ตอนที่ 765 ไม่ใช่ว่ามันทำให้คุณหลงเสน่ห์ผมมากขึ้นหรอกเหรอ

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

ไม่กี่วันหลังจากนั้น กองถ่ายละครเรื่อง ‘สุดยอดแฟนเก่า’ ก็จัดงานเลี้ยงฉลองปิดกล้อง ตลอดระยะเวลาการถ่ายทำ การเปลี่ยนแปลงของเฉินซิงเยียนสร้างความประทับใจให้กับผู้กำกับเป็นอย่างมาก หลังจากผ่านการฝึกฝนจากทั้งกองถ่าย บัดนี้เธอสามารถทำตัวเป็นธรรมชาติมากขึ้นเมื่ออยู่หน้ากล้อง และไม่ทำให้ทุกคนรู้สึกผิดหวังในฐานะที่เธอเป็นน้องสาวของโม่ถิง ราวกับเป็นโชคชะตาของเธอที่ถูกกำหนดให้เกี่ยวพันอยู่กับวงการบันเทิงเพราะความสามารถในการปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ที่หลากหลายของเธอนั้นไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปสามารถเทียบเคียงได้

 

 

“ตั้งใจทำงานต่อไปนะซิงเยียน รักษาความมุ่งมั่นแบบตอนนี้เอาไว้ ในเมื่อทั้งครอบครัวของเธอมีส่วนเกี่ยวข้องกับวงการบันเทิง แล้วเธอเองก็ทำงานอยู่ในวงการนี้ เธอต้องสร้างชื่อให้ตัวเองให้ได้ และไม่ทำให้พี่ชายของเธอต้องเสียชื่อเสียง แล้วเธอยังมีผู้จัดการที่ยอดเยี่ยมที่เธอควรจะรู้สึกยินดีไว้ด้วย…”

 

 

ในระหว่างงานเลี้ยง ผู้กำกับหวังดื่มไปค่อนข้างเยอะ ดังนั้นเขาจึงพูดมากกว่าปกติ แต่กระนั้นคำพูดของเขาล้วนแล้วแต่จริงใจและทำให้เฉินซิงเยียนซาบซึ้ง

 

 

หลังงานเลี้ยง อันจื่อเฮ่าโน้มตัวมากระซิบที่ข้างหูของเฉินซิงเยียน “ไปกันเถอะ เราควรกลับไปพักที่บ้านกันได้แล้ว”

 

 

เฉินซิงเยียนกล่าวลาทีมงานอย่างรวดเร็วและเดินทางออกจากโรงแรมพร้อมอันจื่อเฮ่า แต่ทันทีที่เธอก้าวออกจากลิฟต์ ก็สังเกตเห็นร่างคุ้นตาที่บริเวณเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ของโรงแรม แม้ผู้หญิงคนนั้นจะสวมผ้าปิดปากอยู่ แต่เฉินซิงเยียนเคยปะทะกับคนคนนี้มาหลายต่อหลายครั้งจนเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะจำไม่ได้ว่าผู้หญิงคนนั้นคือไป๋หลินหลิน และกำลังยืนอยู่ข้างผู้ชายคนหนึ่ง

 

 

“ฉันนึกสงสัยอยู่แล้วเชียวว่าหมู่นี้ไป๋หลินหลินไม่สร้างปัญหาอะไรมาพักหนึ่งแล้ว ที่แท้ก็กำลังมีแฟนนี่เอง”

 

 

“นั่นไป๋หลินหลินงั้นเหรอ” อันจื่อเฮ่าจ้องมองคนทั้งสองอย่างละเอียด

 

 

“ฉันมั่นใจว่าใช่”

 

 

“แต่ถ้าฉันเข้าใจไม่ผิด ผู้ชายคนนั้นมันสามีของไป๋อวี๋นี่” อันจื่อเฮ่ามองหน้าเฉินซิงเยียนพร้อมโก่งคิ้วทั้งสองข้างขึ้น

 

 

“นายกำลังจะบอกว่า…” เฉินซิงเยียนเอามือขึ้นมาปิดปากตัวเอง “นายกำลังจะบอกว่าไป๋หลินหลินกำลังคบชู้กับสามีพี่สาวตัวเองงั้นเหรอ”

 

 

“ดูจากท่าทีหลบๆ ซ่อนๆ กับความใกล้ชิดของทั้งสองคนนั้น ฉันว่าน่าจะเป็นแบบนั้น”

 

 

“มันไม่ตลกเกินไปหน่อยเหรอ ทำไมเราไม่ตามพวกนั้นไปแล้วถ่ายรูปไว้ล่ะ หมู่นี้ไป๋อวี๋เอาแต่ตามรังควานพี่หนิงไม่ใช่เหรอ ถ้าข่าวนี้ออกไปละก็…” เฉินซิงเยียนพยายามจะเดินตามทั้งสองคนไปทันที แต่ถูกอันจื่อเฮ่าห้ามเอาไว้

 

 

“ยัยโง่ ไม่เห็นกล้องวงจรปิดพวกนั้นหรือไง… กลับบ้านไปพักผ่อนเถอะ เดี๋ยวเรื่องนี้ฉันจัดการเอง”

 

 

“โธ่เอ๊ย… แต่มันน่าตื่นเต้นชะมัด” เฉินซิงเยียนไม่อาจเก็บซ่อนความตื่นเต้นเอาไว้ได้

 

 

อันจื่อเฮ่ามองอีกฝ่ายอย่างอ่อนใจ หลังพาเฉินซิงเยียนไปถึงที่รถ เขาก็ให้เธอรออยู่ที่ในรถราวครึ่งชั่วโมงก่อนที่ทั้งสองจะเดินทางกลับบ้าน ทันทีที่พวกเขาเดินผ่านประตูหน้าบ้าน เฉินซิงเยียนก็กระโจนใส่อันจื่อเฮ่าทันทีและโอบแขนทั้งสองข้างของเธอรอบลำคอของอีกฝ่าย “นายได้หลักฐานมาหรือเปล่า”

 

 

“คิดว่าไงล่ะ” อันจื่อเฮ่าถามพลางหยิกเข้าที่ก้นของอีกฝ่าย

 

 

“ทำไมเราไม่มาทำอะไรที่มันน่าตื่นเต้นกันบ้างล่ะ”

 

 

อันจื่อเฮ่ารู้ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่ ดังนั้นเขาจึงปฏิเสธทันที “เธอยังเด็กอยู่…”

 

 

“ฉันอายุยี่สิบแล้วนะ…”

 

 

“ไปพักผ่อนไป ฉันจะคุยกับถังหนิงว่าจะเอายังไงกับภาพกล้องวงจรปิดที่ไป๋หลินหลินเป็นชู้กับพี่เขยตัวเอง”

 

 

“ก็ได้ นายมีเรื่องเครียดต้องจัดการ ไป๋อวี๋ต้องเจ็บปวดแน่…” พูดจบ เฉินซิงเยียนก็ถูไถตัวของอันจื่อเฮ่า

 

 

อันจื่อเฮ่าลูบหัวอีกฝ่ายขณะที่รอยยิ้มขมขื่นปรากฏบนใบหน้าเขา ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้เข้าใจถึงความอันตรายจากการมาถูไถตัวของเขาเอาเสียเลย แย่ไปกว่านั้นคือเขารู้สึกว่ามันเป็นเรื่องยากมากขึ้นเรื่อยๆ ที่จะควบคุมตัวเองเอาไว้ ถ้าวันหนึ่งเขาเกิดอดทนไม่ได้ขึ้นมาแล้วหลับนอนกับเธอเข้า เขาจะทำยังไงกัน

 

 

อันจื่อเฮ่าถอนหายใจก่อนเดินกลับไปยังห้องทำงานของจัวเอง จากนั้นเขาโทรหาถังหนิง แต่คนที่รับสายกลับเป็นโม่ถิงแทน

 

 

“เออ… ผมไม่ได้มีเจตนาอะไรที่โทรหาถังหนิงกลางดึกแบบนี้นะครับ แต่มีบางอย่างที่ผมอยากจะบอกให้เธอรู้”

 

 

“อือฮึ ผมเดาว่าคุณคงเป็นเพื่อนสาวที่ผ่านการพิจารณาแล้วของถังหนิง” โม่ถิงกล่าวพลางยักคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง

 

 

อันจื่อเฮ่าเอามือกุมหน้าผากอย่างอดไม่ได้ แม้เขาจะไม่อยากยอมรับว่าเขาดูเหมือนเพื่อนสาวของถังหนิงในความคิดของโม่ถิง แต่ต่อหน้าโม่ถิงเขาต้องยอมรับความพ่ายแพ้

 

 

“แหะๆ คือ… วันนี้ซิงเยียนกับผมไปร่วมงานเลี้ยงด้วยกันมา แต่เราบังเอิญไปเห็นไป๋หลินหลินกับสามีของไป๋อวี๋กำลังคบชู้กันที่โรงแรม ด้วยความที่ไป๋อวี๋ตามรังควานถังหนิงมาตลอด ผมเลยคิดว่าข้อมูลนี้น่าจะเป็นประโยชน์กับพวกคุณ ผมเลยไปขอไฟล์ภาพวงจรปิดมาจากทางห้องควบคุมกล้อง”

 

 

“คุณไม่จำเป็นต้องโทรมาด้วยเรื่องอะไรแบบนี้” โม่ถิงกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา

 

 

อันจื่อเฮ่าจะพูดก็ได้ว่าเขามีเรื่องจะบอกถังหนิงและไม่ต้องการให้โม่ถิงรู้ด้วย แต่เขาไม่ได้บอกอย่างนั้น

 

 

ยิ่งไปกว่านั้น นี่ไม่ใช่หน้าที่ของเขาที่จะมาคอยจับผิดเรื่องชู้สาวของคนอื่น อย่างน้อยโม่ถิงก็ควรจะขอบคุณเขาสักหน่อยไหม

 

 

หากนี่เป็นเมื่อก่อน เขาคงตั้งคำถามกับโม่ถิงไปแล้ว แต่ตอนนี้เนื่องจากความรู้สึกผิด เขาทำได้เพียงมองหน้าอีกฝ่ายแล้วปล่อยให้โม่ถิงเป็นฝ่ายถูกต่อไป

 

 

“จื่อเฮ่าพูดอะไรเหรอคะ” ถังหนิงกำลังยืนให้นมเด็กๆ อยู่ข้างๆ โม่ถิง

 

 

“เขาเจอว่าไป๋หลินหลินกำลังเล่นชู้กับสามีไป๋อวี๋” โม่ถิงกล่าวพลางวางโทรศัพท์ลง

 

 

ถังหนิงอึ้งเล็กน้อยก่อนจะตอบรับอย่างรวดเร็ว “ก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเท่าไร ไป๋หลินหลินทั้งสาวทั้งสวย ในขณะที่ไป๋อวี๋ทะเยอทะยานและโหดเ**้ยม ไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไป๋หลินหลินทั้งนั้นแหละ”

 

 

“ผมไม่นะ” โม่ถิงจ้องมองถังหนิงด้วยสีหน้าจริงจัง “ทุกตัวเลือกของผมมีแต่คุณเท่านั้น”

 

 

ไม่นานมานี้ ถังหนิงค้นพบว่าตัวเองได้กลายเป็นแฟนคลับของโม่ถิงไปเสียแล้ว เธอลุ่มหลงผู้ชายคนนี้มากขึ้นกว่าเดิม ทุกครั้งที่เธอค้นพบสิ่งใหม่ในตัวเขา เธอจะนึกสงสัยว่ายังมีอะไรในโลกนี้อีกไหมที่เขาทำไม่ได้

 

 

หลังวางลูกน้อยทั้งสองลงบนที่นอน ถังหนิงก็ดึงเสื้อเชิ้ตของโม่ถิงและดึงเขาเข้ามาใกล้ “ฉันยังมีหนี้ที่ต้องทวงอยู่นะ”

 

 

โม่ถิงยิ้มขณะเดินตามถังหนิงไปยังห้องนอนของทั้งคู่

 

 

“มีอีกกี่อย่างที่คุณยังไม่ได้บอกฉัน” ถังหนิงถามพลางกดโม่ถิงเข้ากับผนังห้อง “หลังจากแต่งงานกับคุณมานาน ฉันเพิ่งรู้ว่ายังมีอีกหลายอย่างเกี่ยวกับคุณที่ฉันต้องค้นหา คุณโม่ คุณนี่รู้วิธีทำให้ฉันประหลาดใจอยู่เรื่อยจริงๆ นะคะ”

 

 

“ไม่ใช่ว่า มันทำให้คุณหลงเสน่ห์ผมมากขึ้นหรอกเหรอ” โม่ถิงถามพร้อมรอยยิ้ม “แต่มันก็ไม่ถูกนะครับคุณนายโม่ ผมรู้สึกว่าสิ่งที่ทำให้คุณหลงเสน่ห์ผมมากที่สุดเป็นอย่างอื่นมากกว่า…”

 

 

“คุณ…” ก่อนที่ถังหนิงจะทันได้พูดจบ โม่ถิงอุ้มเธอขึ้นก่อนพาเธอไปที่เตียงนอน

 

 

“คุณนายโม่ ผมไม่ได้ยินเลยว่าตอนนี้คุณกำลังพูดอะไร ผมรู้แค่ว่า… ผมกำลังจะกินคุณ”

 

 

ตลอดวันถ่ายทำ โดยเฉพาะตอนที่ทั้งคู่แสดงร่วมกัน ฉากของทั้งสองเป็นฉากสะเทือนอารมณ์เสียส่วนใหญ่ มันเป็นองค์ประกอบของความรักและความเกลียดชัง ความรู้สึกที่ได้รักแต่ไม่อาจอยู่ด้วยกันได้ ทุกครั้งที่เธอต้องเข้าฉากเช่นนี้ ถังหนิงจะมองสะท้อนสิ่งเหล่านั้นกับตัวเองและรู้สึกยินดีมากที่เธอมีผู้ชายคนนี้อยู่เคียงข้างและมีครอบครัวเหมือนอย่างที่เธอมีทุกวันนี้

 

 

 

 

‘หวงเฟยยอดสตรี’ ใช้เวลาถ่ายทำอยู่หลายเดือนและยังคงปิดทุกอย่างเป็นความลับมาโดยตลอด ในตอนนี้ยังคงมีฉากสำคัญอีกหลายฉากที่ยังไม่ได้ถ่ายทำ

 

 

อาจเพื่อเร่งความเร็วในการผลิต หลังจากที่ไป๋อวี๋สร้างปัญหาระหว่างไห่รุ่ยและแฟนคลับนิยายเสร็จแล้ว เธอจึงไม่ได้สนใจสิ่งอื่นใดไปพักหนึ่งและทุ่มเทความสนใจทั้งหมดไปกับ ‘ชายาหนิง’ ที่จริงเมื่อเป็นเรื่องของการแสดง เธอก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร แต่กระนั้นเธอแสร้งทำเป็นใจดีในขณะที่ใช้อุบายเลวทรามกับคนอื่นซึ่งเป็นเรื่องที่น่ารังเกียจอย่างมาก

 

 

หลังอันจื่อเฮ่าส่งมอบหลักฐานที่ไป๋หลินหลินคบชู้กับสามีของไป๋อวี๋ให้โม่ถิงแล้ว โม่ถิงไม่รีบใช้หลักฐานนั้น เพราะถึงอย่างไรประธานโม่ก็เป็นคนไร้ปรานีอยู่แล้ว เขารู้ดีว่าของดีควรใช้ก็ต่อเมื่อมันจะสร้างผลกระทบได้มากที่สุดเพราะนั่นคือวิธีใช้ทรัพยากรในมือให้เกิดประโยชน์สูงสุด

 

 

ก่อนที่ทุกคนจะรู้ตัว ก็ถึงเวลาที่เวทีประกาศรางวัลต่างๆ ได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง

 

 

เนื่องจาก ‘ชายาหนิง’ ได้ถ่ายทำเสร็จสิ้นแล้ว ไป๋อวี๋จึงเริ่มออกงานอีเวนต์ต่างๆ มากมายเพื่อโปรโมตละครของเธอ แน่นอนว่าเธอยังคงปรากฏตัวต่อหน้าทุกคนพร้อมรอยยิ้มจอมปลอมและถ้อยคำดีๆ อันเสแสร้ง แต่ทุกครั้งที่เธอออกไปข้างนอกเวลากลางคืน จะมี ‘ใครบางคน’ ช่วยเธอ ‘ดูแล’ สามีของเธอเป็นอย่างดีอยู่เสมอ