ตอนที่ 140 : พบเฉี่ยนเจินเฉียนอีกครั้ง
กู่หาวมองไปที่กู่หลิงหลิงด้วยสีหน้าโมโหและพูดขึ้น “ได้ยินมั้ย ยังไม่รีบขอบคุณลุงหลี่กับหวังเย่าอีก”
กู่หลิงหลิงยิ้มออกมาและรีบพูดด้วยสีหน้าตื่นเต้น “ขอบคุณลุงหลี่ ขอบคุณหวังเย่า”
หลี่ว่านเฟิงพยักหน้าและพูดขึ้น “อาจารย์ ผมจะกลับมารับเสี่ยวหลิงในอีก 2 วัน”
กู่หาวพยักหน้าก่อนจะพากู่หลิงหลิงออกไปส่งทั้งสองคน และยืนรอจนกระทั่งรถขับออกไป
“เสี่ยวหลิง” กู่หาวพูดขึ้น “หลังจากที่ออกไปด้านนอกแล้ว หลานต้องอยู่ใกล้ ๆ กับลุงหลี่เอาไว้ อย่าสร้างปัญหา ไม่งั้นแล้วปู่จะไม่ปล่อยให้หลานได้ออกไปอีก”
กู่หลิงหลิงยิ้มออกมาและพูดขึ้น “รับทราบ ปู่สบายใจได้”
…
“หวังเย่า นายโดนเธอปั่นหัวมาหรือ ถึงได้ออกหน้าแทนเธอ ? ” ตอนที่อยู่ในรถนั้นหลี่ว่านเฟิงก็ถามขึ้นมาด้วยความสงสัย
หวังเย่ายิ้มแห้ง ๆ ออกมา “ เสี่ยวหลิงน่ะยังเด็กและอยากรู้อยากเห็นเป็นธรรมดา ตอนแรกผมไม่ตกลงที่จะพาเธอออกไปด้วย เธอเลยงอนแต่เมื่อนึกถึงตัวเองที่อยากเห็นโลกภายนอกแต่กลับไม่มีโอกาสในตอนนั้น ผมก็เลยใจอ่อนขึ้นมา”
หลี่ว่านเฟิงพยักหน้า เขารู้สึกผิด เขาเป็นผู้ปกครองของหวังเย่าแต่กลับไม่ได้ทำอะไรให้หวังเย่าเลย ยกเว้นครั้งที่แล้วที่หวังเย่าต้องไปที่สถานีตำรวจ
“หวังเย่า จริง ๆ แล้วฉันมีอีกเรื่องที่ยังไม่ได้บอกนาย”
“เรื่องอะไรกัน ? ” หวังเย่าถามกลับ
“ฉันพูดเรื่องแม่ของนายไปแล้ว แต่ยังไม่เคยพูดถึงเรื่องพ่อของนายเลย นายอยากรู้มั้ยว่าพ่อนายเป็นคนแบบไหน ? ” สายตาของหลี่ว่านเฟิงเหม่อลอยนึกถึงอดีต
“ผมเองก็อยากรู้” หวังเย่าพยักหน้าตอบรับ
ตอนแรกเขาคิดว่าบุญคุณความแค้นของคนรุ่นก่อนคงไม่เกี่ยวข้องกับคนที่ทะลุมิติมาอย่างเขา แต่หลังจากที่เข้าใจโลกนี้แล้ว เขาก็พบว่าเรื่องนี้มันน่าสนใจ
หลี่ว่านเฟิงหยิบบุหรี่ขึ้นมาจากกระเป๋า นี่เป็นครั้งแรกที่หวังเย่าเห็นหลี่ว่านเฟิงสูบบุหรี่
“พ่อนาย หวังเซิ่ง เขาเป็นคนเมืองอรุณ ครอบครัวของเขาค่อนข้างยากจน แต่ว่าเขาเป็นคนขยันและมุ่งมั่น ผลการเรียนของเขาจึงค่อนข้างดี ฉันไม่ได้อยู่ห้องเดียวกับแม่นาย และได้อยู่ห้องเดียวกับคุณหนูคนนั้น พ่อของนายเป็นพี่น้องที่ดีของฉัน ฉันถึงได้พูดเรื่องของหว่านเอ๋อร์กับเขา”
“ตอนที่ฉันไม่อาจจะคืนดีกับแม่นายได้ พ่อของนายก็เข้ามาบอกฉันว่าเขาจะดูแลแม่ของนายเอง”
“ฉันต้องทำใจ พ่อนายคือเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน ความสามารถที่เขาแสดงออกมาที่โรงเรียนนั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าฉันเลย เขาคือคนที่โด่งดัง มีผู้หญิงรวย ๆ หลายคนมาชอบเขา แต่เขากลับไม่สนใจ เขาเป็นคนดี ดังนั้นฉันจึงตกลง”
“หลังจากที่เรียนจบฉันได้เข้ามหาวิทยาลัยหัวเซี่ย พ่อนายเองก็ได้สิทธิ์เช่นกัน แต่เขาเลือกที่จะทิ้งโอกาสนี้ไป เพราะแม่นายอยากจะใช้ชีวิตธรรมดา เขาเลือกที่จะอยู่กับเธอและไม่เข้ามหาลัย เขารับผิดชอบในการดูแลแม่นายและนาย”
“แม้ว่าผลการเรียนของเขาจะดีมาก แต่เมื่อเข้าสู่สังคม มันไม่ง่ายเลยที่จะหาเงินได้ เขาไม่ได้โดดเด่นอะไรเลย สุดท้ายเขาก็ไปเป็นทหารรับจ้าง หลังจากที่ทำงานหนักมาหลายปี เขาก็ประสบความสำเร็จอยู่บ้างและสร้างครอบครัวขึ้นมา ตอนที่ฉันกลับไปก็พบว่าเขามีนายแล้ว”
หวังเย่าเริ่มรู้อดีตที่พร่ามัวของตัวเองแล้ว
เอาจริง ๆ แล้วเขาก็หวั่นไหว พ่อของเขาเป็นคนที่น่ายกย่องและควรค่าแก่การเคารพ
หลังจากที่เงียบไปได้ชั่วครู่ หวังเย่าก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมา “ลุงหลี่ ลุงกับพ่อแม่ผมมีความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนกันแบบนี้ ลุงไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจหรือเวลาที่พบกับพวกเขา ? ”
หวังเย่าไม่รู้ว่าหลี่ว่านเฟิงแต่งงานไปรึยังไง ยังไงซะ หลี่ว่านเฟิงก็ไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้
หลี่ว่านเฟิงส่ายหน้าและพูดขึ้น “ไม่ ชีวิตของฉันตอนนี้ก็ถือว่าดี ฉันมีภรรยาที่สวยและลูกที่เด็กกว่านาย 3 ปี”
“งั้นผมคงต้องไปหาป้ากับน้องผมบ้างแล้ว” หวังเย่าพูดขึ้น
…
ทั้งสองคุยกันเรื่องครอบครัวพร้อมกับไปเยี่ยมหาคนอื่น ๆ
ชายคนที่ห้าที่พวกเขามาพบนั้น บังเอิญว่าหวังเย่ารู้จักอยู่พอดี
เขาคือเฉี่ยนเจินเฉียน รุ่นพี่ของหลี่ว่านเฟิง เขาเองก็เป็นผู้ตรวจสอบ 4 ดาวเช่นกัน
แต่เฉี่ยนเจินเฉียนเป็นผู้ตรวจสอบของเมืองหัวเซี่ย ส่วนหลี่ว่านเฟิงประจำอยู่ที่เมืองอรุณ
ตอนที่เฉี่ยนเจินเฉียนพบหวังเย่า เขาก็แปลกใจแต่ก็ได้สติอย่างรวดเร็ว เขาตบไหล่หวังเย่าและยิ้มออกมา “นายไม่ได้โกหกฉันจริง ๆ ด้วย”
หวังเย่ารีบพูดขึ้นมา “ผมจะกล้าหลอกคนแบบคุณได้ยังไง ลุงเฉี่ยนต่างหากที่ใจดีเชื่อเด็กแบบผม”
เฉี่ยนเจินเฉียนยิ้มออกมา “นั่นก็เพราะตัวนายด้วยแหละ”
เฉี่ยนเจินเฉียนเป็นคนจริงจัง แต่เนื่องจากเขารู้จักกับหวังเย่ามาก่อน ดังนั้นเรื่องที่เขาพูดคุยกับหลี่ว่านเฟิงจึงไม่ได้ปิดบังอะไรต่อหวังเย่า
“หวังเย่า ฉันได้อ่านข่าวแล้ว นายคือคนที่สร้างปรากฏการณ์ที่น่าอัศจรรย์ขึ้นมา มูลค่าของแร่ไฟนี้มหาศาลมาก หลายคนต่างก็สนใจ ฉันกลัวว่าการประมูลครั้งนี้คงไม่ราบรื่นนัก” เฉี่ยนเจินเฉียนพูดขึ้น
หวังเย่าแสดงสีหน้าสับสน “ลุงเฉี่ยนช่วยแนะนำผมด้วย”
เฉี่ยนเจินเฉียนพูดขึ้น “ฉันพอมีอำนาจอยู่บ้าง มันน่าจะช่วยนายได้ ฉันไม่อยากได้ค่าตอบแทน ของที่ได้มาครั้งที่แล้วก็ถือว่าเยอะแล้ว”
หวังเย่าคิดตามและตบหัวตัวเอง “ดูผมสิ ผมกลับจำไม่ได้เอง ของพวกนั้นถือว่าเป็นของลุงเฉี่ยนอยู่แล้ว”
หลี่ว่านเฟิงฟังอยู่เงียบ ๆ ก่อนจะมองไปที่หวังเย่าด้วยสายตาสงสัยขึ้นมา
หวังเย่าได้เล่าเรื่องในมิติไฟที่ทั้งสองคนได้ขโมยไข่มังกรออกมา เมื่อได้ยินแบบนั้น หลี่ว่านเฟิงก็หัวเราะออกมา
“นายรับปากว่าจะช่วยฟักไข่มังกรให้ฉัน สามเดือนมานี้ฉันไม่ได้เจอนายเลย” เฉี่ยนเจินเฉียนทำท่าโกรธ
หวังเย่ารีบพูดขึ้น “ลุงเฉี่ยนเองก็รับปากว่าจะให้ทักษะพายุ 6 ส่วนแรกกับผมในราคา 80 เปอร์เซ็นต์ ไม่ใช่หรือ ? ”
“นี่…แน่นอนว่าฉันไม่ลืมหรอก แต่นายน่ะไม่ได้มาหาฉันเอง” เฉี่ยนเจินเฉียนมองค้อน
ตอนนั้นเองหวังเย่าก็พูดขึ้น “งั้นวันนี้ผมจะช่วยลุงเฉี่ยนฟักไข่นั่น”
อันที่จริงไข่มังกรนั่นถูกส่งไปฟักแล้ว เฉี่ยนเจินเฉียนไม่ได้เชื่อในความสามารถของหวังเย่านัก เขาได้แอบไปหาผู้ดูแลอยู่หลายคน แต่ทุกครั้งต่างก็ล้มเหลว ไม่กี่วันก่อนไข่มังกรก็ถูกส่งกลับมา
เฉี่ยนเจินเฉียนรู้ว่าไข่นั่นไม่ได้ฟักออกมาง่าย ๆ แต่นั่นก็ทำให้เขานึกถึงหวังเย่าด้วย
แม้เขาจะไม่มั่นใจว่าหวังเย่าพูดเกินจริงไปรึไม่ แต่ตอนนี้เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นที่ดีกว่านี้ เขาได้แต่ต้องฝากเรื่องนี้ให้หวังเย่าจัดการ บวกกับไม่คิดว่าหวังเย่าจะมาหาถึงที่นี่ มันจึงทำให้เขานึกถึงข้อตกลงที่ตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้
“งั้นทำตามที่นายบอก นายช่วยฉันฟักไข่นี่ให้สำเร็จ” เฉี่ยนเจินเฉียนพูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง