ตอนที่ 303 วัวกลัวเสือ / ตอนที่ 304 ดูเสือทั้งหมู่บ้าน

คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา

ตอนที่ 303 วัวกลัวเสือ

อาอู่มีประสบการณ์ ร่างกายแข็งแรงยิ่งนัก ด้านหลังเนินดินยังมีเนินดินขนาดเดียวกันอีกสองแห่ง ทั้งหมดรวมเป็นสามหลุม แต่มีลิ่นอยู่สี่ตัว

ไป๋จื่อปล่อยลิ่นไว้ดังเดิมสองตัว คิดจะนำกลับไปเพียงสองตัวเท่านั้น

“สองตัวก็พอแล้ว ไม่ต้องใช้เยอะถึงเพียงนั้น” นางมองเจ้าตัวเล็กที่ขดตัวอยู่ในอกของแม่ด้วยความหวาดกลัว ดวงตาของมันจ้องมองนางอย่างหวั่นเกรง นางจึงกลั้นใจพามันกลับไปไม่ได้

ขณะทั้งสองเดินกลับ ไป๋จื่อนึกถึงแรงเท้าของอาอู่ที่เตะเสือออกไปเมื่อครู่ แรงดีนัก นับเป็นแรงที่ไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไปจะมีได้เลย

“พี่อู่ ท่านเคยเรียนวรยุทธ์หรือ” ไป๋จื่อถามไปเรื่อยเปื่อย

ใบหน้าที่แต่เดิมทีรอยยิ้มของอาอู่พลันชะงักค้าง “เหตุใดจู่ๆ จึงถามเช่นนี้”

ไป๋จื่อไม่ได้สนใจสีหน้าของเขา เพียงกล่าวอย่างสบายๆ ว่า “ข้าเห็นว่าท่านแรงเยอะกว่าคนทั่วๆ ไป ร่างกายก็แข็งแรงมาก ก็แค่เหมือนคนที่เรียนวรยุทธ์มาเท่านั้น” นางแค่เห็นว่าท่าทางยามจับลิ่นของเขาก่อนหน้านี้ มีพลังคล้ายกับหูเฟิงอยู่หลายส่วน

อาอู่ลังเลอยู่บ้าง เขาไม่รู้ว่าควรพูดออกไปหรือไม่ เรื่องในอดีตที่เขาตั้งใจปกปิดไว้นั้น บัดนี้ควรพูดออกไปอีกหรือไม่

เด็กสาวเห็นเขาไม่เอ่ยตอบ ย่อมรู้ว่าเขาเป็นวรยุทธ์อย่างแน่นอน ทว่าเขาไม่อยากพูดเช่นนี้ แสดงว่าเขาต้องมีความลับอะไรที่ยากจะพูดออกมา

นางก็ไม่อยากทำให้เขาลำบากใจเช่นกัน จึงรีบชี้ไปยังเสือที่อยู่ไม่ไกล “พวกเรารีบนำมันออกไปจากที่นี่ดีกว่า ท่านแม่และท่านลุงหูมาแล้ว จะได้ไม่ต้องเข้ามาในเขา”

แม้จะพูดว่านำออกไป ทว่าเรี่ยวแรงของไป๋จื่อในตอนนี้ช่วยอะไรอีกฝ่ายไม่ได้เลย แทบจะเป็นอาอู่แบกหามเพียงลำพัง ส่วนนางถือลิ่นที่ตายไปแล้วสองตัว พลางวิ่งสั้นๆ ตามหลังของเขาไป

ทันใดนั้นอาหู่ก็หยุดฝีเท้า หันไปถามไป๋จื่อว่า “เม่นยังอยู่ตรงนี้อยู่เลย พามันไปด้วยเลยดีหรือไม่ ได้ยินมาว่าเนื้อเม่นมีรสชาติยอดเยี่ยมนัก ทว่าข้ายังไม่เคยกินเลย”

ไป๋จื่อยินดีนัก “เช่นนั้นก็ได้ นำมันกลับไปด้วย กลับไปแล้วข้าจะทำมันให้พวกท่านกิน”

อาอู่ตอบรับด้วยความดีใจ “ตกลง เช่นนั้นเจ้าแบกเม่นไหวหรือไม่ ไม่เช่นนั้นพวกเราลงเขาไปก่อน อีกเดี๋ยวข้าค่อยขึ้นมาอีกรอบ”

เม่นตัวนี้ไม่ได้มีขนาดใหญ่มาก ใหญ่กว่าลิ่นไม่เท่าไรนัก แม้จะหนัก ทั้งยังมีหนาม ทว่านางลากมันไปพร้อมกับเดินไปด้วยได้ ไม่จำเป็นต้องแบกขึ้นมา

“ไม่ต้องหรอกเจ้าค่ะ ข้าไหว ท่านเดินนำทางข้าก็พอ ถือว่าระวังทางข้างหน้าไปด้วย ส่วนข้าจะลากมันไปเอง” นางโบกมือให้เขา

อีกฝ่ายแบกเสือตัวหนึ่งก็เหนื่อยพออยู่แล้ว เมื่อนางบอกว่าไม่ต้อง เขาก็ไม่ได้พูดอะไรมากอีก เพียงหมุนกายเดินหน้าต่อไป

ทั้งสองคนเดินตามกันลงเขา และเป็นอย่างที่ไป๋จื่อคาดไว้ ไกลออกไปมีรถเทียมม้าคันหนึ่งกำลังเร่งมาทางพวกเขา บนนั้นมีคนนั่งอยู่หลายคน อู๋เจียงเป็นผู้บังคับรถ ด้านหลังนั่งด้วยลุงหูและหลี่เฉิง ทั้งสองชะเง้อคอมองหาอะไรบางอย่างอยู่

อาอู่พลันโยนเสือที่แบกไว้บนกายลง แล้วรีบโบกมือให้อู๋เจียง “พวกข้าอยู่ตรงนี้ อยู่ตรงนี้!”

ถึงอย่างไรลุงหูก็อายุมากกว่าคนที่เหลือ สายตาดีไม่เท่าคนหนุ่ม เขาเขย่าแขนของหลี่เฉิงที่อยู่ข้างๆ “ใช่จื่อยาโถวหรือไม่ ใช่นางหรือไม่”

หลี่เฉิงยิ้มกล่าว “ใช่นางขอรับ อาอู่ก็อยู่ด้วย”

ลุงหูคลายใจในทันที ในปากรำพันว่า “โชคดียิ่งนัก โชคดีเหลือเกิน!”

ทว่าจู่ๆ รถเทียมม้าก็หยุดลง ไม่ว่าอู๋เจียงจะบังคับอย่างไร วัวที่ลากรถก็ไม่ยอมเดิน ไม่เพียงไม่เดินไปข้างหน้า ยังเดินถอยหลังอีกต่างหาก

“น่ะ นี่เกิดอะไรขึ้น” อู๋เจียงอึดอัดใจ ถามหลี่เฉิงที่อยู่ข้างหลังด้วยสีหน้างุนงง

หลี่เฉิงก็ไม่เข้าใจเช่นกัน “ข้างหน้ามีอะไรที่ทำให้มันกลัวกระมัง”

อู๋เจียงไม่เห็นว่ามีอะไร “ไม่มีนะ ไม่มีอะไรเลย!”

บัดนี้ไป๋จื่อนำลิ่นและเม่นเดินมาแล้ว นางกล่าวกับอู๋เจียงที่บังคับรถอยู่ว่า “พี่อู๋ ท่านหันหัวรถก่อน พวกข้าแบกเสือมาด้วย อยู่ตรงหน้านี้เอง ข้าว่าวัวตัวนี้คงจะเห็นเข้าแล้ว ก็เลยรู้สึกกลัว”

……….

ตอนที่ 304 ดูเสือทั้งหมู่บ้าน

อู๋เจียงตกใจจนแทบอ้าปากค้าง “เจ้าว่าอะไรนะ ฆ่าเสือมารึ พวกเจ้าสองคนเป็นคนฆ่า?”

ไป๋จื่อยิ้มพลางพยักหน้า “โชคช่วยไว้เจ้าค่ะ เสือตัวนี้ดุร้ายนัก ข้าเกือบถูกมันกินเข้า โชคดีที่พี่อู่มาได้ทันกาล”

ลุงหูเห็นว่าบนใบหน้าของนางยังมีรอยเลือด บนเรือนผมก็มีก้อนเลือดเกรอะกรังเต็มไปหมด บนเสื้อผ้ายิ่งไม่ต้องพูดถึง ใต้ลำคอของนางเปื้อนเลือดเป็นผืนใหญ่ มองแล้วน่าหวั่นใจนัก

“จื่อยาโถว เจ้า บาดเจ็บหรือ” หูจ่างหลินตกใจจนต้องรีบลงจากรถ ก่อนจะก้าวเข้ามาตรวจสอบบาดแผลของไป๋จื่อ

เด็กสาวโบกมือ “ไม่เจ้าค่ะ นี่ไม่ใช่เลือดของข้า เป็นเลือดของเสือต่างหาก ข้าไม่ได้บาดเจ็บอะไร”

ลุงหูจับข้อมือของนางไว้ ก่อนจะชี้ไปที่แขนของนาง “ยังจะบอกว่าไม่อีก เจ้าดูสิว่าแขนของเจ้ามีสภาพเป็นอย่างไรบ้างแล้ว”

ไป๋จื่อยกแขนขึ้นมาดู โอ้ นางบาดเจ็บจริงๆ ด้วย แขนเสื้อขาดไปท่อนหนึ่ง ที่แท้บนแขนขาวๆ เกลี้ยงเกลาของนาง ก็มีรอยเลือดที่น่ากลัวสามรอยอยู่ด้วย

ก่อนหน้านี้นางรู้สึกเจ็บบริเวณนี้ ยังคิดว่าเป็นแค่รอยข่วนจากกิ่งไม้ในป่า จึงไม่ได้ดูให้ละเอียด

“ไม่เป็นไรหรอกเจ้าค่ะ แค่ถูกเสือข่วนครั้งหนึ่งเท่านั้น ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร กลับไปแล้วใส่ยาสักหน่อยก็หายแล้ว”

ลุงหูเห็นว่านางเหมือนจะไม่เป็นอะไรจริงๆ จึงวางใจลงได้ “ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว ดีแล้วล่ะ”

บัดนี้อู๋เจียงหันหัวรถเทียมวันแล้ว ส่วนหลี่เฉิงและอาอู่ยกเสือเข้ามา ก่อนที่ทั้งสามคนร่วมแรงกันยกศพขึ้นรถ

ขณะมองศพเสือที่แทบจะใหญ่คับรถ อู๋เจียงและหลี่เฉิงก็ลูบผิวหนังนุมลื่นของเสือ พลางกล่าวด้วยความตื่นตะลึง “พวกเจ้าจัดการมันได้อย่างไร เสือตาลอยตัวใหญ่ขนาดนี้ นอกจากรูเลือดบนคอของมันแล้ว บนตัวไม่มีบาดแผลแม้สักนิด หนังเสือผืนนี้คิดเป็นเงินเท่าไรกันนะ”

ไป๋จื่อยิ้มกล่าว “ไม่ว่าจะขายได้เงินเท่าไร ข้าล้วนแบ่งให้พวกท่านส่วนหนึ่งเจ้าค่ะ”

อู๋เจียงและหลี่เฉิงรีบโบกมือ “ไม่เอาๆ นี่เป็นเสือที่พวกเจ้าฆ่า แล้วพวกข้าจะแบ่งเงินด้วยได้อย่างไร ไม่ได้หรอก”

“หากไม่มีพวกท่าน พวกข้าก็คงนำมันกลับไปไม่ได้ ในเมื่ออกแรงแล้ว ย่อมต้องได้รับค่าตอบแทนที่เหมาะสมสิ” ไป๋จื่อกล่าว

ทั้งสองคงยังอยากปฏิเสธ ทว่าหูจ่างหลินชิงพูดว่า “เอาล่ะ พวกเจ้าไม่ต้องปฏิเสธแล้ว ข้ารู้จักนิสัยของจื่อยาโถวดี นางบอกว่าจะให้พวกเจ้า เช่นนั้นนางย่อมให้พวกเจ้าอย่างแน่นอน ยังจะบอกว่าไม่เอาอะไรกันอีก อีกอย่างนะ วันนี้จื่อยาโถวเจอเรื่องลำบาก คนในหมู่บ้านมากมายขนากนั้น กลับมีเพียงพวกเจ้าที่ยอมเสี่ยงอันตรายตามข้ามาตามหานาง คุณธรรมข้อนี้ ไหนเลยเงินเล็กน้อยจะพอตอบแทนพวกเจ้าเล่า”

อาอู่กล่าว “ท่านลุงหูพูดถูก พวกเจ้าอย่าปฏิเสธอีกเลย พวกเรารีบกลับไปดีกว่า หูเฟิงยังรอยารักษาชีวิตเขาอยู่นะ”

“ตกลง พวกเรากลับกันก่อน” หลี่เฉิงรีบรับลิ่นและเม่นมาจากในมือของไป๋จื่อ เขาดันพวกมันเข้าไปในรถเทียมม้า ส่วนพวกเขาเดินตามรถม้ากลับหมู่บ้านไป

รถเทียมม้าลากเสือตัวใหญ่ตัวหนึ่งกลับมา คนตาดีบางคนเห็นเข้า ก็นำเรื่องนี้เล่าต่อไปอีกสิบคน สิบคนบอกเล่าไปอีกร้อยคน ไม่นานนักคนทั้งหมู่บ้านก็รู้กันหมด

ประเสริฐ คนทั้งหมู่บ้านล้อมอยู่ในลานบ้านของหูจ่างหลิน เบียดกัน แย่งกันเพราะต้องการจะดูเสือ ราวกับว่ากลัวจะเป็นคนสุดท้ายที่ได้เห็นอย่างไรอย่างนั้น

สถานการณ์นี้ ความวุ่นวายนี้ และเสียงดังอึกทึกนี้…ทำเอาศีรษะของไป๋จื่อแทบระเบิด

นางจึงให้พวกอาอู่และหลี่เฉิงนำเสือไปไว้ที่ลานบ้านด้านหลังเสียเลย ทั้งยังใช้ผ้าผืนหนึ่งคลุมไว้ ไม่ให้ใครดูอีกทั้งนั้น คราวนี้เสียงดังโหวกเหวกถึงจะหายไป

ไป๋จื่อไปดูหูเฟิงก่อน เป็นอย่างที่นางคาดจริงๆ อาการของเขาแย่ลงเรื่อยๆ ต้องใช้ยาโดยเร็วที่สุด ไม่เช่นนั้นผลลัพธ์ย่อมยากที่จะจินตนาการได้

สถานเบาคือสูญเสียการมองเห็น สถานหนักก็สมองพิการ และไม่มีทางที่จะรักษาให้หายได้อีก