแล้ว ถ้าหากให้เขาเห็นว่าพวกคุณทะเลาะกันอยู่ที่นี่อีกแล้ว เกรงว่าเขาจะ……”
เคมีพูดจาโน้มน้าว เมื่อพูดมาถึงประโยคสุดท้าย ทุกคนต่างก็เข้าใจความหมายแล้ว
เดิมทีก็เป็นเพราะพวกเขาชินจังถึงไม่สบาย ตอนนี้ตื่นขึ้นมาถ้าได้เห็นพวกเขาทะเลาะกันอีก เขาจะต้องอารมณ์ไม่ดีอีกแน่
แสนรักมองดูผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าคนนี้อย่างมืดมน
ในที่สุด เขาก็จากไปโดยไม่พูดอะไรเลย
เสียงดัง “ปัง” ขึ้นไปบนชั้นสามและถีบประตูเข้าไปในห้องนอน
เส้นหมี่ต้องอกสั่นขวัญหายอีกครั้ง ไม่กล้าอยู่ตรงนั้นอีกต่อไป และได้รีบลงมาที่ชั้นสอง ไปที่ห้องของลูกชายทันที
ช่างเขาสิ ตราบใดที่ให้เธออยู่ที่นี่ต่อไปได้ อะไรก็ไม่สำคัญทั้งนั้น
สิบนาทีหลังจากนั้น เสียงสตาร์ตรถยนต์ก็ได้ดังขึ้นที่ด้านนอก เส้นหมี่มองผ่านหน้าต่างออกไปดู พบว่า รถยนต์เบนท์ลี่ย์สีดำคันหนึ่งได้ขับออกไป
พวกเขาไปบริษัทเหรอ?
งั้นแบบนี้ก็หมายความว่า เธออยู่ดูแลลูกชายที่นี่ได้แล้วงั้นเหรอ?
เส้นหมี่ดีใจอย่างเป็นบ้าเป็นหลัง เธอดีใจจนหมุนตัวอยู่ภายในห้องหลายรอบ ถึงได้กลับมาที่ของเตียงเล็ก ๆ ของลูกชาย และลูบห้องน้อย ๆ ให้กับเขาอย่างมีความสุข
และเคมีที่กำลังขับรถส่งบอสไปที่บริษัทให้เวลานี้ เขาอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองท่านประธานที่นั่งอยู่เบาะด้านหลังที่พลางนวดตรงกลางระหว่างคิ้วผ่านทางกระจกมองหลังอยู่หลายครั้ง
ปฏิกิริยาของท่านประธานคนนี้เมื่อตอนเช้านั้นผิดปกติจริง ๆ
ทั้ง ๆ ที่เป็นภรรยาที่ได้ “ตาย” ไปแล้วที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับเขา เขาใส่อารมณ์ขนาดนั้นทำไม? ไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกันแล้ว ต่อให้เธอขึ้นเตียงกับผู้ชายคนอื่น ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเขาเสียหน่อย
ยังจะมาชายชู้……
——
ดังนั้นในวันนี้ เส้นหมี่ก็ได้อยู่ดูแลลูกชายที่เรืองรองตลอดทั้งวัน
แต่ที่เธอคิดไม่ถึงก็คือ ในตอนที่เธออยู่ในคฤหาสน์แห่งนี้ ที่นอกสวนบ้าน ก็มีดวงตาคู่หนึ่งจับจ้องมองเธออยู่
“ยัยเส้นหมี่ ถึงขนาดนี้แล้ว หล่อนก็ยังอยู่ที่นี่ได้อีก หล่อนมีสิทธิ์อะไร?!!”
นี่คือรถมาเซราตีสีขาวคันหนึ่งจอดอยู่ที่ด้านนอกคฤหาสน์ มันไม่ได้อยู่ใกล้ตึกวังฬาหนึ่งมากนัก แต่ได้จอดแอบอยู่ที่มุมมุมหนึ่งของตึกวังฬาสอง เหมือนกับกลัวว่าคนที่นี่จะพบเห็นเธอเข้า
“เธอหมายถึงผู้หญิงที่ตายแล้วฟื้น คนนั้นน่ะเหรอ?”
เมื่อได้ยินเธอกัดฟันเอ่ยถึงชื่อของผู้หญิงคนนี้ออกมา ในรถยังมีหญิงวัยกลางคนอีกคนนั่งอยู่ด้วย และได้มองตามสายตาของเธอไป
สุขาวดี อาหญิงแท้ ๆ ของแป้งร่ำ
“ฉันก็นึกว่าหล่อนจะมีความสามารถพิเศษอะไร ถึงได้ทำให้เธอกลับมาแล้วก็ยังเข้าไปไม่ได้แม้แต่ประตูของตึกวังฬาหนึ่ง ที่แท้ ก็เป็นแค่ผู้หญิงที่ไม่มีหน้ามีตาคนหนึ่งนี่น่ะเหรอ?”
“อาหญิง อาหญิงจะไปรู้อะไร? หล่อนเป็นแม่แท้ ๆ ของชินจัง!”
แป้งร่ำเห็นว่าในตอนนี้อาหญิงยังพูดฉีกหน้าเธออยู่ ก็รู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก
สุขาวดียิ้มเยาะ: “แล้วยังไงล่ะ? ตอนนั้นในตอนที่หล่อนยังท้องเขาอยู่ เธอยังไล่หล่อนออกไปได้ ตอนนี้เธอได้เลี้ยงเด็กนั่นจนโตมาขนาดนี้ แต่กลับสู้หล่อนไม่ได้งั้นเหรอ? ความสามารถของเธอหายไปไหนหมด?”
เพียงประโยคเดียว ก็ได้ทำให้แป้งร่ำพูดอะไรไม่ออก
เธอไม่มีความสามารถจริง ๆ เดิมทีเมื่อวานเป็นโอกาสที่ดีไม่น้อย ป้าญาได้แอบบอกกับเธอว่า หลังจากที่เธอมา หล่อนเห็นแสนรักปกป้องเธอแบบนั้น เธอจะต้องได้อยู่ที่คฤหาสน์ต่อไปแน่
แต่ที่คิดไม่ถึงก็คือ รอจนยัยดอกทองนั่นออกไป เขากลับได้ไล่เธอออกมา!
นอกจากนี้แล้ว วันนี้เธอก็ยังก้าวเท้าเข้าไปเหยียบคฤหาสน์นี้ไม่ได้
ส่วนผู้หญิงคนนั้น?
ดวงตาของแป้งร่ำ จับจ้องไปที่เงาร่างของสองแม่ลูกที่อยู่บนชั้นสองของคฤหาสน์ที่ตั้งอยู่ในสวน และได้แสดงให้เห็นแววเกลียดชังเคียดแค้นออกมา
“เธอจ้องหล่อนอยู่แบบนี้มันมีประโยชน์อะไร? แบบนี้สามารถกัดกินหล่อนได้เหรอ? มีเวลาแบบนี้ ไม่สู้คิดหาวิธีอื่นดีกว่า”
“วิธีอะไรคะ?”
“แน่นอนว่าเป็นวิธีที่ทำให้หล่อนตายโดยไร้ที่ฝังศพ”
สุขาวดีจ้องมองเงาร่างที่อยู่ในตึก ไม่ได้มีอารมณ์มากมายอะไร แต่สายตาของหล่อน น่ากลัวกว่าหลานสาวของหล่อนอีกมาก
ราวกับผีร้ายที่กินเลือดกินเนื้ออย่างไรอย่างนั้น——
เส้นหมี่ได้อยู่ที่เรืองรองหนึ่งวันเต็ม ๆ
ระหว่างนั้น ที่คิดไม่ถึงก็คือ แสนรักได้กลับมาครั้งหนึ่ง คงเป็นเพราะวันก่อนก็ไม่ได้นอนเหมือนกัน เขาจึงฝืนทนไม่ไหว
เส้นหมี่เห็นเขากลับมา แน่นอนว่าภายในใจได้รู้สึกประหม่าขึ้นมาอีกครั้ง กลัวว่าเขาจะยังโมโหเรื่องเมื่อตอนเช้าอยู่
แต่ที่ยังดีหน่อยก็คือ ครั้งนี้ เขาไม่ได้พูดอะไร กลับมาหลังจากที่เธอฝังเข็มให้ และขึ้นไปนอนที่ชั้นอยู่ชั่วโมงครึ่ง เขาก็ได้กลับไปที่บริษัทอีกครั้ง
“แสนรัก งั้น……ในเมื่อวันนี้ได้ฝังเข็มให้คุณแล้ว คืนนี้ฉันจะไม่มาแล้วนะลุงของฉันเองก็ร่างกายไม่แข็งแรง คืนนี้ฉันต้องช่วยเขาตรวจดู”
เมื่อเส้นหมี่มองเห็น ก่อนที่เขาจะออกไป เอจึงได้บอกกับเขาอย่างระมัดระวัง ว่าตอนเย็นเธอจะไม่มา
ความจริงแล้วเธอก็แค่อยากอยู่ที่บ้านกับลูกอีกสองคน
ทว่าเมื่อชายโฉดคนนี้ได้ยินว่าเธอจะไม่มา ในทันที เขาก็ได้หันกลับมามองต่ำดูเธอด้วยใบหน้าบึ้งตึง!