ตอนที่ 199 อาหารมื้อนี้ถึงตายได้! / ตอนที่ 200 ค้างคืน

ลืมรักเลือนใจ

ตอนที่ 199 อาหารมื้อนี้ถึงตายได้!

 

 

หลินเยียนอึ้งพูดอะไรไม่ออก…

 

 

เผยอวี่ถังแอบน้ำตาตกในอยู่เงียบๆ ขณะหั่นหัวหอม…

 

 

พี่ใหญ่ พี่จะลำเอียงไปถึงไหน

 

 

หลินเยียนใจเต้นรัวเร็วอีกครั้ง เธอกระแอมเบาๆ และรีบรับผ้ากันเปื้อนมาจากเผยอวี้เฉิง เธอสวมให้เขาก่อนที่อ้อมไปข้างหลังเพื่อผูกสายให้แน่น

 

 

เผยอวี้เฉิงเอ่ย “ขอบคุณ”

 

 

หลินเยียนตอบสำลักคำพูด “ฮึ่ม…ด้วย…ความยินดีค่ะ…”

 

 

แม้ว่าภายนอกเผยอวี้เฉิงจะดูเป็นคนน่าเกรงขาม เคร่งขรึม และเย็นชา แต่เขาถือเป็นเรื่องจริงจังถ้าเขาพยายามแกล้งหรือยั่วยวนใครบางคน….

 

 

 

 

ไม่ทันไรเผยอวี่ถังก็หันไปง่วนกับการเตรียมอาหาร ส่วนหลินเยียน…

 

 

ทั้งหมดที่เธอทำคือช่วยใส่ผ้ากันเปื้อนให้เขา

 

 

อาหารมื้อค่ำเสร็จในเวลาอันรวดเร็ว เผยหนานซวี่และเผยอวี่ถังช่วยนำอาหารมาตั้งโต๊ะ

 

 

ทั้งสองคนนั่งอีกฝั่งหนึ่งของโต๊ะ

 

 

หลินเยียนจ้องมองอาหารบนโต๊ะที่ทำให้เธอเริ่มน้ำลายสอ “ว้าว! ฉันไม่คิดเลยว่าคุณเผยจะทำอาหารได้น่าทานขนาดนี้”

 

 

เผยอวี่ถังอึ้งพูดอะไรไม่ออก…

 

 

เผยหนานซวี่ก็พูดอะไรไม่ออก…

 

 

เผยอวี้เฉิงตักซี่โครงหมูให้หลินเยียน “ลองชิมดู”

 

 

กลิ่นซี่โครงหมูราดซอสชุ่มฉ่ำหอมน่าอร่อยเตะจมูกเธอ

 

 

“ได้ค่ะ ขอบคุณนะคะ!” หลินเยียนตักอาหารเข้าปาก

 

 

เผยหนานซวี่และเผยอวี่ถังกลั้นหายใจขณะจ้องหลินเยียนเขม็ง

 

 

หลินเยียนเริ่มเคี้ยว…

 

 

ต้องอร่อยมากแน่ๆ!

 

 

แต่วินาทีที่ลิ้มสัมผัสเนื้อซี่โครงและรับรสชาติ ตัวเธอก็แข็งทื่อทันที…

 

 

เธอจะอธิบายความรู้สึกนี้ยังไงดี มันมีความรู้สึกราวกับมีใครควงไม้หน้าสามและเล็งมาที่หัวของเธอ!

 

 

ให้ตายเถอะ…

 

 

ทำไม…ทำไมรสชาติถึงแปลกประหลาดอย่างนี้

 

 

หลินเยียนไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้…

 

 

อาหารดูน่ากินและน่าอร่อย แต่ทำไมรสชาติถึงเหนือคำบรรยายขนาดนี้

 

 

หลินเยียนไม่กล้าเคี้ยวต่อเพราะรสชาติมันสุดโต่งเกินไป เธออาจตายได้ถ้าเธอกินเข้าไปอีกคำ

 

 

แรกเริ่มเดิมทีเธออยากประหยัดเงินด้วยการเลือกกินอาหารที่บ้าน สุดท้ายถึงเธอจะไม่ต้องจ่ายเงินสักบาทเลยก็จริง แต่เธออาจต้องลาโลกนี้ไป!

 

 

ในช่วงเวลาเพียงไม่กี่วินาทีหลินเยียนรู้สึกราวกับเธอกำลังเผชิญทั้งกับแผ่นดินไหวและสึนามิ

 

 

ตั้งแต่เริ่มหลินเยียนทำตัวปกติเพื่อรักษาท่าที

 

 

หลินเยียนดูสำรวมจนไม่มีใครรู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ เผยอวี่ถังมองเธอและถาม “พี่สะใภ้ใหญ่ อร่อยไหม”

 

 

หลินเยียนกล้ำกลืนฝืนทนขณะเคี้ยว เธอถลึงตาใส่เผยอวี่ถังอย่างเคืองๆ และเค้นเสียงตอบ “อื้ม ดี! รสชาติดี! อร่อย!”

 

 

ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมตอนที่เผยอวี้เฉิงบอกว่าจะเป็นคนทำอาหาร เผยหนานซวี่และเผยอวี่ถังถึงได้ออกตัวแรงกันนัก!

 

 

ทำไมพวกเขาไม่บอกเธอก่อน

 

 

ได้ยินแบบนั้น เผยอวี่ถังตักปลาให้เธออีกชิ้น

 

 

“โอ้…ขอบใจ…ฉันตักเองได้…” หลินเยียนฝืนพูด ‘ขอบคุณ’ ออกไปตอนที่รับอาหารมา

 

 

ไม่มีอะไรรสชาติแย่ไปกว่าซี่โครงหมูแล้วล่ะมั่ง

 

 

เมื่อหลินเยียนกลืนปลาเข้าไป เธอก็สรุปได้ว่าเธอเข้าใจผิดเอง…

 

 

จริงๆ…

 

 

ไม่มีใครในโลกนี้สมบูรณ์แบบหรอก!

 

 

เผยอวี้เฉิงดูเป็นคนที่สมบูรณ์แบบไปทุกด้าน แต่ฝีมือทำอาหารของเขาห่วยบรม…

 

 

เธออยากรู้มากว่าเขาปรุงรสชาติแบบนี้ออกมาได้ยังไง

 

 

ในฐานะนักแข่งรถมืออาชีพเธอไปมาแล้วหลายประเทศและชิมอาหารหลากหลาย ทั้งอาหารที่ไม่ค่อยอร่อยและพวกอาหารแปลกๆ แต่ไม่มีอาหารจานไหนรสชาติแย่เท่าอาหารฝีมือเผยอวี้เฉิงเลย

 

 

 

 

 

  ตอนที่ 200 ค้างคืน

 

 

หลินเยียนฝืนยิ้มหลังจากที่กลืนอาหารลงคอ “อร่อย!”

 

 

อร่อย?

 

 

เผยอวี่ถังมองหลินเยียนที่ยังคงยิ้มอยู่ เขาตักปลาขึ้นมาชิ้นหนึ่งด้วยท่าทางไม่ไว้ใจ

 

 

เมื่อเขาชิม…

 

 

เขามั่นใจอยู่เรื่องหนึ่ง นั่นคือพี่สะใภ้ใหญ่รักพี่ใหญ่จริงๆ!

 

 

ทุกคนเริ่มลงมือกิน

 

 

หลินเยียนชิมอาหารทุกจานด้วยความคิดว่าอย่างน้อยต้องมีสักจานที่พอกินได้

 

 

แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่มีจานไหนกินได้เลย!

 

 

หลินเยียนแอบลอบมองเผยอวี้เฉิงขณะที่กินแต่อาหารที่มีอยู่ในชามของเธอ

 

 

เธอเห็นเผยอวี้เฉิงกินอาหารพวกนั้นด้วยท่าทีปกติราวกับเขาไม่รู้ว่ารสชาติมันแย่ขนาดไหน

 

 

เผยหนานซวี่และเผยอวี่ถังที่นั่งฝั่งตรงข้ามก็กินด้วยท่าทางปกติ

 

 

หลินเยียนเริ่มไม่มั่นใจตัวเอง…

 

 

เกิดอะไรขึ้น

 

 

ทำไมพี่น้องสามคนนี้ถึงไม่แสดงท่าทีอะไรทั้งสิ้นทั้งๆ ที่กินอาหารรสชาติน่ากลัวพวกนี้

 

 

หรือว่าตระกูลเผยติดกินอาหารรสชาติแปลกๆ ไปแล้วงั้นเหรอ

 

 

กินไปๆ หลินเยียนรู้สึกว่าต่อมรับรสของเธอกำลังชา

 

 

เผยอวี้เฉิงรับรู้ได้ว่ามีอะไรผิดปกติจากสีหน้าของหลินเยียน “เค็มไปเหรอ”

 

 

“ไม่ ไม่ ไม่ค่ะ! ไม่เค็มเลย! อร่อยดี! ฉันแค่หิวน้ำ มีน้ำไหมคะ” หลินเยียนตอบ

 

 

เผยอวี้เฉิงลุกขึ้นไปหยิบน้ำ

 

 

เผยอวี่ถังฉวยโอกาสนี้กระซิบพลางทำหน้ายู่ “พี่สะใภ้ใหญ่! ผมบอกแล้วไงว่าให้เราออกไปกินข้าวข้างนอก! ทำไมพี่ถึงพูดว่าอยากจะกินที่บ้าน ทำไมพี่ทำให้เราต้องมาทนทุกข์ทรมานอย่างนี้ ผมเจ็บปางตายอยู่แล้ว ยังให้ผมต้องมาทรมานอีก ทำไมชีวิตผมมันรันทดอย่างนี้นะ ผมยอมโดนซ่งเย่าหนานมันอัดอีกรอบดีกว่าต้องมากินอาหารฝีมือพี่ใหญ่”

 

 

หลินเยียนหน้าบึ้งขณะกระซิบตอบด้วยความไม่พอใจ “เธอก็คิดว่าอาหารไม่อร่อยเหรอ ฉันคิดว่าคนบ้านนี้มีรสนิยมแปลกๆ เสียอีก!”

 

 

เผยอวี่ถังพูด “พี่สะใภ้ใหญ่ ผมเริ่มที่จะเชื่ออะไรบางอย่างเข้าจริงๆ แล้วตอนนี้…”

 

 

หลินเยียนถาม “หือ?”

 

 

เผยอวี่ถังพูด “ พี่รักพี่ชายของผมจริงๆ พี่ทนกินอาหารพวกนี้ด้วยรอยยิ้ม พี่ต้องรักพี่ใหญ่มากแค่ไหนถึงทำอย่างนี้ได้ นอกจากผมและพี่รอง พี่เป็นคนเดียวที่กล้ากินอาหารพวกนี้ พี่สะใภ้ใหญ่ พี่เป็นรักแท้ของพี่ใหญ่!”

 

 

หลินเยียนอึ้งพูดอะไรไม่ออก…นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน…

 

 

หลังจากที่เผยอวี้เฉิงกลับมาพร้อมน้ำแก้วหนึ่ง เผยอวี่ถังรีบตะกละตะกลามกินข้าวในชาม เขาลุกขึ้นยืนและพูด “ผมอิ่มแล้ว! เพราะผมเป็นนักแข่งจนๆ ผู้น่าสงสาร ผมไม่ควรนอนที่นี่ บ๊ายบาย พี่ใหญ่และพี่สะใภ้ใหญ่!”

 

 

เผยหนานซวี่เช็ดปากและลุกขึ้นยืนตาม “พี่ใหญ่ พี่สะใภ้ใหญ่ ทานให้อร่อยนะครับ ผมมีนัดเช้าพรุ่งนี้ ผมขอตัวก่อน”

 

 

หลินเยียนที่ถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวมองอาหารที่มีอยู่เต็มโต๊ะ…

 

 

ทำไมพวกเขารีบเผ่น

 

 

เหลือหลินเยียนและเผยอวี้เฉิงสองคนในห้องนั่งเล่น

 

 

หลินเยียนทนกัดฟันและกินข้าวไปสองชาม เธอดื่มน้ำไปสามแก้วก่อนที่จะช่วยเผยอวี้เฉิงเก็บจาน

 

 

หลังจากเก็บโต๊ะเรียบร้อย หลินเยียนและเผยอวี้เฉิงล้างจานด้วยกัน

 

 

ขณะล้างจาน เธอคิดว่าเธอสมควรจะกลับบ้านหลังจากล้างจานเสร็จ

 

 

แล้วเธอควรพูดยังไงล่ะ

 

 

จากบุคลิกภายนอกของเธอเธอต้องทำตัวเหมือนว่าอยากอยู่ข้างกายเผยอวี้เฉิงตลอดเวลา แล้วเธอควรจะบอกเขาว่าอยากกลับบ้านยังไงดี

 

 

ขณะที่หลินเยียนล้างจาน เธอมัวแต่จมอยู่ในความคิดของตัวเอง ทันใดนั้นก็มีมือมาจับข้อมือเธอ

 

 

หลินเยียนสะดุ้งเหลือบมองเผยอวี้เฉิง “คุณเผย มีอะไรคะ”

 

 

“วางลง ฉันล้างเอง” เผยอวี้เฉิงจ้องไปที่จานอย่างค่อนข้างไม่รู้จะทำไง

 

 

หลินเยียนเหลือบไปมองที่จานถึงรู้ว่าเธอทำจานแตกไปสองสามใบแล้ว โชคไม่ดีที่เธอควบคุมพละกำลังตัวเองได้ไม่ค่อยดีนัก

 

 

หลินเยียนโมโหตัวเอง “ขอโทษ ขอโทษค่ะ! ฉันแข็งแรงไปหน่อย…”

 

 

เผยอวี้เฉิงตอบเพียง “ออกไปรอฉันข้างนอก”

 

 

หลินเยียนตอบ “โอ้…ได้ค่ะ…”