ตอนที่ 317 คนเป็นพันชี้หน้าต่อว่า เขาจะเชื่อไหม
“หนอนบ่อนไส้?” เหนียนเสี่ยวมู่ตะลึงงันไป ก่อนจะขมวดคิ้วอย่างไม่เห็นด้วยเมื่อได้ยินคำพูดของอีกฝ่าย
“งานแถลงข่าวของพวกเรากำลังจะเริ่มขึ้น เรื่องที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ คือคิดวิธีจัดการปัญหานี้…”
“จัดการปัญหา? คุณบอกฉันหน่อยสิ ตอนนี้แผนงานถูกคู่แข่งของพวกเราเอาไปป่าวประกาศก่อนแล้ว คุณยังจะจัดการยังไงได้” เหวินหย่าไต้เอ่ยปากในทันที ก่อนจะขัดคำพูดของเธอ
ผู้จัดการสาวเดินมาข้างหน้า มองเธอจากข้างบน
พร้อมกับยิ้มเยือกเย็น “ซูเปอร์ไวเซอร์เหนียน ฉันแค่เสนอให้ตรวจสอบ ทำไมคุณต้องเครียดขนาดนี้ด้วย”
“คุณหมายความว่ายังไง” สายตาของเหนียนเสี่ยวมู่พลันเฉยชา พลางเงยหน้ามองอีกฝ่ายด้วยความงุนงง
“เปล่านี่คะ แต่ตอนนี้มีแค่คุณกับผู้จัดการหลินที่ได้เห็นแผนงาน ไม่ว่าจะพูดยังไง พวกคุณสองคนก็เป็นคนที่น่าสงสัยที่สุด เมื่อกี้ให้ฉันคนไปตรวจสอบคอมพิวเตอร์ของผู้จัดการหลินแล้ว หลังจากยืนยันว่าเขาได้รับอีเมลจากคุณแล้ว ก็ไม่ได้ส่งอีเมลให้ใครอีก บนคอมพิวเตอร์ก็ไม่มีร่องรอยถูกแฮคด้วย”
เหวินหย่าไต้จงใจเพิ่มเสียงพูดต่อหน้าเพื่อนร่วมงานคนอื่น
แถมยังพูดชัดถ้อยชัดคำ
“ดังนั้น คนที่อาจจะปล่อยแผนงานที่สุดในตอนนี้ ก็คือคุณ เหนียนเสี่ยวมู่!”
“ฉันเปล่านะคะ!” เหนียนเสี่ยวมู่กำหมัดทั้งสองข้าง ปฏิเสธโดยไม่ต้องคิด
เหวินหย่าไต้กลับทำเหมือนกับไม่ได้ยินคำพูดของเธอ
ผู้จัดการสาวกอดอก และเดินไปข้างหน้าเหนียนเสี่ยวมู่
บนใบหน้าที่แต่งแต้มมาอย่างดีกำลังยิ้มเยาะ “คุณทำหรือเปล่า แค่คำพูดไม่พอหรอก รอผลการตรวจสอบออกมาก่อน ก็จะได้รู้กัน”
ครั้นหญิงสาวพูดจบ ก็เดินผ่านเหนียนเสี่ยวมู่ไปยังห้องทำงานประธานบริษัท
ไม่นานนัก เพื่อนร่วมงานทั้งสองแผนกก็ได้รับประกาศการประชุม
ในห้องประชุมอันโอ่โถง
ทุกคนต่างก็นั่งอย่างเงียบเชียบ
จอขนาดใหญ่บนผนังหมุนเวียนฉายข่าวที่เพิ่งออกมาวันนี้
งานออกแบบที่แสดงอยู่บนนั้น เหมือนกับที่มิสเตอร์ลอมบาร์ดีส่งมาให้พวกเขาไม่มีผิดเพี้ยน
นำแผนงานทั้งสองชิ้นมาวางไว้ข้างกัน ก็แทบจะมองไม่เห็นความแตกต่าง
อวี๋เยว่หานนั่งอยู่บนเก้าอี้แถวหน้าสุด
เขาถอดเสื้อกันลงไว้ข้างตัว บนตัวเหลือเพียงเสื้อเชิ้ตสีขาว ปลดกระดุมสองเม็ดบนให้เปิดกว้าง
ท่าทางสบายๆ อย่างหาได้ยากแบบนี้ แต่นัยน์ตากลับไม่มีความอบอุ่นเลยสักนิด
ใบหน้าเรียบเฉยเชิดขึ้นเล็กน้อย
นัยน์ตาสีดำกวาดมองทุกคนในที่นี้ นิ้วเรียวยาวเคาะบนโต๊ะอย่างไม่ใส่ใจ จังหวะที่เกิดจากการเคาะนั้นเป็นเสียงที่น่าหวาดหวั่น
เขาขยับริมฝีปากบาง “มีใครเคยแตะแผนงานนี้ไหม”
“ผู้จัดการหลินแผนกออกแบบ แล้วก็ซูเปอร์ไวเซอร์เหนียนค่ะ” เหวินหย่าไต้รีบตอบ ทันทีที่ได้ยินเขาพูด
เมื่อได้ยินดังนั้น ดวงตาสีดำของเขาพลันวูบไหว “มีแค่สองคนเหรอ”
“ใช่ค่ะ เดิมทีควรจะเป็นฉันที่ดูแลแผนงาน แต่มิสเตอร์ลอมบาร์ดรส่งอีเมลหาซูเปอร์ไวเซอร์เหนียนโดยตรง ฉันเห็นว่าซูเปอร์ไวเซอร์เหนียนทำงานได้รัดกุม ก็เลยไม่ได้ปฏิเสธ และให้เธอติดต่อผู้จัดการเหวินได้โดยตรง ถ้ารู้ว่าจะเกิดเรื่องไม่คาดคิดแบบนี้ ฉันน่าจะรับผิดชอบด้วยตนเอง”
เหวินหย่าไต้พูด พลางมีสีหน้าเสียดาย
เมื่อเธอพูดจบ ผู้จัดการหลินก็ยืนขึ้นทันที
เขาอธิบายว่า ตนเองเก็บรักษาแผนงานที่ได้รับเป็นความลับตลอด ไม่เคยให้ใครได้เห็นเลย
บันทึกคอมพิวเตอร์และบันทึกอีเมลของเขาเป็นพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเขาได้
ตอนนี้เหลือแค่เหนียนเสี่ยวมู่…
สายตาของเหนียนเสี่ยวมู่มองมาทางเธอ
“ไม่ใช่ฉันนะ!”
“คนที่ทำเรื่องแบบนี้ต้องไม่ยอมรับอยู่แล้ว!” เหวินหย่าหันมามองเธอ สีหน้าดูเจ็บปวด
“ซูเปอร์ไวเซอร์เหนียน คุณชายหานเชื่อใจคุณ ให้ความสำคัญคุณขนาดนี้ คุณทำเรื่องขายบริษัทแบบนี้ได้ยังไง”
ตอนที่ 318 คุณมีอะไรอยากพูดอีกไหม
เมื่อเหวินหย่าไต้พูดจบ เพื่อนร่วมงานในห้องประชุมก็พากันสูดหายใจเข้า
สายตาที่ทุกคนมองมายังเหนียนเสี่ยวมู่มีแต่ความสงสัย
ถ้าเธอไม่มีหลักฐานมาพิสูจน์ตนเอง ถึงแม้วันนี้อวี๋เยว่หานไม่เปิดโปงเธอ แต่สายตาจับผิดจับจ้องมามากมายขนาดนี้ เธอก็ไม่มีหน้าจะอยู่ที่บริษัทตระกูลอวี๋ต่อไป!
เหวินหย่าไต้มองเห็นปฏิกิริยาของทุกคน ในใจแอบดีใจไม่น้อย
คนที่ถูกใส่ร้ายว่าขโมยของจะทรมานใจที่สุด เพราะไม่สามารถทำให้ตนเองหลุดพ้นจากข้อกล่าวหาได้
แถมยังมีสายตาจ้องจับผิดของคนรอบข้างอีก
สายตาตัดสินว่าคุณทำผิดแบบนั้น พอจะบีบให้ใครสักคนตายได้อย่าเงียบงัน!
เหวินหย่าไต้ต้องการผลลัพธ์แบบนี้แหละ!
“ในเมื่อคุณบอกว่าไม่ใช่คุณ งั้นคุณมีหลักฐานอะไรมาพิสูจน์ ว่าคุณไม่ได้เป็นคนปล่อยแผนงาน” เหวินหย่าไต้เห็นบรรยากาศจืดจางพอแล้ว จึงถามบีบเค้น
“…ฉันไม่เคยคิดว่าจะทำงานเสีย ตอนนั้นเลยไม่ได้คิดที่จะเก็บหลักฐานอะไรไว้ เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง” เหนียนเสี่ยวมู่มองสายตาของทุกคน ก่อนจะค่อยๆ ลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้ของตนเอง
ตอบรับคำถามของเหวินหย่าไต้ และย้อนถามอย่างชัดถ้อยชัดคำ
“หนอนบ่อนไส้ที่ผู้จัดการเหวินพูดถึงเนี่ย คุณมีหลักฐานอะไรมาพิสูจน์ว่าฉันเป็นอย่างที่คุณพูดคะ”
เหนียนเสี่ยวมู่พูดจบ พวกลูกน้องก็เริ่มโวยวาย
ทุกคนเริ่มกระซิบกระซาบกัน
“จริงด้วย ไม่มีหลักฐานแล้วมากล่าวหาคนอื่นแบบนี้ มันไม่ถูกมั้ง?”
“ฉันจำได้ว่าก่อนหน้านี้ซูเปอร์ไวเซอร์เหนียนมีผลงานโดดเด่นมาก เธอมีอนาคตไกลในบริษัทตระกูลอวี๋ ทำไมเธอต้องเป็นหนอนบ่อนไส้ด้วย”
“แต่ผู้จัดการเหวินก็เป็นคนดีมากนะ ปกติไม่เคยพูดกับใครเสียงดังเลย เธอโกรธขนาดนี้ จะต้องมีเหตุผลแน่!”
“ฉันว่า แปดสิบเปอร์เซ็นต์คือเหนียนเสี่ยวมู่ทำ ตอนนี้มีแต่เธอที่เคยเห็นแผนงาน แถมยังไม่มีหลักฐานมาพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองด้วย…”
“…”
“เงียบ!” อวี๋เยว่หานเอ่ยอย่างเย็นชา พูดออกมาเพียงคำเดียว ก็ทำให้เสียงอึงอลรอบข้างหายไปทันควัน
นัยน์ตาสีดำลุ่มลึกมองไปทางเหวินหย่าไต้อย่างเฉยชา
“ถ้าไม่มีหลักฐาน ผมจะแต่งตั้งคนสอบสวนมารับผิดชอบเรื่องนี้โดยเฉพาะ”
“ฉันมีหลักฐานค่ะ!”
เหวินหย่าไต้กล่าวอย่างอดรนทนไม่ไหว
สายตามาดร้ายแตกต่างจากพฤติกรรมปกติของเธอมาก
เหนียนเสี่ยวมู่หลบเธอพ้นมาหลายครั้ง ความพยายามพังทลายไปตั้งหลายหน
แต่ครั้งนี้เธอจะไม่ให้โอกาสเหนียนเสี่ยวมู่อีก!
เหวินหย่าไต้มองไปทางเลขาที่อยู่ข้างๆ ครั้งหนึ่ง และมีคนถือใบเสร็จใบหนึ่งเข้ามาทันที
ผู้จัดการสาวยื่นมือไปรับใบเสร็จนั้นขึ้นมากวัดแกว่งต่อหน้าทุกคน
“นี่คือบันทึกการโอนเงินที่ฉันเพิ่งขอให้คนเอามาจากธนาคาร หนึ่งชั่วโมงก่อนที่คู่แข่งของพวกเราจะเริ่มงานแถลงข่าว ในบัญชีของเหนียนเสี่ยวมู่ได้รับเงินก้อนใหญ่ จำนวนห้าแสนหยวน”
เพียงแค่คำพูดเดียว ก็ทำให้ทั้งห้องประชุมแตกตื่นในพริบตา!
ช่วงเวลาที่อ่อนไหวแบบนี้ การโอนเงินก้อนใหญ่แบบนี้
ต้องบอกว่าไม่มีอะไรไม่ชอบมาพากล คนที่อยู่ตรงนี้ก็เชื่ออยู่ไม่กี่คนหรอก
ถ้าเหนียนเสี่ยวมู่อธิบายที่มาของเงินก้อนนี้ได้ไม่ชัดเจน เธอล้างมลทินอย่างไรก็ลบเรื่องในวันนี้ออกไปไม่ได้!
“ซูเปอร์ไวเซอร์เหนียน คุณมีอะไรอยากพูดอีกไหม” เหวินหย่าไต้สะบัดมือ โยนใบเสร็จในมือลงตรงหน้าเหนียนเสี่ยวมู่
สายตาเฉยชามองตาขวาง ในดวงตานั้นเผยความมั่นอกมั่นใจ
ในเมื่อเธอลงมือด้วยตนเอง ก็ต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน!
เหนียนเสี่ยวมู่มองใบเสร็จตรงหน้าให้ชัดๆ ลูกตาพลันหดตัว
“ฉันไม่เคยเห็นเงินก้อนนี้เลย คุณตรวจสอบมาได้ยังไงคะ”