บทที่ 167 ผู้อำนวยการฝางต้องการพบคุณ!

เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ

เมื่อซ่งเฉียงเห็นข่าวนี้เท่ากับว่าหลายคนได้เห็นข่าวนี้แล้ว รวมไปถึงเหล่าผู้นำของโรงพยาบาลอันดับสองด้วย ซึ่งส่วนใหญ่ก็เห็นข่าวนี้แล้วจริงๆ!

ซ่งเฉียงคิดถึงตรงนี้สีหน้าพลันเปลี่ยนไป แต่เขาก็รีบสงบใจลง พยายามสูดหายใจลึกๆ

ตอนนี้เรื่องเกิดขึ้นแล้ว สิ่งที่เขาต้องทำก็คือปรับเปลี่ยนและแก้ไขไปตามโอกาส หาทางตอบโต้ให้ดี!

เรื่องสำคัญที่สุดก็คือหนังสือพิมพ์อันหยางเป็นบริษัทสื่อแห่งหนึ่ง เท่ากับว่าเป็นตัวแทนความเห็นและทัศนคติของสื่อหนังสือพิมพ์ในเมืองอันหยาง เรื่องนี้น่ากลัวจริงๆ

เมื่อคิดถึงตรงนี้ ซ่งเฉียงก็พยายามไตร่ตรองว่าช่วงนี้ตนไปล่วงเกินใครไว้กันแน่! คิดไปคิดมา ซ่งเฉียงก็คิดออกแค่เฉินชางเพียงคนเดียว!

ปกติซ่งเฉียงเป็นคนที่ค่อนข้างระมัดระวังตัว เขาปฏิบัติกับผู้มีอำนาจอิทธิพลอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ถ้าเช่นนั้นก็มีเพียงเฉินชางแล้ว!

ซ่งเฉียงไม่คิดว่าเฉินชางจะมีความสามารถขนาดนี้ เมื่อคิดถึงตรงนี้ ซ่งเฉียงก็ตัดสินใจติดต่อไปหาสำนักพิมพ์อันหยาง

ในฐานะที่ซ่งเฉียงเป็นหัวหน้าฝ่ายกิจการแพทย์ของโรงพยาบาลอันดับสองย่อมสะสมเส้นสายไว้จำนวนหนึ่ง ตอนนี้เป็นโอกาสให้ใช้งานแล้ว ไม่นานก็หาข้อมูลติดต่อคนรับผิดชอบส่วนในของหนังสือพิมพ์อันหยางพบ

เมื่อต่อสายไปแล้ว ซ่งเฉียงก็แนะนำตัวเอง

“สวัสดีครับ ผมซ่งเฉียง หัวหน้าฝ่ายกิจการแพทย์ของโรงพยาบาลอันดับสองนะครับ หัวหน้าจ้าวที่ดูแลเรื่องรายการโทรทัศน์ให้เบอร์โทรศัพท์คุณมา” ซ่งเฉียงแนะนำตัวเองอย่างยิ้มแย้ม

แต่เมื่ออีกฝ่ายได้ยินซ่งเฉียงแนะนำตนเองเรียบร้อยแล้วก็เงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นจึงถามด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “สวัสดีครับ ไม่ทราบว่ามีธุระอะไรครับ?”

ซ่งเฉียงได้ยินคำพูดเช่นนี้พลันรู้สึกถึงอันตราย หากอยู่ในสถานการณ์ปกติ แม้อีกฝ่ายจะไม่เป็นมิตรก็ยังไม่ใช้น้ำเสียงเช่นนี้พูดกับเขา ยิ่งไปกว่านั้น เขายังอ้างชื่อหัวหน้าจ้าวของฝ่ายรายการโทรทัศน์ขึ้นมาแล้วด้วย

ซ่งเฉียงสัมผัสได้ถึงลางสังหรณ์ไม่ดี!

“หัวหน้าฝ่ายครับ เป็นแบบนี้นะครับ เมื่อคืนพวกคุณตีพิมพ์เรื่องเกี่ยวกับโรงพยาบาลอันดับสองของพวกเรา มันค่อนข้าง…”

อีกฝ่ายได้ยินข้อมูลถึงตรงนี้ก็กล่าวตัดบทซ่งเฉียงไปโดยตรง “สวัสดีครับ หากคุณมีข้อสงสัยว่าข้อมูลในหนังสือพิมพ์ของพวกเราจะส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของโรงพยาบาลคุณ ก็ติดต่อมาตามช่องทางอย่างเป็นทางการของพวกเราได้เลยครับ หนังสือพิมพ์อันหยางของพวกเรารับผิดชอบต่อข้อมูลที่รายงานแน่นอน และจะเผชิญหน้าอย่างจริงจังด้วย ไม่ทราบว่าคุณยังมีเรื่องอื่นอีกไหมครับ?”

ซ่งเฉียงโกรธจนกัดฟันแน่น เขาจะไปคิดได้อย่างไรว่าเรื่องมันจะพัฒนามาถึงขั้นนี้!

มีเรื่องอื่นหรือเปล่า? มีกับผีสิ! ให้ตายเถอะ! แม่งเอ๊ย!

ทันทีที่วางโทรศัพท์ ซ่งเฉียงก็ถีบโต๊ะทำงานเบื้องหน้าไปครั้งหนึ่ง ปัดเอกสารที่วางกองอยู่บนโต๊ะจนกระจัดกระจายเต็มพื้น!

ซ่งเฉียงมีสีหน้ามืดครึ้ม ลมหายใจกระชั้นถี่

ตอนนี้เองมีโทรศัพท์สายหนึ่งต่อเข้ามา น้ำเสียงค่อนข้างอึมครึม ฟังดูไม่พอใจ “ซ่งเฉียง มาที่ห้องประชุมชั้นยี่สิบเอ็ดด้วยครับ”

ซ่งเฉียงมองชื่อที่ปรากฎบนโทรศัพท์ เมื่อพบว่าเป็นชื่อของรองผู้อำนวยการ หนังตาพลันกระตุกถี่ยิบ!

“ได้ครับรองผู้อำนวยการ ผมจะไปเดี๋ยวนี้!”

เมื่อวางโทรศัพท์ไปแล้ว ซ่งเฉียงก็คิดว่าตอนนี้คนเพียงคนเดียวที่จะแก้ไขเรื่องนี้ได้ก็คือเฉินชาง

แม้จะไม่รู้ว่าเฉินชางทำเรื่องให้มาถึงขั้นนี้ได้อย่างไร แต่ซ่งเฉียงคิดว่าจะต้องไปหาเฉินชางแล้ว

เรื่องนี้ตนมักง่ายเกินไปจริงๆ ประเมินเฉินชางต่ำเกินไป!

เขามีคนถือหางอยู่หลายคน คิดไม่ถึงจริงๆ…

เมื่อคิดถึงตรงนี้ซ่งเฉียงก็สูดหายใจลึก พูดกับพนักงานที่อยู่ด้านนอกว่า “ขอเบอร์โทรของเฉินชางด้วยครับ”

จากนั้นจึงกดโทรหาเฉินชาง รีบกล่าวว่า “เฉินชาง ผมซ่งเฉียงนะครับ”

“ตู๊ดๆๆ…”

ซ่งเฉียงตกตะลึงจนตาค้างไปโดยพลัน

เฉินชาง ผมยอมเรียกคุณว่าปู่เลย

เมื่อเฉินชางเห็นว่าเป็นซ่งเฉียงก็กดตัดสายไปทันที การพูดคุยกับซ่งเฉียงจะสำคัญไปกว่าการแลกเวรได้อย่างไร

เมื่อหลี่เป่าซานเห็นทุกคนแรกเวรกันเรียบร้อยแล้ว เดิมทีคิดว่าคงไม่มีเรื่องอะไรอีก แต่จู่ๆ เฉินปิ่งเซิงก็พูดขึ้นว่า “หัวหน้าครับ เมื่อวานฝ่ายกิจการแพทย์ออกหนังสือตักเตือนและลงโทษเฉินชางมาสองฉบับ…คุณดูสิครับ…”

หลี่เป่าซานชะงักไปทันที

แต่ละวันเขาไม่มีอารมณ์ไปใส่ใจเรื่องพวกนี้ จะรู้ได้อย่างไรว่าเฉินชางถูกลงโทษ ยิ่งไปกว่านั้นยามปกติเฉินชางเป็นคนซื่อสัตย์เอาจริงเอาจัง เคยทำเรื่องนอกกฎที่ไหนกัน

ดังนั้นเมื่อได้ยินเรื่องนี้หลี่เป่าซานก็ถามอย่างสงสัย “เกิดอะไรขึ้น? ทำไมเฉินชางถูกทำโทษได้ล่ะ”

ทุกคนเงียบไปทันที

เฉินปิ่งเซิงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาส่งให้เขาดู “หัวหน้าครับ คุณลองดูสิครับ”

หลี่เป่าซานหน้าดำคร่ำเครียด อ่านด้วยคิ้วที่ขมวดมุ่น เมื่ออ่านจบก็รู้สึกหนังตากระตุก!

คนอื่นไม่รู้ แต่เขาจะไม่รู้ได้อย่างไรว่ามันเกิดอะไรขึ้น?

การผ่าตัดเมื่อวันก่อน เฉินชางถูกดึงตัวไปกะทันหัน

ฉินเยว่รีบพูดว่า “หัวหน้าแผนกคะ วันนั้นฉันมาเข้าเวรแทนเฉินชาง ยิ่งไปกว่านั้น…ก่อนหน้านี้หยวนฟางก็อยู่ตลอด แผนกฉุกเฉินไม่ได้ถูกปล่อยว่างนะคะ!”

หลี่เป่าซานได้ยินดังนั้นก็รีบถามทันที “ทำไมซ่งเฉียงถึงทำแบบนี้?”

นางพยาบาลที่เป็นเวรวันนั้นและเห็นเรื่องราวทั้งหมดรีบพูดขึ้นว่า “หัวหน้าแผนกคะ วันนั้น คืนที่หมอเฉินเป็นเวร มีคนไข้มาหลายคน…ตอนนั้นซ่งเฉียงต้องการให้หญิงร่ำรวยคนหนึ่งแซงคิว แต่ถูกปฏิเสธ! หลังจากนั้นก็มีเรื่องเกิดขึ้นกะทันหัน อาจทำให้ซ่งเฉียงรู้สึกเสียหน้าได้ค่ะ”

หลี่เป่าซานเข้าใจกระจ่างขึ้นมาโดยพลัน ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้!

ทุกคนมองไปยังเฉินชาง ส่วนเฉินชางก็ยังยืนอยู่ตรงนั้นอย่างสงบนิ่ง เดิมทีเขาก็ไม่ได้ทำผิดอะไร แต่หากซ่งเฉียงจะทำให้เฉินชางผิดให้ได้แล้วโรงพยาบาลไม่ยอมทวงความยุติธรรมให้เฉินชาง เขาจะต้องลาออกแน่

หน่วยงานแบบนี้อยู่ไปจะมีความหมายอะไร

ดวงตาของหลี่เป่าซานแปรเปลี่ยนไปโดยพลัน “เอาละ ทุกคนไปทำงานของตัวเองเถอะ เสี่ยวเฉิน คุณวางใจได้ วันนี้ผมจะมอบคำอธิบายให้คุณแน่นอน!”

พูดจบหลี่เป่าซานก็หมุนตัวเดินไปทันที!

หยวนฟางเห็นท่าทีสบายๆ ของเฉินชางก็บ่นพึมพำในใจ

หรือเฉินชางไม่กลัวจริงๆ?

จะสงบเกินไปหรือเปล่า?

เมื่อคิดถึงท่าทีปกป้องของหลี่เป่าซาน หยวนฟางก็รู้สึกไม่พอใจ ทว่าการลงโทษถูกประกาศออกมาแล้ว ต่อให้หลี่เป่าซานจะยอดเยี่ยมขนาดไหนก็แก้ไขอะไรไม่ได้ คิดว่าซ่งเฉียงเป็นลูกพลับนิ่มให้คนอื่นบีบเล่นได้ตามใจหรือ

เมื่อคิดถึงตรงนี้ หยวนฟางก็รู้สึกมีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น

ทว่าเมื่อมองไปยังท่าทีสบายๆ ของเฉินชางอีกครั้ง หยวนฟางก็อดแค่นเสียงหัวเราะไม่ได้

เสแสร้งไปเถอะ!

ดูซิว่าจะเสแสร้งได้อีกแค่ไหน!

ตอนนี้เอง จู่ๆ เฉินชางก็ได้รับโทรศัพท์สายหนึ่ง “เสี่ยวเฉิน มาที่แผนกศัลยกรรมทั่วไปหน่อยครับ ผู้อำนวยการฝางต้องการพบคุณ”

เฉินชางชะงักไป “ผู้อำนวยการฝางหรือครับ?”

จางโหย่วฝูพยักหน้า “ใช่ครับ ผู้อำนวยการฝางผ่าตัดเสร็จไปเมื่อหลายวันก่อน เพิ่งได้สติเมื่อวาน พอฟื้นก็อยากพบคุณแล้ว แต่ผู้อำนวยการฝางเพิ่งผ่าตัดเสร็จ พวกเราจึงยังไม่ให้แขกเข้าเยี่ยม เพิ่งจะอนุญาตวันนี้น่ะครับ เขาอยากพบคุณให้ได้ คุณมาหน่อยเถอะ”

เฉินชางพยักหน้า “ได้ครับหัวหน้าแผนกจาง ผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้!”

เฉินชางวางกดโทรศัพท์ จากนั้นจึงบอกหวังหย่งคำหนึ่งแล้วเดินไปที่แผนกศัลยกรรมทั่วไป