ตอนที่ 267 ของขวัญ! + ตอนที่ 268 เรือเหาะอันหรูหรา!

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า

ตอนที่ 267 ของขวัญ!

“แหะๆ ข้าไม่ได้พูดเช่นนั้นขอรับ”

เฟิ่งจิ่วยิ้มเจื่อนๆ เห็นสีหน้าเขาถมึงทึง ในดวงตามีความอับอายและเคืองขุ่น จึงรีบร้อนเอ่ยว่า “รีบลุกเร็ว ผู้ชายสองคนอยู่ในสภาพเช่นนี้ไม่งามเลยจริงๆ!”

ได้ยินคำเช่นนี้ เจ้าตำหนักยมราชยิ้มอย่างขุ่นเคือง ถอยออกไปก้าวหนึ่งหยิบของออกมาจากในห้วงมิติ แล้วยัดใส่ในอ้อมแขนนางทันที ส่วนตัวเองหันตัวเดินไปทั้งสีหน้าทะมึน

เฟิ่งจิ่วอึ้งไป ยังไม่ทันได้ตอบโต้ก็สัมผัสเข้ากับขนสัตว์อ่อนนุ่มจึงก้มลงมอง ดวงตาเป็นประกายอย่างอดไม่ได้ “ว้าว! เจ้าหมาน้อยมาจากไหนกัน? งามยิ่งนัก!”

สิ่งของเล็กๆ ที่มีขนหนานุ่มสีขาวในอ้อมกอดอ้วนจ้ำม่ำ ตัวดั่งก้อนเนื้อ เส้นขนสีขาวราวหิมะปุกปุยเล็กน้อย ยามนี้กำลังถลึงสองดวงตาสีน้ำเงินเข้มจ้องมองมา รูปร่างเล็กๆ นั่นทำให้เธอเห็นแล้วอดใจไม่ไหวอยากจับมันมาลูบๆ ขน

“หมาน้อย!”

เธอเรียกด้วยความระรื่น แล้วพลันนึกถึงท่านเจ้าตำหนักที่หันตัวเดินไปผู้นั้น ครั้นเงยหน้ามองไปก็ไม่เห็นร่างเขาเสียแล้ว

“ดูไม่ออกเลยจริงๆ ว่าจะยกหมาน้อยตัวนี้ให้เราเป็นสัตว์เลี้ยง” เธอแอบกระซิบ ไม่ไปสนใจเขา แต่ลูบๆ ขนสุนัขตัวน้อยพลางหรี่ตาลงยิ้มพูด “ข้ามีเหล่าไป๋อยู่แล้ว งั้นเจ้าก็ชื่อเสี่ยวไป๋ เป็นยังไง?”

สิ้นเสียง เหมือนนึกถึงอะไรบางอย่างได้จึงกล่าวอีกว่า “เสี่ยวไป๋ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ นายคนก่อนของเหล่าไป๋ก็เป็นเสี่ยวไป๋นี่นา!”

“อืม ชื่อฉิวฉิวดีกว่า” เธอตบหัวเล็กๆ ของมันพลางพูด พร้อมตัดสินใจเรื่องชื่อ

ทว่าเฟิ่งจิ่วที่กอดฉิวฉิวไว้กลับไม่เห็น ดวงตาสีน้ำเงินเข้มของเจ้าตัวเล็กที่ฟุบอยู่ในอ้อมแขนนั้นเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว แต่กลับไม่กล้าทำอะไรเธอ ทำได้เพียงเป็น ‘หมาน้อย’ ตัวหนึ่งไปอย่างเชื่องๆ

วันต่อมา เมื่อเหลิ่งซวงเห็นนายท่านกอดเจ้าก้อนเนื้อกลมออกมาก็ผงะไปนิด ทว่าไม่ถามอะไรมาก บอกแค่ว่า “นายท่าน อาหารเช้าเตรียมไว้เรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ”

เฟิ่งจิ่วนั่งลงทานอาหารพลางป้อนให้ฉิวฉิวบ้าง กลับเห็นมันหันหน้าหนีด้วยความหยิ่งยโส รังเกียจกันนักอย่างเห็นได้ชัด

เห็นเช่นนี้เธอก็ไม่ใส่ใจ หลังทานอาหารเช้าจึงส่งฉิวฉิวให้เหลิ่งซวงไปดูแล ส่วนตัวเองไปยังเรือนด้านหน้า ว่าจะหารือเรื่องต่อจากนี้กับหัวหน้าเคอ

ในห้องโถง

“ฮ่าๆๆ น้องชายภูตหมอ เจ้ามาแล้ว มาๆๆ นั่งเถอะ”

หัวหน้าเคอให้คนยกชากับขนมมา รอจนเฟิ่งจิ่วนั่งลงแล้วถึงจะกล่าว “ครั้งนี้ตลาดมืดเราต้องขอบคุณท่านจริงๆ หากไม่มีท่านปีนี้ก็ไม่อาจคว้าชัยอันดับหนึ่งได้ แต่ที่ข้าต้องขออภัยอย่างมากคือการปล่อยให้น้องชายถูกคนตำหนักยมราชลักพาตัวไปเสียจนทำให้ตกใจ”

กล่าวจบเขาก็ยิ้มมองเฟิ่งจิ่ว บอกว่า “ข้าเตรียมของขวัญไว้มากมายเป็นพิเศษเพื่อขอบคุณเจ้า” เขาปรบมือ จากนั้นเห็นผู้อารักขาสองนายยกถาดเดินเข้ามา

เฟิ่งจิ่วมองไป เห็นบนถาดมีผ้าแดงคลุมไว้ มองไม่ออกว่าเป็นอะไร จึงไม่พูดไม่จา เพียงมองอยู่เงียบๆ ขณะมุมปากอมยิ้ม

หัวหน้าเคอก้าวเข้ามายกผ้าแดงออก บอกกับเฟิ่งจิ่วด้วยรอยยิ้มว่า “นี่คือปะการังหยกแดงใต้ทะเลลึก เป็นที่สุดในหมู่ปะการังทั้งปวง สามารถเอาไว้ใช้เชยชม มีผลทำให้จิตใจสงบ หนำซ้ำปะการังหยกแดงนี้อุดมไปด้วยพลังวิญญาณ หากวางไว้ในห้องนอนหรือสถานที่ฝึกบำเพ็ญจะยิ่งช่วยพัฒนาวรยุทธ์”

“ช่างเพลิดเพลินเจริญตานัก เป็นของดีจริงๆ” เฟิ่งจิ่วพยักหน้า สายตาหยุดลงบนปะการังสีแดงที่แวววาวงดงาม แล้วมองไปยังชิ้นที่สอง

“เหอะๆ ส่วนชิ้นที่สองนี้คืออาภรณ์เงินไหมสวรรค์ เป็นของที่ข้าหามาให้น้องชายเป็นพิเศษ” เขายกผ้าแดงนั้นออก เผยให้เห็นเสื้อสีขาวเงินด้านในที่ลักษณะคล้ายกับเกราะเบา

………………………………………………….

ตอนที่ 268 เรือเหาะอันหรูหรา!

หัวหน้าเคอมองอาภรณ์เงินไหมสวรรค์ตัวนั้น บอกว่า “ว่ากันตามจริง นี่เป็นวัตถุเวทที่มีความสามารถในการป้องกัน ต้านทานการโจมตีจากผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังได้ถึงสามครั้ง ระดับกำเนิดวิญญาณได้หนึ่งครั้ง เพียงสวมไว้มันจะขยายใหญ่ขึ้นหรือหดเล็กลงให้พอดีตามรูปร่างด้วยตัวเอง หากมีเสื้อตัวนี้อยู่ อีกหน่อยหากน้องชายพบอันตรายใดๆ ก็รับประกันเพิ่มได้อีกระดับหนึ่ง”

เห็นของขวัญสองอย่างนี้ สีหน้าเฟิ่งจิ่วอ่อนโยนขึ้นบางส่วน มองยังท่านหัวหน้าเคอก่อนประสานมือกล่าว “ชัดเจนว่าของขวัญสองชิ้นนี้ทำให้พี่เคอต้องลำบากไม่น้อย ข้าขอขอบคุณไว้ ณ ที่นี้ด้วย”

ได้ยินเขาเรียกพี่เคอ หัวหน้าเคอปลื้มปริ่มอยู่ในใจ ส่งเสียงหัวเราะดังลั่น “น้องชายชอบก็ดี ชอบก็ดี” พูดจบถึงหยิบของชิ้นหนึ่งออกมาจากในแขนเสื้ออีก พูดกับเฟิ่งจิ่วด้วยรอยยิ้มว่า “สองชิ้นนั้นคือของขวัญขอบคุณ ส่วนนี่เป็นรางวัลที่ครั้งนี้น้องชายช่วยให้ตลาดมืดคว้าอันดับหนึ่งมา”

“เจ้าดูสิ” เขาแบมือออก เผยให้เห็นเรือเล็กที่หรูหราประณีตลำหนึ่ง

“นี่คือ…” เฟิ่งจิ่วมองเขาอย่างแปลกใจ

“เหอะๆ นี่คือของพาหนะเหาะเหินได้ชั้นดี สามารถขยายใหญ่หรือย่อส่วนลง รองรับได้ถึงร้อยกว่าคน ภายในมีเครื่องมือครบครัน ของทั้งหมดที่จำเป็นมีครบทุกอย่าง เรียกได้ว่าเป็นเรือเหาะที่หรูหราเลย”

หัวหน้าเคอเห็นแววประหลาดใจในดวงตาหนุ่มน้อย จึงเอ่ยยิ้มๆ “มีเรือเหาะลำนี้แล้ว น้องชายอยากกลับแคว้นแสงสุริยันเมื่อใดก็ไปมาได้ตลอดเวลา ไม่เพียงเท่านี้ ในแคว้นระดับห้าลงไป หากมีเรือเหาะลำนี้แค่ลงบันทึกไว้เสียหน่อยก็เข้าไปได้ตามสะดวก”

เฟิ่งจิ่วรับมาดู บนหน้ามีรอยยิ้มฉายขึ้นมา “เช่นนี้ ข้าจะเก็บไว้”

ของชิ้นนี้ก็เหมือนเครื่องบินในยุคปัจจุบัน จะไปไหนล้วนสะดวกสบาย ช่างดีเหลือเกิน! ว่ากันด้วยราคาของวิเศษของที่นี่แล้ว เรือเหาะลำนี้นับว่าเป็นสิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้ อันที่จริงแม้แต่เชื้อพระวงศ์แคว้นแสงสุริยันก็ยังไม่มีของหรูหราเช่นนี้เลย

ได้รับของขวัญล้ำค่าเช่นนี้ กลับทำให้เธอเกรงใจอยู่บ้าง ดังนั้นจึงหยิบขวดเล็กใบหนึ่งออกมาจากห้วงมิติ “พี่เคอ นี่เป็นยาน้ำรวมพลังวิญญาณที่ข้าปรุง พี่เคอหาเวลาทานเสียหน่อย น่าจะช่วยท่านบรรลุขั้นในตอนนี้ได้”

“ยะ ยาน้ำรวมวิญญาณรวมพลังวิญญาณรึ?”

หัวหน้าเคอที่ได้ยินตื่นเต้นเล็กน้อย เขารู้มาจากในตลาดมืดว่าในหมู่ยาที่เด็กหนุ่มปรุงออกมาช่วงนี้มียาทิพย์ที่ชื่อยาน้ำรวมวิญญาณ เจ้าเมืองฉางดื่มเข้าไปถึงได้ก้าวข้ามอุปสรรค์ที่ผ่านไม่ได้มาเนิ่นนาน ยาน้ำรวมวิญญาณนั้นต่อให้เขาเป็นผู้นำตลาดมืด ในช่วงนี้ยังแค่เคยได้ยินไม่เคยเห็น กลับไม่คิดว่าที่อีกฝ่ายหยิบมาจะเป็นยาน้ำรวมวิญญาณ ซ้ำยังมอบให้เขาอีก?

เฟิ่งจิ่วยิ้มน้อยๆ “ใช่ เป็นยาน้ำรวมวิญญาณ อันที่จริงข้ายังอยากรบกวนพี่เคออีกเรื่องหนึ่ง”

หัวหน้าเคอที่ถือยาน้ำรวมวิญญาณไว้ตื่นเต้นเสียจนมึนงงอยู่บ้าง พอได้ยินเช่นนั้นก็เอ่ยถามทันที “เรื่องอะไรรึ? น้องชายบอกมาเถอะ หากช่วยได้จะไม่ปฏิเสธแน่นอน”

เขารู้ดี การผูกมิตรกับภูตหมอสำคัญกว่าอะไรทั้งหมด! ยาน้ำรวมวิญญาณเป็นยาวิเศษช่วยบรรลุขั้น ด้านนอกมีขวดเดียวยังแย่งชิงกันแทบบ้า ยามนี้ไม่ต้องพูดถึงว่าภูตหมอมีเรื่องหนึ่งอยากให้ช่วย ต่อให้เป็นสิบเรื่องเขาก็จัดการให้ได้

“ข้าต้องการพวกตำราเกี่ยวกับการกลั่นยาเซียน พี่เคอช่วยหามาให้ที”

“ฮ่าๆๆ เรื่องนี้ไม่มีปัญหา กลับไปข้าจะส่งให้เจ้าเลย”

เขาตอบรับอย่างเบิกบานใจ เรื่องนี้สำหรับเขาแล้วทำได้ไม่ยาก แต่ว่าพอเอ่ยจบก็มองหนุ่มน้อยชุดแดงตรงหน้าด้วยดวงตาเป็นประกายเล็กน้อย ถามว่า “น้องชาย หรือว่าเจ้าเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุ?”

…………………………