บทที่ 245 ไม่ให้สักแดงเดียว / บทที่ 246 มีสิทธิอะไร โดย Ink Stone_Romance
บทที่ 245 ไม่ให้สักแดงเดียว
“ได้รับหมายศาลหรือยัง?” เสียงเยียบเย็นเสียดแทงกระดูกของพ่อเด็กสาวดังมาจากปลายสาย
“ผมเป็นผู้จัดการของหานเซี่ยนอวี่ชื่อว่า เฟยหยางครับ จ้าวต้าหย่งคุณต้องการเงินเท่าไรเสนอมาได้เลย ขอเพียงคุณยอมพูดความจริงต่อหน้าสื่อ!” เฟยหยางกดปุ่มบันทึกเสียง จากนั้นคิดวางแผนที่จะเก็บคำพูดของอีกฝ่ายไว้เป็นหลักฐาน
ผู้ชายปลายสายคนนั้นได้ยินก็เงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะปริปาก นำเสียงนั้นดูเหมือนจะเต็มไปด้วยความโกรธไม่มีที่สิ้นสุด “พูดจาเหมือนสุนัขผายลม! นายพูดแบบนี้หมายความว่าอะไร? หานเซี่ยนอวี่เป็นพวกจิตวิปริตเป็นโรคใคร่เด็ก ต่อให้มีเงินมากแค่ไหน ก็ไม่อาจละเลยคุณธรรมศีลธรรม กระทำความผิดอย่างกำเริบเสิบสาน พลิกดำให้เป็นขาวได้หรอก!”
ใครกันแน่ที่พลิกดำเป็นขาว?
เฟยหยางเวลานี้เหมือนจะเข้าใจสภาพจิตใจของหานเซี่ยนอวี่ที่สติหลุดเมื่อครู่แล้ว สูดลมหายใจลึกเข้าปอดแล้วพูดว่า “จ้าวต้าหย่ง ลูกสาวของคุณป่วยหนัก เซี่ยนอวี่เป็นคนออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดทั้งค่าผ่าตัดค่าหมอค่ายา คุณมาใส่ร้ายเขาแบบนี้ ยังมีมโนธรรมอยู่บ้างไหม?”
“เพราะหานเซี่ยนอวี่ออกค่าผ่าตัดให้ลูกสาวฉัน ฉันเลยต้องส่งลูกสาวไปให้เขาปู้ยี่ปู้ยำตามอำเภอใจงั้นเหรอ?”
“นาย…” เฟยหยางไม่คิดเลยจริงๆ ว่าอีกฝ่ายจะไร้ยางอายได้ถึงขั้นนี้ ไม่เพียงพูดไม่ออก แต่ยังโกรธจนจุกแทบตาย
“หานเซี่ยนอวี่เพื่อต้องการสำเร็จความใคร่ส่วนตัว แม้แต่ลูกสาวตัวน้อยของฉันก็ไม่เว้น เขามันเดรัจฉาน!”
เวลานี้ หานเซี่ยนอวี่ได้แย่งมือถือไปจากมือของเฟยหยาง แล้วพูดทีละคำอย่างชัดเจน “ฉันจะบอกให้ ต่อให้แกฟ้องฉันก็ไม่มีประโยชน์ เพราะฉันจะไม่ให้เลยสักแดงเดียว!”
ผู้ชายปลายสายแค่นน้ำเสียงหัวเราะเย็นชา “ดี หานเซี่ยนอวี่ ในเมื่อนายแม้ตายก็ไม่ยอมรับผิด เช่นนั้นพวกเราก็จะรอดูกัน!”
……
หลังจากแยกกับฉู่เฟิงและเจียงเยี่ยนหรานแล้ว เยี่ยหวันหวั่นก็เช็คกล่องข้อความในมือถือของตัวเอง
ในบันทึกการสนทนากับพี่ชาย ข้อความสุดท้ายยังคงเป็นข้อความที่เธอนัดเจอเขาเมื่อวานนี้ เขายังคงไม่ตอบกลับ
เยี่ยหวันหวั่นหยักริมฝีปากยิ้ม นัยน์ตามีแสงไฟผุดขึ้นมา ต้องการบีบให้เธอใช้วิธีการพิเศษนักใช่ไหม?
เยี่ยหวันหวั่นพิมพ์ข้อความอีกฉบับส่งไปอย่างไม่รีบร้อน ‘โทรหาฉันภายในสิบวินาที ไม่งั้นคลิปที่พี่ไปนอนกับซุปเปอร์โมเดลสาวสุดฮอตจะถูกส่งเข้าเมลของเฉินเมิ่งฉี!’
หลังจากส่งข้อความแล้ว เยี่ยหวันหวั่นก็ยืนอยู่ที่เดิม แอบนับเลขอยู่ในใจ หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า หก…
นับถึงเก้า โทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น มีคำว่า “คนหล่อที่อยู่ยงคงกระพันของโลก” กระพริบอยู่บนหน้าจอมือถือ
เยี่ยหวันหวั่นกดรับสายอย่างไม่รีบร้อน “ฮัลโหล?”
“เยี่ยหวันหวั่น! แกกล้าเหรอ!!!” มีเสียงระเบิดความโมโหของเยี่ยมู่ฝานที่ไม่พูดอ้อมค้อมดังมาจากปลายสาย
เยี่ยหวันหวั่นแอบหัวเราะ “โอ้โห พ่อคนงานยุ่งสละเวลาโทรกลับมาได้แล้ว? ทำไมหนูจะไม่กล้า? อย่างไรแล้วคนอย่างหนู ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ทำได้หมด ไม่ใช่เหรอ?”
เยี่ยมู่ฝานกัดฟันกรอด “แกมีคลิปพวกนั้นได้ไง?”
“หนูแอบถ่ายไม่ได้เหรอ?”
“เยี่ยหวันหวั่น แกมันโรคจิต!” เยี่ยมู่ฝานคำรามด้วยความโมโห แล้วจึงรู้ตัว “แกกำลังขู่ฉันเหรอ! แกจะมีของพวกนั้นได้อย่างไร! คิดว่าฉันจะหลงกลแกงั้นเหรอ? อีกอย่างเฉินเมิ่งฉีก็รู้อดีตของฉัน ต่อให้เขาเห็นก็ไม่เป็นอะไร!”
เยี่ยหวันหวั่นกำลังจะพูด ทางปลายสายของเยี่ยมู่ฝานก็มีเสียงของผู้ชายแปลกหน้าดังเข้ามา “เฮ้ๆๆ เริ่มเล่นแล้ว เริ่มเล่นแล้ว! เยี่ยมู่ฝาน สรุปว่านายจะเล่นไหมเนี่ย! เล่นก็รีบมาลงเดิมพัน ชักช้าอืดอาดอยู่ได้!”
“รู้แล้ว เร่งทำไมเนี่ย! แปบหนึ่ง!” เยี่ยมู่ฝานเอ่ยอย่างรำคาญ
เยี่ยหวันหวั่นได้ยินเสียงเอะอะจากปลายสายของเยี่ยมู่ฝาน สีหน้าเปลี่ยนไปทันที “เยี่ยมู่ฝาน! พี่เล่นพนันอีกแล้วเหรอ?”
…………………………………
บทที่ 246 มีสิทธิอะไร
น้ำเสียงเยี่ยมู่ฝานเยียบเย็น “ยุ่งเรื่องคนอื่นให้มันน้อยๆ หน่อย! ไม่เกี่ยวอะไรกับแก!”
เปลวไฟแห่งความโกรธลุกโชนในดวงตาของเยี่ยหวันหวั่น “พี่ทำตัวเหลวไหลเอาตัวรอดไปวันๆ แบบนี้ เฉินเมิ่งฉีเขารู้หรือเปล่า?”
เพราะว่าคาบช้อนทองมาเกิดตั้งแต่เด็ก และยังเป็นหลานชายเพียงคนเดียวของตระกูล เยี่ยมู่ฝานจึงถูกเลี้ยงดูเอาใจจนกลายเป็นลูกผู้ดีมีเงินที่ไร้ความสามารถ วันๆ ขลุกอยู่แต่กับเพื่อนเสเพลเกเร ชกต่อย เล่นพนัน จีบสาว ใช้ชีวิตเหลวไหลไปวันๆ
แต่เพราะเขาหน้าตาดี ปากหวาน กับน้องสาวอย่างเธอก็หวังดีด้วยความจริงใจ ไม่ว่าจะไปเที่ยวเล่นที่ไหนก็ไม่ลืมที่จะเตรียมของขวัญหายากประหลาดๆ ให้เธอเสมอ ขอเพียงแค่เธอโทรไป ไม่ว่ากำลังทำอะไรอยู่ก็จะรีบมาทันที
ชาติก่อน เธอเกลียดเขาว่าทำไมไม่รู้จักทะเยอทะยาน ขนาดที่บ้านกลายมามีสภาพแบบนี้แล้วยังทำลายตัวเอง เยี่ยมู่ฝานเองก็ขัดแย้งกับเธอมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเธอไม่รักศักดิ์ศรีเอาแต่วิ่งไล่ตามกู้เยว่เจ๋อ ทั้งสองเจอหน้ากันพูดกันไม่กี่คำก็ทะเลาะ ไม่มีทางพูดคุยกันได้เลย จนท้ายที่สุดจึงค่อยๆ ห่างกันไป
เป็นไปอย่างที่คิด ทันทีที่เยี่ยมู่ฝานได้ยินคำพูดของเยี่ยหวันหวั่น น้ำเสียงก็ยิ่งเย็นชา “อย่าเอะอะอะไรก็เอาเฉินเมิ่งฉีมาขู่พี่ อย่างไรซะในสายตาพวกแกพี่ก็เป็นแค่ของไร้ประโยชน์ เมิ่งฉีไม่เหมือนแก เขาไม่เคยต่อว่าพี่เพราะเรื่องพวกนี้! ไม่เคยดูถูกพี่สักครั้ง!”
“นั่นเป็นเพราะเขาไม่สนใจพี่เลยต่างหาก! ไอ้พี่โง่!” เยี่ยหวันหวั่นตวาดกร้าวด้วยความโกรธ
คำพูดของเยี่ยหวันหวั่นกระตุ้นความโกรธของเยี่ยมู่ฝานทันที หัวเราะอย่างเย็นชาแล้วพูดว่า “เฮอะๆ พี่น่ะเหรอโง่? พี่ไร้ความสามารถ เอาตัวรอดไปวันๆ งั้นเหรอ? เยี่ยหวันหวั่น แกมีสิทธิอะไรมาว่าฉัน? แกรู้หรือเปล่าว่าเพราะอะไรบ้านเราถึงต้องกลายมามีสภาพแบบนี้? แกรู้ไหมว่ากู้เยว่เจ๋อที่แกหน้าด้านไล่ตามเขาอย่างกับหมาเป็นคนแบบไหน? แกรู้ไหมคนที่จิตใจเหี้ยมโหดอย่างกับหมาป่ามากที่สุดคือใคร?”
เยี่ยหวันหวั่นถูกคำพูดทำร้ายจิตใจของเยี่ยมู่ฝานทำให้โกรธจนตัวสั่น กำมือแน่นจนเล็บจิกเข้าเนื้อกลางฝ่ามือ “คือฉัน…ฉันเองที่โง่! เป็นฉันเองที่ไร้ความสามารถ! เป็นฉันเองที่เอาตัวรอดไปวันๆ! เป็นฉันเองที่ทำให้ครอบครัวเราต้องบ้านแตกสาแหรกขาด! เป็นฉันเองที่จิตใจโหดเหี้ยมตัดความสัมพันธ์กับพ่อแม่!
แต่ว่า ฉันก็ถูกใส่ร้าย ถูกทำร้ายเหมือนกัน! ฉันไม่ได้เสพยา! ไม่ได้มัวเซ็กส์! พี่เชื่อฉันหรือเปล่าล่ะ?
ฉันถูกส่งไปที่น่ากลัวแบบนั้นโดยไม่รู้อะไรเลย ถูกตัดขาดจากข่าวสารทุกอย่าง ติดต่อพ่อ แม่ แล้วก็พี่ไม่ได้เลย พอฉันออกมา ทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวก็เปลี่ยนไปราวพลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน เพื่อนเลิกคบ คู่หมั้นก็เลิกกับฉัน ญาติมิตรกระทั่งคุณปู่คุณย่า ทุกคนเอาแต่ต่อว่าพ่อ ส่วนพี่ก็เอาแต่ต่อว่าใส่หัวใส่หน้าโครมๆ แล้วยังตบนั้นอีก!
แต่ว่า พี่…ตอนที่ฉันโดนทำร้าย พี่ชายคนนี้อยู่ที่ไหน? ตอนที่เยี่ยอีอีวางยาฉีดสารเสพติดให้ฉัน พี่อยู่ที่ไหน?
สองปีมานี้ฉันใช้ชีวิตคนเดียวมาได้อย่างไร พบเจออุปสรรคอะไรบ้าง พี่เคยถามไถ่สักคำหรือเปล่า? พี่เคยถามฉันสักคำไหม? พี่…มีสิทธิอะไรมาว่าฉัน?”
พูดมาถึงประโยคสุดท้าย น้ำเสียงของเยี่ยหวันหวั่นแตกพร่า
ปลายสายนิ่งเงียบไปนาน น้ำเสียงร้อนใจของเยี่ยมู่ฝานถึงได้ส่งเสียงมา “แก…แกรู้แล้วเหรอ…”
เยี่ยหวันหวั่นฝืนเสียงไม่ให้สั่น พูดต่อไปว่า “เป็นเพราะฉันเอาแต่ใจมากเกินไปถึงได้ติดกับฝ่ายตรงข้าม…”เป็นเพราะฉันหยิ่งผยองมากเกินไปถึงได้ทำร้ายจิตใจพ่อแม่ครั้งแล้วครั้งเล่า…เป็นฉันที่อ่อนแอเกินไปถึงได้ทำให้พวกเขาต้องเสียสละมากมายขนาดนี้เพื่อปกป้องฉัน…
ฉันทำให้พวกเขาต้องทำลายชื่อเสียงตัวเองเพื่อปกป้องฉัน…ฉันทำให้พวกเขาต้องทนรับถ้อยคำดูถูกเหยียดหยาม…
ส่วนตัวต้นเหตุอย่างฉันกลับมีชีวิตอยู่อย่างไม่รู้อะไรเลย…
แต่ว่า ฉันไม่รู้… ฉันไม่รู้อะไรเลย… ไม่มีใครบอกฉันเลย… แล้วฉันจะรู้ได้อย่างไรว่าความโง่และความไม่รู้ของตัวเองทำร้ายคนที่ใกล้ชิดที่สุดถึงขนาดนี้…”
เยี่ยมู่ฝานถามเสียงกร้าว “แกรู้ได้ยังไง? พ่อแม่บอกแกเหรอ? ไม่สิ…เป็นไปไม่ได้…พวกเขาไม่มีทางบอกแก…”
“ฉันจะรู้ได้อย่างไรไม่สำคัญ เยี่ยมู่ฝาน พี่อยากจะใช้ชีวิตแบบนี้ต่อไปก็เรื่องของพี่ พี่จะเชื่อคำพูดคนนอกต่อไปก็เรื่องของพี่ ต่อไปให้ฉันเป็นคนดูแลปกป้องพ่อกับแม่ ความแค้นของตระกูลเยี่ย ให้ฉันเป็นคนชำระ!” เยี่ยหวันหวั่นพูดจบ ไม่รอให้เยี่ยมู่ฝานตอบก็วางสายไปเลยทันที
………………………………………………..