บทที่ 145 บอสคนใหม่ของฉางหยางเกมส์

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

ด้วยงบที่มีจำกัด เฟยหวงสตูดิโอจึงไม่สามารถทำสารคดีฟอร์มยักษ์ได้

สารคดีที่เผยเชียนคิดว่าประสบความสำเร็จอย่าง ‘A Bite of China’ ที่โด่งดังไปทั่วประเทศใช้ทุนสร้างมหาศาล นอกจากจะไปถ่ายทำทั่วประเทศแล้ว อุปกรณ์ที่ใช้ยังเป็นของแพงสุดๆ อีก

ตอนนี้ทุนของเฟยหวงสตูดิโอคือครึ่งหนึ่งของกำไรที่ทำได้จากซีรีส์ชีวิตประจำวันของบอสเผย ซึ่งมีอยู่ประมาณล้านกว่าๆ จำนวนแค่นี้ไม่พอเป็นทุนสร้างแน่

เป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาจะถ่ายทำสารคดีแบบ A Bite of China ได้

แต่เผยเชียนก็ไม่ได้วางใจ

ถ้าเผยเชียนรู้ว่าเรื่องนี้คือปัญหา จูเสี่ยวเช่อก็น่าจะรู้เหมือนกัน

เขาต้องรู้แน่

จูเสี่ยวเช่อเป็นผู้กำกับมากความสามารถ ถ้าเขาอยากถ่ายสารคดีก็แสดงว่าต้องมองเห็นโอกาสที่จะประสบความสำเร็จ

เผยเชียนโดนหลอกมาแล้วครั้งหนึ่ง เขาไม่ยอมปล่อยให้ตัวเองโดนหลอกเป็นครั้งที่สองแน่ สารคดีนี่ต้องทำเงินได้ไม่มากก็น้อย

แต่ถ้าเทียบกับคลิปสั้น สารคดีทุนสร้างน้อยก็น่าจะทำเงินได้น้อยกว่ามาก เพราะงั้นคงไม่เป็นไรหรอก

คิดได้อย่างนั้น เผยเชียนก็ตอบออกไป “โอเค ผมจะคอยหนุนหลังเอง”

เขาพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบเพราะไม่ได้ออกมาจากใจจริง

หวงซื่อปั๋วดีใจมาก “ขอบคุณมากครับบอสเผย!”

พอวางสายเสร็จ เผยเชียนก็ถามเรื่องฉางหยางเกมส์

เลขาซินรายงานสถานการณ์คร่าวๆ ตอนนี้ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น เผยเชียนจะได้พบพนักงานใหม่และมอบหมายงานให้พวกเขาวันจันทร์หน้า

 เผยเชียนหยุดคิดอยู่ครู่หนึ่ง “วันจันทร์เหรอ… ผมต้องไปที่นู่นด้วยเหรอ”

เลขาซินกระแอมกระไอสองหน “บอสต้องไปอยู่แล้วค่ะ บอสมีความสำคัญกับบริษัทมาก ดิฉันคิดว่าบอสเผยควรไปกล่าวอะไรสักเล็กน้อย ไม่อย่างนั้นพนักงานที่ฉางหยางเกมส์จะทำอะไรกันตามใจชอบ ปล่อยไปอาจจะควบคุมไม่ได้ขึ้นมา”

เผยเชียนคิดทบทวนที่เลขาซินพูดแล้วรู้สึกว่าฟังดูสมเหตุสมผลดี

เลขาซินบอกว่าเผยเชียนควรไปแสดงตัวให้พวกเขาไว้วางใจและชี้นำทางพนักงานทั้งหมดของฉางหยางเกมส์

ขณะเดียวกัน เขาก็นึกกังวลว่าพนักงานเหล่านี้จะสร้างปัญหาให้เขาหรือเปล่า ปล่อยให้ทำงานกันตามอำเภอใจ พวกนั้นอาจจะทำให้บริษัทฟื้นกลับมาทำกำไรก็ได้

ถึงจะซื้อต่อกิจการมาหลังจากไตร่ตรองอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว เขาก็คิดว่าฉางหยางเกมส์ในตอนนี้มีข้อแตกต่างจากฉางหยางเกมส์ในอดีต

อย่างหนึ่งคือหัวหน้าหลิวลาออกไปแล้ว หัวหน้าฝ่ายวางแผนในตอนนี้คือหวังเสี่ยวปิน

อีกอย่างคือตู้รุ่ยเจี๋ยไม่อยู่แล้ว

ทั้งสองคนถือเป็นฟันเฟืองสำคัญในการทำให้ฉางหยางเกมส์ขาดทุน

เผยเชียนกังวลใจเล็กน้อยที่ทั้งสองคนไม่อยู่แล้ว

เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่เกิดความผิดพลาดขึ้น เผยเชียนจึงตัดสินใจจะไปโชว์ตัวที่บริษัท

เพราะนี่ก็น่าจะเป็นครั้งเดียวที่เขาจะไปที่นั่น เขาจะไม่โผล่หัวไปอีกเพื่อจะได้มั่นใจว่าตนเองจะไม่ไปสร้างผลกระทบอะไรให้กับฉางหยางเกมส์

ดูจากสิ่งที่เกิดขึ้นที่เถิงต๋า เผยเชียนก็ไม่มั่นใจในความสามารถด้านการออกแบบเกมของตัวเองอีก เขาไม่อยากเสี่ยง

คงจะตลกร้ายน่าดูถ้าเผยเชียนเผลอพูดอะไรขึ้นมาแล้วทำให้เกิดความฉิบหายวายวอดเหมือนตอนเกมฐานทัพกลางทะเล

“โอเคครับ งั้นมารับผมตอนเช้าวันจันทร์ เดี๋ยวเราแวะไปฉางหยางเกมส์ก่อน”

เผยเชียนถอนหายใจเงียบๆ อยู่ภายใน

เป็นบอสคนนี่เหนื่อยจริงๆ

เช้าวันจันทร์

ที่ฉางหยางเกมส์

ยังเหลืออีกสิบนาทีก่อนจะถึงเวลาเริ่มงานของฉางหยางเกมส์ แต่พนักงานก็มารอกันพร้อมหน้าแล้ว

พวกเขาเฝ้าคอยกันอย่างใจจดใจจ่อ แต่ละคนนั่งหลังตรงจัดการเอกสารไม่ก็ง่วนอยู่กับเครื่องมือพัฒนาเกม ส่วนตาแอบชำเลืองมองตรงประตูเป็นพักๆ

ฉางหยางเกมส์ได้บอสคนใหม่แล้ว!

ไม่มีใครรู้ว่าบอสเผยผู้แสนลึกลับเป็นคนแบบไหน พวกเขาจึงตื่นตัวกันมากในการทำงานวันแรก กลัวว่าจะเผลอทำอะไรผิดพลาด

ทุกคนรู้ดีว่าสภาพการดำเนินงานของฉางหยางเกมส์ก่อนหน้านี้เลวร้ายแค่ไหน

ถ้าบอสเผยอยากใช้สิทธิ์ไล่คนที่มาทำงานสายออกคงจะซวยน่าดู

ดังนั้นทุกคนจึงตื่นตัวกันสุดๆ ไม่กล้าทำอะไรผิดพลาดแม้แต่นิดเดียว

หวังเสี่ยวปินรู้สึกกดดันกว่าคนอื่น

เขาควรจะพาบริษัทเดินไปข้างหน้าในฐานะที่เป็นหัวหน้าฝ่ายวางแผน แต่กลับไม่มั่นใจในความสามารถของตัวเองเลย

หัวหน้าหลิวหางานใหม่ได้แล้ว เมื่อดูจากประสบการณ์ทำงานของแต่ละคนก็เป็นเรื่องธรรมดาที่หวังเสี่ยวปินซึ่งเป็นนักออกแบบระบบจะได้ขึ้นมาทำตำแหน่งนี้

ถ้าเป็นคนอื่นคงจะโดนวิจารณ์เอาและตู้รุ่ยเจี๋ยก็ไม่ค่อยวางใจ

หวังเสี่ยวปินไม่ได้คิดเรื่องนี้มากนัก เพราะยังไงก็หนีจากตำแหน่งนี้ไม่ได้ในเมื่อบอสตู้เป็นคนเลือกเขาเอง อีกอย่างตอนนั้นฉางหยางเกมส์ก็กำลังจะเจ๊ง เขาไม่คิดว่าตัวเองจะได้เป็นหัวหน้าฝ่ายวางแผนนานนัก

หวังเสี่ยวปินรู้ตัวดีว่าถึงตัวเองจะเก่งเรื่องทำตารางและคำนวณข้อมูลต่างๆ แต่เขาไม่สามารถรับผิดชอบงานค้นคว้าและพัฒนาเกมทั้งโปรเจ็กต์ได้ รวมถึงไม่สามารถวางแนวทางการพัฒนาเกมได้ด้วย

ดังนั้นหวังเสี่ยวปินจึงตัดสินใจจะบอกความจริงกับบอสเผยวันนี้ หวังว่าบอสเผยจะให้นักออกแบบที่มีประสบการณ์จากเถิงต๋ามาเป็นหัวหน้าฝ่ายวางแผนแทน เขาจะได้ทำงานให้หัวหน้าฝ่ายวางแผนคนใหม่ได้อย่างสบายใจ

ตรงโต๊ะทางซ้ายมือด้านหลังหวังเสี่ยวปิน ชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังแอบตอบข้อความในโทรศัพท์

ข้อความใหม่ของหม่าอี้ฉวินปรากฎขึ้นบนหน้าจอ “เป็นไงบ้างน้องเยว่ ฝ่ายบุคคลของเถิงต๋าติดต่อไปรึยัง”

เยว่จือโจวตอบกลับ “ยังครับ”

หม่าอี้ฉวิน “ไหงงั้น ฉันจำได้ว่าตอนไปคุยกับบอสเผย บอสเผยบอกว่าจะช่วยให้นายไม่ต้องนั่งเตะฝุ่น หรือบอสจะยุ่งจนลืม”

เยว่จือโจว “บอสเผยซื้อฉางหยางเกมส์มาแล้ว พี่ไม่รู้เหรอ”

หม่าอี้ฉวิน “???”

หม่าอี้ฉวินไม่ได้ตอบกลับไปพักใหญ่ เห็นได้ชัดว่าเขาตกใจกับเรื่องที่ได้ยินมาก

บอสเผยตั้งใจจะทำอะไรกัน

เขาแค่อยากให้บอสเผยช่วยเพื่อนของเขา ที่บอสบอกว่า ‘เพื่อนคุณไม่ได้นั่งเตะฝุ่นแน่’ หมายความว่าอย่างนี้เองเหรอ

บอสซื้อฉางหยางเกมส์มาเลยเนี่ยนะ!

หม่าอี้ฉวินและคนอื่นๆ ไม่รู้เรื่องนี้ เพราะเผยเชียนคิดว่ามันไม่เกี่ยวกับพวกเขาจึงไม่ได้บอกอะไรไป

ข่าวนี้ทำเอาเขาตกใจสุดๆ

“หรือบอสเผยจะเห็นว่าหวงซื่อปั๋วกับฉันมีความสามารถ เลยคิดว่าพนักงานของฉางหยางเกมส์จะเก่งเหมือนกันก็เลยเข้าซื้อกิจการมาเลย

“…คิดบ้าอะไรเนี่ย ไม่มีทางเป็นแบบนั้นหรอก”

หม่าอี้ฉวินเพิ่งจะออกจากฉางหยางเกมส์มาได้ไม่นาน เขารู้ดีว่าบริษัทนั้นห่วยแค่ไหน

ถ้าจะให้บรรยาย ก็บอกได้คำเดียวว่าห่วยบรม!

ทำไมบอสเผยถึงเข้าซื้อบริษัทที่กำลังจะเจ๊งกันนะ

เยว่จือโจวมองนาฬิกาแล้วพบว่าใกล้ถึงเวลาเริ่มงานแล้วจึงรีบพิมพ์บอกอีกฝ่าย “พี่หม่า ไว้ค่อยคุยกันนะครับ เดี๋ยวบอสเผยน่าจะมาแล้ว”

พอเก็บโทรศัพท์ไป เยว่จือโจวก็ทำเป็นจดจ่อกับงานบนคอมพิวเตอร์ตรงหน้า

ไม่นานเขาก็รู้สึกได้ว่าจู่ๆ บรรยากาศในโซนทำงานก็ตึงเครียดขึ้น

เขาเหลือบมองแล้วเห็นว่าบอสเผยมาถึงแล้ว!

แม้จะเคยเห็นบอสมาก่อน แต่เขาก็รู้สึกกดดันจากออร่าความมั่นใจของอีกฝ่าย

ถึงบอสเผยจะยังเด็ก แต่ก็มีออร่าพิเศษไม่เหมือนใครในทุกการเคลื่อนไหวที่อธิบายไม่ได้

จะอธิบายออร่านี้ยังไงดี…

ออร่าความรวยล้นมือเหรอ

ความมั่นใจ

ความมีเมตตา

หรือความเป็นปัจเจกบุคคล

จะคำไหนก็ดูเหมาะหมดเลย

ว่าง่ายๆ คือออร่านี้ทำให้บอสเผยไม่เหมือนพวกไร้อารยธรรม เป็นขั้วตรงข้ามของบอสตู้

พอนึกถึงเกมฮิตที่บอสเผยสร้าง ก็รู้สึกเหมือนบอสกำลังเปล่งแสง ไม่สามารถมองตรงๆ ได้

“ผู้นำจริงๆ ต้องเป็นแบบนี้สินะ บอสตู้ก็เป็นแค่พวกเศรษฐีใหม่

“นักออกแบบมากความสามารถจริงๆ ต้องเป็นแบบนี้!”

เยว่จือโจวแอบคิดอยู่ในใจ

………………..