บทที่ 85 ทางตัน
หลินจิงหยุนสามารถฝึกตนได้ถึงวิชาชี่ไห่ขั้น7 ต้องผ่านกันฝึกฝนแทบเป็นแทบตาย มาหลายต่อหลายครั้ง เขาสัมผัสได้ถึงแสงสีดำบนหมัดของหลัวซิว มันเต็มไปด้วยอันตราย
วิชาท่าร่างธารเมฆีของแดนบรรลุผล ถูกเขาใช้ออกมาจนถึงขีดสุด ร่างกายถอยหลังอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันก็เอียงศีรษะ หลบหมัดสุดแสนอันตรายของหลัวซิว
เทคนิคการปล่อยพลังของการฝึกวิชาดาบเร็ว ความเร็วของหมัดหลัวซิว เร็วระดับไหนกันนะ
ถึงหลินจิงหยุนใช้ปฏิกิริยาตามสัญชาตญาณของร่างกาย หลบหมัดได้ แต่หมัดนี้มาพร้อมกับลมแรง จนเกิดเสียง และพาดผ่านใส่หน้าเขานับไม่ถ้วน
“อ๊าก!”
ทุกคนด้านล่างเวที ได้ยินเสียงร้องโอดครวญของหลินจิงหยุน เห็นซีกหน้าด้านซ้ายของเขา มีเลือดเนื้อปะปนกัน เลือดสาดกระเซ็นไปทั่ว
“นี่……” ความเจ็บบนใบหน้า ทำให้หลินจิงหยุนทรมานไม่สิ้นสุด แต่เขาคิดไม่ออก หมัดของหลัวซิวมาพร้อมลมแรง ทำไมถึงทำร้ายเขาได้
จอมยุทธ์แดนฝึกชี่ไห่ ใช้ปราณแท้คุ้มครองร่างกาย ระดับที่บรรลุถึงของเขาคือ วิชาชี่ไห่ขั้น7 อยากใช้ปราณแท้พร้อมลมแรง มาทำร้ายตัวเอง อย่างน้อยก็ต้องเป็นคนที่มีแดนขั้นสูงชี่ไห่ขั้น9 ถึงจะทำได้
ถึงเป็นยอดฝีมือแดนขั้นสูงชี่ไห่ขั้น9 ปราณแท้มาพร้อมลมแรง ต้องฝ่าปราณแท้คุ้มครองร่างกาย ถึงทำร้ายเขาได้ แต่ลมจากหมัดของหลัวซิวเมื่อครู่ ปราณแท้คุ้มครองร่างกายของเขา ไม่สามารถรับรู้อะไรได้เลย จึงสามารถทำร้ายเขาได้ทันที
การต่อสู้ระหว่างทั้งสองคน เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ทุกคนด้านล่างเวที ตั้งอกตั้งใจดูมาก
เศษเงาที่หลัวซิวเหลือเอาไว้ตอนแรก ปรากฏด้านหลังหลินจิงหยุนเหมือนผี หมัดหนึ่งเหวี่ยงออกมา พร้อมกับลมแรง ซัดใส่หน้าหลินจิงหยุนจนเนื้อกับเลือดผสมกันเละเทะ!
ในกลุ่มคนที่มาดูล่างเวที มียอดฝีมือศิษย์นอกสำนัก อยู่ในรายชื่อประมาณ 100 อันดับ จำนวนไม่น้อย แม้แต่พวกเขา ก็คิดไม่ออกว่าหลัวซิวทำได้อย่างไร ถึงกับต้องขยี้ตา เพราะคิดว่าตัวเองตาฝาด
“เมื่อกี้หลัวซิวใช้วิชาท่าร่างอะไรกัน เหลือเศษเงาเอาไว้ จู่ๆ ก็ไปปรากฏตัวด้านหลังหลินจิงหยุน”
“หลินจิงหยุนหลบหมัดนั่นได้แล้วแท้ๆ แต่ยังโดนปราณแท้ลมรุนแรงทำร้าย หรือปราณแท้ของหลัวซิว พอๆ กับแดนขั้นสูงชี่ไห่ขั้น9”
“เขาเพิ่งมีวิชาชี่ไห่ขั้น3 เองนะ……”
ทุกคนรู้สึกหนาวเหน็บขั้วหัวใจ มีวิชาชี่ไห่ขั้น3 แต่มีพละกำลังน่ากลัวขนาดนี้ แปลกประหลาดมาก!
“แสงดำจากปราณแท้ที่ไอ้เด็กเวรนี่รวบรวม มีอะไรผิดปกติ!”
จางหลู่เหลียงที่อยู่บนห้องใต้หลังคาขมวดคิ้ว สีหน้าของเขาฉายแววเคร่งขรึม
ถึงดูไม่ออกว่าความสามารถพิเศษ ที่หลัวซิวใช้ทำลายเส้นชีวิตคืออะไร แต่เขาเป็นจอมยุทธ์พรสวรรค์ระดับที่บรรลุถึงขั้น 9 สามารถรับรู้ได้ว่า พละกำลังทำลายล้างที่หลัวซิวรวบรวมเมื่อครู่ ไม่ธรรมดามาก
ผลการฝึกตนไม่ถึงแดนฝึกจิต ไม่มีทางเอาการรับรู้ทางจิตวิญญาณเปลี่ยนเป็นการเคลื่อนวัตถุด้วยพลังจิตอย่างลึกซึ้ง ดังนั้นจางหลู่เหลียงจึงเห็นความผิดปกติ แต่ไม่รู้ว่ามีอะไรพิเศษตรงไหน
ตอนนี้ หลินจิงหยุนยืนเลือดเต็มหน้า อยู่บนเวทีการดวลความเป็นตาย ในแววตาที่จ้องหลัวซิวเขม็ง เต็มไปด้วยความอาฆาต และแฝงด้วยความ……ตกใจและหวาดกลัว!
หมัดของหลัวซิวเมื่อครู่ ทำให้เขารับรู้ถึงอำนาจความตายอย่างแท้จริง ถ้าสิ่งที่ทำร้ายตัวเอง ไม่ใช่ปราณแท้ลมรุนแรง แต่เป็นหมัดของเขา หรือกระบี่ยุทธ์ของเขา การโจมตีเพียงครั้งเดียว ตัวเองต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย
หลัวซิวในตอนนี้ ทำให้เขารู้สึกลึกลับจนไม่สามารถคาดเดาได้ และมนุษย์เต็มไปด้วยความเคารพหวาดกลัวและหวาดผวากับสิ่งที่ไม่รู้ ความมั่นใจลดฮวบลง จนทำให้สติของหลินจิงหยุนกระเจิดกระเจิง
หลินจิงหยุนกัดฟันกรอด ดวงตาทั้งสองข้างแดงก่ำ “ดูเหมือนคงต้องใช้สมบัติค่ายกล ที่หัวหน้าจางให้ฉันแล้วล่ะ”
เขาพลิกมือ มีลูกกลมทองปรากฏขึ้นบนมือ บนนั้นมีลวดลายและสัญลักษณ์เต็มไปหมด
“ตายซะเถอะ หลัวซิว!”
หลินจิงหยุนแผดเสียงออกมา หน้าตาโหดเหี้ยม ส่งปราณแท้เข้าไปที่ลูกกลมทองบนฝ่ามือ ด้วยความบ้าคลั่ง แสงสีทองสะดุดตา แผ่ออกมาจากลูกกลมทอง แสงสีทองแต่ละแสงราวกับปราณกระบี่ ฟันไปบนอากาศจนเกิดเสียงดังขึ้น
“สมบัติค่ายกล!”
“แฝงไปด้วยพลังAttrทอง สมบัติค่ายกลสามระดับ!”
คนด้านล่างเวทีเบิกตาโต เพราะคุณสมบัตินั้น คือพลังที่จอมยุทธ์พรสวรรค์สามารถทำได้
ใช้สมบัติค่ายกลสามระดับ แสดงว่าหลินจิงหยุนสามารถปลดปล่อยพลังออกมา ได้พอๆ กับการโจมตีของจอมยุทธ์พรสวรรค์
ในสายตาของทุกคน ถึงพละกำลังของหลัวซิวจะแข็งแกร่ง แต่ความแตกต่างระหว่างพรสวรรค์กับชี่ไห่ เป็นอะไรที่ไม่สามารถก้าวข้ามไปได้
“สวบ! สวบ! สวบ!……”
มีเสียงทำลายดังขึ้นในอากาศอย่างต่อเนื่อง ปราณกระบี่สีทองสามปราณ พุ่งเข้ามาหาหลัวซิว ปราณกระบี่แต่ละปราณ ยาวประมาณ 3 เมตรกว่า
ปฏิกิริยาแรกของหลัวซิวคือหลบ แต่ปราณกระบี่ทั้งสามปราณ ปิดล้อมพื้นที่รอบๆ เอาไว้หมด นอกจากเขาจะกระโดดลงจากเวทีดวลความเป็นตาย ไม่งั้นก็ไม่มีทางหลบได้
แต่ตามกฎของการดวลความเป็นตาย ฝ่ายที่ลงจากเวทีต่อสู้ คือผู้แพ้ ความเป็นตายจะตัดสินโดยผู้ชนะ
“วิชาเงาเศษสิบช่อง!”
ตัวของหลัวซิวโงนเงน จู่ๆ ก็มีเงาเศษ 7 สายปรากฏออกมา
“เงาเศษเยอะมาก นี่มันวิชาท่าร่างอะไรกัน”
“ไม่เคยได้ยินวิชาท่าร่างแบบนี้ ในหอเซียวเหยาชั้นแรก เขาน่าจะมีโอกาสเรียนมาจากสำนักอื่น”
วิชาท่าร่างเงาเศษ 7 สายที่หลัวซิวใช้ออกมา ทำให้คนตกใจจนถึงขีดสุด แต่ปราณกระบี่สีทองสามปราณนั่น กลับทัดเทียมกับการโจมตีของจอมยุทธ์พรสวรรค์ หลัวซิวจะหลบได้จริงไหม
ปราณกระบี่สีทองรวดเร็วมาก เห็นข้างบนเวทีดวลความเป็นตาย มีหลัวซิวทั้งหมด 8 คน ในนั้นมีเงาเศษ 7 สาย และเป็นร่างจริง 1 ร่าง
“ตู้ม!”
ปราณกระบี่สีทองปราณหนึ่งพุ่งลงมา ทำให้เวทีดวลความเป็นตายระเบิด จนเกิดรูขนาดใหญ่ ไอร้อน ฝุ่นควันลอยคละคลุ้งไปทั่ว
เห็นบนเวทีดวลความเป็นตาย เงาเศษ 6 เงาของหลัวซิวโดนผลกระทบ และสลายไปจนหมด
“ฆ่า!”
หลินจิงหยุนตวาดเสียงดัง ปราณกระบี่อีกสองปราณ แยกออกไปฆ่าหลัวซิว ที่ยังเหลืออยู่สองคน ในนั้นต้องมีร่างจริงอยู่หนึ่งร่างแน่นอน
“ตู้ม!”
เกิดเสียงดังสนั่นอีกครั้ง สุดท้ายเงาเศษเงาหนึ่งสลายหายไป ในสายตาของหลัวซิว มีปราณกระบี่ปราณที่สาม พุ่งเข้ามาฆ่าอย่างรวดเร็ว เขาไม่มีโอกาสได้ใช้วิชาท่าร่างเพื่อหลบอีกแล้ว
ตอนนี้ทุกคนถึงกับหยุดหายใจ เพราะกลัวจะพลาดช่วงสำคัญเล็กๆ น้อยๆ ไป ปราณกระบี่สีทอง ทัดเทียมกับการโจมตีของจอมยุทธ์พรสวรรค์ หลัวซิววจะรับมือไหวไหม
“วิชากระบี่สะท้อนแสง!”
กระบี่เงามืดออกจากฝัก จุดตันเถียนในวงล้อแห่งชีวิตและความตาย หมุนอย่างรวดเร็ว ความเป็นและความตายถาโถมเข้ามา ส่งผ่านเข้ามาในกระบี่
“ตู้ม!”
ระหว่างที่หลบจนไม่สามารถหลบได้ กระบี่ในมือหลัวซิว ปะทะกับปราณกระบี่สีทอง
เพียงพริบตา หลัวซิวเหมือนโดนสายฟ้าโจมตี กระเด็นออกไปพร้อมกระบี่ ปราณกระบี่แฝงไปด้วยพละกำลังอันน่ากลัว ทำให้ผิวหนังของเขาสะเทือนจนแตกออก เหมือนทั้งตัวกำลังจะแตกกระจาย
เมื่อโจมตีหลัวซิวจนกระเด็นออกไปอย่างรุนแรง แสงของปราณกระบี่สีทอง หม่นหมองลงเล็กน้อย แต่พลังยังไม่เสียหาย พุ่งไปโจมตีหลัวซิวต่อ
“วิชากระบี่พรากชีวี!”
กระบี่เงามืดในมือถูกส่งออกไปอีกครั้ง พลังแห่งความตายสีดำ แผ่ซ่านออกมา
การปะทะครั้งนี้ แข็งแกร่งมาก ปราณกระบี่สีทอง ที่มีพลานุภาพไร้เทียมทาน ในที่สุดก็ถูกทำลาย ส่วนเสื้อผ้าบนตัวหลัวซิวขาดลุ่ย เนื้อตัวเต็มไปด้วยเลือด บนผิวหนังไม่มีส่วนไหนสมบูรณ์เลย
ชิ้ง!
เขาคุกเข่าข้างหนึ่งลงบนพื้น ใช้กระบี่เงามืดยันตัวเอาไว้ ด้านหลังเขา คือขอบเวทีดวลความเป็นตาย อีกแค่นิดเดียว เขาจะหล่นลงไปแล้ว
พลังรุนแรงภายในร่างกาย พลุ่งพล่านไปทั่วร่างกาย จนทำให้หลัวซิวกระอักเลือดออกมา