ตอนที่ 128.4 รอยฟันบนหน้าอก (4) (รีไรท์)

สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?!

ขณะที่เล่อเหยาเหยากำลังตกตะลึงกับรอยยิ้มบนใบหน้าของชายหนุ่มตรงหน้า ก็เห็นชายหนุ่มพลันลุกขึ้นจากเก้าอี้

และการเคลื่อนไหวของเขา เล่อเหยาเหยารู้สึกเพียงตรงหน้ามีภูเขาสูงตั้งตระหง่านอยู่

กระทั่งเมื่อสักครู่ที่ก้มหน้าลง ยังค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองตามการเคลื่อนไหวของเขา

สำหรับเรื่องนี้ ทำให้เล่อเหยาเหยาอุทานในใจออกมา

สูงเสียจริง!

รูปร่างที่สูงกว่าหนึ่งร้อยแปดสิบยืนอยู่ตรงหน้าเธอ ห่างจากเธอเพียงก้าวเดียว กระทั่งคิดมองหน้าเขา ล้วนต้องเงยหน้าขึ้นสูง ช่างมองลำบากเสียจริง

เธอตอนนี้กลับอยู่เพียงระดับหน้าอกของชายหนุ่ม!

เมื่อยืนอยู่กับเขา เล่อเหยาเหยารู้สึกว่าตนคล้ายเด็กน้อยคนหนึ่ง ก่อนพลันรู้สึกหมดคำพูด

ดูแล้วต่อไปต้องบำรุงร่างกายให้ดี เพราะอาจจะสูงขึ้นก็เป็นได้!

แต่ขณะที่เล่อเหยาเหยาคิดอยู่ในใจ ใบหน้าจิ้มลิ้มพลันตะลึงงัน หลังจากได้ยินประโยคถัดมาของชายหนุ่ม

“ยังไม่รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ข้าอีก!”

“ได้ บ่าวจะรีบเปลี่ยนให้เดี๋ยวนี้”

เมื่อได้ยินคำพูดของชายหนุ่ม เล่อเหยาเหยาจึงได้สติ ที่แท้พญายมคิดให้เธอช่วยผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าให้!

พอคิดถึงตรงนี้ เล่ออเหยาเหยาก็ไม่กล้าอืดอาด ดังนั้นจึงพลันยื่นมือปลดสายรัดเอวให้พญายม จากนั้นก็ถอดเสื้อผ้าเขาออกมา

สำหรับเรื่องประเภทนี้ เล่อเหยาเหยาคล่องแคล่วชำนาญอย่างยิ่งแล้ว

อีกทั้งเธอก็รู้ว่าภายในห้องหนังสือ มีเสื้อผ้าของพญายม ดังนั้นจึงคิดจะช่วยทายาให้เขาก่อน แล้วค่อยหยิบเสื้อผ้ามาสวมให้เขา

คิดไม่ถึง เมื่อเธอปลดเสื้อผ้าของพญายมออก เห็นร่องรอยบนร่างกายของพญายมเข้า ร่างกายดุจถูกฟ้าผ่า แข็งทื่ออยู่ตรงนั้น!

ดวงตาสดใสคู่งามนั้น พลันเบิกกว้าง แววตาดูตกตะลึงจนสุดที่จะบรรยายได้

และหลังจากถอดเสื้อผ้าของพญายมออก สายตาก็ไม่ละไปจากหน้าอกของพญายมเลย

เพราะรูปร่างของพญายมงดงามเกินไป ทำให้เธอตกตะลึง

เพราะช่วงที่ปรนนิบัติพญายมมานี้ ร่างกายพญายม เธอเห็นผ่านตามามากมายหลายรอบ กระทั่งนกใหญ่ของเขา เธอยังเคยทักทายมาแล้ว

สิ่งที่ทำให้เธอตกตะลึง เพราะบนร่างกายพญายม กลับปรากฎรอยแผลมากมายขึ้นมา

เห็นเพียงบนหน้าอกสีทองแดงที่เดิมทีสมบูรณ์แบบหมดจด เวลานี้กลับมีร่องรอยหลากหลาย

ด้านบนมีรอยเล็บ รอยฟัน รอยแดงมากมายนับไม่ถ้วน

โดยเฉพาะรอยฟันบนหน้าอกซ้ายที่เด่นชัดที่สุด

เพียงมองก็รู้ว่าถูกคนกัดอย่างรุนแรง

ด้านบนแม้จะไม่มีเลือดไหลออกมาแล้ว แต่รอยฟันนั้นดูสดใหม่ ยังทำให้คนที่เห็นตกใจ

อีกทั้งไม่รู้เหตุใด เมื่อเห็นรอยฟันและลอยเล็บบนนั้น ในใจพลันรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา

เพราะก่อนหน้านี้บนร่างกายพญายม ไม่เคยปรากฏสิ่งเหล่านี้ รวมทั้งสิ่งพวกนี้ยังสดใหม่ เพียงมองก็รู้ว่าเพียงเกิดขึ้นไม่กี่วัน

ยังมีเมื่อคืน เธอดื่มสุราจนเมามายอย่างหนัก จากที่ฟังเสี่ยวมู่จื่อพูด ขณะที่เธอเมาสุรา น่าจะทำเรื่องไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง สุดท้ายยังอาเจียนรดพญายมไปทั้งตัว

แต่ก่อนที่จะอาเจียนรดพญายม เธอทำเรื่องอื่นที่มิควรทำกับพญายมหรือไม่

ยิ่งคิด เล่อเหยาเหยายิ่งรู้สึกไม่สบายใจ

อีกทั้งภายในสมอง ก็ค่อยๆ ปรากฏภาพดุจฝันอันเลือนลางขึ้นมา

ในภาพเหล่านั้นคล้ายเธอนั่งอยู่บนร่างกายที่แข็งแรงยืดหยุ่น จากนั้นก็กัดลงบนนั้นอย่างรุนแรง

“เอ่อ”

หลังคิดถึงตรงนี้ เล่อเหยาเหยาอดเบิกตากว้างไม่ได้ ก่อนกลืนน้ำลายอย่างอกสั่นขวัญแขวน

จากสีหน้าของเธอ เหลิ่งจวิ้นอวี๋รู้แล้วว่า ‘เขา’นึกบางสิ่งออกแล้ว

เรื่องนี้เหลิ่งจวิ้นอวี๋พอใจอย่างยิ่ง แววตาปรากฏความหยอกล้อขึ้นมา พลันเผยอริมฝีปากแดงเอ่ยขึ้นว่า

“เจ้ารู้ว่ารอยพวกนี้เป็นฝีมือผู้ใดหรือไม่!”

“เอ่อ” เธอสามารถบอกว่าไม่รู้ได้หรือไม่!

เล่อเหยาเหยาอยากร้องไห้ แต่ไร้น้ำตา ทันใดนั้นยังไม่ทันได้เอ่ยปาก เพราะได้ยินน้ำเสียงของพญายม เธอมั่นใจทันทีว่าเจ้าของร่องรอยพวกนี้คือตน!

สวรรค์! ฟ้าดิน!

ทำให้ฟ้าผ่าลงมาเถิด ทำให้เธอฉีกขาดออกเป็นเสี่ยงๆ เธอเมามายจนกัดพญายมหรือ!

ขณะที่เล่อเหยาเหยาคร่ำครวญในใจ พลันได้ยินพญายมอ่ยปากขึ้นอีกครั้งว่า

“เวลาเจ้าเมามาย ช่างน่าจดจำเสียจริง!”

“เอ้อ”

น่าจดจำหรือ!

สำหรับคำพูดของพญายม เล่อเหยาเหยาแสดงว่าหมดคำพูด อีกทั้งจากสีหน้าของพญายม เธอก็รู้ว่าพญายมตั้งใจหยอกล้อเธอ!

พอคิดถึงตรงนี้ ใบหน้าจิ้มลิ้มพลันเก้อเขิน บนแก้มที่ขาวดุจหิมะแดงขึ้นอย่างรวดเร็ว

ใบหน้าเรียวเล็กอมชมพู ทำให้เธอดูคล้ายแอปเปิ้ลแดงที่เพิ่งสุกงอม อีกทั้งยังคล้ายมีรสชาติที่หวานชื่น เป็นที่ชื่นชอบ!

เห็นเช่นนั้น ภายในสมองของเหลิ่งจวิ้นอวี๋อดนึกถึง ท่าทางยั่วยวนหลังดื่มสุราของคนตรงหน้าเมื่อคืนไม่ได้

ใบหน้าจิ้มลิ้มแดงก่ำ ดวงตาเลื่อนลอย ริมฝีปากน่าหลงใหล งดงามดึงดูดใจ ทำให้คนอยากใกล้ชิด

พอคิดถึงตรงนี้ สายตาเหลิ่งจวิ้นอวี๋ที่มองเล่อเหยาเหยา ค่อยๆ ลึกล้ำขึ้น

เมื่อรับรู้ว่าแววตาของเหลิ่งจวิ้นอวี๋เปลี่ยนแปลงไป ทำให้เล่อเหยาเหยาตกใจ ใบหน้าเล็กก้มลง หลุบสายตาลงอย่างรวดเร็ว ไม่กล้ามองหน้าพญายมอีก

เพราะสายตาของพญายมเวลานี้ ช่างคุ้นตายิ่งนัก

คล้ายสัตว์ร้ายหิวโซตัวหนึ่ง กำลังจับจ้องเหยื่อของตนอยู่

สำหรับสายตาร้อนแรงของพญายม ทำให้เล่อเหยาเหยามองอย่างใจเต้นระรัว อกสั่นขวัญแขวน

หากเป็นไปได้ เล่อเหยาเหยาอยากหนีไปให้ไกลจากสายตาของสัตว์ร้าย แต่เธอรู้ว่าเป็นไปไม่ได้!

ดังนั้น เล่อเหยาเหยาเพียงจ้องจนหนังศีรษะชาวาบ แสร้งทำเป็นไม่เป็นไร หยิบครีมดอกโบตั๋นบนโต๊ะ ก่อนก้มหน้าเอ่ยขึ้น

“ท่านอ๋อง ตอนนี้ให้บ่าวทายาให้ท่านเถิด”

เอ่ยจบ เล่อเหยาเหยาพลันยื่นมือเล็กที่ไม่ได้บาดเจ็บ ทายาบนแผลที่หน้าอกของเหลิ่งจวิ้นอวี๋

เดิมที เล่อเหยาเหยาอยากใช้การทายานี้ เบี่ยงเบนความสนใจของตนที่มีต่อพญายม ไม่คิดว่าสายตาอันร้อนแรงของพญายมจะมองมาที่เธออีก

เพราะตำแหน่งของบาดแผลเหล่านี้ ช่างทำให้คนอึดอัดเสียจริง

เล่อเหยาเหยาพลางทายาให้พญายม พลางนึกถึงภาพเมื่อคืนที่ตนนั่งอยู่บนตัวพญายม และกัดหน้าอกของเขาอย่างรุนแรง ยิ่งคิด เล่อเหยาเหยารู้สึกเพียงไอร้อนพุ่งขึ้นมาจากหัวใจตรงไปที่เหนือศีรษะ จนเหนือศีรษะแทบมีควันระเหยออกมา

อีกทั้งแม้เธอจะไม่ได้ส่องกระจก แต่จากความร้อนบนใบหน้า เล่อเหยาเหยาก็ทราบว่าใบหน้าตนต้องแดงก่ำอย่างขวยเขินแน่นอน!

ตรงข้ามกับเล่อเหยาเหยาที่ขวยเขิน เหลิ่งจวิ้นอวี๋กลับอารมณ์ดีอย่างยิ่ง

เดิมทีเช้าวันนี้ เขายังพะวงถึงเรื่องเมื่อคืน ทว่าตอนนี้ เมื่อเห็นใบหน้าเล็กแดงก่ำด้านล่างนั้น อารมณ์ของเขากลับรู้สึกมีความสุขอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

อีกทั้ง ยิ่งมองคนตัวเล็กด้านล่าง ยิ่งรู้สึกว่า ‘เขา’น่ารักเป็นที่สุด!

แต่ขณะที่เหลิ่งจวิ้นอวี๋กำลังมีความสุข รู้สึกเพียงร่างกายอยากเคลื่อนไหวอย่างสง่างาม ตามคนตัวเล็กตรงหน้านี้ ไฟปรารถนาที่ลึกลับค่อยๆ แผดเผาขึ้นมา

เขารู้สึกเพียงมือเล็กบนหน้าอก ช่างงดงามเสียจริง

ผิวขาวผ่องดุจหยก ปลายนิ้วหมดจดนั้น ดุจหน่อไม้ผุดขึ้นมาหลังฝน กระทั่งเล็บเล็กนั้น น่ารักจนอยากเข้าไปจุมพิต

อีกทั้งนิ้วมือของ ‘เขา’ราวกับแฝงด้วยเปลวไฟ ทุกที่ที่เคลื่อนไป ทิ้งรอยไหม้เล็กๆ ไว้ตรงนั้น ทำให้ร่างกายเขาถูกแผดเผาขึ้นมา

สายตาเหลิ่งจวิ้นอวี๋ที่มองเล่อเหยาเหยา ยิ่งร้อนแรงมากขึ้น กระทั่งลมหายใจเริ่มติดขัด

ยังมีหน้าอกแข็งแกร่งนั้น ก็เริ่มกระเพื่อมแรงขึ้นไม่หยุด

สำหรับความผิดปกติบนร่างกายของพญายม เล่อเหยาเหยามิใช่ไม่รับรู้ แต่เธอกลับก้มศีรษะเล็กลงต่ำ ไม่กล้ามองหน้าพญายมอีก

บนใบหน้าแสร้งทำเป็นไม่รับรู้ถึงท่าทีที่เปลี่ยนไปของพญายมเลยสักนิด แต่ปลายนิ้วนั้น กลับสั่นเทิ้มอย่างรุนแรง

โดยเฉพาะเมื่อเธอทายาบนรอยฟันบนหน้าอกด้านซ้ายของพญายม พลันรู้สึกว่าพญายมสั่นเทาไปทั้งตัว คล้ายโดนไฟดูด

การตอบโต้ที่รุนแรงนั้น ทำให้เล่อเหยาเหยาตกใจจนแข็งทื่อดุจก้อนหิน แต่มือเล็กยังคงอยู่บนตัวพญายม โดยไม่เคลื่อนไหวเป็นเวลานาน

ใบหน้าเล็กที่วิตกกังวลนั้นกลับเงยขึ้น ดวงตาคู่งามที่ตื่นตระหนกนั้น ก็มองไปยังดวงตาเย็นชาแคบยาวลึกล้ำของพญายมอย่างพอเหมาะ

ตาสองคู่จ้องมองกัน เล่อเหยาเหยาตะลึงงันชั่วขณะ โดยไม่เคลื่อนสายตา

เพราะดวงตาเย็นชาร้อนแรงคู่นั้น คล้ายกับยังมีเปลวไฟลุกโชนอยู่ภายใน

ไม่เพียงเท่านี้ แววตาเขายังแฝงด้วยเสน่ห์ ทำให้คนที่เห็นพลันตกลงไปในตาข่ายที่เขาวางไว้ มิอาจถอนตัวขึ้นมาได้

เห็นเช่นนั้น เล่อเหยาเหยาตกใจอย่างหนัก ก่อนหลุบสายตาลง ไม่กล้ามองพญายมแม้แต่แวบเดียว

เพราะสายตาเย็นชาของเขาดุร้ายเกินไป ทำให้เธออกสั่นขวัญแขวน กระวนกระวายใจ

ขณะคิดในใจ เล่อเหยาเหยาขยับถอยหลังไปหนึ่งก้าว ก่อนก้มหน้าเอ่ยอ้ำอึ้งขึ้น

“ทะ…ท่านอ๋อง ทะ…ทายาเสร็จแล้ว บะ…บ่าวขอตัวก่อน”

หลังเล่อเหยาเหยาเอ่ยอย่างตะกุกตะกัก พลันก้มหน้าเก็บยาบนโต๊ะอย่างลนลาน ไม่กล้ามองใบหน้าพญายมอีก

หลังเก็บกระปุกครีมโบตั๋นเสร็จ เล่อเหยาเหยาพลันคิดหมุนตัวเดินออกไป

คิดไม่ถึง เธอเพิ่งหมุนตัวเดินไปได้เพียงก้าวเดียว กลับพลันแน่นที่ข้อมือ ทันใดนั้นอีกฝ่ายออกแรง ร่างกายเธอพลันเอนหงายหลังลงไป

“อา”

สำหรับการเปลี่ยนแปลงที่กะทันหันนี้ ทำให้เล่อเหยาเหยาตั้งตัวไม่ทัน เพียงร้องอย่างตกใจ ร่างเล็กบอบบางถูกดึงเข้าสู่อ้อมกอดของคนบางคน

เพราะแรงดึงนั้นใบหน้าเล็กของเล่อเหยาเหยาจึงกระแทกเข้ากับหน้าอกแข็งแรงเปลือยเปล่าของชายหนุ่มบางคน

เล่อเหยาเหยารู้สึกเพียงเจ็บจมูกอย่างมาก คิ้วเข้มอดขมวดแน่นไม่ได้ พลางคิดในใจว่าไม่รู้จมูกถูกกระแทกจนหักหรือไม่

ทว่าปากเล็กของเธอ คล้ายแนบติดกับบางสิ่ง ตรงกลางนั้นมีจุดเล็กๆ บางอย่าง สีแดงอมชมพู

ขณะสงสัยในใจ ดวงตาคู่งามเล่อเหยาเหยาอดหลุบลงไม่ได้ เมื่อเห็นปากเล็กของตน กลับจุมพิตที่จูอวี๋ (หัวนม)ของพญายม ใบหน้าเล็กจิ้มลิ้มนั้น เกิดเสียงเพล้งแตกลงมา แดงก่ำจนไม่รู้จะแดงเช่นไรอีกแล้ว

อีกทั้งเมื่อเห็นรอยฟันบนจูอวี๋ เข้ากับปากเล็กของตนพอดีเช่นนี้ ดังที่คาดคิด นี่คือรอยกัดของตน

……………………………………