ตอนที่ 257 ตายไปอีกคน! + ตอนที่ 258 อสูรศักดิ์สิทธิ์พิทักษ์ตระกูล!

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า

ตอนที่ 257 ตายไปอีกคน!

เห็นภาพเช่นนี้ หลายคนรอบข้างเบิกดวงตากว้างด้วยความตกตะลึง เหมือนไม่นึกว่าผู้นำตระกูลหลิ่วผู้สง่าผ่าเผยจะทำเรื่องอย่างการลอบโจมตีด้านหลังเช่นนี้ออกมา สำหรับทุกคนในเหตุการณ์แล้ว พวกเขาล้วนเป็นคนที่มีทั้งฐานะและตำแหน่ง รังเกียจการลอบทำร้ายคนทางด้านหลัง แบบนั้นต่อให้ชนะ ก็จะเป็นคนที่ไร้ยางอาย

หากคิดจะชนะ ที่พวกเขาคาดหวังคือการโค่นล้มและคร่าชีวิตอีกฝ่ายอย่างองอาจผึ่งผาย!

ด้วยเหตุนี้ เมื่อเห็นผู้นำตระกูลหลิ่วใช้ลูกไม้เยี่ยงคนต่ำทรามต่อหน้าผู้คน หลังผ่านความตกตะลึงแต่ละคนล้วนก็ส่ายหน้าถอนหายใจ ผิดหวังกับเขาอย่างมาก

บางคนไม่เห็นด้วย คิดว่าแบบนี้ก็ไม่ผิดอะไร ภายใต้สถานการณ์ที่สู้ไม่ชนะ ขอแค่สามารถฆ่าอีกฝ่ายได้ วิธีการใดๆ ล้วนเป็นวิธีที่ดีทั้งนั้น พวกเขากลับไม่รู้สึกว่าการกระทำนี้มีอะไรไม่เหมาะสม

ส่วนท่านเจ้าตำหนักยมราชในมุมมืดหลังจากเห็นภาพเช่นนี้ ดวงตาลึกล้ำก็มืดลงเล็กน้อย สายตาที่แฝงด้วยไอสังหารจ้องมองผู้นำตระกูลหลิ่วที่ถือกระบี่ลอบโจมตี ริมฝีปากบางที่เม้มเบาๆ กลับไม่พูดอะไร

ทว่า ไอสังหารบนร่างเขา รวมถึงสีหน้าที่หมองลง ล้วนทำให้อิ่งอีกับฮุยหลางข้างๆ รู้ว่าผู้นำตระกูลหลิ่วต่อให้ไม่ตายที่นี่ เดาว่าไม่กี่วันก็ต้องตาย!

พวกเขาไม่ออกหน้าช่วย เพราะเห็นภูตหมอตอบโต้รวดเร็วนัก เขารู้สึกถึงจิตสังหารด้านหลังจึงโจมตีออกไปโดยไม่แม้แต่จะหันหลังกลับ

“แกร๊ง!”

เสียงมีดกับกระบี่กระทบกันดังขึ้นแจ่มชัด ประกายไฟเล็กๆ ปะทุออกมาเพราะการเสียดสี พลังคมมีดกับพลังกระบี่ที่รุนแรงประชันกันและกัน เกิดเสียงกระแสลมรุนแรงดังกระหึ่ม

ทั้งสองต่อสู้กันท่ามกลางประกายมีดเงากระบี่ ความเร็วอันว่องไว ทำให้ฝูงชนที่มุงดูเห็นเพียงใบมีดลมแต่ละเล่มตวัดผ่านไปรอบๆ ตัดลงพื้นพร้อมทั้งทิ้งร่องรอยกระบี่แต่ละรอยไว้

และในช่วงเวลานี้ที่ทั้งสองประชันกัน ผู้อาวุโสสูงสุดที่โดนโจมตีเสียจนต้องล่าถอยก็หมุนพลิกสองมือ ใบมีดลมที่มีพลังวิญญาณพลุ่งพล่านก่อตัวเป็นคมกระบี่ที่มองไม่เห็นพัดไปทางด้านหลังเฟิ่งจิ่วด้วยท่าทางดุร้าย

เห็นความไร้ยางอายของผู้นำตระกูลหลิ่ว แล้วมองการกระทำผู้อาวุโสสูงสุดที่ราวกับเรียนรู้กันและกันมา ก็ไม่มีใครพูดอะไรมากอีก

ทว่าในตอนนี้เอง ปลายเท้าเฟิ่งจิ่วส่งแรงเตะไปตรงข้อมือผู้นำตระกูลที่ถือกระบี่ไว้ เพียงได้ยินเสียงกระดูกแตกหักดังกร๊อบออกมาชัดเจน กระบี่ใบหลิวที่ถือในมือก็ลอยไปเพราะลูกเตะนี้ หมุนเคว้งอยู่กลางอากาศร่วงลงพื้นดังแกร๊ง

“เฮือก!”

ผู้นำตระกูลหลิ่วสูดลมหายใจ เท้าก้าวถอยหลังอย่างโงนเงน แขนสองข้างต่างได้รับบาดเจ็บ รอบนี้ หากอยากจะสู้อีกกลับเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เสียแล้ว

และตอนนี้ เฟิ่งจิ่วที่เตะกระดูกข้อมือท่านผู้นำตระกูลหลิ่วหักกระโดดขึ้นกลางเวหาด้วยท่วงท่าสง่างามที่มีท่าทางน่าสะพรึง ชุดสีแดงแพรวพราวพลิ้วไหวไปตามลม ใบหน้าปีศาจร้ายงดงามอมยิ้มมีเสน่ห์กระหายเลือด ชั่วขณะนั้นความสง่างามเก่งกาจแพรวพราวที่กระจายออกมา ทำให้ภาพเบื้องทุกคนหน้าสว่างไสว หัวใจหวาดหวั่นสั่นสะเทือน…

ช่างเป็นหนุ่มน้อยรูปงามที่สง่าผ่าเผยมากพรสวรรค์ไร้คนเทียบเทียม!

ขณะที่ทุกคนแอบชื่นชมอยู่ในใจอย่างไม่อาจหักห้าม เวลาต่อมาสถานการณ์ก็เปลี่ยนไป เงาร่างสีแดงนั้นที่ทำให้ตรงหน้าทุกคนสว่างวาบปามีสั้นในมือออกไปจากกลางเวหาทันที เพียงได้ยินเสียงกระแสลมวาดผ่านอากาศดังฟิ้ว มีดสั้นก็แทงสวบเข้าบริเวณลำคอผู้อาวุโสสูงสุด!

เห็นผู้อาวุโสสูงสุดตระกูลหลิ่วร่างกายแข็งทื่อไปโดยไม่แม้แต่จะส่งเสียงกรีดร้องออกมา ดวงตาเบิกกว้างอย่างไม่ยอมแพ้ ทุกคนอดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจ คลื่นลมพายุโหมพลันก่อขึ้นในหัวใจเนิ่นนานเสียจนไม่อาจสงบลง…

“ผู้อาวุโสสูงสุด!”

ผู้นำตระกูลอุทานอย่างยากจะเชื่อ ไม่มีทางยอมรับจุดจบเช่นนี้ จ้องมองหนุ่มน้อยชุดแดงผู้นั้นด้วยความขุ่นข้องใจ ทันใดนั้น ก็แหงนมองท้องฟ้าหัวเราะบ้าคลั่ง

………………………………………………….

ตอนที่ 258 อสูรศักดิ์สิทธิ์พิทักษ์ตระกูล!

“ฮ่าๆๆๆๆ!”

เสียงหัวเราะเขาแฝงด้วยแรงกดดันที่แข็งแกร่ง สะเทือนแก้วหูทุกคนเสียจนเจ็บเล็กน้อย เพียงได้ยินเสียงหัวเราะนั้นพลันหยุดลง ดวงตาดุร้ายราวกับอสรพิษจ้องนิ่งๆ ที่เด็กหนุ่มชุดแดงปลิวไสว น้ำเสียงที่มีไอสังหารหนาครึ้มเปล่งออกจากปาก

“สามารถบีบคั้นตระกูลหลิ่วข้ามาถึงขั้นนี้ เจ้าช่างมากความสามารถจริงๆ! แต่วันนี้ข้าจำต้องสังหารเจ้าเสียที่นี่! ถึงจะระบายความเกลียดชังในใจได้!”

สิ้นสุดน้ำเสียง เขาก็บีบตราประทับหยกขาวตรงข้างเอวให้แตก แผดเสียงลั่นว่า “อสูรครอบเมฆา!”

แทบจะขณะที่เขาบีบตราหยกขาวที่ข้างเอวแตก ลำแสงเส้นหนึ่งพุ่งขึ้นท้องฟ้า และในเวลานี้ หน้าประตูคฤหาสน์ตระกูลหลิ่ว อสูรหินใหญ่ยักษ์รูปร่างแปลกตามีเสียงหินแตกร้าวดังแกร๊ก ทั้งตระกูลต่างตกใจตื่นตระหนก

“แย่ล่ะ! เกิดเรื่องแล้ว! รูปปั้นอสูรนอกประตูจวนเราแตก!”

น้ำเสียงนั้นกระจายอยู่ในตระกูลหลิ่ว การเคลื่อนไหวของรูปปั้นอสูรที่แตกร้าวออกมาสะเทือนเสียจนทั้งตระกูลสั่นไหวขึ้นมาเล็กน้อย หลังท่านผู้เฒ่าในลานบ้านได้ยินการเคลื่อนไหวนี้ ก็ตกใจเสียจนสีหน้าซีดเผือด

“เกิดอะไรขึ้นกันแน่? ในจวนมีเรื่องใหญ่โตอะไร? ท่านผู้นำตระกูลเล่า? เขาอยู่ที่ไหน? รีบให้เขามาพบข้าเร็ว!”

เขาตะโกนเสียงดัง พลางถือไม้เท้าลนลานปรี่ไปยังนอกประตูใหญ่ ก็มีทหารอารักขาเข้ามารายงาน

“ท่านผู้เฒ่าขอรับ ท่านผู้นำตระกูลพาผู้อาวุโสทั้งสามท่านไปหอเมฆาทรงเกียรติ กำลังต่อสู้กันอยู่ที่นั่นแล้วขอรับ”

“เจ้าลูกไม่รักดี! เขาไปยุแหย่คนใหญ่คนโตคนใดเข้า? แม้แต่อสูรศักดิ์สิทธิ์พิทักษ์ตระกูลยังแตกตื่น นี่เขาคิดจะทำลายตระกูลหลิ่วข้าที่ก่อตั้งมาเป็นร้อยปีรึ!”

ท่านผู้เฒ่าหลิ่วโกรธเสียจนใช้ไม้เท้าเคาะๆ ลงบนพื้นอย่างรุนแรง ตะโกนลั่น “เร็ว! เร็วเข้า! ไปเชิญพวกท่านปู่มา ให้รีบไปหอเมฆาทรงเกียรติด้วยกัน!” พูดจบ ก็รีบร้อนออกไป

มาถึงด้านนอก ท่านผู้เฒ่าหลิ่วเห็นเพียงรูปปั้นอสูรตัวใหญ่ยักษ์หนึ่งในสองตนตรงประตูขยับเสียงดังครืน รูปปั้นอสูรที่เดิมเคยนั่งหมอบอยู่ลุกยืนขึ้น สะบัดๆ ตัว เศษหินบนร่างจึงกระจายลงพื้น เผยให้เห็นรูปลักษณ์ดั้งเดิมของอสูรหิน

“กรร!”

เสียงคำรามโกรธเกรี้ยวสะท้านฟ้า กลิ่นอายและแรงกดดันทรงพลังของอสูรศักดิ์สิทธิ์พร้อมด้วยเสียงคำรามนั้นดังกึกก้องอยู่กลางอากาศ ทั่วเมืองลิ่วเต้าล้วนสั่นสะเทือน แต่ละวงศ์ตระกูลและชาวบ้านในเมืองต่างพากันตื่นตกใจ

เมื่อท่านผู้เฒ่าตรงทางเข้าบ้านตระกูลหลิ่วเห็นอสูรศักดิ์สิทธิ์พิทักษ์ตระกูลโยกไหวตัวเปิดเผยรูปลักษณ์แท้จริง สองขาอ่อนยวบ ร่างกายทรุดล้มลงไป “ตายแล้ว…ตายแน่แล้ว…”

“ท่านผู้เฒ่า!”

ทหารอารักขาที่มาด้วยกันก็เร่งรีบประคองเขาไว้ทั้งสองขาสั่นเครือ ยามนี้ในใจตกตะลึงไม่สิ้นสุด พวกเขาไม่เคยรู้ ว่าในรูปปั้นอสูรหน้าประตูใหญ่นี้ได้เก็บซ่อนอสูรศักดิ์สิทธิ์ตัวใหญ่ยักษ์ที่น่าเกรงขามไว้!

ครั้งแรกที่เห็นอสูรศักดิ์สิทธิ์ เพียงรู้สึกว่าถูกแรงกดดันที่แผ่ออกมาทำให้ขวัญกระเจิงเสียจนสีหน้าขาวซีด ร่างกายสั่นเทิ้ม

อสูรศักดิ์สิทธิ์ตัวนั้นที่สะบัดขนยืดเส้นยืดสายพ่นลมหายใจออกจากสองรูจมูก แค่นเสียงหนักๆ หันกลับไปชำเลืองมองท่านผู้เฒ่าตระกูลหลิ่ว จากนั้นค่อยโน้มตัวลง เตะขาหลังกระโจนไปยังบริเวณที่มีลำแสงพุ่งขึ้นท้องฟ้า

ตอนนี้ ที่หน้าหอเมฆาทรงเกียรติ ทุกคนต่างหวาดผวาอย่างงมาก

“อสูรกลืนเมฆา? นั่นเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์พิทักษ์ตระกูลหลิ่วไม่ใช่หรือ?”

“เป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์พิทักษ์ตระกูลหลิ่วนั่นแหละ ว่ากันว่าปีนั้นเพราะอสูรครอบเมฆาตนนี้ตระกูลหลิ่วถึงได้กระโดดขึ้นมาเป็นวงศ์ตระกูลระดับกลาง แต่หลายปีนี้ก็ไม่เคยเห็นอสูรตนนั้นปรากฏตัวเลย”

“นึกไม่ถึงว่าผู้นำตระกูลหลิ่วจะใช้อสูรศักดิ์สิทธิ์มาจัดการหนุ่มน้อยชุดแดง ดูท่าวันนี้ทั้งสองคนหากไม่มีใครคนหนึ่งจบชีวิตที่นี่ มรสุมลูกนี้คงไม่หยุดลงแน่”

……………………………………………