เมื่อคืน?
เรื่องเมื่อคืนอะไรหรอ
ซูฉิงมองฮ่อหยุนเฉิงอย่างระวัง แล้วก็นวดขมับ แล้วก็พยายามนึก
เธอนึกขึ้นได้แล้ว เมื่อคืนเธอนัดยวี๋น่าออกมาดื่มเหล้าที่บาร์ จากนั้นก็ได้เจอกับพวกนักเลงอาซาน แล้วก็ไม่ทันระวังโดยวางยา
ต่อมา ฮ่อหยุนเฉิงก็มาช่วยเธอ เธอจำได้แค่นี้ แล้วก็รู้สึกร้อนรุ่มไปทั่ว แล้วก็จำอะไรไม่ได้แล้ว
หลังจากนึกถึงความทรงจำ ซูฉิงก็รีบสำรวจดูตัวเอง
ยังดีที่ไม่มีอะไรผิดปกติ
ซูฉิงยังถามอย่างไม่วางใจ “เมื่อคืนนาย…….ไม่ได้ทำอะไรใช่มั้ย”
ฮ่อหยุนเฉิงมองผู้หญิงตรงหน้าที่ทำท่าทางตื่นตระหนกก็รู้สึกเบาใจ”ทำไม เธออยากให้ฉันทำอะไร”
“ไม่ทำอะไร!”ซูฉิงจ้องฮ่อหยุนเฉิงตาเขม็ง
ซูฉิงก็พ่นลมหายใจโล่งเบาๆ เธอยังโชคดีอยู่บ้าง โชคดีที่ได้เจอฮ่อหยุนเฉิง และก็โชคดีที่เขายังเป็นสุภาพบุรุษมากพอ
ไม่อย่างงั้นละก็ เมื่อคืนจะต้องเจออันตรายแน่
“แค่ก ๆๆ……..”และในทันใดนั้นเอง ฮ่อหยุนเฉิงก็ไอ้ขึ้นมา
“นายเป็นอะไร ไม่สบายหรอ ‘ซูฉิงถามอย่างสงสัย
ฮ่อหยุนเฉิงไอแระแอม “เป็นหวัดน่ะ”
“เป็นหวัดหรอ “ซูฉิงถามอย่างเป็นห่วง “ยังดีๆ อยู่ทำไมถึงเป็นหวัดได้”
อย่างที่เธอรู้ ร่างกายของฮ่อหยุนเฉิงดีมาก เมื่อวานเขายังดีอยู่เลย ทำไมถึงได้เป็นหวัดได้
ฮ่อหยุนเฉิงจ้องเข้าไปในดวงตาของซูฉิง แล้วก็พูดอย่างมีเลศนัยว่า”เพราะเธอไงล่ะ”
ถ้าไม่ใช่เพราะผู้หญิงคนนี้โดยยาเมื่อคืน เข้ามาคลอเคลียเขาไม่ปล่อย เขาคงจะไม่ต้องเข้าไปอาบน้ำเย็น และคงจะไม่เป็นหวัดอย่างนี้หรอกมั้ย
“เพราะฉันงั้นหรอ”ซูฉิงถามอย่างแปลกใจ
แม้เธอจะฉลาดกว่านี้ ก็คิดไม่ออกว่าฮ่อหยุนเฉิงเป็นหวัดนี่เกี่ยวอะไรกับเธอ
และตอนที่รับประทานอาหารเช้า ซูฉิงเคยชินที่จะหยิบโทรศัพท์มาอ่านข่าว ทันใดนั้นก็เห็นข่าวที่ดึงดูดสายตาของเธอ
[รายงานข่าวพิเศษ เมื่อคืนตำรวจเข้าปฏิบัติการ เข้าจับกุมนักเลงที่อันตรายต่อสังคม]
และมีภาพประกอบ ในรูปมีไม่กี่คน และก็เป็นบาร์ที่ซูฉิงถูกอาซานที่เป็นนักเลงเข้ามาลวนลาม
ซูฉิงวางโทรศัพท์ลง แล้วมองไปคนที่อยู่ตรงหน้าเธอ ผู้ชายที่นั่งกินข้าวเช้าอย่างสบายอารมณ์ “อาซานถูกจับแล้ว เป็นฝีมือนายหรอ”
“คิดว่าไงล่ะ “ฮ่อหยุนเฉิงหยุนชะงักตะเกียบที่อยู่ในมือ แล้วย้อนถาม
“ทำได้ดีมาก! คนเลวอย่างนั้น ควรจะถูกจับต้องนานแล้ว จะได้ไม่ไปทำอันตรายให้ผู้หญิงคนอื่นอีก”ซูฉิงพูดชมพร้อมพยักหน้า
ฮ่อหยุนเฉิงหรี่ตาลงแล้วก็พูดน้ำเสียงเรียบ”คนอื่นก็ช่าง แต่กล้าที่จะมารังแกผู้หญิงของฮ่อหยุนเฉิง มันก็สมควรตาย”
ผู้หญิงของฮ่อหยุนเฉิง………
ซูฉิงทำปากยื่น เธอก็เป็นตัวเธอเอง ไม่ได้เป็นของใครทั้งนั้น
หลังจากกินข้าวเช้าเสร็จ ทั้งสองก็เดินทางมาที่ตระกูลฮ่อกรุ๊ป
ระหว่างทาง ซูฉิงก็เห็นฮ่อหยุนเฉิงไอไม่หยุด
และซูฉิงก็ไม่เข้าใจว่าทำไมฮ่อหยุนเฉิงถึงบอกว่าเป็นเพราะเธอเขาถึงได้เป็นหวัด เธอเลยถือโอกาสช่วงเวลาพักไปซื้อยาที่ร้ายขายยาเป็นยาแก้หวัดมาหนึ่งขวด
เพราะเมื่อคืนก็ถือว่าฮ่อหยุนเฉิงได้ช่วยชีวิตเธอไว้
ที่ห้องท่านประธาน
หลินเหยียนเฟิงเคาะประตู
“เข้ามา”ฮ่อหยุนเฉิงสั่งอนุญาตด้วยน้ำเสียงแหบ
จากนั้นหลินเหยียนเฟิงก็ผลักประตูเข้ามา แล้วเดินเข้ามาหาฮ่อหยุนเฉิงโค้งคำนับรายงาน”ประธานฮ่อ เรื่องที่คุณให้ไปสืบ คนที่จ่ายเงินให้กับหวังยี่ชี่ สืบได้เรื่องแล้วครับ”
“เป็นใคร”ฮ่อหยุนเฉิงวางเอกสารลง แล้วก็เงยหน้าขึ้นถาม
หลินเหยียนเฟิงยื่นเอกสารที่สืบมาได้ให้กับฮ่อหยุนเฉิง “บัญชีที่โอนเงินให้กับหวังยี่ชี่ได้ทำการลบชื่อบัญชีไปแล้ว พวกเราตามสืบต่อ ก็พบว่าเป็นบริษัทกระเป๋าหนังของออสเตรเลียชื่อว่า ‘DAYANG’ และได้เลิกขายแล้ว”
“แล้วตัวแทนทนายล่ะ “ฮ่อหยุนเฉิงถามเสียงเรียบ
หลินเหยียนเฟิงรู้สึกหมดความอดทน “เป็นชาวนาออสเตรเลีย นอกนั้นก็ไม่ทราบเรื่องแล้วครับ”
“สืบต่อ”ฮ่อหยุนเฉิงพูดเสียงเรียบ
เรื่องนี้เหมือนจะยิ่งไม่ธรรมดาแล้ว
ใครกันแน่ที่อยู่เบื้องหลังบงการหวังยี่ชี่นะ
การตายของหวังยี่ชี่ ไม่ใช่เรื่องที่เป็นอุบัติเหตุใช่มั้ย
และเวลานี้เอง ซูฉิงถือเอายาแก้หวัดเข้ามา เห็นประตูห้องประธานเปิดแง้มอยู่ ก็เคาะเบาๆ
“เข้ามา ” ฮ่อหยุนเฉิงก็มองเห็นเงาเรียวสวยยืนอยู่หน้าประตู จากน้ำเสียงที่เย็นชาก็เปลี่ยนเป็นอ่อนโยนลงไปทันที
หลินเหยียนเฟิงที่เห็นซูฉิงเดินเข้ามาก็รู้ตัว “ประธานฮ่อ งั้นผมขอตัวก่อนครับ”
ฮ่อหยุนเฉิงพยักหน้าเบาๆ
หลินเหยียนเฟิงหันหลังเดินออกไปจากห้องประธานใหญ่ แล้วก็ปิดประตูให้ด้วยอย่างรู้ความ
“ซูฉิง เธอเคยได้ยินชื่อDAYANG มั้ย “ฮ่อหยุนเฉิงเอ่ยปากถาม
“DAYANG? คืออะไรหรอ ชื่อคน? ชื่อสถานที่?”ซูฉิงที่ไม่รู้อะไรเลย ในหัวตอนนี้ก็กำลังคิดว่าตนไม่เคยได้ยินชื่อDAYANG นะ
ฮ่อหยุนเฉิงเล่าเรื่องที่ให้หลินเหยียนเฟิงไปสืบเล่าให้ซูฉิงฟัง “ฉันจะให้เขาสืบต่อ”
ซูฉิงพยักหน้า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่แปลกมาก
ใครกันที่เป็นคนบงการ และคนผู้นี้มีเป้าหมายอะไร
“มาหาฉันมีธุระอะไรหรอ?”น้ำเสียงน่าดึงดูดของฮ่อหยุนเฉิงหยุดความคิดของซูฉิง
ซูฉิงดึงสติกลับมา แล้วยื่นยาแก้หวัดให้กับฮ่อหยุนเฉิง”ยานี้ดีมากเลย นายลองเอาไปกินดู”
“หรอ”ฮ่อหยุนเฉิงยื่นมือรับขวดยามาอยู่ในมือ
โดยที่ปลายนิ้วสัมผัสกับมืออุ่นของซูฉิง ฮ่อหยุนเฉิงถึงกับสูดลมหายใจ
เรื่องเมื่อคืนในรถ ภาพท่าทางออดอ้อนของซูฉิง ก็ปรากฏอยู่ในหัวของเขาขึ้นมาอีกครั้ง
ฮ่อหยุนเฉิงหลับตาสงบสติอารมณ์ แล้วก็พูดเสียงเรียบ”ยาขมจะตาย ฉันไม่กิน นอกเสียจากว่า………”
“นอกเสียจากอะไร” ซูฉิงที่รู้สึกแปลกใจ มีคนป่วยที่ไหนบ้างไม่ยอมกินยา
ฮ่อหยุนเฉิงอมยิ้มมองผู้หญิงตรงหน้า แล้วก็พูดเสียงเบาว่า”นอกเสียจากว่าเธอจะป้อนฉัน”
“ฮ่อหยุนเฉิง นายอย่ามาได้คืบแล้วจะเอาศอกนะ!”ซูฉิงมองหน้าเขาอย่างเอาเรื่อง
ยาที่ซื้อให้เขาถือว่าไม่เลว ยังจะให้เธอไปป้อนเข้าอีก ฝันไปเถอะ!
ฮ่อหยุนเฉิงทำหน้าสลด “เธอทำกับคนที่มีพระคุณกับเธออย่างนี้หรอ เมื่อคืนถ้าไม่ใช่ฉัน ป่านนี้เธอถูกอาซานเอาตัวไปแล้ว”
ซูฉิงมองอย่างหน้าเครียด ปกติก็หน้านิ่งขรึมราวกับภูเขาน้ำแข็งแล้ว ผู้ชายเยื่อหยิ่งทะนงตนตอนนี้ทำไม่เป็นอ้อนเธองั้นหรอ
ก็ได้……
เมื่อคืนเขาก็เป็นคนช่วยเธอจริงๆ นี่
ซูฉิงหยิบเม็ดยาออกมาหนึ่งเม็ดแล้วป้อนเข้าปากฮ่อหยุนเฉิง “ไม่มีครั้งหน้าแล้วนะ!”
ปากบางของฮ่อหยุนเฉิงเม้มเข้า แล้วก็กัดเข้าที่นิ้วเรียวของซูฉิง
ท่าทางนี้เหมือนกับคู่รักเลย
“ซีด……..”ซูฉิงหน้าแดงเรื่อ สูดลมหายใจเข้า แล้วรีบชักมือกลับ พูดอย่างโมโห”ฮ่อหยุนเฉิง นายมันหมาบ้ารึไง กล้ากัดคนอีกหรอ”
แต่แววตาที่นิ่งลึกของฮ่อหยุนเฉิงเอาแต่จ้องเธอ พูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่า”ซูฉิง ยังมีเวลาอีกสองเดือน”
ซูฉิงอึ้ง “อะไรอีกสองเดือน”
“ถ้าหากภายในสองเดือน ฉันสามารถทำให้เธอรักฉันได้ เมื่อถึงตอนนั้นเธออยู่ที่นี่ต่อได้มั้ย”แววตานิ่งลึกของฮ่อหยุนเฉิง ที่บ่งบอกถึงอารมณ์ที่ซับซ้อนอย่างดูไม่ออก