ตอนที่ 325 บุญคุณช่วยชีวิต
“คุณก็รู้จักกลัวนี่ ทำไมตอนวางแผนให้ร้ายคนอื่นถึงไม่คิดถึงผลลัพธ์ล่ะ!” อวี๋เยว่หานทำหน้าบึ้ง สะบัดเธอทิ้งทั้งๆ ที่ไม่ขยับ
ถ้าไม่ใช่เพราะเหนียนเสี่ยวมู่ฉลาดพอ ตอนนี้คงตดิกับ และคนที่ถูกส่งไปยังสถานีตำรวจคงจะเป็นเธอ!
พอคิดถึงตรงนี้ ดวงตาของเขาก็เริ่มคุกรุ่น
เลือดขึ้นหน้าราวกับอสูรที่มาจากขุมนรก
ทุกคนต้องรับผิดชอบผลของการกระทำของตนเอง เหวินหย่าไต้ก็ไม่มีข้อยกเว้น!
เธอเขวี้ยงโทรศัพท์มือถือเครื่องหนึ่งได้ จะสลัดตนเองหลุดจากเรื่องเลวร้ายที่เคยทำได้หรือไม่
อวี๋เยว่หานส่งสายตาให้ผู้ช่วยเตรียมออกไปโทรศัพท์
“อย่า”
เหวินหย่าไต้เห็นขาขขยับตัว จึงลุกขึ้นยืนทันควัน สองมือกุมหัว พลางถอยหลังไปตามโต๊ะห้องประชุมไม่ยอมหยุด
แต่อยู่ๆ ก็หยุดลง
แล้วยื่นมือไปหยิบแก้วน้ำตรงหน้าเขาขึ้นมาขว้างลงกับพื้นอย่างแรง
ตอนที่ทุกคนยังไม่รู้สึกตัว เธอก็คว้าเศษแก้วขึ้นมากดลงบนข้อมือของตนเอง
“อวี๋เยว่ คุณเคยบอกว่าคุณติดหนี้ชีวิตฉันครั้งหนึ่ง คุณต้องคืนฉัน!”
“…”
“ฉันติดคุกไม่ได้ ถ้าฉันติดคุก ชีวิตนี้ของฉันจบเห่แน่!”
แทนที่จะรอให้ถึงตอนนั้น หรือถูกทุกคนดูถูก
เธอตายเสียตอนนี้ดีกว่า…
เหวินหย่าไต้เงยหน้าขึ้น มองอวี๋เยว่หานทั้งน้ำตา
“บริษัทตระกูลอวี๋เป็นของคุณ ขอแค่คุณไม่สืบสาว ฉันก็จะไม่เป็นอะไรทั้งนั้น ฉันขอร้องคุณล่ะ อย่าให้ฉันติดคุกเลย!”
ผู้จัดการสาวพูด พลางออกแรงมือข้างที่ถือเศษแก้วอยู่ ทำให้บนข้อมือของเธอเกิดรอยเลือดขึ้นทันที
เลือดสีแดงสดไหลออกมาจากในหลอดเลือดอย่างรวเร็ว…
“อ๊าย!”
เพื่อนร่วมงานสาวที่ใจเสาะตกใจกับภาพนี้จนร้องกรี๊ดออกมา
บรรยากาศทั้งห้องประชุมแข็งทื่อไปในทันที
ทุกคนต่างก็ตกใจกับเหวินหย่าไต้ที่ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว จึงพากันถอยหลัง ไม่กล้าเข้าไปยั่วยุเธอ
“คุณบ้าไปแล้วเหรอ!”
อวี๋เยว่หานคิดไม่ถึงว่าเธอจะทำอะไรบุ่มบ่ามแบบนี้ เขาลุกขึ้นไปยืนขวางข้างหน้าเหนียนเสี่ยวมู่อย่างไม่คิดอย่างรวดเร็ว เพื่อปกป้องหญิงสาวเอาไว้
จากนั้นถึงจะมองไปทางเหวินหย่าไต้ อยากจะไปคว้าเศษแก้วในมือของอีกฝ่ายมา
“คุณอย่าเข้ามานะ!”
เหวินหย่าไต้เห็นเขาเข้ามาใกล้ จึงถอยหลังอย่างรวดเร็ว จนตัวเธอแนบสนิทอยู่กับผนังแล้ว
ดวงตาทั้งสองข้างของเธอแดงก่ำเหมือนเลือดแล้ว
แถมยังตัวสั่นไปทั้งตัว
ดูท่าทางอีกไม่นานเธอคงทนไม่ไหวแล้ว
เหนียนเสี่ยวมู่อึ้งงันอยู่นาน ถึงจะดึงสติกลับมาได้
ครั้นเห็นเหวินหย่าไต้ที่แทบจะเป็นบ้าอยู่ข้างหน้า ในหัวของเธอก็มีคำพูดของอีกฝ่ายดังวนเวียนอยู่ตลอด
เธอรู้เพียงว่า เหวินหย่าไต้เป็นมือซ้ายและมือขวาของอวี๋เยว่หาน และอวี๋เยว่หานก็เกรงใจเหวินหย่าไต้ด้วย
วันนี้ถึงได้รู้ว่า เดิมทีพวกเขารักกันมาตั้งแต่เด็ก
เหวินหย่าไต้ยังเคยช่วยเขาด้วย…
เป็นบุญคุณช่วยชีวิต
ระหว่างพวกเขา ยังมีความลับที่คนนอกไม่รู้อยู่เยอะแยะเลยสินะ?
ไม่รู้ว่าทำไม ในอกของเหนียนเสี่ยวมู่ถึงรู้สึกอึดอัดขึ้นมากะทันหัน
เธอหันหลังให้อวี๋เยว่หาน มองไม่เห็นสีหน้าคลุมเครือของเขาในตอนนี้
ราวกับว่าเขานึกถึงภาพที่ไม่อยากคิดถึง ในดวงตาสีดำของเขาส่องประกายอันดำมืดเสียจนทำให้คนรู้สึกหวาดหวั่น
ริมฝีปากบางขยับเล็กน้อย แต่พูดชัดถ้อยชัดคำ
“ประกาศออกไป ไล่เหวินหย่าไต้ออก ไม่มีวันจ้างเธออีก! ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ไม่อนุญาตให้เธอเหยียบเข้ามาที่บริษัทตระกูลอวี๋และคฤหาสน์ตระกูลอวี๋แม้แต่ครึ่งก้าว!”
“…” เศษแก้วที่เหวินหย่าไต้บีบไว้ในมือหลุดออกจากฝ่ามือด้วยความตกใจ
เขาไม่อยากเห็นหน้าเธออีก ตลอดไป…
ตอนที่ 326 เธอพลาดไปแล้วจริงๆ
สำหรับเธอแล้ว อวี๋เยว่หานเป็นคนที่หญิงสาวตามจีบมาสิบกว่าปี การมีอยู่ของเขาเหมือนแสงสว่าง
เธอไม่กลัวอะไรทั้งนั้น กลัวแต่ว่าจะไม่ได้เจอเขาอีก
แต่ตอนนี้ เธอไม่มีอะไรอีกแล้ว…
เหวินหย่าไต้เหมือนร่างกายไร้เรี่ยวแรง เป็นอัมพาตอยู่ที่พื้น
เธอพลาดไปแล้ว
พลาดไปแล้วจริงๆ…
เมื่อเห็นเหวินหย่าไต้ไร้สติ ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆ จึงก้าวเข้าไปอย่างเร็วรี่ เขากดเธอเอาไว้ ก่อนจะดึงเนคไทของตนเองออกมาพันแผลบนข้อมือของเธอ
แผลไม่ได้ลึกมาก ไม่นานก็น่าจะหยุดเลือดได้แล้ว
ไม่มีอันตรายถึงชีวิต
เพียงต่สีหน้าของเหวินหย่าไต้กลับซีดเผือดเหมือนคนตาย
ตั้งแต่ได้ยินประโยคนั้นของอวี๋เยว่หาน เธอก็เหมือนตุ๊กตาที่ถูกดึงวิญญาณไป
ไม่มีปฏิกิริยาอะไรทั้งนั้น
ปล่อยให้ผู้ช่วยดึงเธอขึ้นจากพื้น ก่อนที่เขาจะบอกให้บิดีการ์ดสองคนเข้ามาพยุงเธอออกไป
และนำตัวหวางเมี่ยวเมี่ยวที่ตื่นกลัวไปด้วย
เรื่องที่เธอเคยทำ ถึงแม้ไม่ต้องติดคุก แต่วงการล่ามก็ไม่มีที่ให้เธอยืนแล้ว!
ในห้องประชุมตกอยู่ในความเงียบงัน
ผ่านไปนานทีเดียว ทุกคนถึงจะได้สติกลับมา
ผู้จัดการหลินจากผนกออกแบเดินเข้ามาก้าวหนึ่ง “คุณชายครับ ในเมื่อหาตัวหนอนบ่อนไส้เจอแล้ว งั้นงานแถลงข่าวในตอนบ่ายของพวกเรายังจะจัดตามเวลาเดิมไปมครับ”
เมื่อได้ยินคำถามของเขา เหนียนเสี่ยวมู่พลันเดินออกมาจากข้างหลังของอวี๋เยว่หาน แล้วหยิบยูเอสบีออกมาจากในกระเป๋าของตนเอง
“ข้างในนี้คือแผนงานของจริงที่ส่งมาจากสตูดิโอของมิสเตอร์ลอมบาร์ดีค่ะ”
“ดีจังเลยครับ!” เมื่อผู้จัดการหลินแน่ใจแล้วว่าแผนงานไม่ได้รั่วไหลจริงๆ เขาก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งใจทันที
คู่แข่งใช้แผนงานปลอมที่พวกเขาจงใจปล่อยออกไป คิดว่าทำอย่างนี้จะต้องชนะพวกเขาได้แน่
แต่ผลลัพธ์ดันกลับตาลปัตรกัน
ตอนนี้แผนงานของจริงอยู่ในมือของพวกเขา อีกฝ่ายถูกปั่นหัวแล้ว
เมื่อถึงงานแถลงข่าวในตอนบ่าย จะต้องหักหน้าพวกเขาได้อย่างจังแน่นอน!
ผู้จัดการหลินกำยูเอสบีในมือจนแน่น เงียบอยู่ครู่หนึ่ง ถึงจะเอ่ยปากอีกครั้ง
“คุณชายหาน ผู้จัดการเหวิน…ตอนนี้เหวินหย่าไต้ถูกไล่ออกไปแล้ว แต่แผนกประชาสัมพันธ์ยังมีงานมากมายต้องการคนมาจัดการต่อ”
“คุณคิดจะพูดอะไร” อวี๋เยว่หานตาแข็ง
“คราวนี้ซูเปอร์ไวเซอร์เหนียนผลงานโดดเด่น พวกคนเธอก็เป็นคนของแผนกประชาสัมพันธ์อยู่แล้ว มีความเข้าใจต่อการประชาสัมพันธ์เพียงพอ ให้เธอรับตำแหน่งผู้จัดการต่อน่าจะดีนะครับ!” ผู้จัดการหลินพูดจบในคราวเดียว และมองเขาด้วยความตื่นเต้นอยู่บ้าง
เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋เยว่หานก็ช้อนสายตามองไปรอบๆ เล็กน้อย
เพื่อนร่วมงานคนอื่นได้ยินผู้จัดการหลินพูดแล้ว แต่ไม่มีใครต่อต้าน
ตรงกันข้าม ทุกคนเห็นความสามารถของเหนียนเสี่ยวมู่แล้ว เพื่อนร่วมงานในแผนกประชาสัมพันธ์หลายๆ คนจึงพยักหน้าเห็นด้วย
เขาหลุบตาลง “ตั้งแต่วันนี้ไป เหนียนเสี่ยวมู่เลื่อนขั้นเป็นผู้จัดการแผนกประชาสัมพันธ์อย่างเป็นทางการ”
“ยินดีด้วยค่ะซูเปอร์ไวเซอร์เหนียน!”
“ยินดีด้วยค่ะ!”
“ตอนนี้ควรเรียกผู้จัดการเหนียนแล้ว!”
“…”
เหนียนเสี่ยวมู่ได้ยินเสียงแสดงความยินดีดังอยู่ข้างหู เธอตะลึงงันไปเล็กน้อย
เธอเพิ่งเข้ามาที่บริษัทตระกูลอวี๋ได้ไม่นาน อวี๋เยว่หานจะให้เธอเป็นผู้จัดการจริงๆ เหรอ
หญฺงสาวเงยหน้าขึ้นมองเขาทันใด
วินาทีต่อมากลับพบว่าสีหน้าของเขาแปลกไปบ้าง…
นัยน์ตาสีดำหยั่งลึก มีความห่างเหินแผ่ออกมาจากบนตัวของเขา
เพื่อนร่วมงานรอบข้างพากันทยอยออกจากห้องประชุม เหนียนเสี่ยวมู่กำลังลังเลว่าต้องออกไปก่อนหรือเปล่า แต่เธอยังไม่ทันก้าวขาเดินไป ข้อมือของเธอก็ถูกใครคนหนึ่งล็อกเอาไว้แล้ว!