บทที่ 182 ท่านน้าของข้า

จางซิ่วเอ๋อมองชายชุดเทาที่นั่งอยู่บนรถและถาม “เจ้าจะไปกับข้าด้วยเหรอ?”

ชายชุดเทากล่าว “ของหนักขนาดนี้ เจ้ายกเองไม่ไหวหรอก”

จางซิ่วเอ๋อคิดแล้วก็ใช่ ครั้งนี้เอาของไปขายมากขนาดนี้ก็หนักจริง ๆ นั่นแหละ

เฒ่าหลี่มองหนิงอันและถาม “ไม่ทราบว่าคนผู้นี้คือ……”

จางซิ่วเอ๋อกระพริบตา “นี่ท่านน้าของข้าเจ้าค่ะ!”

นางไม่อยากให้ในหมู่บ้านมีคำนินทาประเภทที่ว่านางมีชายชู้อีก

แต่ถ้าบอกว่าเป็นท่านน้าตัวเองคงไม่มีใครสงสัยอะไร

อย่างไรซะก็ไม่มีใครรู้ว่าท่านน้าของนางหน้าตาอย่างไร และต่อให้รู้นอกจากท่านนอาแท้ ๆ แล้วยังมีท่านน้าที่เป็นลูกพี่ลูกน้องของแม่อีก! สรุปคือไม่มีทางโดนจับได้!

ชายชุดเทาเลิกคิ้ว สีหน้าแข็งค้างไปส่วนหนึ่ง

อา……

นี่เขาแก่ขนาดนั้นเลยเหรอ?

เห็นสีหน้าของชายชุดเทาแล้วจางซิ่วเอ๋อก็หวั่นใจเล็กน้อย นางกระแอมไอแห้งเพื่อกลบเกลื่อน

แน่นอนว่าที่แรกที่จางซิ่วเอ๋อไปคืออิ๋งเค่อจวี

พอจางซิ่วเอ๋อเห็นหน้าเถ้าแก่เฉียนแห่งอิ๋งเค่อจวีแล้วก็มีสีหน้าเย็นยะเยือก เอ่ยเสียงเรียบ “เนื้อนี่ท่านเอาเท่าไหร่?”

เถ้าแก่เฉียนเห็นท่าทางของจางซิ่วเอ๋อแล้วยิ้มแห้ง

เวลานี้เขาคิดได้แล้วว่าต้องเป็นเพราะคุณชายฉินไปหาจางซิ่วเอ๋อมา จางซิ่วเอ๋อถึงมีทีท่าแบบนี้กับตัวเอง

เถ้าแก่เฉียนรู้สึกผิด จึงเอาใจจางซิ่วเอ๋อเป็นพิเศษ เขาเอ่ยขึ้น “เอาหมดเลย ๆ!”

จางซิ่วเอ๋อตอบด้วยความรำคาญ “ในเมื่อเอาหมดก็รีบยกลงไปสิ”

เฒ่าหลี่มองจางซิ่วเอ๋ออย่างตะลึง นี่เถ้าแก่เฉียนแห่งอิ๋งเค่อจวีเลยนะ สำหรับพวกเขาแล้วเป็นคนระดับเดียวกับเทพเซียน เวลานี้กลับก้มหัวโค้งคำนับให้จางซิ่วเอ๋อ

เฒ่าหลี่คิดไปว่าคงเป็นเพราะตระกูลเนี่ยสั่งเอาไว้สินะ?

ต่อให้จางซิ่วเอ๋อจะไม่ดีอย่างไรก็ยังเป็นสะใภ้ตระกูลเนี่ย

เฒ่าหลี่เป็นคนปากหนัก จางซิ่วเอ๋อเองก็รู้ว่าไม่ว่าตนจะทำการซื้อขายอะไรไปบ้าง เฒ่าหลี่ก็ไม่ไปบอกใคร

แต่เพื่อกันไว้ก่อนไม่ให้คนอื่นเข้าใจผิดว่าเงินนี่เป็นของตัวเอง จางซิ่วเอ๋อรับเงินมาและยัดให้ชายชุดเทาพลางเอ่ย “ท่านน้า เงินนี่ท่านเก็บไว้ให้ดีนะ ไม่ใช่ทุกรอบหรอกนะที่ท่านจะโชคดีขนาดนี้ เงินนี่ท่านเก็บไว้แต่งภรรยาเถอะ”

ชายชุดเทามองจางซิ่วเอ๋ออย่างมีนัยยะ ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่

สุดท้ายจางซิ่วเอ๋อก็ตัดสินใจว่าจะเก็บเนื้อหมูป่าหนึ่งชิ้นให้เฒ่าหลี่ด้วย

เฒ่าหลี่ย่อมต้องบ่ายเบี่ยงอยู่แล้ว แต่สุดท้ายก็รับเอาไว้ เขาคิดว่าจางซิ่วเอ๋อเป็นเด็กรู้จักวางตัว เรื่องวันนี้เขายิ่งไม่มีทางพูดให้คนอื่นฟัง

ครั้งนี้นับว่าซื้อขายกันได้อย่างราบรื่น เถ้าแก่เฉียนมีใจอยากอธิบาย แต่จางซิ่วเอ๋อไม่ให้โอกาสเถ้าแก่เฉียนได้อธิบายเลย

อย่างไรเสียต้องรอให้นางหายโกรธก่อนแล้วค่อยไปพูดคุยกับเถ้าแก่เฉียนเสียหน่อย

ดังนั้นการมาครั้งนี้ไม่ได้เสียเวลาแม้แต่น้อย ไปไม่นานก็กลับ

เถี่ยเสวียนทำความสะอาดกระต่ายและไก่ป่าอีก 2 ตัวที่เหลืออยู่เรียบร้อยแล้ว

ส่วนเนื้อหมูและเนื้อกวางก็เก็บไว้กินไม่น้อยเหมือนกัน

จางซิ่วเอ๋อและชายชุดเทากำลังเดินอยู่ในป่าผีสิง แล้วชายชุดเทาก็ยื่นถุงเงินให้จางซิ่วเอ๋อ

“เจ้าทำอะไร?” จางซิ่วเอ๋อถามด้วยความฉงน

“เงินนี่ให้เจ้า” ชายชุดเทาพูดด้วยท่าทีจริงจัง

จางซิ่วเอ๋อหัวเราะ “ของป่าพวกนั้นพวกเจ้าเป็นคนล่ามา ข้าแค่ช่วยวิ่งเต้นให้เท่านั้น อีกอย่างเจ้าเหลือของกินไว้ให้ข้าตั้งมากแล้ว ข้าจะมีหน้าเอาเงินเจ้าอีกได้อย่างไร!”

ชายชุดเทามองจางซิ่วเอ๋อด้วยสีหน้าจริงจัง “ตอบแทนที่เจ้าช่วยชีวิตข้าไว้”

จางซิ่วเอ๋อยิ้มบาง ๆ “ถ้าข้าเดาไม่ผิด บ้านข้าเจ้าก็เป็นคนซ่อมใช่ไหม? รวมถึงหมูป่านั้นเจ้าก็เป็นคนเอามาให้ล่ะสิ?”

ก่อนหน้านี้จางซิ่วเอ๋ออาจจะยังไม่รู้ แต่วันนี้จางซิ่วเอ๋อมองออกทุกอย่างแล้ว

จางซิ่วเอ๋อในตอนนี้จึงขอบคุณชายชุดเทาจากใจจริง และไม่มองชายชุดเทาเป็นศัตรูเหมือนในตอนแรก

“เจ้าได้ตอบแทนที่ข้าช่วยชีวิตไปแล้ว” จางซิ่วเอ๋อกล่าว

ชายชุดเทาเอ่ย “นี่ถือว่าเป็นค่าอาหาร”

จางซิ่วเอ๋อหัวเราะ “เงินมากขนาดนี้เชียว นี่เจ้าตั้งใจจะกินข้าวบ้านข้าตลอดไปเลยรึไง?”

ชายชุดเทาสีหน้าแข็งทื่อไป “เจ้าเข้าใจผิดแล้ว”

รอยยิ้มบนใบหน้าจางซิ่วเอ๋อกว้างขึ้นเรื่อย ๆ “เงินนี่เจ้าเก็บไว้ให้เถี่ยเสวียนเถอะ ข้าไม่เอาหรอก”

เมื่อเห็นจางซิ่วเอ๋อยืนยัน ชายชุดเทาได้แต่เก็บเงินไว้

เขามองจางซิ่วเอ๋ออย่างพิจารณา ด้วยไม่เคยเจอสตรีที่มีหลักการขนาดนี้มาก่อน

หญิงสาวที่เขาเคยเจอก่อนหน้านี้อยากจะคลานขึ้นเตียงเขากันทุกคน หรือไม่ก็ช่วยแม่ของเขามาจับตาดูเขา สตรีพวกนั้นต่างใช้เงินซื้อได้ง่าย ๆ

ครั้งนี้เขาตั้งใจอยากเอาเงินนี่ตอบแทนจางซิ่วเอ๋อจริง ๆ แต่คิดไม่ถึงว่ามาเจอคนที่ไม่ละโมบในเงินทอง

ใช่แล้ว จางซิ่วเอ๋อชอบเงินก็จริง แต่นางเข้าใจดีว่าคนเราต้องมีวิถีทางในการหาเงิน

สิ่งที่ไม่ควรรับมาเป็นของตน จางซิ่วเอ๋อไม่เอาหรอก

เมื่อกลับถึงบ้านแล้ว จางซิ่วเอ๋อก็เริ่มทำกับข้าว

ที่บ้านมีเนื้ออยู่มาก และเป็นสิ่งที่เถี่ยเสวียนบอกว่าอยากกินทั้งนั้น ของพวกนี้แขกเป็นคนเอามา จางซิ่วเอ๋อไม่มีทางงกหรอก

นางจึงทำกับข้าวทั้งหมดสิบอย่างบวกกับน้ำแกงลูกชิ้น!

ที่หมู่บ้านชิงสือ ต่อให้เป็นงานเทศกาลก็ยังไม่มีใครจัดงานเลี้ยงขนาดนี้เลย

เป็นเพราะที่บ้านมีแขก บัณฑิตจ้าวจึงไม่สะดวกมา จางซิ่วเอ๋อจึงตักกับข้าวอย่างละนิดให้จ้าวเอ้อร์หลางนำกลับบ้าน

“อร่อย!”

“อร่อยจริง ๆ!”

“เจ้าไปเปิดโรงเตี๊ยมได้เลยนะ! ต้องขายดีแน่ ๆ!”

เถี่ยเสวียนกินไปชมไป ไม่ว่าเมื่อก่อนเถี่ยเสวียนเคยมีอคติต่อจางซิ่วเอ๋อแค่ไหน เวลานี้เขาเหลือแต่ความนับถือที่มีต่อจางซิ่วเอ๋อเท่านั้น!

เขาเองก็ได้กินของดีตามเจ้านายไปด้วยไม่น้อย

ถึงแม้ตามหลักแล้วเขาคือคนติดตาม แต่เจ้านายเห็นเขาเป็นพี่น้องมาตลอด มีอะไรก็กินด้วยกันใช้ด้วยกันตลอด

ถึงจะเป็นแบบนี้ เขาก็ไม่เคยกินอาหารที่อร่อยขนาดนี้มาก่อน

“ใครได้แต่งงานกับเจ้านี่มีบุญจริง ๆ” เถี่ยเสวียนกินเสร็จ เช็ดปากไปพลางชม

จางซิ่วเอ๋อหัวเราะ “ข้าแต่งงานแล้ว แต่น่าเสียดายที่คนอายุสั้นนั่นไม่มีบุญวาสนาพอ”

เถี่ยเสวียนฟังมาถึงตรงนี้รู้ตัวทันทีว่าพูดสิ่งที่ไม่สมควรไป จางซิ่วเอ๋อเคยแต่งงานแล้ว ตัวเองพูดแบบนี้อีกเป็นการทำให้จางซิ่วเอ๋อทุกข์ใจชัด ๆ เขามองจางซิ่วเอ๋ออย่างระมัดระวัง และพบว่าจางซิ่วเอ๋อไม่มีทีท่าว่าจะเสียใจ กลับพูดเรื่องนี้ด้วยท่าทางสบาย ๆ จึงนึกแปลกใจขึ้นมา

หญิงสาวทั่วไปเวลาพูดเรื่องแบบนี้ต้องมีเสียอกเสียใจบ้าง จางซิ่วเอ๋อไม่ใช่คนธรรมดาจริง ๆ มิน่าล่ะเจ้านายถึงปฏิบัติกับจางซิ่วเอ๋อแตกต่างออกไป

ไม่รู้ทำไม เห็นรอยยิ้มของจางซิ่วเอ๋อแล้วชายชุดเทารู้สึกตาพร่านิดหน่อย

ชายชุดเทาเอ่ย “เขาเป็นคนอย่างไรหรือ?”