บทที่ 249 ความหมายของไอดอล / บทที่ 250 พูดเหตุผลด้วยไม่ได้ โดย Ink Stone_Romance
บทที่ 249 ความหมายของไอดอล
เยี่ยหวันหวั่นค้นดูข้อมูลของจ้าวต้าหย่งบนโซเชี่ยลทั้งคืน วันต่อมาถูกสายโทรศัพท์จากเจียงเยียนหรานปลุกแต่เช้า
หลังจากวางโทรศัพท์ครึ่งชั่วโมง เยี่ยหวันหวั่นก็มาถึงหน้าศาล
วัยรุ่นชายหญิงแต่งตัวทันสมัยรวมตัวอยู่ที่จุดหนึ่ง คนจำนวนไม่น้อยยกป้ายในมือขึ้สูง ข้อความบนป้าย เช่น “หานเซี่ยนอวี่ถูกใส่ร้าย” “หานเซี่ยนอวี่ไม่ผิด” “ฌาปนสถานของข่าวปลอม” เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมีสื่อมวลชนจำนวนมากเฝ้าอยู่ที่นอกศาล
ในชาติก่อน ข่าวเรื่องหานเซี่ยนอวี่ล่วงละเมิดเด็กดังจนแทบถึงขั้นที่ทุกคนรู้ ส่งผลกระทบอย่างมากในสังคม รายละเอียดความเป็นไปต่างๆ ของเรื่อง เยี่ยหวันหวั่นก็ไม่เคยลืม
น่าจะเป็นวันนี้ที่พ่อแม่เด็กฟ้องศาลเรื่องหานเซี่ยนอวี่
“พี่หวันหวั่น พี่ก็มาด้วยเหรอ” ฉู่เฟิงที่สวมชุดไปรเวท เบียดออกมาจากกลุ่มฝูงชนมาตรงหน้าเยี่ยหวันหวั่น
“อื้อ” เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้า “เมื่อกี้เยียนหรานโทรหาฉัน”
เจียงเยียนหรานเป็นแฟนคลับผู้ภักดีของหานเซี่ยนอวี่ รู้ข่าวเรื่องที่พ่อแม่ของเด็กหญิงจะฟ้องหานเซี่ยนอวี่เป็นคนแรกๆ จากนั้นเลยเรียกฉู่เฟิงกับเยี่ยหวันหวั่นมาด้วย
“หวันหวั่น เธอมาแล้วเหรอ…” เจียงเยียนหรานพอเห็นเยี่ยหวันหวั่นก็รู้สึกถึงความอยุติธรรมจนเกือบร้องไห้ “สิ่งที่เรียกว่าหลักฐานพวกนั้น แค่มีความรู้ทางกฎหมายนิดนหน่อยก็รู้แล้วว่าไม่ถูกต้อง ทำไมทุกคนถึงปักใจเชื่อพูดว่าเซี่ยนเซี่ยนทำผิด? ในเมื่อมาศาลแล้ว ไม่ใช่ว่าควรจะใช้หลักฐานมาคุยกันเหรอ?”
“พ่อแม่คู่นั้นเพื่อเงินแล้วไม่เลือกวิธีการจริงๆ ที่มากไปกว่านั้นคือนักข่าวที่กระพือไฟให้โหมแรงขึ้น!” ฉู่เฟิงเอ่ยขึ้นด้วยความโมโห
…
“วันนี้ สามีภรรยาสกุลจ้าวมายังศาลเพื่อฟ้องดารา หานเซี่ยนอวี่ จากรายงาน ศาลได้รับคำร้องอย่างเป็นทางการแล้ว ทางเราจะติดตามสถานการณ์และรายงานความคืบหน้าต่อไปค่ะ…”
นักข่าวหญิงที่แต่งกายอย่างทางการคนหนึ่ง เริ่มรายงานข่าวต่อหน้ากล้อง
ประชาชนบริเวณใกล้เคียงก็ไปยังหน้าศาลเพื่อดูความบันเทิง วิพากษ์วิจารณ์ฉันคำหนึ่งเธอคำหนึ่งอย่างออกรสออกชาติ
“ตอนนี้ดารานักแสดงพวกนี้ ชั่วร้ายจริงๆ แม้แต่เด็กก็ไม่เว้น!”
“นั่นน่ะสิ หานเซี่ยนอวี่คนนั้น เปลี่ยนบ้านตัวเองเป็นสวนสนุก ทั้งยังทำการกุศลบ่อยๆ ที่แท้ทั้งหมดก็เพื่อทำเรื่องโรคจิตแบบนี้นี่เอง ยิ่งกว่าเดรัจฉานซะอีก!”
“เห้อ สามีภรรยาสกุลจ้าวกับเด็กผู้หญิงคนนั้นน่าสงสารจริงๆ…ทำไมถึงได้ไปเข้าตาเดรัจฉานตัวนั้นเข้านะ จะต้องทิ้งปมในใจเด็กผู้หญิงคนนี้แน่ๆ!”
“เหยื่อจะต้องไม่ได้มีแค่เด็กผู้หญิงคนนั้นคนเดียวอย่างแน่นอน ถ้าไม่ใช่เพราะสามีภรรยาสกุลจ้าวเอาเรื่องนี้ออกมาป่าวประกาศ ไม่รู้ว่าจะมีคนโชคร้ายอีกกี่คน!”
“โอ้โห คนพวกนี้โง่หรือไง?” ได้ยินฝูงชนที่มุงอยู่เอาแต่พูดว่าเดรัจฉานๆ ฉู่เฟิงพลันมีน้ำโหแล้ว ตั้งท่าจะพุ่งเข้าไปโต้เถียง เพียงแต่กลับถูกเยี่ยหวันหวั่นห้ามเอาไว้
“นายจะทำอะไร?”
“พี่หวันหวั่น พวกเขาไม่มีหลักฐานอะไรเลย ฟังเสียงลมก็บอกว่าเป็นฝน นี่ศาลยังไม่ทันตัดสิน ก็กำหนดโทษให้กับไอดอลของผลแล้ว มีสิทธิอะไร!” ฉู่เฟิงพูดพลางกัดฟันกรอด
เยี่ยหวันหวั่นนิ่งเงียบ
นายมั่นใจเหรอว่า…หานเซี่ยนอวี่เป็นไอดอลของนาย เจ้าหนุ่มนี่อินกับบทบาทมากเกินไปแล้ว…
“นายเข้าไปเถียงกับคนอื่นตอนนี้ ไม่ยิ่งเป็นการเติมเชื้อไฟให้หานเซี่ยนอวี่เหรอ? ถึงเวลานั้นก็จะมีคำวิจารณ์ออกมาอีกว่า แฟนคลับไร้สมองของหานเซี่ยนอวี่โชว์โง่ในที่สาธารณะ” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย
ฉู่เฟิงตะลึง จากนั้นพยักหน้าอย่างเห็นด้วย มองเยี่ยหวันหวั่นนิ่ง “พี่หวันหวั่น พี่พูดถูก…”
เจียงเยียนหรานพยักหน้า “ไม่ว่าคนอื่นจะพูดอย่างไร พวกเราขนนกจะไม่มีทางหวั่นไหว!”
ฐานแฟนคลับของหานเซี่ยนอวี่ นับว่าไม่เลวทีเดียว คำพูดมากมาย รวบรวมอยู่บนป้าย แต่ไม่ได้ไปถกเถียงกับใคร
ทว่านักข่าวหน้าศาลเหล่านั้น กลับตั้งใจยั่วยุให้เกิดลม กระตุ้นอารมณ์ของฝูงชน โดยการกล่าวโทษหานเซี่ยนอวี่
คนผ่านไปผ่านมาบนถนนที่สนใจข่าวซุบซิบนินทาได้ยินบทสนทนาของพวกเจียงเยียนหรานพลันมีสีหน้าดูถูก “เห้อ เด็กสมัยนี้แยกแยะถูกผิดไม่เป็นมากขึ้นเรื่อยๆ เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว ยังไม่เข้าใจสถานการณ์อีก เอาแต่พูดว่าเดรัจฉานตัวนั้นไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ถูกใส่ร้าย!”
“คาดไม่ถึงว่าจะชอบเดรัจฉานที่ทำร้ายไม้เว้นแม้แต่เด็กอย่างนั้น ตามดาราจนสมองพิการหมดแล้ว!”
เจียงเยียนหรานโมโหเสียจนขอบตาแดงก่ำ คนพวกนี้ไม่เข้าใจ ไม่เข้าความหมายของไอดอลที่มีต่อพวกเธอ
………………………..
บทที่ 250 พูดเหตุผลด้วยไม่ได้
เวลานี้เอง นักข่าวร่างสูงโปร่งหน้าตาอัปลักษณ์คนหนึ่งก็เบียดเสียดผ่านฝูงชนมาถึงตรงหน้าของเจียงเยียนหราน พร้อมกับสั่งให้ตากล้องที่ติดตามหันกล้องไปจับภาพที่เธอ
“คุณหนูท่านนี้ ขอถามว่าคุณคือแฟนคลับของหานเซี่ยนอวี่ใช่ไหมครับ?” นักข่าวสูงโปร่งเอ่ยถามอย่างมีเลศนัย
เจียงเยียนหรานเห็นว่ามีกล้องจับภาพมาที่เธอ ตอบอย่างไม่หลบเลี่ยง “ใช่ค่ะ”
นักข่าวยื่นไมค์ส่งให้ “คุณมีความเห็นอย่างไรกับเรื่องหานเซี่ยนอวี่ทำอนาจารเด็กผู้หญิงบ้างครับ?”
เจียงเยียนหรานพยายามกดความโกรธในใจ ตอบด้วยน้ำเสียงเรียบสงบ “คุณนักข่าวคะ ก่อนที่ฉันจะตอบคำถามคุณ ฉันคิดว่าคุณใช้คำไม่เหมาะสม ศาลยังไม่มีคำตัดสินลงมา ไม่ควรใช้คำว่าทำอนาจารง่ายๆ แบบนี้”
นักข่าวแค่นยิ้มเย็น “คำให้การจากปากของเด็กผู้หญิงทุกคนต่างรู้กันนานแล้ว มีรายงานจากคุณหมอว่าพบสารประกอบของยานอนหลับในร่างกายก็ชัดเจนมากแล้ว คนในแวดวงหลายคนก็รู้ดี แม้แต่แฟนเก่าของหานเซี่ยนอวี่ก็ได้ออกมาแฉความลับที่เปิดเผยกันในวงการว่าหานเซี่ยนอวี่เป็นโรคใคร่เด็ก และยังมีภาพที่หานเซี่ยนอวี่นอนอยู่บนเตียงกับเด็กผู้หญิงอีกหลายคนเป็นหลักฐาน ทั้งพยานปากและพยานสิ่งของล้วนมีครบ คุณยังคิดว่าหานเซี่ยนอวี่ไม่ได้ทำความผิดอีกเหรอครับ?”
เจียงเยียนหรานกำหมัดแน่น “ในแง่กฎหมายแล้ว หลักฐานพวกนี้ไม่มีอะไรพิสูจน์ได้เลยว่าหานเซี่ยนอวี่ทำเรื่องพวกนี้จริง คำให้การเป็นเพียงคำพูดของเด็กผู้หญิงฝ่ายเดียว ยานอนหลับก็ไม่อาจยืนยันได้ว่าใครเป็นคนป้อนให้เด็กหญิงกิน ข่าววงในที่เรียกกันนั้นก็เป็นเพียงคำพูดไม่มีหลักฐาน ส่วนรูปถ่ายพวกนั้น…”
“หลักฐานแน่นหนาขนาดนี้แล้วยังจะมาพูดจาเล่นลิ้นปฏิเสธที่นี่อีกเหรอ! คุณภาพของแฟนคลับหานเซี่ยนอวี่ฉันถือว่าได้เห็นกับตาแล้ว! เอกสารการทดสอบของโรงพยาบาล ภาพถ่าย คำให้การทุกอย่างล้วนเอามาแบให้ดูตรงนี้แล้ว ยังจะเห็นผิดเป็นชอบอีก! ที่แท้มีไอดอลเป็นแบบไหนแฟนคลับก็จะเป็นแบบนั้น!” นักข่าวที่แค้นเคืองต่อความอยุติธรรมได้เอ่ยสวนคำพูดเธอขึ้นมา
เจียงเยียนหรานเองก็โดนคำพูดเหล่านี้กระตุ้นต่อมโมโหเช่นกัน “อะไรที่บอกว่ามีไอดอลเป็นแบบไหนแฟนคลับก็จะเป็นแบบนั้น ตั้งแต่หานเซี่ยนอวี่เดบิวต์เป็นต้นมาก็ฝักใฝ่ในการกุศล มอบพลังบวกให้กับเหล่าแฟนคลับ เขา…”
“แต่ในความเป็นจริงแล้ว สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงการปกปิดจิตวิปริตและแผนการสกปรกของตัวเอง” นักข่าวเอ่ยสวนคำพูดของเธออีกครั้ง
“ในเมื่อศาลรับคดีแล้ว หรือว่าเราจะไม่เคารพผลการตัดสินของศาลเป็นหลักหรอกเหรอ พวกคุณมีสิทธิอะไร…”
“หลักฐานชัดเจนขนาดนี้กางอยู่อย่างนั้น ยังจะต้องพูดผลการตัดสินของศาลอีกเหรอ? เป็นเพราะหานเซี่ยนอวี่ใช้เงินซื้อพ่อแม่ของเด็กหญิงไม่สำเร็จ ก็เลยใช้ศาลมากดดัน? ผมจะบอกอะไรคุณให้ ไม่ว่าผลการตัดสินของศาลคืออะไร เรื่องจริงที่หานเซี่ยนอวี่ทำอนาจารเด็กผู้หญิงจะไม่เปลี่ยนแปลง หากว่าศาลไม่สามารถคืนความยุติธรรมให้กับผู้เสียหายได้ เช่นนั้นนักข่าวอย่างพวกเราก็จะทวงคืนความยุติธรรมให้ผู้เสียหายเอง” นักข่าวตะโกนเสียงดัง
คำพูดของนักข่าวร่างสูงโปร่งพลันกระตุ้นเสียงสนับสนุนจากบรรดานักข่าวโดยรอบ “ถูกต้อง! พูดไม่มีผิด! พวกเราจะช่วยทวงคืนความยุติธรรมให้กับผู้เสียหาย! อย่าคิดว่ามีเงินมีอำนาจแล้วจะมาข่มเหงรังแกคนอื่นได้!”
“อาศัยว่ามีแฟนคลับเยอะแล้วจะชี้นำความคิดเห็นของประชาชนได้งั้นเหรอ? เพ้อเจ้อจริงๆ!”
“กำจัดเนื้อร้ายของแวดวงความคิดเห็นของประชาชน! ให้พวกแฟนคลับสมองเสื่อมได้ประจักษ์!”
“คุณก็ดูเป็นผู้หญิงที่สวยมากเลย ทำไมถึงใจร้ายขนาดนี้! ลูกคนเอื่นเขาถูกเดรัจฉานทำลายชีวิตทั้งชีวิต คุณยังจะมาพูดแทนเดรัจฉานแบบนั้นอยู่ตรงนี้อีก! ยังมีความเป็นมนุษย์อยู่บ้างไหม?”
“ฉันเปล่านะ ฉันเพียงแต่พูดความจริง!”
“ความจริงก็คือหานเซี่ยนอวี่เป็นโรคจิตสกปรกต่ำช้า”
เจียงเยียนหรานตั้งแต่ต้นจนจบพูดอธิบายเหตุผลด้วยความใจเย็น แต่กลับไม่มีใครคิดอยากจะพูดเหตุผลกับเธอเลย ไม่มีใครไปสนใจความสมเหตุสมผลของหลักฐาน ทุกคนต่างล้อมวงโจมตีใส่เธออย่างบ้าคลั่ง ใช้กล้องวีดิโอจับภาพใบหน้าของเธออย่างบ้าคลั่งเช่นกัน
ฉู่เฟิงเห็นว่าเหตุการณ์เลยเถิดเกินกว่าจะควบคุมได้ เจียงเยี่ยนหรานถูกพวกนักข่าวรุมโจมตี ถูกฝูงชนเบียดออกไปข้างนอก ร้อนใจวนไปวนมา
“โอ๊ย ใครถีบว่ะ”
เวลานี้ ตากล้องข้างเจียงเยียนหรานพลันเจ็บร้าวไปทั้งขา ลำตัวเซไปทางด้านข้าง ชนตากล้องของนักข่าวอีกคนที่อยู่ข้างกันล้มลงไปกองกับพื้น แล้วคนทั้งสองก็ทะเลาะกัน
อาศัยจังหวะความชุลมุนชั่วคราวของฝูงชน เยี่ยหวันหวั่นแอบย่องมาอยู่ข้างเจียงเยียนหราน รีบเอาเสื้อคลุมในมือคลุมศีรษะของเจียงเยียนหรานทันที “ไป อย่าโง่สิ ไปพูดเหตุผลกับคนพวกนั้นไม่ได้อะไรหรอก”
…………………………………